Ep.7

1850 Words
Ep.7 Pair talk. "ฉันจะไม่อยู่ประมาณวันสองวันนะแพร ต้องไปทำธุระให้พ่อที่เชียงใหม่น่ะ" วินเซนต์ที่เดินออกมาจากห้องน้ำพูดกับฉันที่นั่งพิงหัวเตียงเล่นโทรศัพท์อยู่ "นายจะไปเชียงใหม่เหรอ" ฉันเงยหน้าขึ้นไปถามเขากลับ ฉันไม่ได้สนใจที่เขาจะไปไหนหรือทำอะไรหรอก แต่ที่ฉันสนใจคือชื่อสถานที่ที่เขาพูดออกมาต่างหาก "อืม" เขาพยักหน้าตอบฉันพร้อมกับใช้ผ้าขนหนูขยี้เช็ดผมตัวเองไปด้วย ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะในหัวกำลังคิด...เชียงใหม่ฤดูนี้ก็น่าสนนะ ช่วงนี้อากาศที่นั่นก็คงจะประมาณสิบห้าหรือสิบหกองศาได้ ขนาดที่กรุงเทพฯยังเย็นขนาดนี้ ที่เชียงใหม่คงหนาวเลยล่ะ เอาไงดี ฉันจะไปดีมั้ย ไปพักผ่อนสักพักค่อยกลับมา ช่วงนี้ยิ่งเบื่อๆ และเครียดอยู่ด้วย ไปเที่ยวให้ธรรมชาติมันช่วยบำบัดหน่อยก็คงดีไม่น้อย "จะนอนหรือยัง" วินเซนต์ถามฉันขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่เขาเดินเข้าไปแต่งตัวออกมา และก็ได้แต่งอะไรหรอก แค่ใส่กางเกงนอนแล้วก็ลงสกินแคร์ที่ใบหน้าเฉยๆ แล้วก็เดินออกมา "พรุ่งนี้ฉันจะไปเชียงใหม่กับนายด้วยนะ" ฉันบอกเขาไป "แต่ฉันไปงานนะ" เขาขมวดคิ้วเข้าหากันนิดๆ "อ่าฮะ...แล้วไง ?" ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย "ฉันกลัวว่าเธอจะเบื่อเอาน่ะสิ" เขาพูดพร้อมกับเดินขึ้นมานั่งมองหน้าฉันบนเตียง "?" "อีกอย่างฉันก็ไปแค่สองวันเอง ไม่มีเวลาพาเธอไปไหนหรอก" เดี๋ยวนะ นี่เขาคิดว่าฉันจะไปอยู่กับเขาเหรอ โอเค! ฉันอาจจะผิดเองที่พูดไม่เคลียร์ "ฉันแค่จะไปพร้อมนายพรุ่งนี้ แล้วพอถึงสนามบินที่นู้นเราก็แยกกัน นายก็ไปงานของนาย ฉันก็จะไปเที่ยวของฉัน ฉันไม่ได้หมายความว่าฉันจะตามติดนายนะ" "..." เขานั่งมองหน้าฉันเงียบ "เข้าใจที่ฉันบอกหรือยัง" "อืม เข้าใจ" เขาพยักหน้ารับเบาๆ แล้วฉันก็ถามเขาว่าบินกี่โมง ก่อนจะกดจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรมเอาไว้ ไหนๆ เขาก็จะไปพอดี ก็บินพร้อมเขาให้มันจบๆ จะได้ไปสนามบินพร้อมเขา ไม่ต้องเรียกรถเองให้มันยุ่งยาก พอไปถึงนู้นก็แยกย้ายกัน แค่นั้นแหละ จบ. Pair talk end. Vincent talk. [นุ่นถึงแล้วค่ะพี่วินเซนต์ ตอนนี้พี่วินเซนต์อยู่ตรงไหนคะ] ทันทีที่ผมกดรับสาย 'นุ่น' ลูกสาวของเพื่อนพ่อผมก็พูดขึ้นมาทันที "พี่อยู่ในเกตแล้ว" [อ่าว พี่วินเซนต์ไม่รอนุ่นเลย] ผมเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร สักพักคนที่อยู่ในสายก็ร้องอุทานขึ้นมาอย่างตกใจ [ตายแล้ว! นุ่นลืมดูเวลาค่ะพี่วินเซนต์ นุ่นจะตกเครื่องมั้ยคะเนี่ย] สงสัยเธอคงเพิ่งจะดูเวลาล่ะมั้ง แล้วจะให้ผมรอเธอได้ยังไง และที่รอไม่ได้ไม่ใช่ว่าผมกลัวตกเครื่องหรอกนะ แต่ที่รอไม่ได้เพราะคนที่มากับผม เธอทำหน้าเหวี่ยงทุกครั้งที่ต้องรอ แค่รอเช็กอินเธอหยังชักสีหน้าหงุดหงิดใส่พนักงานเลย นี่ขนาดตั๋วที่เราจองมันได้สิทธิ์เช็กอินก่อนนะ ยังเหวี่ยงขนาดนี้ ขืนจองชั้นประหยัดที่ไม่มีสิทธิ์อะไรเลย ผมไม่อยากจะนึกภาพ "เดี๋ยวพี่รอในเกตนะครับ" พูดจบผมก็กดวางสายไปเพราะไม่รู้ว่าจะพูดยังไง ผมกับนุ่นเคยเจอกันมาบ้างก็จริง แต่ผมไม่ได้สนิทกับเธอขนาดนั้น "...คุณผู้โดยสารคะ เชิญขึ้นเครื่องได้แล้วค่ะ" หลังจากที่ผมวางสายน้องนุ่นไปได้ไม่นาน พนักงานของสายการบินก็เดินมาเชิญให้ไปขึ้นเครื่องได้ก่อน "ให้คนอื่นขึ้นไปก่อนเลยครับ ผมต้องรออีกคนนึงก่อน...!?" ผมยังพูดไม่ทันจบ แพรก็ดึง Airpod ออกจากหูและเก็บเข้ากระเป๋า พร้อมหยิบแว่นดำขึ้นมาสวม ก่อนจะเดินตามพนักงานคนนั้นผ่านหน้าผมไป หมับ! "เดี๋ยวก่อนแพร..." ผมคว้าแขนเธอเอาไว้ "?" เธอหันมามองผมนิ่งๆ พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อย เป็นเชิงถามว่ามีอะไร "ทำไมไม่รอขึ้นพร้อมกัน" "แล้วนายรออะไรล่ะ" แพรถามผมกลับมาทันที "รอนุ่นไง เธอกำลังเข้ามา" "งั้นนายก็รอไปสิ" "...แล้วเธอ ?" แพรกลอกตาตัวเองไปมาเล็กน้อยอย่างรำคาญ แล้วพูดขึ้น "ฉันไม่ได้เสียเงินมาเพื่อรอใคร ถ้าฉันอยากรอฉันคงไปนั่งชั้นประหยัดแล้ว ใครอยากรอก็รอไป ฉันไม่รอ" พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไปทันที ...แล้วนี่ผมเป็นไรของผมวะ!? จะไปห่วงความรู้สึกของคนอื่นทำไม แค่ขึ้นเครื่องไปก่อนเธอคงไม่รู้สึกเหงาหรือว่ารู้สึกว่ามาคนเดียวหรอกมั้ง เฮ้อ แม่ง! จากนั้นผมก็นั่งรอน้องนุ่นอยู่ในเกตต่ออีกสักพักใหญ่ๆ จนใกล้เวลาเครื่องออก นุ่นก็วิ่งตามพนักงานหน้าตาตื่นเข้ามาหาผมที่นั่งรอเธออยู่ ก่อนที่พนักงานจะรีบเดินกึ่งวิ่งพาผมกับนุ่นไปขึ้นเครื่อง และจัดแจงที่นั่งให้เรียบร้อย แต่เหมือนมันจะไม่เรียบร้อยและมีปัญหาก็ตรงนุ่นนี่แหละ "อ่าว!? ทำไมนุ่นไม่ได้นั่งข้างพี่วินเซนต์ล่ะคะ" นุ่นพูดขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้นั่งข้างผม "ที่มันว่างแค่นี้" "อะไรกัน