12.45 am.
"อารมณ์เมื่อวานกับวันนี้ต่างกันลิบลับเลยแฮะ"
ฉันเงยหน้ามองตึกเดิมตรงหน้าที่มานั่งมองเมื่อวานด้วยความประหม่า ก่อนจะก้มมองตัวเองอีกครั้ง วันนี้เป็นวันที่ฉันแต่งตัวเพื่อมาสมัครงานแบบจัดเต็มสุดๆ ทั้งกระโปรงทรงเอยาวคลุมเข่าและเสื้อเชิ้ตสีขาวเอาชายเสื้อยัดเข้าด้านในพร้อมกับเสื้อสูทคลุมด้านนอกอีกที ผมฉันก็รวบตึงจนเจ็บหนังหัวไปหมดแล้วตอนนี้ แถมฉันยังสะพายกระเป๋าสีชมพูมาด้วยเพราะเขาว่ามันเป็นสีมงคล ขอโทษที่ต้องมูเตลูแต่ฉันไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ..ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะเดินไปหน้าบริษัท
"มาติดต่อเรื่องอะไรครับ?"
พนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้ามาถามฉันทันที
"มาสมัครงานค่ะ"
"หื้ม ช่วงนี้ไม่มีสมัครงานไม่ใช่เหรอ.."
ครืน..
ประตูเลื่อนด้านหน้าตึกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงคุ้นตาที่เดินออกมาหาฉัน หน้าตาเหมือนลูกครึ่งญี่ปุ่นของเขามันคุ้นตาฉันเอามากๆ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยกมือไหว้ก่อนซึ่งเขาก็ยิ้มรับไหว้ฉันอย่างสุภาพ
"ช่วงนี้มีสมัครงานครับพี่"
"ผมขอโทษครับคุณคิรินผมไม่ทราบมาก่อนจริงๆ"
"ไม่เป็นไรครับ ส่วนคุณมาสมัครงานใช่ไหม?"
"ใช่ค่ะ"
"งั้นตามผมมาเลยครับ"
ฉันพยักหน้าตอบ ก่อนจะก้มหัวให้ลุงรปภ.ด้วยความงงงวยที่ไม่แพ้กัน ฉันคิดว่าบรรยากาศการสมัครงานมันต้องมีคนเยอะกว่านี้หน่อยสิ แต่นี่มันไม่มีใครมาสมัครนอกจากฉันเลย...หรือวันนี้สมัครกันวันสุดท้ายแล้ว?
"ผมคิรินนะครับเป็นเลขาของท่านประธาน"
"ค่ะ งั้นตำแหน่งที่สมัครเพิ่ม.."
"ก็มาทำตำแหน่งเดียวกับผมครับ แต่เป็นผู้ช่วย"
"อ่อ ผู้ช่วยเลขาโสนเข้าใจแล้วค่ะ"
"ครับ"
ฉันยิ้มค้างในตอนที่เขาพาฉันเดินเข้ามาภายในโถงของชั้นหนึ่งซึ่งชั้นนี้เป็นจุดที่ลูกค้าจะเข้ามาติดต่อเรื่องกู้ยืม เพราะคนเยอะมาก ฉันเดินตามคุณคิรินเข้าไปในลิฟต์และไม่ได้ถามอะไรแม้เขาจะกดไปที่ชั้นสิบห้าก็ตาม...สงสัยเขาสัมภาษณ์งานกันที่นั่น
"เตรียมผลสอบโทอิคมาแล้วใช่ไหมครับ?"
"เรียบร้อยค่ะ"
"แล้วสอบผ่านไหมครับ?"
"ผ่านค่ะได้แปดร้อยสิบคะแนนค่ะ"
"เก่งนะครับเนี่ย สุดยอดเลย"
คุณคิรินหันหลังกลับมายิ้มให้ฉันก่อนเขาจะกระแอมไอ และหันกลับไปทางเดิมอย่างรวดเร็วจนฉันตอบขอบคุณไม่ทัน...เขาเหมือนกำลังคีพลุคนะ
ติ๊ง..
ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกพร้อมกับคุณคิรินที่เดินนำฉันไปตามทางต่อ ชั้นนี้ไม่มีคนเลยแฮะ มีแต่ทางเดินเรียบๆที่เดินนำไปยังประตูบานใหญ่
"ขอโทษนะคะ แต่โสนต้องสัมภาษณ์กับใครเหรอคะ? รึสัมภาษณ์กับคุณคิรินเลย?"
"อ่อ ผมลืมแจ้งไปสินะ" คุณคิรินหันมามองก่อนจะหยุดเดินหน้าประตูบานใหญ่ตรงหน้า "ท่านประธานจะเป็นคนสัมภาษณ์คุณโสนด้วยตัวเองครับ"
"คะ!?"
"ไม่ต้องคิดมากนะครับ ท่านประธานเป็นคนใจดี"
ไม่ได้คิดมากเลย แต่ฉันตกใจและช็อกซะมากกว่า นี่ฉันจะต้องมาสัมภาษณ์งานกับประธานบริษัทเลยเหรอ!?
"อย่างที่รู้ว่างานเลขาต้องทำงานกับประธาน เพราะงั้นท่านเลยอยากจะเป็นคนสัมภาษณ์คนที่จะมาทำงานใกล้ชิดแทนน่ะครับ"
"ค่ะ โสนเข้าใจ"
"งั้นนั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับตอนนี้ท่านประธานกำลังพักอยู่ เดี๋ยวผมเข้าไปเรียนให้ท่านทราบก่อน"
"ค่ะ"
ฉันเดินไปนั่งที่โซฟาหน้าห้องอย่างว่าง่าย ขณะที่คุณคิรินกำลังเคาะห้องท่านประธาน และเดินเข้าไปด้านใน ส่วนฉันตอนนี้ทำได้แค่พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองเท่านั้น ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่เพราะฉันรู้จักดีไงล่ะถึงได้ตื่นเต้นขนาดนี้ คุณครามเป็นประธานบริษัทนี้ตั้งแต่อายุยี่สิบปีเลยนะ ตอนที่ฉันเรียนในมหาลัยอาจารย์ยังเอาเรื่องการทำธุรกิจของเขามาสอนในคาบเลยด้วยซ้ำ
การที่จะได้เจอคนที่ตัวเองชื่นชมมานานมันตื่นเต้นมากๆ เลยนะ
แกร๊ง
ฉันหันหน้ามองไปที่บานประตูที่ถูกเปิดออกมาก่อนคุณคิรินจะเดินเข้ามาหาพร้อมกับยิ้มให้
"พร้อมแล้วนะครับ?"
"ค่ะ"
"งั้นก็เชิญเลย เพราะท่านประธานพร้อมแล้ว"
ฉันพยักหน้าและลุกเดินผ่านประตูบานใหญ่เข้าไปภายในของห้องประธาน ซึ่งห้องของเขามันใหญ่โตมาก มีทั้งโซฟาชุดรับแขกที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง และโต๊ะทำงานที่โต๊ะอยู่ติดกับหน้าต่างกระจกที่สามารถมองออกไปนอกห้องดูวิวของทั่วทั้งเมืองได้เลย ฉันกวาดสายตามองไปทั่วทั้งห้องก่อนสายตาจะปะทะกับร่างสูงที่กำลังยืนหันหลังคุยโทรศัพท์อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานของเขา
คุณครามตัวจริงสูงมากๆเลย ทำไมเขาสูงได้ขนาดนี้..สูงไม่พอหุ่นยังดีราวกับนายแบบ แล้วมันยิ่งส่งให้ชุดสูทสีดำของเขาเด่นและดูดีเอามากๆแม้ยังหันหลังอยู่
"ครับ ผมให้เวลาเขาไปสามเดือน...ครับพ่อผมจะจัดการให้เรียบร้อย..ครับ"
ฉันมาถูกจังหวะถูกต้องไหม ทำไมคุณคิรินไม่ให้ฉันรอจนคุณครามคุยโทรศัพท์จนเสร็จล่ะเนี่ย
ฟึ้บ
ฉันสะดุ้งในตอนที่เขาหันหน้ามาหรี่ตามองฉัน ปกติตาเรียวของเขามันดูดุอยู่แล้วยิ่งหรี่ตามันยิ่งดุมากขึ้นไปอีก ฉันลอบกลืนน้ำลายและยกมือไหว้เขาทันที
"สวัสดีค่ะ"
อย่าตื่นเต้น ใจเย็นๆโสน..ใจเย็น
"ครับ เชิญนั่ง"
"ขอบคุณค่ะ"
ฉันเอ่ยเสียงเบา และเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับคุณครามก่อนจะยื่นเอกสารสมัครงานและเรซูเม่ไปวางตรงหน้าเขา ซึ่งเขาก็เอื้อมมือมาหยิบไปเปิดดูทันที
"แนะนำตัวได้เลยครับ"
"ค่ะ ดิฉันชื่อนางสาวพิชามญชุ์ อนรรฆวี ตอนนี้อายุยี่สิบสามปี จบเอกการจัดการจากมหาลัยพีอาร์ทีค่ะ"
"ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วย"
"ค่ะ"
"คะแนนโทอิคก็ผ่าน แต่ไม่มีประสบการณ์..อืมไม่ใช่ปัญหา"
ฉันเม้มปากมองคุณครามที่กำลังอ่านเรซูเม่ของฉันด้วยความตั้งใจ ก่อนเขาจะเงยหน้ามามองฉันจนมันทำเอาฉันชะงักไป แต่ก็พยายามดึงสติตัวเองกลับมาอีกครั้ง
"ตำแหน่งผู้ช่วยเลขางานหนักมากนะ ต้องอยู่กับผมแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยก็ว่าได้"
"ทราบค่ะ แต่ดิฉันทำได้"
"ชื่อเล่นว่าอะไรครับ?"
"โสนค่ะ"
"แทนตัวเองด้วยชื่อเล่นเถอะ"
"ค่ะ"
คุณครามยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะพลิกเรซูเม่ดูต่อ
"ตั้งแต่เรียนจบมาออกจากงานห้าครั้งเลยเหรอ?"
"ค่ะ แต่ออกเพราะเหตุผลจากที่ทำงานนะคะ"
"ครับผมรู้"
เขาทำไมถึงรู้ล่ะ..ฉันบีบมือตัวเองและเก็บความสงสัยของตัวเองไว้ไม่ให้ไปถามเขา
"บางครั้งผมต้องไปต่างประเทศ อ่อไม่ใช่แค่ต่างประเทศเพราะในประเทศก็ไปแทบจะทุกที่ เพราะงั้นผมเลยอยากแน่ใจในสถานะของคุณจริงๆน่ะ"
"ค่ะ โสนยังโสดค่ะ โสนไม่ได้ผ่านการแต่งงานหรือมีครอบครัวมาก่อนแน่นอน"
"ครับ แล้วคุณสะดวกไหมที่ต้องย้ายมาอยู่ที่นี่"
"คะ? ย้ายมาอยู่ที่ตึกนี้เหรอคะ?"
"ครับ ตั้งแต่ชั้นสิบหกขึ้นไปเป็นชั้นของพนักงานคนสนิทของผมและเป็นที่พักของผมด้วย"
"คือ.."
"เพราะเรื่องนี้น่ะผมเลยมีปัญหาเรื่องหาผู้ช่วยเลขามาตลอด"
คุณครามมองฉันด้วยแววตานิ่งเรียบไม่ได้มีท่าทีกดดันอะไรฉัน แต่เป็นฉันเองนี่แหละที่รู้สึกกดดัน เพราะเพียงแค่โดนเขาจ้องขนมันก็ลุกอย่างบอกไม่ถูกแล้ว
"โสนไม่มีปัญหาค่ะ"
"งั้นเข้ามาพักที่นี่ได้เลยสินะ"
"ค่ะ"
"งั้นผมรับคุณเข้าทำงาน"
"รับ..คุณครามจะรับโสนเข้าทำงานเลยเหรอคะ!?"
ฉันเบิกตามองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา พร้อมกับคุณครามที่พยักหน้าตอบ
"เริ่มงานพรุ่งนี้ได้เลยใช่ไหมครับ?"
