ตอนที่ 5
เป็นห่วงมันมากใช่ไหม
"พฤกษ์ ขวัญ ทำไหวแน่นะ" ขุนพลเอ่ยถามวิศวกรรุ่นน้องด้วยความเป็นห่วง เมื่อรู้ว่างานที่รุ่นน้องทั้งสองได้รับมอบหมายจากผู้เป็นนายนั้นเรียกได้ว่า ‘โหดเกินไป’ สำหรับวิศวกรที่ย้ายมาใหม่ ถึงทั้งคู่จะมีประสบการณ์ทำงานมาเยอะพอสมควร แต่ถูกสั่งให้ทำรายงานเยอะขนาดนี้ มันก็เกินไป เพิ่งจะเข้ามาเริ่มงานใหม่ไม่กี่วัน ยังไม่ทันได้เรียนรู้อะไรเลยด้วยซ้ำ
ปรางขวัญมองกองเอกสารที่ถูกจิรายุยกมาวางไว้ให้บนโต๊ะแล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้คนถาม "ก็คงต้องไหวค่ะ"
"ถ้าไม่ไหว แล้วมีอะไรให้ช่วยบอกพี่ได้นะ" ขุนพลอาสาเป็นผู้ช่วย โดยไม่สนใจคำขู่ของผู้เป็นนาย ที่บอกว่าทุกคนจะอดได้โบนัสสิ้นปีนี้
"เฮ้ย! ไม่ได้ดิพี่ขุน เราช่วยไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ ไม่งั้นพวกเราทุกคนอดได้โบนัสกันทุกคนแน่" จิรายุรีบเอ่ยขึ้นทันที เพราะก่อนจะวางสายเจ้านายหนุ่มย้ำแล้วย้ำอีกว่าห้ามให้ใครช่วยเด็ดขาด
"ไม่เป็นไรหรอกน่า คุณริวก็แค่ขู่ไปงั้น"
จิรายุส่ายหน้ารัว ๆ ฟังจากน้ำเสียงของเจ้านายแล้วไม่น่าจะแค่ขู่เฉย ๆ "แต่ผมว่ารอบนี้พี่ริวเอาจริงนะ อีกอย่างมันไม่ใช่แค่พี่หรือแค่ผมนะที่จะไม่ได้โบนัส แต่มันหมายถึงทุกคนในแผนกนี้เลยนะพี่"
ขุนพลหันมองไปรอบ ตอนนี้ทุกคนในแผนกกำลังจ้องมองมาที่เขาเป็นตาเดียว ก็อย่างว่านั่นแหละ ไม่ใช่ว่าทุกคนไม่อยากช่วยชัยพฤกษ์กับปรางขวัญทำงาน ทุกคนอยากช่วยกันทั้งนั้น แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของภัท**นน แล้วก็กลัวจะไม่ได้โบนัสกันด้วย
"ไม่เป็นไรค่ะพี่ขุน ขอบคุณนะคะ" ปรางขวัญรีบพูดขึ้นเมื่อรู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นกว่าเดิม เธอไม่อยากให้ทุกคนลำบากใจกับเรื่องของเธอ
ขุนพลหันกลับมามองรุ่นน้องสาว ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เจ้านายไม่พอใจ ถึงได้โดนสั่งงานโหดขนาดนี้ พนักงานทุกคนอยากรู้ หากแต่ไม่มีใครกล้าถาม ขุนพลถอนหายใจก่อนจะพูด "อืม ทำเท่าที่ทำไหวนะ อย่าหักโหมมาก"
ปรางขวัญส่งยิ้มบาง ๆ ให้ จากนั้นขุนพลก็หมุนตัวเดินกลับโต๊ะ พร้อมกับทุกคนที่แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองต่อ
"ขอโทษนะพฤกษ์ที่ทำให้ลำบาก" ปรางขวัญหันกลับมาพูดกับชัยพฤกษ์อย่างรู้สึกผิด เป็นเพราะเธอ เขาก็เลยพลอยโดนไปด้วย
"ไม่เป็นไร มันก็ไม่ได้ลำบากอะไร" ชัยพฤกษ์บอกพร้อมส่งยิ้มให้ ไม่อยากให้ปรางขวัญคิดมาก
"แต่ถ้าเราทำไม่ทัน…" ปรางขวัญเหลือบไปมองกองเอกสารอีกครั้ง ประเมินจากสายตาแล้ว ยังไงก็ทำไม่ทันแน่ ๆ และก็ไม่อยากจะคิดว่าถ้าทำไม่เสร็จตามเวลาที่เขากำหนด เธอจะโดนเขาต่อว่าอะไรบ้าง แค่เธอโดนคนเดียวน่ะไม่เท่าไรหรอก แต่ชัยพฤกษ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เรื่องอะไรด้วย เขาไม่สมควรโดนไปกับเธอ
"ทันสิ มีแค่นี้เอง" ชัยพฤกษ์บอกอย่างให้กำลังใจ หากแต่ความจริงแล้วเขาก็คิดว่ามันคงเสร็จไม่ทันตามกำหนดแน่ ๆ แต่ยังไงก็ต้องลองทำดูก่อน ไม่แน่มันอาจจะเสร็จทันก็ได้ "เดี๋ยวเราจะไปขอข้อมูลรายการเบิกจ่ายของโครงการนี้จากฝ่ายบัญชีก่อนนะ"
ปรางขวัญมองชื่อโครงการจากเอกสารที่ชัยพฤกษ์ชูให้ดู แล้วพยักหน้าก่อนที่ชัยพฤกษ์จะเดินออกจากโต๊ะไปทันที ก็ยังดีที่เขาห้ามแค่คนในแผนกช่วย นั่นก็แปลว่าเธอกับชัยพฤกษ์ยังสามารถไปขอข้อมูลจากฝ่ายอื่น ๆ ในบริษัทได้ งานอาจจะเดินช้าหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่เดินเลย
พอชัยพฤกษ์เดินออกไป ปรางขวัญก็ถอนหายใจออกมาแรง ๆ แล้วเริ่มหยิบเอกสารที่อ่านค้างไว้ขึ้นมาอ่านทำความเข้าใจ เช็กวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง เช็กราคาเบิกจ่าย ค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ทำเท่าที่ตัวเองพอจะทำได้ไปก่อน ที่เหลือค่อยตามเก็บทีหลัง
"พี่ ผมถามจริง ๆ นะ พี่กับขวัญมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า ทำไมพี่ต้องแกล้งเขาแบบนั้นด้วย" จิรายุเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย ขณะกำลังนั่งดื่มอยู่กับภัท**นนที่ร้านอาหารกึ่งบาร์แห่งหนึ่ง
ภัท**นนยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกด้วยท่าทีปกติ ทำราวกับไม่ได้ยินที่ลูกน้องหนุ่มถาม จิรายุเองก็ไม่ยอมแพ้ พูดขึ้นต่อ
"ไม่รู้ว่าป่านนี้จะได้กลับไปพักกันหรือยัง ตอนผมออกจากบริษัทมาก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว สองคนนั้นยังนั่งทำงานกันอยู่เลย" และคาดว่าคืนนี้ก็คงไม่ได้นอน เพราะถ้านอนงานที่กองเป็นตั้งนั้นไม่มีทางเสร็จทันเวลาแน่ ๆ
"แล้วทำไมมึงไม่ไปช่วยเขาล่ะ มานั่งบ่นอยู่นี่ทำไม" ภัท**นนพูดประชดขึ้นมาอย่างรำคาญใจ พลางเอนตัวพิงพนักโซฟาแล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ร้าน ทำราวกับว่ากำลังมองหาใครสักคน
"โห่! พี่ก็พูดมาได้ เล่นขู่ไว้ซะขนาดนั้นใครจะไปกล้าช่วย" จิรายุว่าพลางส่ายหน้าเบา ๆ "พี่ยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะ"
"คำถามอะไรของมึง"
"ก็ที่ไอ้ที่ผมถามว่าพี่กับขวัญมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า ทำไมถึงได้แกล้งเขาโหดขนาดนั้น พี่กับขวัญรู้จักกันมาก่อนเหรอ" จิรายุวกกลับเรื่องที่ตัวเองยังสงสัย ถึงแม้จะชัดเจนอยู่แล้วว่าเจ้านายหนุ่มกับปรางขวัญต้องเคยรู้จักกันมาก่อนแน่นอน แต่เขาก็ยังอยากรู้ว่าทำไมภัท**นนต้องแสดงท่าทีเกลียดชังปรางขวัญชัดเจนขนาดนั้น
"กูก็แค่สั่งงาน ไม่ได้แกล้งอะไรเลย หรือมึงจะให้เขานั่ง
ว่าง ๆ กันโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยแล้วได้เงินเดือนสบาย ๆ งี้?" เจ้านายหนุ่มเลิกคิ้วถาม พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับปรางขวัญว่าเคยเป็นอะไรกันมาก่อน เขาไม่อยากให้ใครรู้ไปมากกว่านี้ "เลิกพูดถึงเรื่องนี้สักที ถ้ามึงยังไม่หยุด กูจะให้มึงจ่ายค่าอาหารวันนี้ทั้งหมด"
"โอเคครับผม ไม่พูดแล้วครับ!" ลูกน้องหนุ่มรีบรูดซิปปากตัวเองทันที เพราะคำนวณค่าอาหารบนโต๊ะจากสายตาแล้ว น่าจะหลายพันเลยละ ไหนจะมิกเซอร์ที่ยังต้องสั่งมาเรื่อย ๆ อีก
