ตอนที่ 6
มึงเป็นใครกันแน่
ผีตนนี้ในร่างอีจำปา ช่างน่ากลัวแท้!!
“ทำไมมองฉันแบบนั้นละจ้ะพ่อครู?”
จีรยา เอียงคอเล็กน้อยถามพ่อครูรูปหล่อที่ถอยห่างเธอออกไป แล้วรู้สึกอยากจะขำออกมาเสียให้ได้ ด้วยไม่คาดว่าผู้มีวิทยาอาคมแกร่งกล้าจะมองเธอราวกับมองภูตผีปีศาจที่ตัวเองลังเลที่จะต่อกรต่อ “หรือว่าพ่อครูกลัวฉันเหรอจ้ะ?”
คำถามนั้นทำให้ หน้าคมของ ไกรศร กลับมาบึ้งตึงขึ้น
“ใยกูต้องกลัวมึงด้วย!” เสียงของพ่อครุดุเข้ม
อีนังผีตัวดี บังอาจมาดูถูกกู กล่าวหาว่ากูกลัวมึง ...แถมเมื่อกี้ก็ยังกดคอกูลงไปบดขยี้จูบหนักหน่วงจนใจกูปั่นป่วนไปหมด แล้วยังทำหน้าตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มันเป็นผีจากที่ใด จึงร้ายเช่นนี้!!!
“เอาไงดีต่อจ้ะพ่อครู”
ไอ้กล้า ตะโกนถามอย่างเก้ๆกังๆ หลังจากยืนซุบซิบกับอีสร้อย สังเกตการณ์อยู่นานสองนาน ได้เห็นอาการลังเลของ พ่อครูไกร ที่พวกตนเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ด้วยไม่ว่าจะปราบผี วิญญาณร้ายทั้งสายดำสายขาวแทบทุกรูปแบบ ก็ยังไม่เคยพ่อครูคนเก่งของพวกเขาเป็นเช่นนี้เลย
“ขังมันไว้ที่เรือนเล็กนี้แหละสักสองสามคืน กูจะทำพิธีวางสายสินให้รอบห้องไม่ให้มันออกไปไหน ให้จิตมันหิวโหยอดอยาก กูอยากรู้ว่ามันจะทนได้สักเพียงใด”
พ่อครูเอ่ยเสียงเข้ม ก่อนจะทำปากขมุบขมิบแล้ว คล้องสร้อยตะกรุดกับสายสินญ์ลงบนคอของจีรยา ความเย็นจากโลหะที่เคลือบกับเครื่องรางอันใหญ่ทำให้คิ้วเรียวของเธอขมวดขึ้น
“ให้สร้อยกับฉันเหรอจ้ะ? สวยดีจัง”
หัวคิ้วของ ไกรศร ย่นเข้าหากันเล็กน้อย
“เอ่อพ่อครูจ้ะ ถ้าปล่อยให้อีผีมันหิว มันจะไม่กินตับใต้ใส้พุงอีจำปาหมดหรอกรึ” อีสร้อย อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ ด้วยที่ผ่านมาคนในหมู่บ้านมักจะโดนผีบอปกินเครื่องในจนเกลี้ยง จากนั้นมันถึงจะยอมออกจากร่างคนที่สิงสู่
“อุ้ย นั่นซิจ้ะพ่อครู ถ้ามันแอบกินตับฉันจนเกลี้ยง จะทำเช่นไรกัน?” จีรยาตาเบิกโพลง เมื่อนึกถึงตัวละครหลายคนที่ต้องจบชีวิตลง เพราะผีบอปในเรื่อง
แค่คิดก็สยองแล้ว
“ไม่หรอก กูร่ายวิชารักษาร่างและเนื้อหนังให้มันแล้ว ร่างกายของอีจำปาจะไม่โดนแตะแต้งแม้เพียงเล็บ มันจะกินไม่ได้ และมันจะหิวโหยจนทรมาน”
คำบอกของพ่อครู ทำให้สีหน้าของสร้อยและกล้า ดีขึ้น
“ไม่ต้องรอสองวันหรอกจ้ะ ตอนนี้ฉันเองก็หิวมากแค่น้ำมนต์คันเล็กๆจะอิ่มอะไร ฉันหิวข้าว อยากกินเนื้อย่างติดมันส์ หมูกระทะเนื้อนุ่ม กุ้งตัวโตๆ น้ำจิ้มเผ็ด” ความหิว ทำให้จีรยา สาธยายรายการอาหารต่างๆที่เธอชอบกินประจำออกมา
นั่นทำให้ทั้งสามตาเบิกโพลง
“อีผีตนนี้มันร้ายนัก จะอยากกินอะไรขนาดนั้นและรายการที่มันว่าก็แสนประหลาดนัก” ไอ้กล้าอุทาน หันไปมองหน้ากับสร้อย และเหล่ตามองพ่อครู ที่ยืนนิ่งอยู่กลางห้อง
ไกรศร มองสบตากับเธอนิ่ง และจีรยาก็ไม่คิดจะหลบสายตาดุกร้าวนั้นแต่อย่างใด
“มึงหิวมากงั้นรึ?”
