สุดสวาทเมียเสือ

EP.6 สรีระร่างกายที่น่าสงสัย

หนึ่งเดือนผ่านไป

ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แต่ก็เริ่มทำความสนิทสนมกับผู้คนที่นี่ได้อย่างดี เพียงแต่ต้องคอยหลบสายตาของคุณหมอไทเกอร์ ที่จ้องมองเธออย่างดุดันเหมือนกับโกรธแค้นแต่ชาติปางก่อน ถึงอย่างนั้น เธอก็พยายามใกล้ชิดเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม แต่คุณหมอติดงานยุ่งมากในช่วงนี้

คลับคาบาเรต์ฟลาวเวอร์โชว์

อย่างที่บอกว่านอกจากเป็นโรงละครแสดงโชว์ ก็ยังมีคลับเอาไว้ให้กลุ่มหลากหลายทางเพศมาใช้บริการดื่มเที่ยวสนุกสนานกับดีเจชื่อดัง ที่สลับเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ความบันเทิง

อึก อึก

จินนี่เดินมาสำรวจที่นี่ ถึงแม้จะไม่ชอบเสียงดัง แต่ก็ต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสถานที่ ขณะที่ยกดื่มน้ำส้มมีชายคนหนึ่งตรงเข้ามา

"น่ารักจังเลย ชื่ออะไรเหรอครับ" แต่งตัวดูไม่ใช่คนเที่ยว มีป้ายห้อยเป็นการ์ดของคลับ

"จินนี่ค่ะ"

"ชมพูสมชื่อไหมครับเนี่ย ให้พี่เลี้ยงเหล้าสักแก้วได้ไหม ถือว่าเป็นการทำความรู้จักไง"

"ไม่ดีกว่าค่ะ หนูไม่ชอบดื่มแอลกอฮอล์"

"โห ตรงสเปกเลยนะเนี่ย สวยใสไร้เดียงสา"

ไม่ใช่แค่คำชม มือของเขายังจับปลายผม ตัวเล็กรีบผละถอยเพื่อหลีกเลี่ยง ถึงแม้จะเป็นการ์ดแต่หน้าตาดีใช้ได้

"หยุดเลยไอ้โต๋ นี่เด็กใหม่" ปรากฏว่าแจนเดินเข้ามาแทรกกลาง "เพิ่งมาทำงานได้ไม่นาน"

"แปลว่าสดๆ ซิงๆ เลยสินะ"

"หุบปากไปเลยไอ้กะล่อน"

"โหเจ๊ ผมก็แค่แซวตามประสา คนสวยใครก็อยากคุยด้วยเป็นธรรมดา"

แจนรีบดึงแขนของจินนี่พากลับที่พัก

ตึกกลาง

"อย่าไปหลงคารมมันเชียวนะ" แจนพูด

"เขานิสัยไม่ดีเหรอคะ"

"ไอ้โต๋มันโคตรแม่งเหี้ย สันดานแมงดา เพราะมันนี่แหละที่ทำให้นีน่าเกือบหมดอนาคต"

"เกี่ยวอะไรกับพี่นีน่าคะ?!"

"ก็มันเป็นแฟนเก่าของนีน่า ไม่รู้ไปเจอกันได้ยังไง คบกันสักพัก..นีน่าก็ต้องคอยเอาเงินให้มันไปเล่นพนัน บางทีก็โดนตบตีจนเสียการเสียงาน ดีที่เลิกกับมันได้ เพราะคุณตรีชฎามาช่วยเอาไว้"

พี่ชายไม่เคยเล่าเรื่องนี้ในจดหมาย ทำให้จินนี่เริ่มรู้สึกสงสารพี่ตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม แต่เท่าที่เพื่อนสนิทอย่างแจนเล่า ดูเหมือนแฟนเก่าอย่างโต๋จะไม่ยอมเลิกรา มักไปดักเจอหรือทำร้ายนีน่าบ่อยครั้ง

จะเป็นไปได้ไหม..ว่าแฟนเก่าจะไม่ยอมจบความสัมพันธ์ เลยอาจพลาดพลั้งทำร้ายนีน่าจนตาย เนื่องด้วยนิสัยชอบความรุนแรงก็เป็นไปได้

วันเสาร์

ตึกใหญ่

ห้องทำงานของคุณหมออยู่ด้านหลังของตึก ชั้นบนก็เป็นห้องพักอาศัยของเขาเช่นกัน ซึ่งจะสลับอยู่กับในสวนต้องห้าม

"คุณหมอไม่ว่าง" เมขลาเลขาสาวหน้าห้องตอบกลับจินนี่ที่มาหา

"แต่หนูมีเรื่องจะคุยกับคุณหมอนะคะ"

"พูดไม่รู้เรื่องหรือไง! บอกว่าเข้าไม่ได้"

"หนูเข้าไปแค่แป๊บเดียว"

"เอ๊ะ!"

แกร๊ก

เสียงประตูเปิดออก ปรากฏว่าเป็นหมอไทเกอร์ เขากระติกนิ้วเชิงเรียกให้จินนี่เข้ามาได้ ทำให้เลขาอย่างเมขลาไม่พอใจ

"แค่อยากจะมาขอบคุณที่ช่วยค่ะ" จินนี่ยกมือไหว้ "แต่ตอนนั้นหนูไม่ได้เมา คง..จะโดนอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่มั่นใจ"

"ช่างมันเถอะ ฉันไม่ใส่ใจเรื่องอะไรไร้สาระ มีธุระแค่นี้ใช่ไหม ฉันจะได้พักผ่อน"

"หนูมีคำถามบางอย่างด้วยค่ะ คุณหมอเกลียดกะเทยถึงขั้นอยากจะฆ่าให้ตายไหมคะ?"

เรียกได้ว่าโยนหินถามทาง หมอไทเกอร์ที่นั่งอยู่โต๊ะบริหารวางปากกาลง จ้องมองใบหน้า ก่อนแสยะยิ้มร้ายพูดตอบกลับ "ถ้าตายได้ก็ดี"

"แปลว่าคุณหมอก็อาจจะฆ่าใครสักคนได้ เพราะความโกรธแค้นใช่ไหมคะ"

"เธอคิดว่าฉันเป็นคนเลวขนาดนั้นหรือไง?"

"ค่ะ"

"แอ่กกกก~แค่กๆ"

เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณหมอยกดื่มกาแฟจนสำลักออกมา เมื่อได้ยินอีกฝ่ายตอบตามตรง

"รู้ตัวไหมว่าน่ารำคาญแค่ไหน!" หมอดุ

ก๊อก ก๊อก

"สวัสดีครับเพื่อน" ไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาต เพราะเป็นคนสนิทมากจึงเข้ามา เพียงแค่เคาะประตูล่วงหน้าเท่านั้น

"กลับมาจากเมืองนอกตั้งแต่เมื่อไหร่"

"เมื่อวาน แล้วนี่ทำอะไรอยู่"

"มาถึงก็เสือกเลยนะไอ้เซฟ"

เซฟเพื่อนตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยของไทเกอร์ ถึงทั้งคู่จะเรียนคนละคณะ แต่ครอบครัวอยู่แวดวงไฮโซเดียวกัน จึงรู้จักสนิทสนมกัน

"กูเอาน้ำหอมมาฝากจากปารีสด้วย" เชฟยิ้ม

"มึงอยากให้กูไปเรียกหมอทางสายตามาผ่าตัดให้ไหม..รู้สึกว่ามันจะเอียงๆ"

"ใจเย็น ฮ่าๆ" เพราะถึงจะพูดกับเพื่อน แต่เซฟดันจ้องมองตัวเล็กที่นั่งอยู่อย่างไม่ลดละ

"สวัสดีครับ" เซฟตัดสินใจทักทาย "พี่ชื่อเซฟนะครับ เป็นเพื่อนกับไอ้หมอ"

"สวัสดีค่ะ ชื่อจินนี่ค่ะ" ยิ้มหวาน

"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคนสวย"

"เช่นกันนะคะ"

ต๊บ!

เสียงหนังสือกระแทกบนโต๊ะดัง ปรากฏว่าคุณหมอไทเกอร์ตั้งใจทำลายบรรยากาศ ก่อนจะสั่งให้สาวน้อยกลับไป เพราะจะพูดคุยส่วนตัวกับเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมาสักพัก

ทันทีที่ประตูปิด เซฟพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

"แม่งโคตรน่ารัก!"

"กูมีเรื่องจะขอคำปรึกษา"

"ว่ามา"

"เป็นไปได้ไหม..ที่สาวประเภทสองศัลยกรรม แล้วเหมือนผู้หญิงมากๆ แบบเหมือนเกินไป"

"มึงหมายถึงส่วนไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า.."

"อวัยวะเพศ"

"ไปแอบดูของสาวประเภทสองคนไหนมา"

"เสือก!"

"ขอให้กูช่วยแท้ๆ แล้วอีกอย่างกูเป็นเจ้าของผับไม่ใช่หมอ ที่จะรู้สรีระร่างกายมนุษย์ แต่มึงอาจจะไม่ชิน..เพราะปกติก็เห็นแต่ของศพ ฮ่าๆ"

ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ หลังจากที่เห็นจินนี่เปลื้องผ้าในวันนั้น ก็ทำให้ความรู้สึกบางอย่างค้างคาภายในใจของหมอไทเกอร์

เวลาพลบค่ำ

แกร๊ก

"หมดเวลางานของเมขลาแล้วนะคะ" เลขาสาวสวยเดินเข้ามา "คุณหมอท่าทางจะเมา"

"อืมมม ฉันดื่มไปเยอะเลย"

"งั้นคุณหมอเซ็นเอกสารนี้ก่อนนะคะ"

เลขาสาววางแฟ้มลงตรงหน้า แต่มือเรียวปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด แววตาเสน่หาจ้องมองผู้ชายสูงหล่อที่ท่าทางเมาหนัก "คุณหมอเซ็นตอนนี้ได้นะคะ แต่ต้องใช้ปากกาแท่งใหญ่ๆ "

หมอหนุ่มรู้ถึงคำเชิญชวน เปิดเก๊ะริมข้างหยิบเชือกออกมา คล้องคอเลขาสาว กระตุกดึงอย่างแรงจนอีกฝ่ายหายใจติดขัด

'อักกกก'

เขารัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนจะหายใจไม่ออก จากนั้นเหวี่ยงร่างบอบบางลงพื้น คว้าหยิบกล่องอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยขึ้นมา

น้ำเสียงเค้นพูดต่ำ "กำลังรู้สึกหงุดหงิดเพราะมีเรื่องกวนใจพอดี งั้นฉันจะปลดปล่อยให้เต็มที่"

เพียะ!

ผวะ!

'กรี๊ดดดด'

เสียงฟาดแซ่กระทบลงบนแผ่นหลัง ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของเลขาสาวสวยดังลั่น แต่แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก..ใครจะคิดว่าเบื้องหน้าหมอหนุ่มสุดเนี้ยบหน้าตาดี เขาจะมีรสนิยมรุนแรง อีกทั้งชอบใช้อุปกรณ์เพิ่มความเจ็บ เพื่อปลดปล่อยอารมณ์ราวกับเป็นสัตว์ดุร้าย