ตอนที่ 3
เป็นสาวรับใช้
....อะไรจะแข็งและใหญ่ขนาดนั้น
“อะ...เอ่อพ่อครูจ้ะ จะให้ฉันอยู่ที่เรือนนี้เหรอ?”
จำปา ยิ้มหวานมือนิ่มยกขึ้นดันอกแกร่งให้ละออกห่าง เมื่อหน้าหล่อเหลาคมเข้มนั้นโน้มลงมาใกล้ซุกไซ้ซอกขาวผ่องของเธอ ตอนนี้เหมือนหญิงสาวจะตระหนักได้ว่ารูปร่างและลักษณะของสาวจำปาวัยเกือบยี่สิบปีนี้ละม้ายคล้ายกับตัวเองยิ่งนัก
แค่ร่างนี้ดูอ่อนวัยกว่าเล็กน้อยเท่านั้น
“เรือนนี้กูนอนคนเดียว กูไม่อนุญาตให้ใครมานอนอ้างค้างแรมด้วยเพราะกูต้องทำญานสมาธิและเลี้ยงผีไว้หลายตัว” ไกรศรตอบเสียงเข้ม แต่ใบหน้ายังซุกยังปรางแก้มเนียนและขบเม้มติ่งหูเธอเบาๆ
“อ๊ะพ่อครูจ้ะ อื้อ...แล้วจะให้ฉันพักที่ไหนเหรอจ้ะ” ความเสียวซ่านเริ่มแผ่สยิวไปทั่วร่าง เธอแสร้งเขินอายและผลักหน้าของเขาออกจากตัว แต่มือหนายังคงกดรั้งเอวคอดไว้แน่น
“นอนเรือนเล็ก ถ้าอยากจะนอนเรือนใหญ่กับกูมึงต้องมาเป็นเมียกูก่อน” พ่อครูเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ
กลิ่นกายสาวจากเรือนร่างนุ่มนิ่มบนตัก ทำให้นัยน์ตาดุเข้มนั้นดูปรือเชื่อม แต่ก็ยังแฝงความลึกลับอยู่ในที
แต่เธอในร่างของ จำปา ชะงักเล็กน้อย
“มะ ..ไม่เป็นไรจ้ะพ่อครู ฉันนอนเรือนเล็กก็ได้ จะให้ฉันเป็นคนรับใช้ในเรือนไม่ใช่เหรอจ้ะ”
บ้าบออะไรละ! แค่จะขออาศัยที่ซุกหัวนอนด้วย เพราะกลัวผี ก็ต้องให้เป็นเมียเลยเหรอเนี่ย
ไม่พักเรือนใหญ่นี้ก็ได้ ดูท่าแล้วผีสางนางไม้คงจะมากองรวมกันที่นี่แล้วกระมัง เพราะเห็นใครๆก็บอกว่า เรือนใหญ่ของพ่อครูไกรศรหลังนี้เป็นที่เลี้ยงผีฝูงใหญ่
แค่คิดก็ขนหัวลุก จนเธออยากจะเดินหนีเสียให้ได้
ร่างเล็กขยับห่างออก นั่นทำให้ใบหน้าคมคร้ามของไกรศร บึ้งตึ้งขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดึงรั้งเธอกลับมาบนตักดังเดิม เมื่อเห็น เจ้ากล้า ลูกน้องในเรือนเดินมาใกล้พร้อมกับ อีสร้อย เมียของมัน
“เรือนเล็กด้านหลังเรียบร้อยแล้วครับพ่อครู จะให้ฉันพาอีจำปาไปเลยมั้ยขอรับ”
จีรยาพอจะทราบว่า พ่อครูไกรศรเป็นผู้มีอิทธิพลในอำเภอเล็กแห่งนี้ ด้วยมีที่ดินและที่นาหลายพันไร่ที่ให้ชาวบ้านเช่า และมีโรงสีกับโรงเรือนไว้เก็บผลผลิตเพื่อส่งให้พ่อค้าคนกลางในตัวจังหวัดสุรินทร์
คนในพื้นที่จึงค่อนข้างให้ความเคารพและยำเกรงพอควร
ตามเนื้อเรื่องนั้น ไกรศร มีเชื้อสายกูยผสมจีนและเขมร พ่อของเขาเป็นเขมรที่มาแต่งงานกับแม่เป็นจีนกูย มาตั้งรกรากค้าขายและจับจองที่ดินด้วยการบุกถางจนได้โฉนดหลายพันไร่ รวมทั้งค้าขายพืชผลการเกษตร
แต่หลังคลอดเขาไม่นาน พ่อของเขาก็เสียชีวิตโดยสาเหตุใดนั้นไม่มีคนทราบแน่ชัด ตามเนื้อเรื่องนิยายคือโดนของใส่
หลังจากนั้นแม่ของเขาก็ตรอมใจ เก็บตัวเองอยู่แต่ในห้อง จนล้มป่วยและเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน ทิ้งลูกชายคนเดียวพร้อมทรัพย์สินและที่ดินไว้ให้ รวมถึงตำราไสยเวทย์ต่างๆที่พ่อของเขาได้เก็บไว้มาช้านานหลายรุ่น
ไกรศร ดูจะใส่ใจสิ่งนั้นเป็นพิเศษและศึกษาสารพัดตำราจนแกร่งกล้าจนได้ขนานนามเป็นพ่อครู เพราะแม้ตำรานั้นจะมีทั้งสายดำและสายขาว แต่เขาเหมือนจะวางทั้งสองเป็นเส้นคู่ขนานที่ทำไปพร้อมกัน
บางครั้ง พ่อครูก็รับงานที่ทำร้ายคนอื่น เช่นเสกหนังควายเข้าท้องของข้าราชการที่คดโกงประชาชน แต่บางทีก็ช่วยเหลือชาวบ้านที่โดนของ โดนผีเข้าโดยไม่คิดเงินและค่าใช้จ่ายใดๆ
จึงไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเขาเป็นสายดำ หรือขาวกันแน่
แต่ที่แน่ๆ ทั้งสองสายที่กล่าวมาล้วนเกี่ยวข้องกับสิ่งลึกลับที่มองไม่เห็นทั้งนั้น
และนั่นเป็นสิ่งที่ จีรยา ไม่ชอบเอาเสียเลย
....ขอย้ำอีกครั้ง นี่คือนิยายรักโรแมนติกกึ่งอีโรติค
ดังนั้นจีรยา จึงไม่อยากจะใส่รายละเอียดลงไปมากนัก ด้วยเกรงว่าจะเป็นการลงงานผิดหมวด
“จะนั่งตรงนี้อีกนานมั้ย รึเปลี่ยนใจอยากจะเป็นเมียกู”
เสียงดุทุ้มเข้มนั้น ดึงสติของจีรยา จากภวังค์ เธอหันไปมองหน้าหล่อเหลาของตัวละครที่รังสรรค์ขึ้นก่อนจะอมยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ
อยากจะกรี๊ดดังๆยิ่งนัก ว่าตัวเองสามารถเสกสรรค์ปั้นแต่ง พ่อครูไกรศร ให้ออกมาดุเข้มและน่าเกรงขามด้วยเพียงนี้
“ยิ้มอะไรรึ? รึว่ามึงอยากจริงๆ”
ร่างหนาเดินมาชิดใกล้อีกครั้ง กลิ่นใบยาสูบผสมกับกลิ่นเหล้ากลั่นจากกายหนานั้น ทำให้หน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้น
กลิ่นดิบๆเถื่อนๆของผู้ชาย มันเป็นเช่นนี้เอง
“ปะเปล่าจ้ะ ฉันแค่ดีใจที่คนของพ่อครูได้จัดเตรียมบ้านเล็กไว้ให้ฉันซุกหัวนอน”
เอาน่า อย่างน้อยก็มีที่ให้อยู่ให้กิน หลังจากนี้ก็ค่อยหาทางตามเส้นเรื่องไป เดี๋ยวพระเอกก็น่าจะโผล่มาตอนไหนสักตอนแหละ
แต่สาธุ!!! อย่าให้ผีโผล่มาก่อนละกัน
“มึงพาจำปามันเอาข้าวของไปที่เรือนเล็กก่อนละกัน แล้วช่วยบอกมันด้วย ว่าทุกวันมันมีหน้าที่อะไรบ้างในสวนและในเรือน”
ไกรศร หันไปบอกไอ้กล้า ส่วนสร้อยเอื้อมไปหยิบถุงผ้าสองใบหย่อมๆที่ลุงสอน โยนไว้ข้างแคร่ขึ้นมา และเตรียมพาเธอเดินไปยังเรือนด้านหลัง
“ได้จ้ะพ่อครู”
จีรยาเดินตาม สร้อยไปด้านหลังสวนยังเรือนเล็กที่อยู่ไม่ห่างจากเรือนของสองผัวเมียคู่นี้มากนัก นั่นทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อย
เอาน่าอย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนอยู่ใกล้ๆ
“พ่อครูค่อนข้างจะชอบความสงบ ไม่ค่อยให้ใครไปวุ่นวายบนเรือนใหญ่จ้ะถ้าไม่จำเป็น ฉันจะเป็นคนเตรียมอาหารและทำความสะอาดเรือนด้านล่าง ส่วนสำรับพี่กล้าจะยกให้บนเรือน และทำความสะอาดด้านบน”
สร้อย อธิบายหน้าที่ของตัวเองให้เธอฟัง
เอ!! ก็ดีแล้วนี่ อย่างนี้ จำปา ก็ไม่เห็นจะต้องรับใช้อะไรเยอะแยะ เพราะแค่สองคนนี่ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
อยู่คนเดียว จะมีคนดูแลรับใช้อะไรเยอะแยะ
“จ้ะ แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง?” กระนั้นเธอก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ เพราะอย่างไรเสียเธอก็คงจะอยู่ที่นี่ไปอีกพอสมควร
“ตอนนี้ช่วยฉันเตรียมทำสำรับก่อน จำปาจัดของในเรือนเสร็จแล้วค่อยออกมาช่วยฉันที่ครัวนะ”
“แล้วพ่อครูเขาไม่มีเมียเหรอจ้ะ” เธอถามด้วยความสงสัย ด้วยในนิยายนั้นเธอไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในส่วนนี้ของ พ่อครูไกรศรไว้เลย
“เคยมีจ้ะ” สร้อยหันกลับมาตอบเบาๆ