กึ่ก..
ฉันเดินมาหยุดยืนที่ตรงหน้าคุณยักษ์พร้อมกับเงยหน้ามองลูกโป่งสีดำและสีแดงที่กำลังลอยอยู่อย่างขำๆก่อนลดระดับสายตาลงมาสบตากับเขา
"เล่นอะไรคะเนี่ย?"
"นี่ดอกไม้แทนคำขอโทษครับ"
ฟึ้บ..
คุณยักษ์ยิ้มและยื่นดอกไม้มาใกล้มือฉันฉันจึงต้องรับไว้และมองดอกไม้ช่อใหญ่ที่น่าจะมีราคาไม่เบาด้วยแววตานิ่งๆ
"ขอโทษเรื่องที่คุณยักษ์จะเทดูตัวโรสน่ะเหรอคะ?"
"บ้าเหรอ" คนตรงหน้าฉันเลิกคิ้วพร้อมถอดแว่นออกมาห้อยไว้ที่เชิ๊ตสีเข้ม "พี่ยังไม่พูดเลยว่าจะเท"
"แต่คุณไม่ติดต่อมาเลยนี่"
"มีเวลาฟังไหมล่ะ"
"ฟัง?"
"ฟังพี่อธิบายไงคะคนดี"
ฉันยิ้มทันทีที่คนตรงหน้าพูดจบแถมยังเอื้อมมือมาลูบผมฉันอีกคือเอาจริงๆแค่ฉันนี่ก็เป็นเป้าสายตาของใครหลายคนแล้วนะแต่พอยิ่งมีเขาพนักงานคนอื่นๆถึงกับหยุดมองในตอนที่เขาลูบหัวฉันเลยอ่ะ
คุณยักษ์คิดจะทำอะไรไม่รู้แต่น่าสนุกแฮะ
หมับ
ฉันยกมือข้างที่ไม่ได้ถือช่อดอกไม้ขึ้นไปจับมือใหญ่และประสานจับมือเขาไว้พร้อมมองอ้อน
"อยากฟังสิคะ"
"ทันพี่ดีจริงๆคนอะไร"
คุณยักษ์หัวเราะขำก่อนเขาจะจูงมือฉันเดินออกจากบริษัทพร้อมกับลูกโป่งเอาจริงๆคนอื่นอาจอายเพราะนี่ก็โตๆกันแล้วแถมมันยังดูเวอร์มากอีกแต่วิธีนี้มันทำให้คนสนใจนิ พอสนใจพวกเขาก็จะเอาเรื่องนี้ไปเล่าต่อๆจนเกิดข่าวลือและฉันรู้ดีว่าอะไรจะตามมาแต่ฉันก็ยังยอมไปกับเขาเพราะอยากรู้ข้อเสนอ
อย่างว่าแหละว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง
เวลาต่อมา
"ที่ว่าข้อเสนอนี่คืออะไรหรอคะ?"
"เดี๋ยวนะ"
คุณยักษ์เงยหน้าจากสเต๊กชิ้นใหญ่ตรงหน้าและมองฉันที่กำลังยกแก้วไวน์จรดริมฝีปากตัวเอง
"ขอพี่กินก่อนได้ไหมคะพี่เพิ่งบินมาจากสิงคโปร์ยังไม่ได้กินไรเลย"
"ขอโทษค่ะงั้นตามสบายนะคะ"
ฉันมองคนตรงหน้าที่กำลังตั้งใจกินแบบจริงจังด้วยท่าทางที่ดูหิวสุดๆขณะที่ตัวเองก็จิบไวน์รอและมีบ้างที่หั่นสเต๊กกินระหว่างรอเขาและไม่นานเกินรอคุณยักษ์ก็จัดการทุกอย่างในจานจนเกลี้ยง...รู้สึกผิดแฮะที่ไปขัดเขาก่อนกินน่ะ
"ขอโทษจริงๆนะคะที่เมื่อกี้ขัดคุณ"
"ไม่เป็นไรโรสคงติดนิสัยว่ามากินข้าวเพื่อดีลงานสินะ" ฉันเม้มปากเพราะที่เขาว่ามันจริงซึ่งนั้นทำคนตรงหน้ายิ้มขำ "ไม่ต้องอายพี่ก็เคยเป็น"
"แล้วคุณยักษ์อิ่มยังคะ?"
"ครับอิ่มแล้ว"
นี่ฉันนับถือคุณยักษ์นะเวลาทำงานหรือออกงานเขานี่มาดนักธุรกิจมาเต็มมากต่างจากตอนเขาหิวโดยสิ้นเชิง
"พร้อมจะฟังข้อเสนอพี่รึยัง?"
"พร้อมตั้งแต่คุณยักษ์บอกแล้ว"
ฉันพยักหน้าพร้อมกับจิบไวน์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ
"ข้อเสนอของพี่แบบรวบรัดตัดตอนเลยนะ"
"ค่ะ"
"พี่ว่าเราหมั้นกันเถอะ"
"คะ?" ฉันเอียงใบหน้ามองคนตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ "หมั้นเหรอ?"
"หมั้นกันภายใต้ข้อตกลงนิดๆหน่อยๆ"
"โรสอยากรู้ว่าเพราะอะไรทำไมพี่จะต้องหมั้น?"
"ถ้าตกลงเราก็จะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย"
คุณยักษ์ขยับอิงพนักโซฟาก่อนหยิบกระดาษที่ร่างสัญญาข้อตกลงของการหมั้นมาให้ฉันดู
ฟึ้บ..
"เป็นการหมั้นเพื่อผลประโยชน์ของเราทั้งสอง" ฉันหรี่ตามองคนตรงหน้า "คุณรู้ได้ไงคะว่าโรสโดนจับคู่บ่อยๆ"
"แค่ดูก็รู้แล้วว่าซะตากรรมไม่น่าจะต่างจากพี่"
"มันน่าเบื่อนะคะการที่โดนจูงคอไปเรื่อยแต่โรสแปลกใจทั้งๆที่คุณยักษ์ทำงานเก่งขนาดนี้แต่ยังโดนแม่ลากไปดูตัวอยู่"
"มันก็เพราะผลประโยชน์อย่างที่รู้ว่าคนในแวดวงเรามันจะคบกันเพื่อพยุงกัน"
"กลัวว่าความลับโสมจะถูกเปิดโปงเหรอคะ"
คนตรงหน้าฉันยกยิ้มและสบตากับฉันคล้ายเรารู้ใจกันดี
"ก็คนคุ้นเคยมันเก็บความลับได้ดีกว่า"
"เข้าใจแล้วว่าทำไมเราได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย" ฉันพยักหน้าก่อนจะไล่สายตามองข้อถัดไป "ข้ออื่นๆโรสก็ไม่ติดนะแต่โรสอยากเพิ่มข้อตกลงบ้าง"
"นี่จะตกลงเหรอไม่เก็บไปคิดก่อนเลยว่างั้น"
"คุณยักษ์มากกว่าล่ะมั้งคะที่ต้องเก็บไปคิดในข้อเสนอของโรส"
ฉันว่าพร้อมมองสบตากับคุณยักษ์และเขาก็กำลังมองมาด้วยความสงสัยหลังฉันตอบไปแบบนั้น
"ข้อเสนอโรสมีแค่สองข้อค่ะ ข้อแรกคุณยักษ์ต้องสอนงานโรสงานที่เกี่ยวกับธุรกิจทุกอย่างและสอง"
ฉันเว้นวรรคพร้อมยิ้มสบตาคนตรงหน้า
"ระหว่างที่เราหมั้นกันเราสองคนห้ามมีความสัมพันธ์กับคนอื่น"
"ความสัมพันธ์?"
"ทั้งคู่นอนและคนรักถ้าใครผิดคือยุติสัญญานี้เลย"
"เดี๋ยวนะแล้วถ้าไม่ให้มีกับคนอื่นคือจะให้พี่ทำแค่กับโรสเหรอ?"
"โรสก็คิดว่าเราเข้ากันดีนิ...หรือแด๊ดดี้คิดว่าไม่จริง?"
"ถ้าว่าเมื่อสองปีก่อนพี่ไม่เถียงครับ" ฉันเลิกคิ้วมองคนตรงหน้าที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ "แต่นั่นมันก็ตั้งสองปีแล้วนะโรส"
"ก็ใช่นะตอนนั้นมันก็สองปีผ่านมาแล้วโรสก็ลืม"
ฉันพยักหน้าช้าๆพร้อมสลับขาที่กำลังพาดไขว้กันและก็จงใจให้ปลายรองเท้าตัวเองไปเขี่ยขากางเกงคุณยักษ์จนเขาหลุบตามองต่ำและยกยิ้มมุมปาก
"ตอนนี้เราอาจจะเข้ากันไม่ได้แล้วก็ได้น่ะเนาะ"
"ถ้าเราเข้ากันไม่ได้ข้อตกลงจะเป็นไง"
"ก็ต้องเปลี่ยนไปเป็นว่าคุณยักษ์และโรสห้ามมีอะไรกัน เรามีกับคนอื่นได้แต่จะไม่มีด้วยกัน"
"พี่ขอถามอะไรโง่ๆนะ" ฉันเลิกคิ้วมองคนตรงหน้าที่ยังยิ้มอยู่ "แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าเราเข้ากันได้ดีหรือไม่ดีล่ะ?"