"ค่ะ ได้ค่ะ"
"งั้นวันนี้ไปย้ายของเข้ามาอยู่ที่นี่เดี๋ยวผมให้คิรินจะไปจัดการช่วย"
"ค่ะ"
"ครับ"
คุณครามมองฉันก่อนจะเลิกคิ้วจนฉันสะดุ้ง และรีบหลบสายตาเขาเพราะฉันเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอไปจ้องตาเขาตั้งแต่ตอนไหน ฉันรับเอาเอกสารเรซูเม่คืนก่อนคุณคิรินจะเดินเข้ามาฉันจึงลุกขึ้นยกมือไหว้คุณคราม และเดินตามคุณคิรินออกมาจากห้องแม้ยังตั้งสติไม่ได้อยู่
นี่ฉันได้งานแล้วเหรอ? ง่ายๆงี้เลยเหรอ?
"ดีใจด้วยนะครับที่ได้งาน"
"ขอบคุณค่ะ เอ่อ..โสนยังตั้งสติไม่ได้เลย"
"เดี๋ยวก็ตั้งสติได้ครับ ตอนนี้ไปเซ็นสัญญากันก่อนเถอะ"
"เซ็นสัญญาเลยเหรอคะ?"
"ครับ จะได้เบิกเงินเดือนไว้ได้เร็วไงรึไม่อยากได้เงินเดือนครับเนี่ย?"
"อยากได้ค่ะ"
"งั้นก็ตามมาครับ"
ฉันพยักหน้าตอบคุณคิรินก่อนเดินตามเขาไปที่ลิฟต์ แต่มันก็อดจะหันกลับไปมองห้องของประธานไม่ได้...นี่เขารับฉันเข้าทำงานแล้วจริงๆน่ะนะ?
เมื่อวานฉันเพิ่งจะตกงาน แต่วันนี้ฉันได้งานใหม่แถมยังต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่อีก...ทำไมทุกอย่างมันรวดเร็วซะจนน่ากลัวแบบนี้ล่ะ? แล้วฉันเป็นบ้าอะไรมานึกกลัวตอนนี้ล่ะเนี่ย!?
อีกด้านหลังประตูบานใหญ่ ร่างสูงในชุดสูทยกมือขึ้นปิดใบหน้าตัวเองไว้ แต่มันก็ยังไม่ช่วยให้กลิ่นหอมมันเบาบางลงสักนิด แม้โสนจะเดินออกไปแล้วแต่กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ครามเองก็ยังคิดไม่ได้ว่ากลิ่นมันคล้ายกับอะไรก็คงยังอบอวลอยู่ในห้อง
เขาไม่รู้ว่ามันคือกลิ่นหอมคล้ายกับอะไร แต่เขารู้ว่ามันหอมมากๆหอมจนร่างกายเขาชื้นไปด้วยเหงื่อ อีกทั้งความรู้สึกโหยหาที่เต็มไปด้วยความทรมานอย่างบอกไม่ถูกนี้อีก วันนั้นที่บังเอิญเจอแล้วเธอไม่อยู่เขาไม่ได้มีอาการมากเท่ากับมานั่งจ้องหน้ากันแบบนี้
แต่สิ่งที่ทำให้เขาตะลึงงันไปเลยคือตอนที่เธอกำลังจะเดินออกไป..ตอนแรกในสายตาเขาเขาเห็นเพียงแค่สีขาวดำ เขาไม่รู้ว่าโสนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีอะไร...แต่เมื่อกี้เขาเหมือนจะเห็นสีของกระเป๋าที่เธอสะพายมา..
ก๊อกๆ
"ขออนุญาตครับท่าน"
คิรินเดินเข้ามาในห้องมองนายตนที่กำลังนั่งปิดใบหน้าตัวเองอยู่ แต่เขาต้องเบิกตากว้างในตอนที่ครามเงยหน้ามองเขา เพราะตอนนี้ใบหน้าครามเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดใหญ่..
"ท่านประธานเป็นอะไรรึเปล่าครับ!?"
"กระเป๋า"
"ครับ?"
"โสนสะพายกระเป๋าสีชมพูมาเหรอ?"
คิรินยกมือขึ้นปิดปากตัวเองท่ามกลางสายตาขาวดำของครามที่กำลังรอคำตอบ และทันทีที่คิรินพยักหน้าเขาก็ยิ่งแน่ใจ..ครามแน่ใจแล้วจริงๆว่าโสนคือผู้หญิงคนนั้น
เธอเป็นโชคชะตาของเขาจริงๆ