ตอนที่ 4
ไปให้พ้น
"กลับมาทำไม"
ภัท**นนเค้นเสียงถามเล็ดลอดไรฟัน มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาดุดันและน่ากลัว เมื่อวานตอนที่รู้ว่าหนึ่งในวิศวกรที่ย้ายมาใหม่เป็นผู้หญิงและชื่อ ‘ปรางขวัญ’ เขาก็รู้สึกตงิดใจแปลก ๆ แต่ก็พยายามคิดว่าคงไม่ใช่คนเดียวกันกับที่เขาคิดหรอก ผู้หญิงคนนั้นคงไม่กล้ากลับมาให้เขาเห็นหน้าแล้วละ
หึ! แต่ที่ไหนได้ เธอกล้ากว่าที่คิดเสียอีก
วันนั้นที่เขาถูกเธอบอกเลิก เขาเสียใจและเจ็บใจมาก เขายอมให้เธอทุกอย่าง อย่างที่ไม่เคยยอมผู้หญิงคนไหนมาก่อน ขนาดเธอบอกว่าเธอมีคนอื่นเขายังไม่เชื่อ เขาเชื่อใจเธอ เชื่อว่าเธอจะไม่มีวันทรยศต่อความรักของเขาที่มีให้ แต่แล้วสิ่งที่เขาคิดมันกลับไม่ใช่ เธอมีคนอื่นจริง ๆ
ที่ทำให้เขาเชื่อว่าเธอมีคนอื่นจริง ๆ ก็เพราะว่าหลังจากวันที่เกิดเรื่องสองวัน เขาก็ย้อนกลับไปเก็บของที่อะพาร์ตเมนต์ของเธออีกครั้งตอนเธอไม่อยู่ เพื่อไปเอาโน้ตบุ๊กของเขาที่ไม่ได้หยิบออกมาด้วย และด้วยสันชาตญาณอะไรบางอย่างทำให้เขาเดินสำรวจรอบห้องของเธออย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นใต้เตียง ตู้เสื้อผ้า ลิ้นชักใส่ของ หรือแม้กระทั้งถังขยะ
และสิ่งที่เขาเห็นในถังขยะนั้นทำให้เขาช็อก ขาทั้งสองข้างแทบก้าวไม่ออก หัวใจแตกสลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า พอตั้งสติได้ เขาก็รีบเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวออก แล้วเบือนหน้าหนีถังขยะที่มี ‘ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว’ ถูกทิ้งไว้ในนั้น
เพราะหลักฐานมันชัดเจน เขาถึงได้เชื่อเต็มร้อยว่าเธอหักหลังเขาไปมีคนอื่นจริง ๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ความรักของเขากลายเป็นความเกลียดชังมาจนถึงวันนี้
ที่ผ่านมาเขาคิดว่าเขาลืมมันไปได้แล้วและรู้สึกเฉย ๆ กับมัน...แต่เปล่าเลย เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าเขาไม่เคยลืมมันได้เลย เพราะทันทีที่เขาเห็นหน้าเธอ ทุกอย่างมันยังชัดเจนอยู่เหมือนเดิม
ทั้ง ‘ความรัก’ และ ‘ความเกลียดชัง’
แต่ที่ชัดเจนที่สุดสำหรับเขาตอนนี้ก็คือ...ความเกลียดชัง และใช่!
เขาเกลียดเธอ!
"ฉันถามว่ามาทำไม!!!"
เสียงตะคอกทำให้ปรางขวัญสะดุ้งโหยง รู้สึกตกใจและกลัวที่ถูกเขาตะคอกใส่ด้วยความโกรธและโมโห ถึงเธอจะทำใจมาบ้างแล้วว่าอาจจะต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ มันกลับแย่กว่าที่คิดไว้มาก เพราะตอนนี้เขาน่ากลัวมาก เธอกลัวจนไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงอะไรให้เขาได้ยินแม้แต่นิดเดียว
เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมพูดอะไร เขาจึงพูดขึ้นมาอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังไม่ต่างจากเดิม "กลับมาอีกทำไม เลือกที่จะไปจากฉันแล้ว เธอจะกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีกทำไม!"
