บทที่ 6 บ้านใหม่ที่ไม่ต้อนรับ

1268 Words
เมื่อมาถึงบ้านตระกูลวรรธนะเดช ลมเหนือกับข้าวฟ่างก็รีบขนของออกจากรถ โดยมีใต้ฝุ่นยืนกอดอกพิงรถอยู่ สีหน้าของเขาดูเหมือนกำลังยืนมองการทำงานอย่างคนไม่คิดจะช่วย “พี่ใต้มาช่วยกันสิ!” ลมเหนือหันไปเอ็ดพี่ชาย ใต้ฝุ่นยักไหล่อย่างไม่แยแส “ไม่ใช่เรื่องของพี่” ลมเหนือเตรียมจะอ้าปากเถียง แต่ข้าวฟ่างรีบยกมือห้าม ก่อนจะส่ายหน้าเป็นเชิงว่า “ช่างเถอะ” ลมเหนือเลยต้องถอนหายใจแรง ๆ แล้วหันไปยกกระเป๋าออกจากรถเอง แต่ดูเหมือนจะช้าไปหน่อย เพราะใต้ฝุ่นที่ยืนกอดอกอยู่เริ่มหงุดหงิด “เร็ว ๆ สิ ชักช้าอยู่นั่นแหละ” เขาบ่นเสียงห้วน ลมเหนือชักฉุน “พี่จะรีบไปไหนนักหนา? หรือว่านัดใครไว้?” ใต้ฝุ่นยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มกวน ๆ “ก็นัดไว้น่ะสิ” ลมเหนือเลิกคิ้วสูง “คืนนี้ไม่กลับบ้านเหรอ?” “มียัยเด็กนี่อยู่ในบ้าน ใครจะอยู่? เสียอารมณ์หมด” คำพูดของใต้ฝุ่นทำให้บรรยากาศรอบตัวตกอยู่ในความเงียบ ข้าวฟ่างที่กำลังยกกระเป๋าใบเล็ก ๆ อยู่ถึงกับชะงัก ก่อนจะก้มหน้าต่ำลง มือเล็กกำชายเสื้อแน่น พูดอะไรไม่ออก ใต้ฝุ่นเองก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะรู้สึกยังไง เขาแค่หงุดหงิดและอยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด เขายกกระเป๋าลงจากรถจนหมด ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นรถตัวเอง “อย่าเผาบ้านล่ะ” เขาทิ้งท้ายเสียงเย็นชา ก่อนจะขับรถออกไป ทิ้งไว้เพียงรอยล้อรถกับความรู้สึกอึดอัดของคนที่เหลืออยู่ ข้าวฟ่างเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะพยายามฝืนยิ้มให้ลมเหนือ “ฉันโอเคนะ” แต่ลมเหนือมองเพื่อนสนิทแล้วยิ่งรู้สึกเจ็บแทน พี่ชายของเธอมันปากร้ายจริง ๆ หลังจากที่ยกของลงจากรถเสร็จ บรรดาแม่บ้านและคนขับรถที่เห็นเหตุการณ์ก็รีบกรูกันเข้ามาช่วยทันที “ตายแล้วคุณหนูลม! ทำไมถึงไม่เรียกให้พวกเราช่วยล่ะคะ?” ป้าแม่บ้านประจำบ้านร้องเสียงหลง “ใช่ค่ะ! คุณหนูยกของแบบนี้ได้ยังไง ถ้าคุณหญิงรู้ ป้าต้องโดนหักเงินเดือนแน่ ๆ!” แม่บ้านอีกคนเสริม ไม่รอให้ลมเหนือหรือข้าวฟ่างตอบอะไร เหล่าแม่บ้านก็แย่งกระเป๋าและข้าวของออกจากมือพวกเธอไปทันที ก่อนจะพากันเดินขวักไขว่ไปที่บ้าน ลมเหนือที่รู้ว่ายังไงก็เถียงไม่ชนะเลยตัดบทสั่งเสียงเรียบ “เอาของไปไว้ที่ห้องลมค่ะ” “โอเคค่ะ!” แม่บ้านขานรับพร้อมกัน ก่อนจะช่วยกันขนของขึ้นไปบนชั้นสอง เมื่อมาถึงห้อง ลมเหนือเปิดประตูให้ ก่อนที่แม่บ้านจะตั้งท่าจะจัดแจงเก็บของให้ แต่ข้าวฟ่างรีบยกมือห้าม “เดี๋ยวค่ะ! ฉันทำเองก็ได้ค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจพอแล้ว” แม่บ้านมองหน้ากันเลิ่กลั่กเหมือนไม่แน่ใจว่าควรทำตามดีไหม แต่เมื่อเห็นสีหน้าข้าวฟ่างที่ดูจริงจัง ก็พยักหน้าแล้วถอยออกไป ลมเหนือถอนหายใจ พยักหน้ารับก่อนจะบอกว่า “งั้นเดี๋ยวฉันลงไปจัดการเรื่องด้านล่างก่อน จะให้แม่บ้านซื้อของใช้ให้แกด้วย แล้วก็จะสั่งให้ทำอาหารโปรดแกไว้” ข้าวฟ่างน้ำตารื้นขึ้นมาเล็กน้อย จะบอกว่า “ไม่ต้องก็ได้” แต่ลมเหนือชิงยกมือห้าม “ห้ามพูดว่าไม่ต้อง ฉันเต็มใจ!” พูดจบลมเหนือก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ข้าวฟ่างยืนมองตามหลังด้วยความซาบซึ้ง ถึงบ้านหลังนี้จะมีคนที่ไม่ต้อนรับเธอ แต่ก็มีคนที่รักและห่วงใยเธออยู่เหมือนกัน อย่างน้อย… ลมเหนือก็ยังอยู่ข้างเธอ ไม่นานขณะที่ข้าวฟ่างกำลังนั่งเก็บของเงียบ ๆ ในห้องใหม่ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นกระทันหัน เธอเหลือบมองหน้าจอ เป็นเบอร์ของมหาลัย หัวใจของคนตัวเล็กเต้นแรงแปลก ๆ แต่ก็ไม่รอช้า กดรับสายทันที “สวัสดีค่ะ นางสาวอัครศิริใช่ไหมคะ?” ปลายสายเป็นเสียงของเจ้าหน้าที่การเงินมหาวิทยาลัย “ค่ะ ดิฉันเองค่ะ” “ติดต่อมาแจ้งเรื่องค่าเทอมของคุณค่ะ คุณยังไม่ได้ชำระยอดที่เหลือ ทางมหาวิทยาลัยขอให้คุณดำเนินการชำระเงินภายในวันพรุ่งนี้นะคะ ยอดค้างชำระอยู่ที่สองแสนบาทค่ะ” ร่างของข้าวฟ่างแข็งทื่อ มือที่ถือโทรศัพท์เริ่มสั่น ความร้อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง “สองแสน… ภายในพรุ่งนี้…” เธอจะไปหาเงินที่ไหน? เธอหมดตัวแล้ว ทุกอย่างถูกอายัด บ้านถูกยึด เงินเก็บที่เหลือก็ใช้จัดงานศพหมดไปแล้ว เธอไม่อยากรบกวนลมเหนือไปมากกว่านี้ ไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเดือดร้อนเพราะตัวเองอีก เสียงปลายสายเรียกสติของเธอให้กลับมา “ฮัลโหล? นักศึกษาได้ยินไหมคะ?” ข้าวฟ่างรีบตอบไปทันที น้ำเสียงพยายามให้มั่นคงที่สุด “ค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะติดต่อกับทางมหาลัยนะคะ” หลังจากวางสาย ข้าวฟ่างทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง เธอซุกหน้าลงกับฝ่ามือ เธอจะทำยังไงดี? คืนนี้… เธอมีเวลาแค่คืนเดียว ในการหาเงินสองแสนบาท และตัวเลือกเดียวที่เธอคิดออกในตอนนี้… มันเสี่ยงเกินไป ข้าวฟ่างเม้มริมฝีปากแน่น ใบหน้าเครียดจนแทบหายใจไม่ออก ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยต้องเผชิญสถานการณ์แบบนี้มาก่อนการหาเงินสองแสนบาทภายในคืนเดียว มันแทบเป็นไปไม่ได้ ทว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน เธอเห็นโพสต์ในกลุ่มลับของมหาวิทยาลัย… “ตามหาหญิงสาวบริสุทธิ์ สนใจทักแชท ด่วน! ค่าตอบแทน 200,000 บาท” ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นมุกตลกในคณะ แต่ตอนนี้…เธอไม่มีทางเลือกแล้ว เจ้าของใบหน้าสวยกลืนน้ำลายลงคอ มือเรียวควานหากระเป๋าถือ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ที่เห็นในโพสต์ หนึ่งสาย… สองสาย… เสียงหัวใจของเธอเต้นโครมครามในอก ติ๊ด! ปลายสายกดรับ ข้าวฟ่างกลืนน้ำลาย รวบรวมความกล้าพูดตะกุกตะกัก “สะ-สวัสดีค่ะ พอดีจะสอบถามเรื่อง… เอ่อ ที่คุณกำลังหาหญิงพรหมจรรย์ไปนอนด้วยค่ะ เงิน… ได้สองแสน ยัง…ยังต้องการอยู่ไหมคะ?” เธอพูดไปพร้อมกับกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ปลายสายเงียบไปชั่วครู่...ความเงียบนี้ยาวนานเกินไป จากนั้น…เสียงทุ้มต่ำที่ติดจะเย็นชาก็ดังขึ้น “โทรผิดแล้วมั้ง?” ปลายสายวางหูทันที ข้าวฟ่างนิ่งค้างไปทั้งตัว มือที่ถือโทรศัพท์สั่นระริก เธอรู้สึกเหมือนโดนสาดน้ำเย็นใส่หน้า นี่เธอคิดอะไรอยู่? เธอกำลังจะขายตัวให้คนแปลกหน้าจริง ๆ น่ะเหรอ? ข้าวฟ่างกำโทรศัพท์แน่นจนข้อขึ้นสีขาว เธอรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ แต่มันมีทางอื่นอีกเหรอ? เธอไม่มีเงิน… ไม่มีบ้าน… ไม่มีอนาคต ถ้าพรุ่งนี้เธอจ่ายค่าเทอมไม่ได้ ชีวิตเธอก็จบแล้วจริง ๆ ขณะเดียวกัน โทรศัพท์ในมือสั่นอีกครั้ง...เบอร์แปลก เบอร์ของคนเมื่อครู่ ข้าวฟ่างลังเล แต่สุดท้ายก็กดรับสาย เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายคนเดิมดังขึ้น “เธอ… บริสุทธิ์ใช่ไหม?” เธอกลืนน้ำลาย “ค...ค่ะ” “งั้นเจอกันคืนนี้ ที่โรงแรม XX ห้อง 1705” ติ๊ด! สายถูกตัดไป ข้าวฟ่างนั่งนิ่ง มือเย็นเฉียบ… คืนนี้… มันจะเป็นคืนที่เธอไม่มีวันลืมแน่ ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD