หญิงสาวในชุดธรรมดาสีจืดชืดกำลังนั่งฟุบหน้ากับแขนของตัวเองอยู่หน้าห้อง สีหน้าดูเหนื่อยล้า เสื้อผ้ายับย่นตามการเดินทางที่ดูเร่งรีบ ข้างกายมีเพียงกระเป๋าผ้าใบเก่า
กวินไม่ได้แสดงอาการตกใจใดๆ ใบหน้ายังคงนิ่งสนิท แต่แววตากลับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว รอยหงุดหงิดยังไม่หายดี เขาจึงกระแทกประตูเสียงดังอย่างจงใจ
"ปัง!"
เสียงนั้นทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก ดวงหน้าซีดเซียวเงยขึ้นช้าๆ ดวงตาคู่โตสบกับเขาอย่างหวาดระแวง ริมฝีปากบางเม้มแน่น ก่อนเธอจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับชายผู้เป็นดั่งซาตาน
"ทำไมไม่เคาะประตู" น้ำเสียงเย็นชาไม่มีเยื่อใย ทั้งยังแฝงความดุดันในแบบที่เธอคุ้นเคย
“...”
ณัฐณิชาก้มหน้าลงเล็กน้อย สองมือสอดประสานแน่นเพื่อเรียกความกล้า เธอไม่ตอบอะไรออกมา...มีเพียงความเงียบที่กลืนกินทุกความรู้สึก
"จะเข้ามา หรือจะเปลี่ยนใจ"
คำถามนั้นเหมือนคมมีดกรีดใจอีกครั้ง แววตาคมกริบของเขาไม่ละไปจากใบหน้าหวานที่ซีดเซียว มือข้างหนึ่งเท้ากับขอบประตูอย่างไม่รีบร้อน ขณะที่อีกข้างซุกในกระเป๋ากางเกงอย่างคนเหนือกว่า
ณัฐณิชาค่อยๆ พยักหน้าเบาๆ ริมฝีปากสั่นระริก
กวินเห็นอย่างนั้นก็แอบกระตุกยิ้มมุมปาก เป็นยิ้มที่คล้ายพึงพอใจ แต่ก็แฝงด้วยความเจ้าเล่ห์เจือเยาะเย้ย เขาถอยออกจากทางอย่างเชื่องช้า เปิดทางให้แม่กระต่ายน้อยของเขาก้าวเข้าสู่ถ้ำที่เธอไม่มีวันหนีออกไปได้อีก…
เสียงประตูปิดโดยระบบอัตโนมัติดังขึ้นตามหลังร่างสูงที่เดินตามเข้าไปในห้อง กวินไม่พูดพร่ำ เขาเดินตรงไปยังโต๊ะกลาง หยิบเช็คที่เตรียมไว้ล่วงหน้ายื่นมาตรงหน้าหญิงสาวอย่างจงใจ
“อ๊ะ!”
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะรับมัน ร่างบางก็ถูกกระชากเข้าไปปะทะกับแผงอกแกร่ง กลิ่นสบู่อ่อนๆ กับไออุ่นจากชายหนุ่มแผ่ซ่าน จนณัฐณิชาสะดุ้ง ใบหน้าซุกเข้าอกเขาโดยไม่ตั้งใจ มือใหญ่ยกขึ้นเกลี่ยเส้นผมออกจากต้นคอขาว ก่อนก้มลงสูดกลิ่นหอมบางเฉพาะตัวของเธอเข้าปอดอย่างไม่เกรงใจ
“อย่าลืมสิ…เอาร่างกายมาแลก”
เสียงกระซิบชิดใบหูทำเอาร่างบางสะท้าน ใบหน้าซีดเผือดก้มต่ำไม่กล้าสบตาเขา แม้จะรู้ล่วงหน้าแล้วว่าต้องเจอกับอะไร แต่เมื่อถึงเวลาจริง ทุกอย่างกลับยากเกินจะควบคุม
กวินวางเช็คมูลค่าหลายล้านลงบนโต๊ะข้างโซฟาเสียงเบา แต่จงใจให้เธอได้ยินชัดเจน เพื่อย้ำเตือนว่า...ทุกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ มันมี “มูลค่า”
เขาจับแขนเธอเบาๆ แล้วพาร่างบางให้นั่งลงบนตักอย่างไม่ให้ตั้งตัว ร่างแนบชิดจนแทบไม่มีอากาศแทรกผ่าน ความแข็งขืนใต้เนื้อผ้าสัมผัสเข้ากับต้นขาเรียวของเธอ จนณัฐณิชาต้องหลุบตามองต่ำ ใบหน้าแดงซ่านทั้งจากความอับอายและความหวาดกลัว
“หน้าแดงทำไม…” เขาเอ่ยเสียงพร่า มุมปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “…ก็แค่ลูกชายฉันตื่น ลองสัมผัสมันดูสิ”
