“แล้วฝนมันเกี่ยวอะไรกับต้องรีบอาบน้ำล่ะคะ” หญิงสาวถามกลับทันที
“ที่นี่ถ้าฝนตก ไม่นานไฟก็จะดับ ผมถึงบอกให้คุณอาบน้ำ ก่อนที่ไฟมันจะดับนี่ไง” ชายหนุ่มอธิบายด้วยความใจเย็น
“อ๋อ...ไม่เอานะ ถ้าไฟดับฉันก็กลัวสิ นี่ขนาดไฟไม่ดับยังวังเวงขนาดนี้” ดานิกาทำหน้าตาหวาดหวั่นอย่างที่ชายหนุ่มต้องหลุดยิ้มเมื่อมองมาที่เธอ
“มันไม่ขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าฝนตกมีข้อดีอย่างหนึ่งรู้มั้ย ที่นี่จะมีปูภูเขาออกมา เดี๋ยวจับมันมาทำอาหารให้คุณกิน” ชายหนุ่มพยายามเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้หญิงสาวกังวลจนเกินไป
“แต่ฉันก็ไม่อยากให้มันตกอยู่ดี ฉันกลัวไฟดับอย่างที่คุณว่า” หญิงสาวยังไม่วางใจเท่าที่ควร เพราะเธอกลัวความมืดที่สุด
“เอาน่าถ้าตกครั้งนี้มันอาจจะไม่ดับก็ได้” ชายหนุ่มกล่าวก่อนที่จะชาร์จไฟแบตเพื่อเตรียมตัวหาปูภูเขามาทำอาหารให้หญิงสาวรับประทาน ในขณะที่คนตัวเล็กก็เตรียมตัวอาบน้ำอย่างว่าง่าย
ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงฝนก็ตกลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว อติรุจจึงเตรียมตัวออกไปตามล่าปูภูเขาเพื่อมาเป็นอาหารชั้นเลิศให้กับหญิงสาว
“ผมไปหาปูก่อนนะ แล้วผมล็อคประตูไว้แล้ว คุณจะได้ไม่ต้องออกมาเปิดให้ผม เดี๋ยวผมเปิดเอง” ชายหนุ่มแต่งตัวทะมัดมะแมงกำลังจะเดินออกจากบ้านไปตามลำธารข้างบ้านของเขา
“ไม่ไปไม่ได้เหรอฉันกลัว ฉันไม่อยากกินแล้ว” หญิงสาวออดอ้อนชายหนุ่ม เธอไม่อยากอยู่ที่นี่คนเดียว
“ไม่ได้หรอก ไหนๆ คุณก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว คุณต้องได้กินอาหารชั้นเลิศของพวกเราสิ” อติรุจไม่ยอมใจอ่อน เขาเป็นห่วงหญิงสาว แต่เขาก็อยากให้เธอได้ลิ้มรสมันเหมือนกัน เมื่อไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้ หญิงสาวได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มเดินออกไปตามล่าปูภูเขา
เธอนั่งฟังเสียงฝนด้วยความหวั่นเกรง เขาออกไปสักพักใหญ่แล้ว แต่ฝนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลยสักนิด ดานิกานั่งรออติรุจกลับมาอย่างใจจดใจจ่อ เธอไม่ชอบการอยู่คนเดียว โดยเฉพาะกลางป่ากลางเขาแบบนี้ เธอไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ เธอจึงทำได้เพียงแค่รอเท่านั้น
ระหว่างที่หญิงสาวนั่งรอเขากลับมาอยู่นั้น สิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อแสงสว่างภายในบ้านหายไป หญิงสาวถึงกับหวีดร้องด้วยความตกใจ ตอนนี้ร่างบางสั่นเทาอย่างไม่สามารถหยุดอาการนี้ได้ เธอร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย เธอยังนั่งอยู่ตรงนั้น เธอไม่กล้าที่จะขยับไปไหน เธอภาวนาให้อติรุจกลับมาที่บ้านให้เร็วที่สุด เธอไม่อยากกินแล้วปูภูเขา เธอขอแค่ให้เขากลับมาอยู่ใกล้ๆ เธอ แค่นั้นหญิงสาวก็จะรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างมาก