14 เกิดมาเพื่อผิดหวัง

1622 Words
“อึกๆๆ ฮึกๆๆ ฮึกๆๆ” พอกลับเข้ามาถึงห้องของตัวเอง เธอก็ปล่อยสะอื้นจนสุดเสียง คงเป็นเธอสินะที่เกิดมาเพื่อผิดหวัง รักใครชอบใครก็ต้องผิดหวังเสียใจอยู่แบบนี้ “ฮือ ฮือ ฮือ” แค่คิดมันก็ยิ่งน่าเกลียด ถ้ามีคนรู้ว่าเธอเคยมีซัมติงกับว่าที่พี่เขยตัวเอง ทุกคนคงมองว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี “โถ่จูน ฮึก ฮึก” มันมีอะไรที่เลวร้ายไปกว่านี้ไหม เธออยู่บนห้องแบบนั้นไม่อยากลงไปเจอหน้าเขาอีก แค่นี้มันก็รัดแน่นไปหมดแล้ว “เป็นไงบ้างครับหลานชายผมพอใช้ได้ไหม ทางคุณจริญกับคุณสุภาว่าไงครับ ” หลังมื้ออาหารจบลง อินธรก็ไม่ได้อ้อมค้อมอะไร รีบถามพ่อกับแม่ของฝ่ายหญิง ว่าจะเอายังไงกับเรื่องของเด็กๆดี “ทางเราไม่มีปัญหาครับ แล้วแต่ทางนั้นจะเห็นว่าเหมาะสม” ผู้ใหญ่สองฝ่ายไม่ได้ถามความคิดเห็นของคนที่จะแต่งเลย แบบนี้มัดมือชกชัดๆ “ เอาไงอนันต์เราหาฤกษ์มาหมั้นเช้าแต่งเย็นเลยดีไหม ” ปู่อินธรถามลูกชายเหมือนใจร้อน “ แล้วแต่คุณพ่อเห็นสมควรเลยครับ แต่ยังไงก็ต้องมีเวลาตระเตรียมงานหน่อย เพราะงานแต่งของเด็กๆ จะต้องบอกแขกทั่วทั้งจังหวัด ก็ต้องจัดใหญ่โตพอสมควรแหละครับ” นั่นไงธุรกิจที่เอางานแต่งมาบังหน้า เบื้องหลังคือการเปิดทางธุรกิจทั้งนั้น “ คุณปู่ครับคุณพ่อครับ อย่าพึ่งใจร้อนกันขนาดนั้นเลย ผมขอเวลาศึกษาดูใจกับเธอสักหน่อย ให้เราได้ทำความรู้จักกันกว่านี้อีกนิดนะครับ” ลีโอรีบพูดสวนขึ้น จะให้ผู้ใหญ่เร่งรัดหาวันแต่ง เขาไม่ยอมหรอก “ทำไมละลีโอไม่ชอบลูกสาวพ่อเหรอ” จริญถามลีโอด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ “เอ่อ เปล่าหรอกครับผมขอเวลาศึกษาดูใจกันซักหน่อย ให้มีสตอรี่ร่วมกันบ้าง คนจะได้ไม่มองว่าพวกเราแต่งงานเพราะธุรกิจ แบบนี้ก็ถือเป็นการให้เกียรติแจนด้วย ” เขารีบชักแม่น้ำทั้งห้ามาอ้าง “อะอ้อ แบบนี้เองหรอกเหรอ ว่าไงล่ะยัยแจนอยากศึกษาดูใจกับพ่อลีโอดูก่อนมั้ย” จริญหันกลับไปถามลูกสาว “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ” แจนตอบอย่างเขินอายแอบมองหน้าหล่อเป็นระยะ ดีใจที่ลีโออยากศึกษาดูใจกับตัวเอง เท่ากับว่าลีโออาจจะพอใจในตัวเธออยู่บ้าง “งั้นเราจะให้เวลาเด็กๆได้ทำความรู้จักกันซักระยะ แต่คงปล่อยให้นานไม่ได้แค่3เดือนพอ แล้วหลังจาก3เดือนเราจะเริ่มหาฤกษ์งานแต่ง และแจกการ์ดกับคนใหญ่คนโตทั้งจังหวัดเลย แบบนี้คุณจริญเห็นด้วยรึเปล่า” อินธรพูดอย่างขอความเห็น “ตกลงตามนั้นก็ได้ครับ ” ต่างฝ่ายก็ต่างเห็นพ้องต้องกัน “แจนพาลีโอไปเดินชมไร่ของเราสิลูก ” สุภาบอกลูกสาวที่เอาแต่นั่งเงียบเขินอาย “ค่ะคุณแม่” แจนรับคำอย่างว่าง่ายแล้วลุกขึ้นยืน “ไปเดินเล่นกับหนูแจนสิลีโอ ” ชุติมาบอกลูกชายเบาๆ ลีโอลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามแจนออกไปดูไร่ ไม่ใช่ว่าเขาอยากออกมาศึกษาดูใจกับเธอหรอก แต่เขาไม่อยากนั่งอยู่ในวงสนทนานั่นต่างหาก “นายอยากดูไร่สตอเบอรี่หรือว่าอยากไปดูไร่ส้มก่อน” พอเดินมาได้ซักพักแจนก็ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี ถามผู้มาเยือนอย่างเอาใจ “ได้หมด” ลีโอตอบย่างไม่ใส่ใจ สายตากวาดมองรอบๆเพื่อหายัยตัวแสบ เขายังมีอะไรที่ยังไม่ได้สะสางกับเธออีกเยอะ “งั้นเดี๋ยวเราไปดูสวนสตอเบอรี่ก่อน ” แจนระบายยิ้มบางๆแล้วเดินนำลีโอไป @จูน “สวัสดีค่ะคุณจูน ปิดเทอมแล้วเหรอคะ” “ค่ะป้า” หลังจากที่สงบสติทำใจอยู่พักใหญ่ๆ จูนก็ออกมาเดินเล่นในไร่สตอเบอรี่ให้สบายใจ เก็บสตอเบอรี่สดๆจากไร่มากิน “อ้าวยัยจูนนึกว่าหายไปไหน” ในตอนที่กำลังก้มๆเงยๆเก็บสตอเบอรี่อยู่นั้น เสียงแจนก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง จนเธอต้องรีบหันกลับไปมอง ก่อนจะเห็นลีโอกับแจนเดินมาด้วยกัน แค่นี้ใจดวงน้อยก็กระตุกวูบแล้ว พูดได้มั้ยว่าเจ็บจัง “ พอดีจูนไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนั้นเลยค่ะพี่แจน ก็เลยไม่อยากอยู่เพราะมีแต่ผู้ใหญ่ แล้วพี่แจนจะไปไหนคะพาพี่ลีโอเดินชมสวนหรอ เป็นไงพี่ลีโอพี่สาวจูนสวยถูกใจรึเปล่า” จูนถามอย่างเป็นปกติที่สุด ลอบสบตากับลีโอนิดหน่อย แล้วหันมายิ้มให้พี่สาวบางๆ แต่ภายในใจมันแหลกเหลวไปหมด คิดไม่ถึงว่าต้องมาถามคำนี้กับพี่ลีโอด้วยซ้ำ “จูนอ่าถามอะไรแบบนั้นพี่อายเป็นนะ” เป็นแจนที่ต่อว่าเธออย่างไม่ตริงจังนัก และยังมองหน้าหล่อของลีโออย่างเขินอาย “จูนแค่แซวค่ะ พี่แจนจะพาพี่ลีโอชมสวนสตอเบอรี่ก่อนเหรอคะ” จูนเปลี่ยนเรื่อง “ใช่จ๊ะ!! เราไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกันมีคนรู้จักไปด้วย พวกเราจะได้ไม่อึดอัด” ไม่อึดอะไรละ ยิ่งเธอไปด้วยนั่นแหละจะอึดอัดเปล่าๆ “มันจะดีเหรอคะพี่แจน จูนกลัวจะไปเป็นกขค.พี่แจนกับพี่ลีโอเปล่าๆนะคะ” จุกอีกแล้ว น้ำตาจะไหลแล้วเนี่ย “ดีสิเรายังไม่สนิทกัน เธอก็ไปกับเราด้วยสิ” ลีโอที่ยืนเงียบอยู่นานพูดขึ้น จูนมองหน้าพี่ลีโอเพียงเสี้ยว เขาจะแกล้งอะไรเธออีกแค่นี้ใจด้วงน้อยๆของเธอก็เจ็บจะแย่แล้วนะ “นะยัยจูนนะไปเป็นเพื่อนพี่หน่อย พี่เขินเขาอะทำอะไรไม่ถูกเลย ลีโอตรงไทป์พี่มาก” ประโยคแรกพี่แจนพูดปกติ แต่ประโยคหลังแจนโน้มหน้าเข้ามากระซิบที่หูของเธอ จูนทำหน้าลำบากใจจะให้เธอไปดูเขาสองคนจีบกันรึไง “ไปก็ได้ค่ะ” เธอรับปากอย่างจำใจ รีบเดินนำหน้าสองคนไปก่อน “นายลองชิมสตอเบอรี่ที่ไร่ของเราสิ หวานมากเลยนะ” แจนเก็บสตอเบอรี่สดๆจากไร่ ส่งให้ลีโอชิมอย่างเอาใจ ลีโอก็ไม่ได้ขัดรับสตอเบอรี่จากมือแจน แล้วส่งมันเข้าปาก “เป็นไงอร่อยมั้ย” จูนได้แต่ฟังบทสนทนาของพี่สาวตัวเอง กับผู้ชายที่เธอแอบชอบคุยกัน ต่อให้ไม่ได้หันกลับไปดูแต่ก็ได้ยินทุกอย่าง เจ็บวนไปเถอะจูนเอ้ย “พี่แจนคะเดี๋ยวเราแวะพักที่คาเฟ่กันก่อนดีกว่าค่ะ ” พอมาถึงคาเฟ่ในไร่ จูนก็ชวนพี่สาวแวะทานของชอบ “ได้สิ เดี๋ยวแวะดื่มอะไรหน่อยนะ” แจนหันไปบอกลีโอพร้อมยิ้มน้อยๆอย่างเหนียมอาย ลีโอไม่ได้พูดอะไร สองมือล้วงกระเป๋าแล้วเดินตามจูนกับแจนเข้าไปในคาเฟ่ “เอาสตอเบอรี่ปั่น1แก้วค่ะ พี่แจนเอาอะไรคะ” สั่งของตัวเองเสร็จก็หันมาถามพี่สาว “เอาเหมือนจูนก็ได้จ๊ะ ลีโอนายเอาอะไร” “เอาเหมือนเดิมที่เธอเคยสั่งให้นั่นแหละ” ลีโอบอกจูนไม่มองดูคนที่ถามเลยด้วยซ้ำ “เอากาแฟดำ1แก้วค่ะ” จูนมองหน้าพี่สาว ตอนนี้พี่แจนหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย ก่อนจะถลึงตาใส่ลีโอ เขากำลังทำให้พี่สาวเธอรู้สึกไม่ดี แต่คนอย่างลีโอก็ไม่สนใจหรอก เดินไปนั่งที่มุมร้าน แล้วหยิบมือถือขึ้นมาไถเล่นไปเรื่อย “กาแฟดำกับสตอเบอรี่ปั่นได้แล้วค่ะ ของคุณจูนกับคุณแจนมีเค้กด้วยนะคะ” พนักงานในร้านคาเฟ่นำของที่สั่งมาเสิร์ฟ “หุ้ย!!ไม่ได้กินสตอเบอรี่ปั่น กับเค้กสตอเบอรี่ของไร่เราตั้งนาน ซื้อกินที่ไหนก็ไม่ถูกใจ อื้มหวานหอมชื่นใจมากพี่แจน” พอเห็นของโปรดจูนก็ดีใจจนตาลุกวาว รีบดูดกินสตอเบอรี่ปั่นให้ชุ่มปอด และตักกินเค้กสตอเบอรี่ของไร่อย่างชอบใจ “ลีโอชิมเค้กของไร่เรามั้ย” แจนยื่นเค้กที่ยังไม่ได้กินมาตรงหน้าลีโอ “ฉันไม่ชอบกินของหวาน” พอได้ฟังคำตอบแจนก็ดึงเค้กกลับแทบไม่ทัน แล้วมาตักกินเองแบบเงียบๆ “พี่ลีโอพี่ก็ชิมหน่อยสิ พี่สาวจูนอุตส่าห์อยากให้ลองชิมนะ” จูนเห็นพี่สาวหงอยแล้วหงอยอีกก็อดสงสารไม่ได้ รีบบอกให้ลีโอชิมเค้กที่พี่สาวอยากให้ลองชิมบ้าง “ถ้าอยากให้ชิมก็ป้อนสิ” ลีโอมองหน้าจูนอย่างไม่พอใจ ยัดเยียดดีนัก เลยบอกให้แจนป้อนซะเลยจะได้สมใจเธอ มือเล็กของพี่แจนตักเค้กคำพอดีทาน แล้วจ่อมาที่ปากของลีโออย่างเขินอาย สองแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อลามไปยันหู ลีโออ้าปากงับเค้กที่แจนป้อนในทันที เพี่ยงแค่อยากประชดใครบางคนก็แค่นั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD