ตอนที่ 4
พ่อครูของใหญ่
“เคยมีจ้ะ”
สร้อยหันกลับมาตอบเบาๆ นั่นทำให้ จีรยา เบิกตาโต ด้วยประเด็นนี้เธอไม่ได้เขียนไว้ในนิยาย จึงไม่ทราบรายละเอียดในส่วนนี้ เพราะเรื่องราวพ่อครูรวมถึง จำปา เป็นแค่ส่วนประกอบเล็กน้อยในเนื้อเรื่องเท่านั้น
“จริงเหรอ แล้วตอนนี้เมียพ่อครูไปอยู่ไหนแล้วจ้ะ?”
จีรยา เอ่ยถามด้วยความสงสัย
สร้อยที่กำลังจะก้าวลงจากเรือนหันมามองเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เสียไปหลายปีแล้วจ้ะ หลังจากมาเป็นเมียพ่อครูได้ไม่นาน ตอนนั้นพ่อครูดูเศร้ามากและพออีแก้วเสียก็ไม่เห็นแกจะเอาใครมาเป็นเมียเสียที”
ดวงตาของ สร้อย ไหววูบเล็กน้อย
เสียแล้วงั้นเหรอ ฟังแล้วจรียา ก็รู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมา
“ทำไมเสียเหรอจ้ะ”
ไหนๆก็ได้ถามแล้ว ก็ถามให้รู้รายละเอียดลึกๆไปเลย เพราะอย่างไงก็ต้องพักอาศัยอยู่ที่นี่แล้ว
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันจ้ะ เห็นว่านอนตาเหลือกเสียบนเรือนใหญ่นั่นแหละ บางคนก็บอกว่าเพราะโดนของย้อนจากพ่อครูจนวนมาเข้าเมีย”
สร้อยตอบเบาๆ คล้ายเกรงว่าใครจะได้ยิน เพราะการนำเรื่องของพ่อครูมาคุยไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แต่เห็นว่าอีจำปา มันเพิ่งมาใหม่ดูซื่อและสร้อยเองก็อยากจะมีเพื่อนคุย จึงยอมที่จะผูกมิตรไว้
“โดนของเหรอ?”
จีรยา อ้าปากค้างเมื่อนึกถึงข้อมูลมากมายที่เธอได้ศึกษามาและใช้ในการเขียนนิยายเรื่องนั้น พอรู้ว่าไสยเวทย์สายดำนั้นอันตรายยิ่งนัก
“ใช่จ้ะ ของพ่อครูทั้งแข็งและใหญ่”
อันนี้สร้อยน่าจะหมายถึงของขลังและคาถาอาคมของพ่อครูไกรศร แหละน่า!!!
“อ่าจ้ะ”
จีรยา พลันลำคอแห้งผากเมื่อระลึกถึงตอนที่นั่งตักและบดเบียดตัวตนกับพ่อครูไกรศร ความผ่าวร้อนที่ท่อนในกึ่งกายนั้นยังตราตรึงอยู่กับส่วนล่าง
“ใช่จ้ะ พ่อครูเขาบริกรรมคาถามานาน ของแต่ละอย่างจึงแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มาก”
“เอื้อก” ทำไมรู้สึกหิวน้ำขึ้นมากะทันหัน มือไม้พลันสั่นระริก หัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อสร้อยเอ่ยประโยคนี้
แข็งและใหญ่!! ไม่นะ
“จำปาเอ็งเป็นไรรึ?”
สร้อย เอ่ยถามเมื่อเห็นคนตรงหน้าเริ่มจะหน้าซีดเผือก และตัวสั่นระริก จนต้องชะงักเท้าที่จะก้าวลงบันใดและปรี่มาใกล้
“ปะ..เปล่าจ้ะ ฉันแค่เวียนหัวนิดหน่อย”
จีรยา เอ่ยเสียงสั่นมือจับผนังไม้ไผ่ไว้แน่น เมื่อรู้สึกว่าเริ่มจะยืนไม่ไหว อาจเพราะใจสั่นกับความคิดฟุ้งซ่านของตัวเอง รวมถึงฤทธิ์ของเหล่ากลั่นที่กินไปจอกใหญ่ ทำให้เธอเริ่มรู้สึกมึนๆ
“ตายละ ทำไมเนื้อตัวเอ็งแดงก่ำเช่นนี้ รึว่าของเข้ามึงอย่างที่ชาวบ้านเขาว่ากัน”
สร้อยอุทานเสียงดังลั่นเมื่อเห็น รอยจ้ำแดงขึ้นตามตัวของเธอ แต่จีรยาตระหนักได้ว่านี่คืออาการแพ้แอลกอฮอลล์อย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเธอเป็นปกติ
เหล้ากลั่นต้มของพ่อครูแรงมาก กินไปแค่จอกเดียว ใจเธอก็สั่น แถมมีผื่นแดงขึ้นเต็มตัว และเวียนหัวจนอยากจะอาเจียนเสียให้ได
“ชะ..ชั้นไม่ไหว”
ร่างบางเซถลาล้ม เมื่อรู้สึกเหมือนรอบข้างจะเริ่มหมุนคว้างจนยืนไม่ไหว
โครม!!