ปรางขวัญไม่รู้จะตอบคำถามเขาอย่างไร ได้แต่เม้มปากเข้าหากันแน่น แววตาสั่นระริก พยายามห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้ต่อหน้าเขา เธอไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ ถ้าเธอเลือกได้ เธอจะไม่พาตัวเองมาให้เขาเห็นหน้าหรือมาให้เขาต่อว่า แล้วมองเธอด้วยสายตาเย็นชาแบบนี้เลย เพราะมันเจ็บ
เธอเจ็บหัวใจเหลือเกิน
จากที่มองเธอด้วยสายตาเย็นชา ชายหนุ่มก็ยกมุมปากขึ้นนิด ๆ เปลี่ยนสายตาเป็นมองเธออย่างเย้ยหยัน "หึ! หรือว่าไอ้ห่านั่นมันดูแลเธอไม่ดี เอาใจไม่เก่งเหมือนฉันใช่ไหม เธอถึงได้ซมซานกลับมา"
"ไม่ใช่นะ!" ปรางขวัญรีบโพล่งขึ้นเสียงดังก่อนจะต้องรีบเม้มปากแน่น เธออยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าทุกอย่างมันไม่ใช่อย่างที่เขาเข้าใจ ทว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในจุดที่จะพูดอะไรได้ พูดไปก็เหมือนการแก้ตัวและจะมีปัญหากับเขาเปล่า ๆ เธอไม่อยากมีปัญหากับหัวหน้าตั้งแต่วันแรกที่เธอย้ายเข้ามาหรอกนะ
"ไม่ใช่อะไร พูดออกมาสิ" ภัท**นนกอดอกรอฟัง จนเขารู้สึกหงุดหงิดใจ เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่เม้มปากไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักที "ดี! ไม่พูดก็เรื่องของเธอ และไม่ว่าเธอจะหวังอะไรกับการมาที่นี่ ฉันขอบอกเธอเอาไว้ตรงนี้เลยนะ ว่าเธอจะไม่มีทางสมหวังเด็ดขาด!"
"ขวะ..." ปรางขวัญชะงักเมื่อกำลังจะเผลอแทนตัวเองด้วยชื่อกับเขา เธอพยายามตั้งสติตัวเองดี ๆ และเริ่มคุยตอบโต้เขาด้วยเหตุผล "ฉันไม่ได้ต้องการอะไร"
"ไม่ได้ต้องการอะไรก็ดี งั้นก็ไปลาออกซะ!" เขาบอกพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ประตูอย่างเดือดดาล "ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ ออกไปให้พ้น!"
"ฉันมาที่นี่เพื่อมาทำงานค่ะ" ปรางขวัญใช้เหตุผลเข้าสู้ เธอมาที่นี่เพื่อมาทำงานเท่านั้น เธอไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากนี้เลย ถ้าเขามีเหตุผลพอเขาคงเข้าใจเธอและแยกแยะเป็น
"แต่ฉันไม่ต้องการทำงานร่วมกับคนอย่างเธอ!" เขาไม่ยอมฟัง อีกทั้งยังใช้อารมณ์และความรู้สึกเป็นที่ตั้ง เขาไม่อยากเห็นหน้าเธอ
"ฉันสัญญาว่านอกจากฉันจะไม่ไปรบกวนคุณ ฉันจะตั้งใจทำงานของฉัน เราแค่ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้เหรอคะ" เธอยื่นข้อเสนอที่คิดว่าดีและพอจะทำได้ง่ายที่สุด เพราะถ้าจะให้เธอไปลาออกอย่างที่เขาบอกเธอคงทำให้ไม่ได้ ชีวิตเธอไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น เธอยังมีภาระที่ต้องรับผิดชอบอีกเยอะ
"ต่างคนต่างอยู่งั้นเหรอ? เหอะ! ตลกไปไหมปรางขวัญ" เขาแค่นหัวเราะออกมาแล้วมองหน้าเธออย่างเย้ยหยัน "เธอคิดว่าฉันจะอยากไปยุ่งกับเธอมากนักหรือไง"
"ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นค่ะ ฉันแค่คิดว่ามันน่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้" เธอพูดจบ เขาก็พูดสวนเธอกลับทันที
"วิธีที่ดีที่สุดคือเธอต้องไปจากที่นี่ซะ!"
