“คุณแจนคุณจูนเชิญที่โต๊ะอาหารเลยค่ะ”
พอลงมาถึงข้างล่าง มะลิก็ยืนรออยู่แล้ว
“อ้าว ทำไมมีแค่คุณแม่กับน้องลีอาห์หละคะ คนอื่นๆหายไปไหนกันหมด”
พอเดินมาที่โต๊ะอาหาร แจนก็รีบถามถึงคนอื่นๆ บ้านก็หลังใหญ่โต บนโต๊ะอาหารทำไมมีแค่2คน
“มานั่งทานข้าวกันเถอะจ๊ะ คุณปู่กับคุณพ่อของลีโออยู่ที่เหมือง ส่วนลีโอกับมาร์ตินยังดื่มอยู่ที่เดิมจ๊ะ เดี๋ยวหนูแจนกับหนูจูนทานข้าวก่อนนะ แล้วค่อยไปหาลีโอ ”
ชุติมาพูดอย่างใจดี ถึงว่าละพี่รหัสของเธอถึงเอาแต่ใจ เพราะแบบนี้นี่เองลูกชายดื่มตั้งแต่หัววัน ไม่ยอมมากินข้าวกินปลาก็ไม่ว่าอะไร
“แบบนี้แหละค่ะ หนูกับคุณแม่ชินแล้ว”
ลีอาห์พูดเสริม หลังทานมื้อเย็นเสร็จ แจนก็ชวนไปหาลีโอที่สระว่ายน้ำ
“พี่แจนคะจูนไม่ไปได้มั้ยจูนง่วงแล้ว”
ป่านนี้ลีโอคงจะเมา ไปเจอหน้ากันเดี๋ยวพูดนู่นพูดนี่ให้เป็นที่สงสัยเปล่าๆ
“ไปเถอะ นั่งเป็นเพื่อนพี่แป๊บเดียว หลังจากนั้นจะขึ้นไปนอนก็ตามใจ”
แจนยังคงเร้าหรือไม่เลิก
“งั้นจูนนั่งแป๊บเดียวนะคะ”
“ได้สิ ไปเร็วๆ”
แจนดันหลังน้องสาวให้เดินไปตามทิศทางที่ต้องการเบาๆ จนมาถึงสระว่ายน้ำก็ยังเห็นสองหนุ่มนั่งอยู่ที่เดิม แต่คงเริ่มเมากันแล้วหละ เพราะแต่ละคนก็ตาเยิ้มกันหมด
“ทำไมดื่มกันเก่งนักละลีโอ เล่นไม่กินข้าวกินปลาแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก”
แจนเดินไปนั่งข้างลีโอเหมือนเดิม แต่แนบชิดกว่าเดิมนิดหน่อย
“พอดีเลยครับสองสาว พวกเรากำลังดวลกัน ใครแพ้ต้องวิ่งรอบสระน้ำครับ น้องจูนอยู่ฝั่งพี่ครับ”
มาร์ตินจับแขนเล็กให้นั่งลง
“งั้นแจนช่วยลีโอนะ”
แจนยิ้มกว้างพูดกับลีโออย่างน่าเอ็นดู
“ได้สิ”
เขาตอบแจนแต่มองหน้าจูน สายตานั้นมันนิ่งสงบจนน่ากลัว
“เริ่มเลยดีกว่าค่ะพี่มาร์ติน”
อยากจบเกมจะได้ไปนอนซักที
“ให้น้องจูนกับแจนดื่มไวน์ในขวดให้หมด ใครแพ้ต้องวิ่งรอบสระ เดี๋ยวถ้าทีมเราแพ้พี่วิ่งเอง”
มาร์ตินรีบบอกกติกา และส่งไวน์ขวดใหญ่ให้จูนกับแจนคนละขวด
“ลีโอถ้าแจนแพ้/เดี๋ยววิ่งเอง”
ลีโอตอบแค่นั้นแต่แจนกลับยิ้มแก้มปริ
“ถ้าพร้อมแล้ว..เริ่ม”
สิ้นคำว่าเริ่ม สองสาวก็กระดกขวดไวน์แข่งกัน
อึก อึก
อึก อึก
ตอนนี้ทั้งสองคนไม่มีใครยอมใคร กระดกขวดน้ำเมาอย่างเอาเป็นเอาตาย
“อาส์พี่มาติน”
จูนถึงกับพะอืดพะอม แต่แจนกลับกระดกรัวๆไม่มีขาดตอน เธอไม่เคยรู้เลยว่าพี่สาวดื่มเก่งขนาดนี้ เพราะอยู่บ้านแทบไม่ดื่มเลย
“สู้ๆครับน้องจูน ”
มาร์ตินเชียร์ทีมตัวเองยกใหญ่ จูนจับขวดไวน์ขึ้นกรอกปากอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็แพ้แจนอยู่ดี ทั้งที่เธอพยายามเต็มที่แล้ว
