เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั่วห้อง แข่งกับเสียงครางแผ่วพร่าของทั้งสองร่าง
เมื่อแม่กระต่ายน้อยเริ่มอ่อนแรงจากการควบม้า กวินจึงพลิกร่างเธอลงนอนกับเตียงนุ่ม
เขาจับเรียวขาแยกออกช้า ๆ โดยที่แก่นกายยังคงเชื่อมประสานแน่นหนาไม่คลาย
มือหนาประคองขาเรียวขึ้นพาดบ่ากว้าง ประทับจูบเบา ๆ ลงบนผิวขาขาวเนียนนุ่ม
สะโพกสอบเริ่มขยับเข้าออกอย่างเชื่องช้า แต่ลึกซึ้ง ความแน่นหนาและแรงบดเบียดในจังหวะที่แนบแน่นื ทำให้ณัฐณิชารู้สึกจุกแน่นไปทั้งท้องน้อย
“จะ...จุก...คุณวิน...เบา ๆ หน่อย...”
เสียงหวานเปล่งออกมาพร้อมลมหายใจที่สะดุด เธอเอ่ยชื่อเขาในจังหวะที่ทั้งร่างสั่นไหว ดวงตาหวานปรือจ้องสบตาเขาอย่างเว้าวอน
กวินจ้องตอบ ใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนานั้น ทำให้เขากัดฟันแน่น ฝืนยั้งตัวเองไว้สุดกำลัง แม้สะโพกยังคงขยับไม่หยุด ร่างเล็กตรงหน้ากลับยังมีแรงส่งสายตาหวานเยิ้มกลับมาให้
“จะยั่วกันไปถึงไหน หืม... ที่รัก”
“ณิ...เปล่า...อื้มมม...” เสียงสั่นเครือแทบไม่เป็นคำ ก่อนที่ริมฝีปากบางจะเอ่ยปฏิเสธ ก็ถูกชายหนุ่มจูบปิดปากไว้แนบแน่น
“คุณวินขา...ณิไม่ไหวแล้ว...อือ...อ่าห์...” เสียงอ้อนหวานที่แทบจะขาดใจ ทำให้เขาแย้มยิ้มมุมปากอย่างพึงใจ
กวินจับเอวบางพลิกให้เธอคว่ำลงอย่างแผ่วเบา มือใหญ่ยกสะโพกมนขึ้นจนอยู่ในระดับพอเหมาะ ร่างเล็กจึงอยู่ในท่าคลานเข่าที่แสนเย้ายวน
สวบ!
“อ่าห์…”
เสียงครางหวานสะท้อนก้องเมื่อเขาสอดแทรกลึกจนสุด เธอกัดริมฝีปากแน่นด้วยความรู้สึกที่ประดังประเดเข้ามาพร้อมกัน ทั้งจุกแน่น ทั้งหวาบหวาม
“อ่า...อย่าขมิบรัดแน่นแบบนี้สิ เด็กดีของฉัน...”
เสียงทุ้มเอ่ยพร่าอย่างกลั้นหายใจเมื่อความอบอุ่นภายในร่างเธอแน่นกระชับไม่หยุด ปลายประสาทของเขาเหมือนจะลุกเป็นไฟ มือใหญ่บีบสะโพกกลมกลึงเบาๆ ก่อนจับเอวเล็กให้มั่น แล้วส่งสะโพกหนาเข้าหาเธออย่างรุนแรงราวกับคลื่นซัดฝั่ง
“อื้อ...อ่า...เบาๆ...ณิ...อ๊าาา!”
เสียงหวานครางหลุดอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อแรงอารมณ์พาให้เธอสั่นสะท้านทั้งตัว
“อื้มมม...อ่า...”
เสียงทุ้มต่ำครางแน่นเมื่อเขาปลดปล่อยตัวตนเข้าไปในกายสาวจนเต็มเปี่ยม น้ำรักอุ่นร้อนล้นทะลักออกมาเปื้อนเรียวขาขาวนวล
ชายหนุ่มโน้มตัวลงฟุบบนแผ่นหลังเนียนนุ่ม พร้อมแนบริมฝีปากลงจูบเบาๆ ราวกับมอบรางวัลให้กับหญิงสาวผู้แสนหวานที่นอนหายใจหอบ
“อ่ะ...คุณวิน...”