ภัท**นนยิ้มที่มุมปากนิด ๆ อย่างพอใจ แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกจนหมดแก้ว ก่อนจะก้มมองสมาร์ตโฟนตัวเองที่สั่นเพราะมีข้อความเข้า เขาอ่านข้อความนั้นแล้วเงยหน้าพูดกับลูกน้องหนุ่ม "เดี๋ยวแฟนกูมานั่งด้วย"
"ไม่มีปัญหา ตามสบายเลยครับ"
เป็นเรื่องปกติที่ภัท**นนจะพาแฟนมานั่งดื่มด้วย แทบจะทุกครั้งที่มานั่งดื่ม จิรายุก็มักจะเห็นแฟนของเจ้านายมานั่งด้วยทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นแฟนของเจ้านายหนุ่มจะเป็นใคร
"ยังเป็นน้องหมิวอยู่ใช่ไหมพี่" จิรายุเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ จะได้ไม่ทักผิดคน แม้ว่าภัท**นนจะไม่ได้เปลี่ยนแฟนบ่อยมากนัก แต่เขาก็ต้องถามกันเอาไว้ก่อน
"อือ" ภัท**นนพยักหน้ารับ
"หูย คนนี้คบนานว่ะ จริงจังเหรอพี่"
"ก็คบเรื่อย ๆ ไม่ได้จริงจังอะไร ไม่งี่เง่าดี" ภัท**นนตอบอย่างไม่คิดอะไรมาก เพราะเขายังไม่คิดที่จะจริงจังกับใครทั้งนั้น คบแก้เหงาไปวัน ๆ ใครคุยง่าย ควบคุมได้ ไม่งี่เง่า ก็จะคบนานหน่อย แต่ถ้าใครล้ำเส้นเขามากเกินไป เขาก็จะเลิกทันที
"ทำไมไม่จริงจังอะ ผมว่าน้องหมิวก็น่ารักดีนะ ดูเรียบร้อยดีออก" จิรายุแสดงความคิดเห็นออกไปตามที่เคยเห็นและเคยนั่งดื่มด้วยกันหลายครั้ง
"เรื่อย ๆ ไปก่อน" ภัท**นนว่าพลางยักไหล่ขึ้นหนึ่งที ก่อนจะก้มมองสมาร์ตโฟนของตัวเองที่สั่นขึ้นมาอีกรอบ "มาถึงละ เดี๋ยวกูออกไปรับก่อน"
แล้วภัท**นนก็ลุกเดินออกไปรับแฟนสาวที่ยืนรออยู่หน้าร้าน ไม่นานก็เดินโอบเอวกันเข้ามานั่งที่โต๊ะตามเดิม น้อง
หมิวหรือชุติมายิ้มทักทายจิรายุเล็กน้อย ก่อนจิรายุจะชวนคุยอีกนิดหน่อย
"อย่าดื่มเยอะ เดี๋ยวเมา" ภัท**นนบอกแฟนสาวด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ ชุติมายิ้มเขินพร้อมกับยกแก้วค็อกเทลสีสวยขึ้นมาจิบเบา ๆ ทำตามที่ภัท**นนบอกเป็นอย่างดี
"คืนนี้พี่ริวจะค้างกับหมิวไหมคะ" หญิงสาวเอ่ยถาม
"คืนนี้พี่จะกลับไปค้างที่บ้าน แต่ก่อนกลับพี่จะแวะไปส่ง
หมิวที่คอนโดฯ ก่อน" ชุติมารู้สึกดีใจจนยิ้มกว้าง เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค้างด้วย แต่แค่คำว่า ‘ไปส่ง’ นั้นก็ทำให้เธอพอใจมากแล้ว
ทั้งสามนั่งดื่มกันไปสักพัก ก่อนที่จิรายุจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาหญิงสาวหุ่นเซ็กซี่ที่ส่งสายตาให้เขาตั้งแต่เข้ามานั่งในร้าน ปล่อยให้ภัท**นนกับชุติมานั่งดื่มด้วยกันตามลำพัง
"พรุ่งนี้พี่ริวทำงานไหมคะ" หญิงสาวเอ่ยถาม
"ทำครับ หมิวมีอะไรหรือเปล่า จะชวนพี่ไปไหน หืม" เขาถามกลับพลางใช้นิ้วโป้งลูบไหล่มนที่โผล่พ้นออกมาจากเดรสปาดไหล่ของหญิงสาวเล่นไปอย่างเพลิน ๆ
"หมิวว่าจะชวนพี่ริวไปเดินห้างฯ เห็นเพื่อนบอกว่ามีกระเป๋าออกมาใหม่ หมิวก็ว่าจะไปเดิน ๆ ดูสักหน่อย"
"พรุ่งนี้พี่ไม่ว่างน่ะสิ" ชายหนุ่มทำหน้าเสียดาย ก่อนจะล้วงกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วเลือกหยิบบัตรเครดิตออกมาหนึ่งใบยื่นให้หญิงสาว "งั้นเอาบัตรพี่ไป หมิวอยากได้ใบไหนก็รูดซื้อได้เลย"
ชุติมายิ้มกว้างอย่างดีใจพร้อมกับรับบัตรเครดิตของชายหนุ่มมา ก่อนจะยืดตัวขึ้นไปหอมแก้ม ให้รางวัลที่เขาทำตัวน่ารัก
"พี่ริวน่ารักที่สุดเลย"