"คืนนี้คุณยักษ์ว่างไหมละคะ?"
"ถ้าโรสต้องการให้พี่ว่างพี่ก็จะว่าง"
"แต่โรสไม่ว่างค่ะ"
ฉันเหยียดยิ้มมองคุณยักษ์ที่กำลังหัวเราะในลำคออยู่ก่อนจะยืดตัวนั่งตรงมองฉันด้วยสายตานิ่งเรียบ
"คิดจะเล่นตลกกับพี่หรอครับ?"
"เปล่า" ฉันส่ายหน้าปฏิเสธทันทีเพราะฉันรู้ว่าคนอย่างคุณยักษ์นี่คงไม่ใจดีกับฉันขนาดนั้นหรอก "โรสก็ต้องเตรียมตัวเองก่อนสิโรสไม่ได้มีเซ็กส์กับใครนานเป็นปีแล้ว"
"ซีเรียส?"
"ดูโรสเป็นพวกเปลี่ยนคู่นอนบ่อยเหรอคะ?"
"พี่ไม่ได้จะพูดแบบนั้น"
"โรสเลิกกับแฟนมาจะปีหนึ่งแล้วพอเลิกก็เรียนจบพอดีเลยยังไม่มีอารมณ์"
ฉันตอบตามจริงและใช่ก่อนหน้านี้ฉันมีแฟนที่รักมากอยู่คนนึงแต่เลิกกันไปแล้ว
"ถ้าไม่ติดอะไรพี่ช่วยเตรียมตัวช่วยโรสได้นะ"
"ไม่เอาหรอก"
คนตรงหน้าฉันขำทันทีหลังจากที่ฉันตอบหน้าตายกลับไปแบบนั้นก่อนคุณยักษ์จะยื่นแก้วไวน์มาตรงหน้าฉันด้วยรอยยิ้ม
"พี่ไม่เร่งโรสหรอกพี่รอได้เพราะงั้นถ้าว่างตอนไหนก็โทรมานะครับ"
"ค่ะ"
ฉันยิ้มและชนแก้วไวน์กับเขาพร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแต่ทั้งฉันและคุณยักษ์ก็ยังสบตากันจนหมด แต่อย่างว่าสำหรับคุณยักษ์และฉันเรื่องเซ็กส์มันก็สำคัญสำหรับเราอยู่นะแต่ฉันขอไปทบทวนข้อเสนอกับสิ่งที่ฉันจะได้รับดีๆก่อนตัดสินใจ
วันต่อมา
1.02 PM.
"คิดดีแล้วใช่ไหม?"
"ก็คิดทั้งคืนหรือมึงว่ากูจะเสียเปรียบ"
เจย์เพื่อนสาวประเภทสองเพียงคนเดียวของฉันที่รู้จักกันตั้งแต่ประถมเลิกคิ้วมองระหว่างที่เรากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ในบ้านของฉันเอง ฉันเลือกที่จะมาสร้างบ้านตรงเนินเขาเพราะมันห่างจากตัวเมืองและไม่วุ่นวายแต่เหนื่อยหน่อยตรงที่ต้องขับรถไกล
"มึงไม่กลัวรักเขารึไง?"
ฉันสบตากับเจย์ขณะที่มันก็มองหน้าด้วยแววตานิ่งเรียบ
"จะบอกว่ากูใจง่าย?"
"ก็มึงรักคนง่าย"
"กูเตรียมใจไว้แล้วที่ทำนี่ก็เพื่อตัวกูเองแล้วมึงดูคุณยักษ์มึงคิดว่าเขาจะชอบคนอย่างกูเหรอถามจริง?"
"อยู่ใกล้กันยังไงมันก็ต้องมีบ้างไหมล่ะ"
"ผู้ชายเขารู้แหละว่าจะเอาผู้หญิงแบบไหนทำเมียแต่ที่เอากูหมั้นเพราะต้องการไม้กันหมา"
"พูดมานี่มึงไม่เจ็บบ้างเหรอ?"
"ในเมื่อเขาได้ประโยชน์จากกูกูก็ได้ประโยชน์จากเขาไงวินๆทั้งสองฝ่าย"
"แล้วทำไมมึงจะต้องมีข้อเสนอที่ว่าให้เขากับมึงเอากันล่ะมันไม่จำเป็นต้องผูกมัดเขาเลย"
"กูกลัวโป๊ะแตกน่ะสิถ้ากูกับเขาเอาไปทั่วแล้วเกิดวันนึงโป๊ะขึ้นมาทำไง"
เจย์ขมวดคิ้วมองฉันก่อนมันจะถอนหายใจและยกยิ้มมุมปากอย่างขำๆ
"มึงอยากได้เขาแหละดูออก"
"มึงก็จำได้นิ"
ฉันหัวเราะขำเพราะมันเป็นตามที่เจย์พูดจริงๆ
"กูจำได้เลยว่าช่วงนั้นมึงเพ้อถึงคุณยักษ์มาก"
เจย์ยิ้มขำเพราะตอนนั้นฉันเพ้อจริงๆถึงมันจะเป็นแค่วันไนท์สแตนด์แต่มันก็เป็นคืนที่ทำเอาฉันจำได้มาจนถึงทุกวันนี้อ่ะคิดดู ถึงจะมีแฟนมาสามคนแต่ก็ไม่มีใครสู้เรื่องบนเตียงของคุณยักษ์ได้สักคนพูดแค่นี้แหละ
"กูแพ้ตั้งแต่หุ่นเขาล่ะ"
"เออเชื่อแล้วว่ามึงชอบจริงจังอ่อหมายถึงหุ่นน่ะนะ"
"ก็นะ..แต่กูว่ากูไม่เอาข้อเสนอที่ว่าให้นอนแค่กับกูแล้วดีกว่า"
เจย์เลิกคิ้วมองฉันทันทีที่ฉันพูดจบก่อนมันจะวางแก้วไวน์ในมือลงบนโต๊ะ
"ทำไมอีกล่ะ?"
"มึงพูดก็มีส่วนไงเพราะกูก็ไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามเขา"
"แล้วมึงจะไม่อยากนอนกับเขาหรอ?"
"อยากก็ต้องทนดินี่กูไม่ได้มีเซ็กส์มานานมากแล้วนะทำไมแค่นี้กูจะทนไม่ได้"
"ก็มันไม่มีสิ่งล่อตาล่อใจไง"
"เจย์กูขอแหละมึงชอบว่าเหมือนกูต้องการเขามากอ่ะ"
"โห ตอนนั้นมึงเพ้อถึงเขาเป็นเดือนเลยนะโรสเพ้อทั้งๆที่นอนกับเขาแค่คืนเดียว"
"เขาดีจริงๆ"
"เนี่ย มึงเพ้อแบบนี้แหละแม่งเขาดีจริงๆมึงกูโทรหาเขาอีกดีไหมวะกูอยากได้ว่ะ"
"พอๆๆ นั่นมันสองปีก่อนตอนนี้กูนิ่งขึ้นล่ะ"
"มึงนิ่งขึ้นจริงแหละนิ่งจนไม่มีผัว"
"กูเพิ่งโสดมาปีนึงเอง"
ฉันหัวเราะขำพร้อมโยนองุ่นใส่เจย์ขณะที่มันก็ถอนหายใจก่อนจะขยับมือมาเชยคางฉันพร้อมสบตากันนิ่ง
"คุณยักษ์เขาฮอตมากมึงอาจละลายได้ถ้าใจไม่แข็งพอ"
"กูไม่รักเขาหรอกเพราะกูรู้ว่าเวลาถูกหักหลังมันเจ็บขนาดไหน"
"เออ คิดถึงตอนนั้นไว้"
"เหมือนมึงกลัวกูตายอ่ะ"
"กูกลัวมึงล่อคุณยักษ์มากกว่า"
"เพื่อธุรกิจ"
"ธุระกิจน่ะเรื่องลองประเด็นคือมึงทำเพื่อมึงเอง"
"โอเค กูว่ากูพร้อมไปหาเขาแล้วล่ะ"
ฉันยิ้มหวานไม่สะทกสะท้านในสิ่งที่เพื่อนด่าพร้อมกับลุกไปยืนมองตัวเองที่หน้ากระจกก่อนเจย์จะเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ
"น่าสงสารชีวิตอยากแสดงให้ครอบครัวเห็นว่าทำงานเก่งแต่แม่ดันจ้องหาผัวให้ตลอด"
"ชีวิตกูนี่น้ำเน่าเนาะ"
"ก็ให้มันน้ำเน่าสุดๆไปเลยแล้วพอนะหยุดดราม่าแล้วไปปั้นหน้าสวยไปล่อพระเอกขี่ม้าขาวของมึงซะ"
ฉันยิ้มกว้างซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่ฉันมีให้แค่เพื่อนหรือคนสนิทตัวเองเห็นเท่านั้น มันเป็นรอยยิ้มที่มาจากใจจริงๆไม่ใช่รอยยิ้มที่มีไว้ประดับบนใบหน้าเพื่อเข้าสังคม...ฉันชอบตัวเองตอนยิ้มแบบนี้นะแต่มันคงอีกนานที่จะได้ยิ้มให้กับทุกคน