จุดกลับใจ 10 | PUIFAI - จุดใต้ตำตอ

1689 Words
จุดกลับใจ 10 PUIFAI - จุดใต้ตำตอ ตอนแรกฉันจะชวนพ่อกับแม่ไปด้วยจะได้ช่วยตัดสินใจเรื่องโรงเรียนหลาน แต่พอออกมาจากห้องก็เห็นทั้งสองคนนั่งหน้าเครียดและบอกต้องรีบกลับ เพราะงานที่บ้านมีปัญหา สินค้าที่เราส่งไปติดอยู่ที่ศุลกากรลาว อาจจะมีอะไรผิดพลาด หรือมีกฎหมายใหม่ขึ้นมา เรื่องนี้พ่อต้องไปจัดการเองและแม่ก็ต้องไปด้วย เพราะแม่จะเป็นคนเก่งเรื่องเอกสารบัญชีต่างๆ ฉันเลยออกจากคอนโดสาย จองตั๋วให้แม่กับพ่อกลับบ้านและไปส่งท่านที่สนามบิน พอส่งแล้วก็ขับรถอ้อมเมืองกรุงเทพหาโรงเรียนให้ลูกต่อ ไล่จากไกลไปใกล้ ใกล้ที่ว่าไม่ใช่คอนโด แต่เป็นร้านใหม่ ฉันตั้งใจประหยัดค่าเช่ารีโนเวทเสร็จจะย้ายไปอยู่ที่ร้านเลย เพราะร้านมีตั้งสามชั้น “โรงเรียนนี้ปุยปุยชอบไหมลูก” ฉันถามลูกหลังจากที่จอดรถหน้าโรงเรียนหนึ่ง เธอกอดอกทำหน้าครุ่นคิด คิ้วขมวดทำปากจิ๊ๆราวกับผู้ใหญ่ “หนูว่ามันมีผีค่ะแมแม่” จบ แบบนี้คือไม่ชอบ ฉันไม่รู้ว่าลูกสาวเลือกจากอะไร บางโรงเรียนไฮโซหรูหราก็ไม่ชอบ เอกชนกลางๆก็ไม่เอา ส่วนรัฐบาลเห็นรั้วก็ส่ายหัวแล้ว ฉันก็เลยขับรถไปแถวๆร้านที่เช่าอยู่วนอยู่สองสามรอบหาโรงเรียน จนมีโรงเรียนหนึ่ง ไม่ใหญ่มาก แต่ไฮโซใช้ได้ คล้ายจะเป็นโรงเรียนนานาชาติ ฉันชะลอรถและจอดหน้าโรงเรียนเหมือนเดิม หันมองปุยนุ่นที่นั่งคาดเบลท์ที่เบาะข้างคนขับ ลูกชะเง้อมองดูสนใจมาก อิแม่อย่างฉันเลยรีบเสิร์ชชื่อโรงเรียนและเรตค่าเทอมทันที ทะ เทอมละหกแสน... เหม่อเลยกู -_-^ ฉันค่อยๆหันไปมองปุยนุ่นอีกครั้ง พอดิบพอดีกับที่เธอหันมายิ้มหวานและชี้นิ้วเข้าไปในโรงเรียน “หนูจะเรียนที่นี่ค่ะแมแม่ จะตั้งใจเรียนให้เก่งๆ จะเป็นมิสยูนิเวิร์สเลยค่ะ^[]^!” เหมือนสิ่งที่ฉันทำกับพ่อแม่หวนกลับมาเอาคืน ฉันเป็นแบบปุยนุ่นเป๊ะ เลือกแต่สิ่งดีๆสิ่งสบายใจให้ตัวเอง แพงแค่ไหนถ้าฉันอยากได้ พ่อกับแม่ก็ต้องหาเงินมาซื้อให้ ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะยกมือลูบหัวปุยนุ่น “โอเคค่ะ งั้นเรียนที่นี่ วันจันทร์แม่จะมาติดต่อนะ” “เย้~ แมแม่ของปุยปุยน่ารักที่สุดในโลกเล้ย รักนะคะ” หนึ่งเทอม มีราวๆหกเดือน กรี๊ด เดือนละเป็นแสน อิปุยฝ้ายมึงทำอะไรลงไปเนี่ย! ฉันเหมือนจะหัวเสียตอนคำนวณเดือน แต่พอหันไปเห็นลูกที่นั่งติดคอนโซลรถชะเง้อมองโรงเรียนก็ต้องทำใจให้ได้ ลูกดูชอบโรงเรียนนี้จริงๆ ไม่หุบยิ้มเลย แถมตาเป็นประกายวิบวับ โอเค ฉันจะพยายามหาเงินให้ได้แล้วกัน ผ่านร้านที่เช่าพอดี เวลามีน้อยและเพื่อไม่เป็นการเสียเที่ยว ฉันเลยจอดรถกดโทรหาวิศวกรโครงสร้างที่เอวาถ่ายนามบัตรส่งมาให้ เผื่อทางนั้นอยากได้รูป อยากเห็นตึกฉันจะได้ส่งให้ทันที (สวัสดีครับ) “สวัสดีค่ะ สนใจตรวจโครงสร้างอาคารค่ะ ไม่ทราบว่ามีขั้นตอนยังไงคะ และค่าใช้จ่ายยังไง” (ยินดีครับ ผมภัคพล อรุณรัตน์ จาก APN ENGINEERING ขออนุญาตสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอาคารครับ) พอถามข้อมูลเบื้องต้น จำนวนชั้น อายุตึก และสถานที่ ทางนั้นก็สรุปให้ทันทีว่าสามารถตรวจได้ภายในวันนี้ เพราะตึกแถวของฉันไม่ใช่ตึกใหญ่อะไร และบริษัทก็ไม่ได้อยู่ไกลมาก ฉันมีเวลาเหลือ ไม่อยากขับรถไปมาเสียเที่ยว เลยหันไปมองปุยนุ่นและถามลูก “ปุยปุยเดี๋ยวแม่ทำธุระอีกนิดนะคะ อาจจะร้อนหน่อยนะหนูโอเคไหม” “ได้ค่ะ จิ๊บๆ” ฉันอมยิ้มพลางส่งมือไปลูบหัวลูกสาวอย่างเอ็นดู ก่อนจะนัดแนะกับฝั่งนั้นที่หน้างาน โชคดีที่แดดร่มพอดีฉันเลยจูงมือลูกลงไปด้วยแทนการนั่งรอในรถ ทางนั้นมากันสี่คน แต่งตัวชุดพนักงานสวมหมวกเซฟตี้วิศวกรมือถือเอกสาร และเครื่องมือ “สวัสดีครับคุณปุยฝ้าย” “สวัสดีค่ะ คุณภัคพลใช่ไหมคะ” “ครับ อาคารสามสิบปียังไม่เก่าเท่าไหร่ภายนอกยังดูดีนะครับ” “อ๋อค่ะ เจ้าของเก่ารีโนเวททุกเจ้าเลยค่ะ โครงสร้างต่างๆยังไม่รู้ รบกวนคุณภัคพลด้วยนะคะ” “ยินดีครับ เดี๋ยวผมดูเบื้องต้นเก็บข้อมูลให้แล้วมาแจกแจงกันว่าจุดไหนมีปัญหา” แล้วคุณภัคพลก็ส่งยิ้มให้ปุยนุ่น “ลูกสาวคุณปุยฝ้ายเหรอครับ” “ใช่ค่ะ ปุยปุยสวัสดีคุณลุงสิคะ” “สวัสดีค่ะ” ลูกสาวฉันยกมือไหว้และย่อเข่าเล็กน้อยจนคุณภัคพลเผยยิ้มกว้าง คนที่เป็นวิศวกรโครงสร้างคือคุณภัคพลหรือคุณภัค(เขาให้ฉันเรียกชื่อเล่น) ส่วนที่มาด้วยคือลูกน้อง แต่ทุกคนทำงานกันมืออาชีพมาก ฉันกับลูกเดินไปซื้อไอติมกลับมาก็เสร็จแล้ว พวกเราจึงย้ายกันไปคุยที่คาเฟ่ใกล้ๆ คุณภัคบอกว่าโครงสร้างยังดีถ้าจะรีโนเวทก็ทำได้เลย ฉันจึงถามเรื่องอินทีเรียกับต่อเติม “ได้ยินมาว่า APN มีอินทีเรียรับเหมาครบวงจร ถ้าจะใช้บริการมีส่วนลดไหมคะ” “ใช่ครับ มีครบวงจรเลยครับ ตามจริงเรามีแพ็กเกจตรวจโครงสร้าง ออกแบบและรับเหมาอยู่ครับ ดูแลจนจบงาน ถ้าคุณปุยฝ้ายสนใจเราจะเตรียมทีมงานด้านรับเหมาให้ จะได้คุยแบบต่อได้เลย” คุณภัควางเอกสารและโบรชัวร์ให้ฉันดู หน้าโบรชัวร์มีรูปตึกบริษัทและแจกแจงว่ามีบริการด้านไหนบ้าง ฉันหยิบมาดูและอ่านคร่าวๆดูความน่าเชื่อถือก่อนอันดับแรก ตึกไม่ได้สูงลิบฟ้ามีราวๆสิบห้าชั้นแต่ใหญ่ใช้ได้ แถมพนักงานเยอะ มีครบทุกสาย และสโลแกนคือทำงานเร็ว ฉันจึงดูสารบัญเปิดไปที่ทีมรับเหมาออกแบบ มีตัวอย่างให้ดูเยอะแยะไปหมด และทีมอินทีเรียก็ออกแบบดีทันสมัยมาก “คุณปุยฝ้ายยังมีเวลาตัดสินใจนะครับ ค่อยๆศึกษารับโบรชัวร์ไปดูก่อนได้” พอฉันวางลงปุยนุ่นก็หยิบขึ้นไปดูต่อ “ฉันมั่นใจในบริษัทคุณค่ะ คุณออสตินไลออนคอนทรัคชั่นแนะนำมา” คุณภัคตาโตเล็กน้อย ไงล่ะ อย่ามาโกงฉันนะ คนที่แนะนำบริษัทนี้ให้เป็นมาเฟียนะ “อ้อครับๆ รับรองคุณปุยฝ้ายไม่ผิดหวัง สะดวกวันไหน อยากได้แบบไหนบอกได้เลยครับ ผมจะให้ทีมมาวัดหน้างานให้ จากนั้นออกแบบ และยกทีมช่างลงทีเดียว เรามีโรงงานไม่เละเทะหน้างานแน่นอนครับ” ฉันพยักหน้า ดีจัง แบบนั้นจะเร็วมากๆ ฉันอยากให้เร็วที่สุดเพราะไม่อยากเสียเวลาเช่าไปเปล่าๆ ฉันจึงตกลงแพ็กเกจนั้น ราคาออกแบบลดราคาลงจากปกติตั้งสามร้อยบาทต่อตารางเมตร จากที่ดูพื้นที่ชั้นหนึ่งชั้นสองฉันประหยัดได้เป็นหลายแสนเลย การคุยงานจบไปด้วยดี บริษัทนี้ถูกใจและเข้าใจลูกค้ามาก ฉันรู้สึกสบายใจที่เรื่องนี้มีคนช่วยจัดการ เพราะฉันก็บอกคุณภัคไปตรงๆว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว อยากคุมงบ อยากหาคนช่วยดูแลจนจบงาน ไม่สะดวกวิ่งไปนู่นมานี่ •••xxx••• [Special Part] APN ENGINEERING “อิ๊งค์ๆ สรุปงบคุณปุยฝ้ายด้วยนะ ข้อมูลทุกอย่างอยู่ในเมลแล้ว” “ได้ๆพี่ภัค ทำไมงานนี้ดีลเร็วจัง ทั้งอินทีเรียทั้งต่อเติม” “คุณปุยฝ้ายอยากจบงานเร็ว เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ค่อยมีเวลา แต่สวยมากนะ ลูกก็น่ารักมาก พี่จะดูแลให้ดีเลย กิ๊วๆ” “เบาๆหน่อยพี่อย่าเมาท์ลูกค้า” “เมาท์ไม่ได้จีบได้ไหม คุณปุยฝ้ายสวยจริงๆ” ปุยฝ้าย? คนตัวสูงที่เดินผ่านแผนกวิศวกรโครงสร้างชะงัก ตั้งแต่เธอหายไป ต่อให้ใครพูดชื่อปุยฝ้ายมันก็ชวนให้เขาเอะใจและใจสั่นทุกครั้ง จนสุดท้ายเอิงหันไปมองภัคพลที่หย่อนก้นนั่งที่เก้าอี้ที่ทำงานแล้วเดินไปหาทันที คนกำลังนั่งพรวดพราดยืนขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน และก้มหัวให้เจ้านายที่มุ่งตรงมาหา “สวัสดีครับบอส มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” “เมื่อกี้พูดชื่อใคร” พนักงานมองหน้ากัน มีหนึ่งคนขยิบตาส่งสัญญาณ ภัคพลถึงกับตาโต เชี่ยชื่อต้องห้าม ห้ามพูดให้บอสได้ยินนี่หว่า! “เอ่อ...” “ตอบผม” “คะ คือชื่อลูกค้าครับ ชื่อปุยฝ้าย... ตรวจสอบโครงสร้างอาคาร อินทีเรีย ต่อเติมครับ” “ผมได้ยินว่าคุณพูดถึงลูกค้ามากกว่านี้” ภัคพลก้มหน้าทันที “ผมไม่ได้ตั้งใจครับบอส ผมแค่อยากดูแลคุณปุยฝ้ายให้ดีจนจบงานครับ เพราะเธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่มีเวลาเข้าไปดูหน้างานบ่อยครับ” และสายตาเอิงก็กดมองไปที่โต๊ะทำงานของวิศวกรหนุุ่ม ตรงหน้า ก่อนจะหยิบเอกสารสัญญาขึ้นมาดู พนักงานทุกคนนั่งตัวแข็ง ประธานบริษัทไม่เคยเยือนโต๊ะใครแบบนี้มาก่อน นี่คือครั้งแรก... จุดจบของภัคพลจะเป็นยังไง? แต่ทว่าคิ้วเขาขมวดเข้าหากัน ชื่อจริง และนามสกุล... รวมถึงลายมือทำให้หัวใจหล่นวูบตกที่พื้น “ประภาภร... ทิพยกิตสกุล” เขาเอ่ยขึ้นมาเบาๆ และเงยหน้าขึ้นมองเหม่อออกไปนอกกระจก ภัคพลมองด้วยสายตาหวาดหวั่นไม่รู้ว่าในหัวเจ้านายมีอะไร จนสุดท้ายเอิงวางเอกสารสัญญาลงบนโต๊ะ และมองกลับด้วยสายตาจริงจัง “ลูกค้าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว?” “คะ ครับบอส” “ลูกโตรึยัง?” “น่าจะอายุห้าหกขวบได้ครับ” “ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย?” “ผู้หญิงครับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD