“สุดท้าย... คนอย่างธาม พิพัฒน์ธนากุล ก็ถูกทิ้งได้เหมือนกันสินะ”
เขากระดกเหล้าอึกสุดท้าย แล้วเอนตัวลงพิงโซฟา ปล่อยให้สติค่อยๆ ละลายไปพร้อมหยาดฝนด้านนอก
คืนนี้...ห้องทำงานทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า และเสียงลมหายใจของชายผู้พ่ายแพ้ในความรักครั้งแรกของชีวิต
กลิ่นเหล้าและความเงียบยังคงอบอวลอยู่ในห้องทำงานกว้างขวางเหมือนทุกวัน ผ้าม่านถูกปิดสนิทจนแสงอาทิตย์แทบส่องไม่ถึง ขวดเหล้าที่เรียงอยู่บนโต๊ะมากกว่าสามขวดบอกชัดว่าคนในห้องนี้ใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับความมึนเมามานานแค่ไหน
ธาม เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สายตาพร่ามัว มองกระจกใสบานใหญ่ตรงหน้าอย่างไร้โฟกัส เคราที่ขึ้นบางๆ ริมกรามทำให้เขาดูซูบลงไปถนัดตา เขาไม่ได้ไปบริษัท ไม่ลงไปดูงาน ไม่แม้แต่จะเปิดโทรศัพท์ดูข้อความที่ค้างอยู่เป็นร้อย
“คุณธามครับ…ลองกินข้าวสักหน่อยเถอะครับ” เสียงของเลขานุการดังลอดเข้ามาทางอินเตอร์คอม แต่เขาเพียงหัวเราะแผ่วๆ
“บอกครัวให้ส่งกับแกล้มมาแทนข้าวก็พอ” เสียงตอบนั้นราบเรียบ แต่แฝงความเหนื่อยล้าจนปลายเสียงแทบขาดหาย
ไม่กี่สิบนาทีต่อมา เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ขอโทษค่ะ...ห้องอาหารนำกับแกล้มมาส่งค่ะ” เสียงหวานนั้นดังลอดเข้ามาพร้อมกับเสียงเปิดประตู ธามไม่ได้ตอบรับ เขาเพียงนั่งนิ่ง มือถือแก้วเหล้าไว้ในมือ ราวกับคนที่ไม่สนใจว่าใครจะเข้ามาหรือออกไปจากห้องนี้
ประตูเปิดออกเบาๆ ร่างบางในชุดยูนิฟอร์มเด็กเสิร์ฟของโรงแรมก้าวเข้ามาอย่างระมัดระวัง เดือนสิบวางถาดอาหารลงบนโต๊ะข้างหน้า เธอเห็นขวดเหล้ากระจายเต็มโต๊ะ เหลือบมองร่างสูงที่นั่งเอนอยู่บนเก้าอี้หนัง สีหน้าเขาดูเหนื่อยและว่างเปล่าในแบบที่เธอไม่เคยเห็นจากใครมาก่อน
กลิ่นแอลกอฮอล์แรงจนแสบจมูก เธอก้มหน้าทำงานเงียบๆ พยายามไม่สบตาเจ้านายที่ใครๆ ต่างร่ำลือถึงความเข้มงวด
แต่แล้วเสียงทุ้มแหบพร่าก็ดังขึ้นช้าๆ “เธอ...เป็นคนจากห้องอาหารเหรอ” เดือนสิบชะงักนิด ก่อนตอบเสียงเบา
“ค่ะ ดิฉันมาส่งกับแกล้มให้คุณธามค่ะ” เขาหันหน้ามาทางเธอ ดวงตาคมแต่แดงก่ำจากการอดนอนและเหล้า “เธอชื่ออะไร” ธามถามย้ำอีกรอบ
“เดือนสิบค่ะ” ธามหัวเราะในลำคอเบาๆ “เดือนสิบ...ชื่อแปลกดี” เขายกแก้วขึ้นดื่มอีกครั้ง ก่อนเอ่ยต่อเสียงแผ่ว