“พะ..พี่กล้าๆๆๆ ช่วยด้วย อีจำปาเป็นอะไรก็ไม่รู้”
สร้อยตะโกนร้องเสียงดังลั่น จน ไอ้กล้าวิ่งมาจากเรือนอย่างเร็ว ก่อนจะปรี่ประคองร่างของเธอที่เริ่มจะตาปรือไม่ได้สติ
“อะ..อ้วก”
เวรกรรม!! อาเจียนจนได้ อุตส่าห์กลั้นไว้ตั้งนาน
“มันโดนของจริงๆ อ้วกออกมาแบบนี้แสดงว่าของกำลังจะออกแล้ว ต้องให้พ่อครูทำพิธ๊ต่อ มึงมัดมันไว้ก่อนเดี๋ยวกูจะวิ่งไปตามพ่อครูที่เรือน”
กล้าบอกเมียเสร็จ ก็รีบวิ่งลงจากเรือนเพื่อไปตามพ่อครู และสร้อยก็รีบเอาผ้ามามัดมือเท้าของเธอไว้ ด้วยเกรงว่าของจะขึ้นอีกรอบ
“มะ ไม่ต้องมัดฉันหรอกจ้ะสร้อย ฉันไม่เป็นไรแค่แพ้เหล้าต้มและเมาเลยอ้วกออกมา”
เธอปรือตาบอกสร้อยเมื่ออีกฝ่ายมัดมือเท้าเธอไว้แน่น
แค่เมาเหล้า และแพ้แอลกอฮอลล์ทำอย่างกับเป็นนักโทษ ยืนยังจะไม่มีแรงจะให้ไปอาละวาดทำร้ายใครได้
“มึงนิ่งไว้จำปา ตอนนี้ของในตัวมึงมันกำลังร้อนรน ให้พ่อครูมาดูก่อน” สร้อย ถอยออกห่างไปยืนอยู่ตรงระเบียง เมื่อมัดมือเท้าของเธอเรียบร้อยแล้ว
“ปะ..ปล่อยฉัน!”
ความร้อนรุ่มจากฤทธิ์เหล้าในร่างกายและความอึดอัดจากการโดนมัดทำให้ จีรยา ตวาดเสียงดังลั่น นั่นทำให้สร้อยสะดุ้งโหยง
“อีจำปา มันเป็นอะไรรึ?”
เสียงทุ้มต่ำดังอยู่ไม่ไกล ก่อนที่ร่างหนาจะก้าวขึ้นบันใดมา โดยมี กล้า เดินตามตามมาห่างๆ
“จำปามันอ้วก และตัวมันเป็นรอยแดงตาก็แดงก่ำน่ากลัว ฉันเลยจับมันมัดไว้แล้วจ้ะพ่อครู” สร้อยบอกเสียงสั่น ถอยร่างกรูออกจนชิดกับร่างของไอ้กล้าที่ก้าวขึ้นเรือนมา
“มึงไปน้ำมนต์เสกห้องเล็กที่เรือนกูมา”
ไกรศร หันไปบอกทั้งสอง ก่อนจะย่อตัวลงนั่งข้างร่างบางที่สั่นระริก มือหนากดประทับยังหน้าผากโหนก
คิ้วหนาของเขาย่นเข้าหากัน
ยิ่งสัมผัสและใกล้ชิดเท่าใด อาคมของเขาก็ไม่สัมผัสกับดวงจิตภายในของผู้หญิงคนนี้ได้เลย
ไม่แน่ใจว่ามันเป็นดวงวิญญาณหรือผีประเภทใดกัน
“แก้ผ้าที่มัดมือให้ฉันหน่อยจ้ะพ่อครู ฉันไม่ชอบโดนมัดมันอึดอัดและแพนนิคฉันจะกำเริบ”
จีรยา เอ่ยขอร้องเสียงออดอ้อน เพราะทุกครั้งที่เธออยู่ในที่คับแคบและโดนบังคับมัดมือแบบนี้ อาการของเธอจะแย่ทุกครั้ง จึงส่งสายตาหวานให้
และนั่นทำให้หน้าหล่อเหลาดูประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม
“มึงเป็นใครกันรึ?”
ไกรศร เอ่ยถามเสียงเข้ม
*****************