"ไม่ได้ค่ะ เพราะฉันเซ็นสัญญาไปแล้ว" เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ปรางขวัญถอยหลังกลับไม่ได้ เนื่องจากวันก่อนเธอได้เซ็นสัญญากับทางบริษัทไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในสัญญาก็ระบุเอาไว้ชัดเจนว่าต้องทำงานให้บริษัทเป็นระยะเวลาสองปีเต็ม มิเช่นนั้นก็จะต้องจ่ายค่าปรับจำนวนยี่สิบเท่าของเงินเดือน นอกเสียจากเธอจะทำผิดกฎและโดนไล่ออกหรือไม่ก็ทางบริษัทจะเป็นฝ่ายฉีกสัญญาเอง
"อ้อ เพราะไม่มีเงินนี่เอง" เขาว่าอย่างดูแคลน ก่อนจะพูดต่อ "แต่เธอไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ไปจากที่นี่ซะ ฉันจะไม่ให้เธอเสียสักบาทเดียว ขอแค่ให้เธอไป แล้วอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก!"
ปรางขวัญเจ็บจนแทบจุก นี่เขาเกลียดเธอมากขนาดนี้เลยเหรอ แต่พอคิดย้อนกลับไป สิ่งที่เธอทำเอาไว้กับเขา มันก็สมควรแล้วที่เขาจะเกลียดเธอเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไปจากที่นี่ตามที่เขาต้องการไม่ได้อยู่ดี
"ไม่ได้ค่ะ"
"ทำไมจะไม่ได้!!" เขาตวาดกลับมาทันที "ไปไม่ได้หรือไม่อยากไปกันแน่!"
ปรางขวัญเงียบ เพราะรู้ว่าถ้าพูดอะไรออกไป ก็จะทำให้สถานการณ์ตอนนี้มันยิ่งแย่เข้าไปอีก ถึงตอนที่คบกันเธอจะไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้ แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคนที่ใจดีและมีเหตุผล เวลาโกรธหรือโมโหก็จะร้ายสุด ๆ เหมือนกัน
ภัท**นนมองคนที่เอาแต่ยืนเงียบ ก่อนจะยกมือเสยผมตัวเองไปข้างหลังไล่ความหงุดหงิดพลางใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างใช้ความคิด ว่าจะเอายังไงกับหญิงสาวตรงหน้าดี เพราะดูท่าแล้วเธอไม่น่าจะยอมไปง่ายๆ
เขาไม่รู้ว่าเธอมีจุดประสงค์อะไรกับการมาที่นี่ เขามั่นใจว่าเธอรู้ว่าบริษัทนี้เป็นของครอบครัวเขา และเขาก็มั่นใจว่าเธอรู้ว่าต้องเจอเขาที่นี่...แต่เธอก็ยังมา แล้วแบบนี้จะให้เขาคิดเป็นอย่างอื่นได้ยังไง นอกเสียจากว่าเธอกำลังต้องการอะไรบางอย่างจากเขา!
และไม่ว่าเธอจะต้องการอะไรก็ตาม เขาบอกเอาไว้ตรงนี้เลย ว่าเธอจะไม่มีวันได้เด็ดขาด!
"ในเมื่อบอกดี ๆ แล้วไม่ยอมไป ได้! งั้นเดี๋ยวฉันจัดการเอง" เมื่อพูดจบภัท**นนก็เดินไปกระชากประตูห้องทำงานให้เปิดออก แล้วหุนหันเดินออกจากห้องไปทันที โดยไม่สนสายตาลูกน้องที่กำลังมองเขาด้วยความงุนงงว่าหัวหน้าของตัวเองเป็นอะไร ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเขาโกรธเท่านี้มาก่อน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องมีอะไรในก่อไผ่แน่นอน
ชัยพฤกษ์รีบพุ่งเข้าไปในห้องทำงานของภัท**นนทันทีที่เจ้าของห้องเดินออกไป แล้วเอ่ยถามคนที่อยู่ในห้องด้วยความเป็นห่วง
"ขวัญ เป็นอะไรไหม"
ปรางขวัญที่เพิ่งทรุดนั่งลงบนโซฟาอย่างคนหมดแรงส่ายหน้าตอบ "ไม่เป็นไร"
ชัยพฤกษ์อยากถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เห็นสีหน้าและท่าทางของปรางขวัญแล้วก็รู้สึกว่าไม่ใช่เวลาที่ควรถาม เขาทำเพียงทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ แล้วยกมือขึ้นลูบแขนหญิงสาวอย่างปลอบโยน
เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังเผชิญอยู่กับอะไร แต่เขาอยากให้เธอรู้เอาไว้ว่ายังมีเขาอยู่ตรงนี้
...อยู่ข้าง ๆ เธอเสมอ