คิ้วหนาเข้มของพ่อครูยกขึ้น จนไผมหาเสน่ห์สองจุดตรงหางคิ้วยกตามด้วย ส่งผลให้หน้าหล่อเหลาคมคร้ามน่ามองขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
“ใช่จ้ะ ฉันหิวมาก”
จีรยา ตอบเสียงหวานออดอ้อน ส่งสายตาเว้าวอนให้กับเจ้าของเรือน ด้วยตอนนี้เธอรู้สึกหิวจนใส้จะกิ่วอยู่แล้ว จะอย่างไรก็ขอกินข้าวให้อิ่มท้องก่อนเถอะ
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
และพอกินน้ำมนต์ไปแล้ว เหมือนฤทธิ์เหล้าในตัวเธอเจือจางลง ทำให้รอยผื่นจ๊ำแดงตามตัวค่อยหายไปด้วย รวมถึงอาการมึนเมาผะอืดผะอมก่อนหน้านี้ด้วย
เออ!! น้ำมนต์นี่เป็นน้ำวิเศษเสียจริง
กินแล้วก็ทำให้หายเมาได้ด้วย ..ดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
“ไปยกสำรับมาให้มัน”
พ่อครูยกมือขวาขึ้นเป็นสัญญานให้สร้อยไปยกอาหารมาให้ที่เรือน ส่วนไอ้กล้าตรึงเส้นสายสินธ์รอบห้องเล็กของเธอไว้ โดยมีพ่อครูเดินไล่เสกคาถาเชื่อมไว้ทุกจุด
“แล้วฉันจะถ่ายหนักเบาได้อย่างไรกันจ้ะ ห้ามลงจากเรือนแบบนี้จะไปห้องน้ำได้อย่างไร?”
เธอถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นพ่อครูบอกไอ้กล้า ว่าจะล็อคห้องเธอจากด้านนอก ตอนเช้าจึงจะมาเปิดให้
ขนาดติดคุกยังไม่ขนาดนี้
“กินข้าวเสร็จ มึงก็ไปอาบน้ำด้านล่างและถ่ายหนักเสียให้เรียบร้อยซะ ส่วนถ่ายเบากลางคืนก็ใช้กระโถนเอา”
พ่อครูหันมาบอก “มึงต้องอดทนถ้าอยากจะกลับมาเป็นจำปาคนเดิม ไม่ใช่มีจิตคนอื่นครอบงำแบบนี้”
คำบอกนั้นทำให้เธอนิ่งไปสักพัก พร้อมครุ่นคิดบางอย่าง
บางทีวิธีนี้ของ เจ้าพ่อหมอไกรศรคนนี้อาจจะทำให้เธอได้กลับไปสู่โลกปัจจุบันได้เขียนนิยายต่อก็ได้ เพราะการหลงเข้ามาในนี้ มันตื่นเต้นก็จริงแต่ยังไงมันก็ไม่ใช่วิถีชีวิตของเธอเลย
“หมายถึงว่าฉันมีโอกาสจะกลับไปเหมือนเดิมใช่มั้ยจ้ะ”
“อืม”
แค่นั้นก็ทำให้สีหน้าของเธอลิงโลดขึ้น เมื่อสำรับอาหารมา หญิงสาวจึงนั่งพับเพียบอย่างเรียบร้อยและเปิดชามอาหารสองสามถ้วยอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเห็นกับข้าวในชามสีหน้าเธอก็เจื่อนขึ้นมาทันที
ข้าวสวยหนึ่งถ้วยเล็กๆ ใข่ต้มหนึ่งฟอง กับต้มอะไรไม่รู้สักอย่างที่มองอย่างไงก็ไม่น่ากิน
“อะ...เอ่อ สร้อยจ้ะ นี่คือสำรับของฉันเหรอ?”
จีรยา ถามอย่างสงสัย ความจริงไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องมีอาหารมากมายให้สมกับความหิวของเธอหรอกนะ แต่อย่างน้อยก็ไม่น่าจะมีแค่ใข่ต้มลูกเดียวแบบนี้
“ใช่”
เสียงเข้มของพ่อครู ตอบแทนอีสร้อยที่เดินลงจากเรือนไปแล้วพร้อมไอ้กล้า เพราะทั้งสองได้รับคำสั่งให้ดูคอกวัวทางด้านหลัง และจุดคบเพลิงไฟรอบบ้านให้เรียบร้อย เนื่องจากเริ่มจะมืดค่ำแล้ว
“ตะ..แต่ มีแค่ใข้ต้มกับข้าวเปล่ากับต้มว่านจืดๆนี่นะ ทำอย่างกับอาหารเซ่นไหว้เลย”
จะว่าไป สำรับไหว้ที่เธอเคยเห็นยังดูน่ากินกว่านี้เลย
“ก็ใช่ไง”
คำตอบนั้น ทำให้เธอต้องหันไปมองหน้าเขา แต่เหมือนดวงตาดุเข้มนั้นจะมองเธอมาอยู่ก่อนแล้ว
“พ่อครู หมายความว่าไง นี่มันสำรับของฉันนะ”
จีรยา เม้มปากแน่น ความหิวที่เริ่มปะทุทำให้เธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมา เข้าใจเลยกับหัวอกของตัวเองเรื่องเล่า เรื่อง กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่
ความหิวนี่มันน่ากลัว เสียยิ่งกว่าอะไร
“ก็นี่ไม่ใช่สำหรับของคนทั่วไป ...แต่เป็นของเซ่นให้ผีอย่างมึงไง รีบกินซะ”
ของเซ่นให้ผีอย่างฉัน งั้นเหรอ!!!!
มันจะมากเกินไปแล้ว
********************