“เย้!!ลีโอเราชนะแล้ว”
แจนดีใจกอดแขนลีโอแน่น ไม่รู้ว่าลืมตัวหรือตั้งใจกันแน่
อึก อึก
ปึก
“ขอโทษนะคะพี่มาร์ตินจูนแพ้”
ถึงแพ้แล้ว แต่ด้วยสปิริทจูนก็ดื่มจนหมดขวด
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวพี่ไปวิ่งเอง”
มาร์ตินไม่พูดเปล่า ลุกขึ้นแล้ววิ่งรอบสระน้ำ5รอบ ตามที่คุยและตกลงกันไว้นั่นแหละ
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก
มาร์ตินวิ่งกลับมาอย่างเหนื่อยหอบ
“เหนื่อยมั้ยคะ”
จูนถามมาร์ตินอย่างรู้สึกผิด
“แก้มือใหม่ครับ คราวนี้น้องจูนต้องชนะให้ไอ้ลีโอวิ่งบ้าง”
มาร์ตินพูดอย่างไม่ยอม เขาไม่ยอมเหนื่อยคนเดียวแน่
“ถ้ามึงไม่กลัวได้วิ่งอีก ก็เอาดิกูได้หมด”
ลีโอยิ้มมุมปากท้าทายเพื่อนเบาๆ ดูแล้วแจนดื่มเก่งใช่ย่อย
“พี่มาร์ตินไม่ต้องห่วงค่ะ คราวนี้จูนไม่แพ้แน่ ไม่มีใครแพ้ได้ตลอดไปหรอก”
จูนพูดอย่างมั่นใจ
“ถ้าคราวนี่แพ้อีกอย่าโทษพี่นะน้องสาว”
แจนยิ้มเยาะ มั่นใจว่าตัวเองต้องชนะอีกแน่ๆ มาร์ตินส่งไวน์ให้สองสาวอีกคนละขวด
“ถ้าพร้อมแล้ว..เริ่ม”
สองสาวเริ่มกระดกขวดไวน์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้จูนเร่งเต็มที่ อยากให้ฝั่งตัวเองชนะกลับบ้าง จนในที่สุด
“เร็วครับน้องจูน อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว เย้ๆๆๆ”
จูนดื่มหมดก่อน
ปึก
“อาส์ เย้ๆๆๆ เราชนะแล้วพี่มาร์ติน”
จูนหันไปยิ้มกับมาร์ตินอย่างดีใจ
“แจนขอโทษน้า..”
แจนที่ดื่มหมดทีหลังขอโทษลีโอด้วยน้ำเสียงยานคาง
“ไปวิ่งครับเพื่อน ฮึฮึ”
ถึงคราวมาตินเยาะเย้ยกลับบ้างแล้ว ลีโอไม่อิดออด วิ่งรอบสระน้ำห้ารอบตามกติกา
“อาส์ ฟุ้วว”
ลีโอวิ่งจนครบและกลับมาอย่างเหนื่อยหอบเหมือนกัน
“ลีโอ..แจนขอโอกาสอีกครั้งนะ คราวนี้ตัดสินว่าใครแพ้ใครชนะ”
แจนพูดด้วยน้ำเสียงยานคาง ดวงตากลมโตเริ่มฉ่ำปรือ
“จูนไหวป่าว ”
มาร์ตินหันมาถามทีมตัวเองบ้าง
“ไหวค่ะ จูนซะอย่างสู้อยู่แล้ว ”
จูนตอบมาร์ตินอย่างมั่นใจ เชื่อว่าตัวเองไม่พลาดแน่นอน
“งั้นเรามาสู้กันยัยจูน/จัดไปพี่แจน ”
สองสาวเมาได้ที่ ก็ใจกล้าบ้าบิ่นสู้ไม่ยอมถอย
ดวลกันอีกครั้งอย่างไม่มีใครยอมใคร
“เย้!!!เราชนะอีกแล้วพี่มาร์ติน”
“สุดยอดน้องจูน”
จูนกับมาร์ตินดีใจกันใหญ่ ต่างจากแจนที่กำลังหน้าดำหน้าแดง เพราะยังดื่มไม่หมด
“ไปวิ่งรอเลยครับเพื่อน”
แจนยังดื่มไม่หมดด้วยซ้ำ ลีโอวิ่งรอบสระน้ำกลับมาแล้ว
อึก
“อาส์หมดซักทีน้า..”
ตอนนี้แจนเมาแทบนั่งไม่ติด จูนก็เมามากเหมือนกัน
“ลีโอ..โลกหมุนไปหมดแล้ว ไปส่งแจนหน่อยน๊า”
คนเมานั่งโอนเอนไปมา อ้อนให้ลีโอไปส่งบนห้อง
“ไอ้ลีโอมึงก็ไปส่งแจนเขาหน่อย เมาหนักแล้วนั่น”
เมื่อเห็นลีโอยังเฉย มาร์ตินก็ได้แต่บอกให้เพื่อนไปส่ง ลีโอเดินเขาไปหาแจนแบบไม่เต็มใจ
“ลุกเดินไหวมั้ย ”
ลีโอถามแจนเสียงเรียบ
“ม่ายไหว ลีโออุ้มแจนหน่อยได้มั้ย”
ลีโอเดินไปอุ้มแจนขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด แจนก็รีบกอดคอแกร่งของลีโอทันที
“อยู่นี่ก่อนอย่าพึ่งไปไหน ”
ไม่รู้ว่าบอกใคร พูดแค่นั้นแล้วก็เดินอุ้มแจนออกไป จูนมองตามแผ่นหลังจนลับตา อยู่ๆน้ำตาก็ไหล จูนรีบก้มหน้าลงมองเท้า เพราะกลัวว่ามาร์ตินจะเห็น
“น้องจูนไหวมั้ยครับ”
มาร์ตินถามอย่างเป็นห่วง
“อื้ม จูนไปนอนก่อนนะคะ”
บอกมาร์ตินเสร็จก็พยุงตัวเองให้ลุกขึ้น เซนิดหน่อยจนมาตินต้องช่วยประคอง
“ไหวรึเปล่าให้พี่ไปส่งมั้ย”
มาตินย้ำถามอีกครั้งอย่างเป็นห่วง
“ไหว จูนเก่งอยู่แล้วค่ะ”
เธอพยายามเข้มแข็งรีบใช้หลังมือปาดน้ำตาลวกๆ แล้วยกแขนตัวเองออกจากมาร์ติน ก่อนเดินเข้าบ้านไป มือเรียวจับราวบันไดค่อยๆก้าวทีละขั้น เดินขึ้นมาจนถึงหน้าห้องที่แจนพัก ก็พบว่ามันปิดจนสนิท ‘คงอยู่ด้วยกันสินะ’
จูนรีบเดินผ่านหน้าห้องของแจน แล้วเดินขึ้นไปที่ห้องพักตัวเอง
แอ้ด!!
ล็อคประตูอย่างแน่นหนา ทั้งลูกบิดทั้งกลอนประตูอีกชั้น
“ฮึก ฮึก ฮึก ไอ้บ้าไหนบอกไม่อยากแต่งไง ฮือๆๆๆ ”
จูนถึงกลับปล่อยโฮ ปากก็บอกว่าจะทำใจ แต่ใจกลับไม่ทำตาม
“เจ็บไปหมดแล้วเนี่ย ฮือ ฮือ ”
มือเล็กจับไว้ที่หน้าอกข้างซ้าย รู้แค่ว่ามันบียรัดแน่นไปหมด
“ฮือ ฮือ ฮือ”
อยากมูฟออนจากเขา แต่เอาเข้าจริงยังไม่เคยตัดเขาออกจากใจได้ด้วยซ้ำ แค่คิดไปว่าพี่ลีโอกำลังทำอะไรกันกับพี่แจนในห้องนั้น มันก็เจ็บปวดไปหมด
“หยุดร้องสิวะ ฮือ ฮือ จูนคนเดิมหายไปไหนแล้ว
เคยเก่งไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่เข้มแข็งกว่านี้วะ ฮือ ฮือ”
ก่นด่าตัวเองไปและก็ร้องไห้ไปไม่ยอมหยุด
“เจ็บเกินไปแล้วนะจูน ฮือ อือ ”
เธอยังร้องไห้อยู่แบบนั้นนานสองนานอย่างคนแตกสลาย