เสียงหวานแผ่วเบาด้วยความตกใจเมื่อเขาจับเธอพลิกให้นอนหงาย ร่างเล็กหน้าแดงเรื่อเมื่อได้เห็นความแข็งแกร่งของเขายังคงตื่นตัวแม้จะพึ่งปลดปล่อยไปหมาดๆ
“คุณวิน...พอเถอะค่ะ...ณิไม่ไหวแล้ว”
เสียงอ้อนวอนแหบพร่า ดวงตาอ่อนล้าแต่ยังฉายแวววาบจากความปรารถนา เขากลับเพียงยิ้มมุมปาก ราวกับไม่รับฟังคำขอ
“ไม่...ยังไงก็ไม่พอ ฉันต้องการเธออีก”
เสียงทุ้มเอ่ยพร่าอย่างคนติดไฟ ร่างสูงก้มลงประทับจูบที่หน้าท้องแบนราบ แล้วค่อยๆ ขยับสะโพกเข้าแนบชิดกับร่างบาง ก่อนจะสอดกายกลับเข้าไปในความชุ่มฉ่ำนั้นอีกครั้ง
ร่างหนาเริ่มขยับสะโพกเนิบช้า แต่หนักแน่น ทุกจังหวะที่สอดแทรกเต็มไปด้วยแรงปรารถนาไม่สิ้นสุด หน้าอกอวบอิ่มของหญิงสาวสั่นไหวตามแรงกระแทก จนเขาอดใจไม่ไหว โน้มตัวลงขบเม้มปลายยอดอกสีหวานราวกับหิวกระหาย
จ๊วบ...จ๊วบ...
เสียงนั้นดังก้องในความเงียบ
“อ๊ะ...คุณวิน...อย่ากัด...”
เสียงหวานครางเครือ มือเล็กขยุ้มลงบนไหล่กว้างและแผ่นอกแน่นเพื่อระบายอารมณ์ที่พุ่งทะลักจนควบคุมไม่ได้
ยิ่งเธอร้อง เขายิ่งพอใจ รับรู้ว่าร่างกายของเธอเป็นของเขาทั้งหมด ความแน่นกระชับของดอกไม้แสนหวานตอดรัดเขาทุกครั้งที่ขยับเข้าออกจนแทบคลั่ง เขาปล่อยยอดอกสีสดให้เป็นอิสระหลังจากดูดกลืนรสหวานจากเรือนร่างนั้นอย่างสมใจ
“อ่า เด็กดีของฉัน ฉันจะแตกแล้วอ่าสสส”
“อืม.. คุณวินอ่า… อ๊า”
เขาก้มลงไปปิดปากที่ครางลั่นพร่ำเรียกแต่ชื่อของเขา สะโพกหนากระแทกเข้าออกรุนแรงตามห้วงอารมณ์ ลิ้นหนากวาดต้อนลิ้นเล็กที่ขาดน้ำ ชายหนุ่มบดจูบริมฝีปากบางจนพอใจก่อนจะถอนออกมา
จับร่างเล็กของเธอพลิกขึ้นคร่อมร่างของเขา มือหนาจับเอวเล็ก ขยับขึ้นลงตามจังหวะสะโพก ณัฐณิชาวางมือบนแผงอกกำยำเพื่อพยุงร่างตัวเองให้รับแท่งร้อนของเขาที่กระแทกขึ้นลงจากด้านล่าง
“อ๊า... อืม...”
“เด็กดีของฉัน รู้สึกยังไง บอกผัวสิ อ่าส์... ข้างในเธอตอดฉันแรงมากเลยนะ ชี๊ดดด”
ใบหน้าขาวผ่องของเธอแดงซ่านเมื่อได้ยินคำพูดดิบเถื่อนนั้น หญิงสาวเม้มปากแน่น ไม่ตอบกลับ มีเพียงเสียงครางแผ่วเบาตามจังหวะหัวใจที่เต้นแรง
“ตอบมาณิชา... เสียวใช่ไหม ถึงได้รัดเอวผัวแน่นขนาดนี้?” เขากระซิบเสียงทุ้มยั่วยวน
มือหนาลูบไล้สะโพกเล็ก พร้อมกับกระแทกขึ้นลงตามจังหวะเร้าใจ ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่านที่ทวีขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊า... ณิจะ... ไม่ไหวแล้ว คุณวิน ช่วยณิที...” เธอร้องขอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หน้าแดงเถือก สมองพร่ามัวจนเหมือนไร้สติ ห้วงอารมณ์กามที่ปกคลุมจิตใจจนหมดสิ้น ความรู้สึกนุ่มละมุนเหมือนปุยนุ่นพุ่งสูงขึ้นสู่ขอบฟ้า
ทว่า...ทุกอย่างกลับหยุดชะงักเมื่อเขาหยุดเคลื่อนไหว
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของกวินปรากฏขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระสับกระส่ายของเธอ
ณัฐณิชากัดเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาใสเริ่มคลอไปด้วยน้ำตา ความรู้สึกค้างคาในกายทำให้เธอทรมานจนแทบกลั้นใจ
“ขอร้องฉันสิ ที่รัก เรียกผัวคนนี้ให้ชื่นใจหน่อย” เสียงทุ้มต่ำกระซิบยั่วเย้าเหนือใบหู
“คุณวิน...” หญิงสาวเรียกเบา ๆ อย่างว่าง่าย ทว่าเขากลับส่ายหน้า
“ไม่ใช่... ฉันรู้ว่าเธอฉลาด ณิชา” เขากระซิบ ก่อนจะกระเด้งสะโพกขึ้นอย่างช้า ๆ เป็นการย้ำเตือน
“ผะ... ผัวขา ช่วยณิ... ช่วยณิที...” เสียงสั่นเครือเปล่งออกมาอย่างน่าสงสาร
“เธอพูดอะไรนะ? ฟังไม่ถนัดเลยจริง ๆ” เขาแกล้งตีหน้าซื่อ ทั้งที่ภายในใจพลุ่งพล่าน
“ผัวขา... ช่วยณิเถอะนะคะ นะคะที่รัก...” เธอก้มลงกระซิบเบา ๆ ข้างหู เสียงหวานสั่นไหวอย่างออดอ้อน ปลายจูบบางจรดลงบนแก้มสากแผ่วเบา
กวินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ชัด แม่กระต่ายน้อยตัวดีที่ครั้งหนึ่งแค่มองตาก็ทำให้เขาร้อนรุ่ม บัดนี้กลับยั่วเขาจนสติแทบแตกเพียงคำพูดอ้อนหวานประโยคนั้น
ชายหนุ่มฮึกเหิมราวกับม้าศึก เขาจับร่างเล็กพลิกกลับลงกับเตียงนุ่มอีกครั้ง บดจูบริมฝีปากบางด้วยความกระหาย มือหนารั้งสะโพกเธอไว้แน่น ก่อนจะกระแทกสะโพกเข้าใส่ไม่ยั้ง ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ
“อือ... อือ...” เสียงครางอู้อี้ลอดออกมาเพราะปากบางถูกจูบแนบแน่น ลิ้นหนาไล่ต้อนภายในอย่างชำนาญ ราวกับมนต์สะกด
จากที่ตั้งใจว่าจะมีอีกแค่รอบเดียว คืนนั้นกลับกลายเป็นช่วงเวลาอันยาวนาน เขาดูดกลืนทุกพลังจากกายสาวไปจนเกือบรุ่งสาง ก่อนจะปล่อยให้เธอได้พักผ่อนในที่สุด
“อะไรกัน เมื่อวานอาละวาดซะห้องแทบพัง แถมหนีงานไปทั้งวัน...”
เสียงล้อเลียนดังขึ้นจากนิศา เลขาฯ สาวคนสนิทที่ยืนพิงประตูห้องทำงานด้วยท่าทางสบายๆ
“แต่ทำไมวันนี้อารมณ์ดีแต่เช้าเชียว มีอะไรดีๆเกิดขึ้น แล้วไม่บอกศาหรือเปล่า?”
เธอยักคิ้วแซวเพื่อนรักที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนรอยยิ้มอ่อนๆ อย่างที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก โดยเฉพาะหลังจากเมื่อวานเขาทิ้งประชุมสำคัญไปทั้งวัน โทรมาก็คุยไม่รู้เรื่อง แล้วก็วางหายเงียบไปดื้อๆ
“ก็ไม่มีอะไรนิ... วินก็ปกติ”
ชายหนุ่มตอบหน้าตายแบบไม่ยี่หระ ขณะก้มหน้าก้มตาจัดการเอกสารที่ค้างอยู่ เวลานอกงานเขาอาจจะเป็นเพื่อนเล่นสนิทสนม แต่พอถึงเวลางาน เขาก็กลับมาในโหมดท่านประธานโหดได้อย่างน่ากลัว
“เอ๋~ หรือว่าอารมณ์ดีเพราะโดนแมวสาวที่ไหนข่วนมาแน่เลย? ดูซิ แมวน้อยตัวไหนกล้าทิ้งร่องรอยไว้ที่คอของพ่อเสือจอมเย็นชาผู้หวงตัวสุดๆ ได้ล่ะเนี่ย~ อยากเห็นหน้าสักครั้งจัง!”
นิศายื่นหน้าเข้ามาใกล้พลางหัวเราะคิกคักอย่างสะใจ เมื่อเห็นรอยแดงจางๆ บริเวณต้นคอของเจ้านายหนุ่ม
“ใครว่าแมวล่ะ... กระต่ายต่างหาก”
เขาพึมพำเบาๆ พลางยกมือหนาขึ้นแตะต้นคอที่ยังแสบร้อนนิดๆ อย่างอดคิดถึงใบหน้าหวานที่หลับพริ้มอยู่บนเตียงไม่ได้ รอยยิ้มบางแตะแววตา ก่อนที่เขาจะหันกลับไปสนใจงานตรงหน้าอย่างจริงจัง ไม่แม้แต่จะตอบโต้ความอยากรู้ของเพื่อนตัวดีที่ยังยืนยิ้มล้อเขาอยู่ไม่ห่าง
“งั้นก็คงเป็นกระต่ายที่น่าสนใจมากจริงๆ...”
นิศาพึมพำยิ้มๆ ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ แล้วเดินไปหยิบแฟ้มเอกสารที่สรุปไว้มาให้ พร้อมกับแจ้งรายละเอียดและนัดหมายสำคัญของวันให้ท่านประธานใหญ่รับทราบอย่างมืออาชีพ