ตอนที่เลือกที่นั่งเราต้องนั่งข้างกันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมพี่ไปนั่งตรงนั้น" นุ่นชี้มาที่ที่ผมนั่งอย่างไม่เข้าใจและไม่พอใจ "นั่งลงเถอะ นั่งแค่ชั่วโมงเดียวเอง" ผมบอกเธอ เพราะตอนนี้ก็ใกล้เวลาที่เครื่องจะออกแล้วด้วย "ผู้โดยสารเชิญนั่งก่อนนะคะ ตอนนี้ได้เวลานำเครื่องออกละค่ะ" แอร์โฮสเตจที่อยู่บริเวณใกล้เคียงรีบเดินเข้ามาทำหน้าที่ทันทีเมื่อใกล้เวลาเต็มทีแล้ว แต่ดูเหมือนว่านุ่นจะยังไม่ยอมจบเรื่องที่นั่งง่ายๆ "เธอ!" เพราะตอนนี้นุ่นเดินเข้ามาตรงที่นั่งข้างผมที่มีแพรนั่งอยู่ และสะกิดเรียกแพรที่นั่งเงียบไม่ได้สนใจอะไร "..." แพรลืมตามองนุ่นด้วยสายตานิ่งๆ เย็นๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร "เปลี่ยนที่นั่งกัน" "ทำแบบนั้นไม่ได้นะคะผู้โดยสาร ผู้โดยสารต้องนั่งตามที่นั่งที่นะบุไว้ในบัตรเท่านั้นนะคะ" แอร์โฮสเตจพูดขึ้น "ทำไมจะไม่ได้!" "ไม่ได้จริงๆ ค่ะ มันเป็นกฎของสายการบิน" "ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องบิน!" นุ่นกอดอกเชิดหน้าใส่แอร์โฮสเตจคนนั้น ตรงส่วนที่ผมอยู่จะเป็นส่วนของคนที่ถือตั๋วชั้นธุรกิจเท่านั้น ที่นั่งก็เลยจะมีไม่กี่ที่ คนก็เลยไม่วุ่นวายเหมือนชั้นประหยัด ซึ่งอยู่ส่วนกลางและส่วนหางของเครื่องบิน "นุ่น อย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่" บอกตรงๆ ว่าผมเกรงใจผู้โดยสารคนอื่น เที่ยวบินนี้ไม่ได้มีแค่พวกเรา แต่มีคนอื่นๆ อีกเยอะที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่ต้องมารอเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง "นุ่นก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้ แต่นุ่นแค่อยากสลับที่กับผู้หญิงคนนี้" พูดจบเธอก็ชี้ไปที่แพร "นุ่น..." ผมเรียกเธอเสียงแข็งขึ้น เห็นผมเหมือนคนที่ใจดี ไม่อารมณ์ร้อน แต่ผมก็มีขีดความอดทนเหมือนกันนะ "ไม่รู้ล่ะ ขนาดพี่วินเซนต์ยังเปลี่ยนที่ไปนั่งตรงนั้นไปเลย ทำไมนุ่นจะเปลี่ยนบ้างไม่ได้" ที่ผมเปลี่ยนได้ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะสายการบินนี้เป็นของเฮียพัตเตอร์ไงล่ะ ผมเลยทำอะไรได้ง่ายๆ แต่แอร์โฮสเตจไม่มีใครรู้หรอกว่าผมทำอะไรยังไง "พาออกไป" แพรหันไปพูดกับแอร์โฮสเตจที่ยืนอยู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และมองไปยังนุ่นที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นเยียบ "นี่เธอ!" "อย่าทำให้คนคนเดียวมาเป็นตัวถ่วงของคนทั้งลำ" แพรพูดกับแอร์ฯ อีกครั้ง พร้อมกับเริ่มจิกตาใส่นุ่น "นี่! เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน แล้วรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร! ถึงกล้ามาปากดีกับฉันแบบนี้!" นุ่นเริ่มโวยวายใส่แพร "ที่บ้านเธอไม่สอนเหรอ เรื่องมารยาทในที่สาธารณะน่ะ หรือสอนแต่มันไม่เข้าสมอง" ผมว่าแพรเธอคงหมดความอดทนแล้วล่ะ ถึงได้เริ่มตอบโต้ออกมาแบบนี้ "แก!! แกเป็นใคร!" "กลับไปนั่งที่ ถ้าอยากมีเรื่องกับฉันก็ค่อยมีหลังจากนี้ อย่าทำให้คนอื่นต้องมาเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หรือถ้ารับไม่ได้ก็ออกจากเครื่องไปซะ" "กรี๊ดดด! ใครก็ได้ลากยัยนี่ลงเครื่องไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน" นุ่นเริ่มโวยวายเสียงดัง จนผู้โดยสารที่อยู่ชั้นถัดไปเริ่มชะโงกหน้าเข้ามามองอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น "นุ่น หยุดเถอะ" ผมพูดและเริ่มกุมขมับตัวเอง ผมปวดหัวจริงๆ ที่ต้องเจอผู้หญิงประเภทนี้ ตอนไม่โวยวายก็น่ารักดีอยู่หรอก พอโวยวายทีนี่ทำเอากูปวดหัวมากเลย "ไม่! นุ่นไม่หยุด จนกว่านุ่นจะได้นั่งตรงนี้!" ผมนวดขมับตัวเองหนักกว่าเดิม "ผู้โดยสารครับ ถ้าผู้โดยสารไม่ยอมกลับไปนั่งที่ ทางเราจำเป็นที่จะต้องเชิญผู้โดยสารออกจากเครื่องไปนะครับ" กัปตันพูด แอร์คงจะไปเรียกมาจัดการความวุ่นวายนี้แหละ "แกมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน!" "คุณกำลังทำให้ผู้โดยสารท่านอื่นเสียเวลาครับ" กัปตันพูดเสียงเข้ม "แล้วไง! ก็รอไปสิ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องบิน" "งั้นก็ลงไปสิ! เธอก็รับไม่ได้ไม่ใช่เหรอ" แพรพูดสวนนุ่นขึ้นมาทันที "แพร ปล่อยเจ้าหน้าที่เขาจัดการไป" ผมหันไปพูดกับแพรเบาๆ "พี่วินเซนต์รู้จักมันด้วยเหรอ !?" นุ่นพูด แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากมองเธอด้วยสายตาเอือมระอา "คุณครับ..." "ไม่! ถ้าฉันต้องลงยัยนี่ก็ต้องลงเหมือนกัน!" "เธออยากมีเรื่องกับฉันมากนักใช่มั้ย!" พูดจบแพรก็ปลดเข็มขัดออกและลุกขึ้นยืนประชันหน้ากับนุ่น "แพร..." ผมเรียกและจับมือเธอเอาไว้ แต่เธอก็ไม่ฟังแถมยังสะบัดมือผมออก ก่อนจะหันไปพูดกับกัปตัน "ไหนๆ เครื่องก็ดีเลย์แล้ว รบกวนประกาศบอกผู้โดยสารคนอื่นให้รออีกสักสิบหรือสิบห้านาทีนะคะ ขอเวลาจัดการอีตัวปัญหานี่ก่อน!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD