เมื่อต้องตกลงแต่งงานกับไอย์ณรา ฌอร์นก็รู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เพราะทุกอย่างถูกกำหนดไว้หมดแล้ว อีกแค่สองสัปดาห์เขาต้องแต่งงานแล้ว กับเจ้าสาวที่เขาไม่ได้รักและไม่เคยพบหน้า หากไม่ทำเขาก็จะหมดสิ้นทุกอย่าง ดังนั้นเขาจึงต้องยอมแต่งงานอย่างเลี่ยงไม่ได้
ก่อนงานแต่งงานของทั้งคู่หนึ่งสัปดาห์ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้มาลองชุด นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าบ่าวได้เห็นหน้าเจ้าสาว เขาต้องตกตะลึงในความสวยของเธอ เขาไม่คิดว่าหญิงสาวที่เป็นเพียงลูกหลานชาวบ้านจะมีผิวพรรณผุดผ่องราวกับลูกหลานผู้ดีมีชาติตระกูลเช่นนี้ มิหนำซ้ำใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวยังเข้ารูปรับกันไปหมด เครื่องหน้าของเธอชวนมองซะจนเขาไม่อาจละสายตาไปจากใบหน้างามนั้นได้
คุณหญิงเบญจวรรณนี้ร้ายกาจนัก ท่านรู้ไปถึงสเปคผู้หญิงของหลานชาย แต่ไม่มีทางที่ฌอร์นจะหลงกล เขาไม่มีทางหลงรักผู้หญิงอย่างไอย์ณรา อย่างมากเขาก็แค่ทำตามหน้าที่ ได้ตัวเธอฟรี พอเบื่อแล้วก็ทิ้งเธอไป ทุกอย่างมันกำไรเห็นๆ นี่คือสิ่งที่เขาคิดเพื่อปลอบใจตนเอง ทำให้เขายังปั้นหน้าเตรียมงานแต่งงานครั้งนี้ได้
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งมันไม่ตรงกับความต้องการของฌอร์น เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขาแต่งงาน แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว เพราะผู้เป็นยายดันเชิญแขกกว่าสองพันคน และมีนักข่าวมาทำข่าวในงานด้วย เรื่องนี้คงปิดไม่ได้อยู่แล้ว
ทางด้านเจ้าสาวของเขา เธอเป็นเหมือนดังหุ่นยนต์ที่ใครจะจับจูงมือไปทางใดก็ได้ เธอไม่ได้แสดงออกว่าไม่พอใจหรือโดนบังคับให้แต่งงาน แต่เธอไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเลยมากกว่า เธอรู้สึกอย่างไร แต่แท้จริงแล้ว ภายใต้ใบหน้านิ่งของหญิงสาว เธอเต็มไปด้วยความหนักใจ เจ้าบ่าวที่เธอรู้มาตลอดว่าเขาไม่ต้องการแต่งงานกับเธอ แต่เพราะบุญคุณและคำขอร้องของคุณหญิงเบญจวรรณมันทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หญิงสาวไม่อาจรู้เลย เธอได้แต่ปล่อยวางแล้วปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของโชคชะตา
เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวเหมาะสมกันที่สุด แต่กลับไม่มีรอยยิ้มออกมาจากทั้งคู่ สร้างความแปลกใจให้คนที่มาร่วมในงานแต่งงานเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามหรือสงสัยเรื่องนี้ ทำให้งานยังดำเนินต่อไปท่ามกลางความอึมครึมของเจ้าบ่าวเจ้าสาว
กว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหลือเกิน ตอนนี้รอเพียงพิธีส่งตัวเข้าหอ ซึ่งเจ้าบ่าวของเธอคงไม่อยากใช้อากาศหายใจร่วมกับเธอ เขาเดินไปที่ไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้ในห้องหอจึงมีแต่เธอ คุณหญิงเบญจวรรณจึงถือโอกาสนี้เข้ามาคุยกับไอย์ณรา
“เป็นยังไงบ้างลูก เหนื่อยมั้ย” คุณหญิงเบญจวรรณลูบศีรษะหลานสะใภ้ด้วยความเอ็นดู