ไม่พูดเปล่า เขาจับมือเล็กของเธอขึ้นมาก่อนจะกดลงบนจุดยุทธศาสตร์โดยไม่ให้โต้แย้ง ณัฐณิชาสะดุ้งสุดตัวรีบชักมือกลับ แต่เขากลับจับมันไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม สายตาคมกริบจับจ้องใบหน้าเธออย่างคนที่กำลังเพลิดเพลินกับการไล่ต้อนเหยื่อ
“อย่าหนีสิ…เธอตกลงมาแล้ว จะถอยทำไม”
ขาเอื้อมมือขึ้นเชยคางเล็กให้เงยขึ้นมาสบตา ใบหน้าสวยเปื้อนคราบน้ำตา ดวงตากลมโตฉายแววอ่อนแอเจือความเศร้าจนใจเขาแทบสั่นไหว แต่กวินกลับเลือกเพิกเฉย
‘ผู้หญิงก็แค่นี้…สุดท้ายก็ยอมขายตัวเพื่อแลกเงินทั้งนั้น’ เขาบอกตัวเองเช่นนั้น เพื่อดับเสียงเล็กๆ ที่เริ่มก่อกวนในใจ
ริมฝีปากหยักโน้มลงประกบปากอ่อนนุ่มของเธอทันที กลีบปากสวยสั่นระริกต่อต้านเล็กน้อยด้วยความตกใจ แต่กลับไม่อาจผลักเขาออกไปได้ มือหนาจับท้ายทอยเธอไว้แน่น ลิ้นร้อนสอดเข้าไปชิมรสหวานอย่างเชื่องช้า ทว่าเร้าเร่ง
“อือ…”
เสียงครางประหม่าดังลอดในลำคอ มือเล็กกำเสื้อคลุมของเขาไว้แน่นราวกับเกาะอยู่บนขอบเหว
กวินผละออกจากจูบช้าๆ สบตากับเธอเพียงครู่ก่อนจะจับชายเสื้อยืดตัวเก่าของเธอถอดออกจากร่างในพริบตา เขาไม่รีรอจะกำจัดสิ่งกีดขวางออกจากร่างเธออย่างคนที่ควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างไว้ได้หมด
และเมื่อร่างบางเปลือยเปล่าปรากฏตรงหน้า กวินกลับต้องชะงักเล็กน้อย…สายตาคมกริบทอดมองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม
มันไม่ใช่แค่ความอยาก…แต่มันคือความตะลึง
เธอสวย…ขาวนวล ราวรูปปั้นไร้ตำหนิทุกสัดส่วน โดยเฉพาะอกอวบที่ดูไม่สมกับร่างเล็กบอบบางนั้นเลยสักนิด
“อะ… อย่ามอง”
เสียงสั่นเครือเบา ๆ ของเธอเอ่ยขึ้นราวกับจะหยุดยั้งสายตาเร่าร้อนของเขา ซึ่งมองมาอย่างไม่ปิดบังความต้องการ
แววตาหนักแน่นคู่นั้นทำเอาเธอใจสั่น กลัว… แม้จะเคยสูญเสียพรหมจรรย์ไปแล้ว
แต่เพราะครั้งนั้น เธอไม่มีสติ
ครั้งนี้ต่างหาก ที่เธอรู้ตัวทุกอย่าง และมันคือ ‘ครั้งแรก’ อย่างแท้จริง
ร่างระหงนอนแนบแน่นอยู่บนโซฟากว้าง กวินจัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ร่างเปลือยเปล่าเผยต่อสายตาเธอ
ณัฐณิชาเสหน้าออกไป เธอเพิ่งเคยเห็นร่างกายของผู้ชายใกล้ชิดถึงเพียงนี้ หัวใจเต้นระส่ำ แก้มแดงจัดเพราะความเขินอาย
“อ่ะ…”
สัมผัสร้อนชื้นที่แตะลงบนยอดอกทำเอาเธอสะดุ้ง
กวินยิ้มบาง ๆ อย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะก้มหน้าลงแนบกับอกอวบอิ่ม เสียงดูดดัง จ๊วบ อย่างไม่เกรงใจ
ร่างบางแอ่นขึ้นรับสัมผัสแปลกใหม่อย่างไม่รู้ตัว
มือหนาบีบคลึงอีกข้างอย่างเท่าเทียม ขบเม้มเบา ๆ สลับไปมา ราวกับหลงใหลในรสสัมผัสนั้นจนไม่อยากหยุด
“อ่ะ… อ๊า… อือ… อ่าส์…”
เสียงครางหลุดออกจากริมฝีปากสีระเรื่ออย่างไม่อาจหักห้าม ร่างบางสั่นระริก สมองพร่าเบลอราวกับถูกคลื่นอารมณ์ซัดซ้ำ ลิ้นร้อนลากไล้ลงเรื่อย ๆ จนถึงหน้าท้องแบนราบ
มือหยาบลูบไล้เรียวขาที่สั่นไหวด้วยแรงอารมณ์ เขาค่อย ๆ แยกขาขาวเนียนออกจากกัน แล้วสอดนิ้วแข็งแรงเข้าไป… อย่างอ่อนโยน ทว่าหนักแน่น
“อ๊า...”
กลีบเนื้อนุ่มคับแน่นจนบีบรัดนิ้วของเขาแน่นหนึบ ราวกับจะกลืนกินสิ่งแปลกปลอมนั้นเข้าไปทั้งหมด
ความร้อนระอุจากภายในทำเอาแก่นกายเขากำลังปวดหนึบอย่างทรมาน นิ้วแกร่งถูกฉ่ำเยิ้มด้วยหยาดน้ำใสที่หลั่งออกมาอย่างไม่ขาดสาย
เขาค่อย ๆ ขยับเข้าออกช้า ๆ ส่งจังหวะเสียดสีเนิบเนิบที่เร้าอารมณ์เกินจะทานทน
“อ๊าส… อือ… อ่า…”
เสียงหวานครางกระเส่าเมื่อเขาเติมนิ้วเข้าไปเป็นสามนิ้ว ความคับแน่นยิ่งตอดรัดรุนแรง ราวกับร่างกายเธอกำลังดูดกลืนเขาไว้ทั้งหมด
กวินเร่งจังหวะ กระแทกนิ้วลึกถี่ใส่กลีบเนื้อที่กำลังสั่นระริก จนร่างบางแอ่นสะโพกตอบรับอย่างห้ามไม่ได้
“อ๊าสสส… มัน… อ่า… ไม่ไหว…”
เสียงหอบพร่าแทบกลืนหาย เธอกำลังใกล้ถึงจุดสุดยอด
“ขอร้องฉันสิ… เรียกชื่อฉัน เรียกชื่อกวิน…”
เขาก้มลงกระซิบที่ข้างหู ริมฝีปากเฉียดผิวอย่างจงใจ มือยังคงค้างอยู่ที่เดิม ไม่ยอมขยับแม้แต่นิด ราวกับต้องการหยุดทุกอย่างไว้ตรงนั้น
“คุณ… อึก… กวิน… ช่วยณิ… อ๊า!”
เสียงครางออดอ้อนผสมเสียงสะอื้นเบา ๆ ดังลอดริมฝีปาก
หญิงสาวผู้ไม่เคยรู้จักความร้อนแรงของร่างกายยอมจำนนต่อความหิวกระหายที่แผดเผาเธออยู่จากภายใน
กวินยิ้มมุมปากอย่างพึงใจ ก่อนจะเร่งจังหวะนิ้วแกร่ง รัวลึกและหนักแน่นโดยไม่ปรานี เสียงเฉอะแฉะยิ่งเร้าอารมณ์ ร่างบางใต้ร่างสั่นสะท้านทุกครั้งที่เขากดนิ้วลึกเข้าไป
“อ๊า… อ่า… อ๊างงง!”
ร่างเล็กเกร็งกระตุกในอ้อมแขน เขารู้สึกถึงแรงบีบรัดที่แน่นหนึบตอดนิ้วเขาไว้แน่น หยาดน้ำใสพวยพุ่งออกมาจนเปียกชุ่มมือ หยดไหลซึมลงมาตามท่อนแขนแกร่ง
เสียงหอบหายใจของเธอสั่นระรัว ร่างกายที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนสั่นไหวราวกับถูกคลื่นซัดซ้ำไม่หยุด
เธอกรีดร้องออกมาอย่างสุขสม ดวงตาเบิกกว้าง ลอยเคลิ้มไปในห้วงอารมณ์ที่ไม่อาจเอื้อนเอ่ยเป็นคำพูดได้
“ยังไม่จบเท่านี้หรอก...สาวน้อย”
เสียงทุ้มกระซิบชิดผิวกาย ก่อนที่ร่างสูงจะโน้มลงต่ำ สองมือแกร่งประคองเรียวขาแยกออกจากกันอย่างอ่อนโยน แล้วฝังใบหน้าลงกับกลีบเนื้ออ่อนนุ่มที่เผยอรับอย่างล่อแหลม
ลิ้นร้อนลากไล้เชื่องช้าราวกับต้องการลิ้มรสทุกหยาดหยด
“อ๊า… คุณวิน.”
ยิ่งได้ยินชื่อของตัวเองหลุดออกมาจากปากหวานเสียงกระเส่า กวินยิ่งกระตุ้นลิ้นแรงขึ้น
เขาตวัดเลียรัวเร้าอยู่ที่จุดอ่อนไหวอย่างไม่มีปรานี
เธอส่ายสะโพกหนีลิ้นร้าย แต่ก็ถูกมือแกร่งตรึงไว้แน่น ก่อนที่เขาจะบดขยี้ปลายลิ้นลงไปอย่างหนักหน่วง
“อ่าส… คุณวิน...”
เสียงครางกระเส่าแทบขาดใจทำเอาเขาไม่อาจทนต่อไปได้อีก
กวินชักมือออกมา สัมผัสความแข็งขึงของตัวเองที่ปริ่มพร้อม แล้วจ่อปลายแท่งร้อนลงที่กลางกลีบเนื้อนุ่มอย่างระมัดระวัง
กึก!
“เจ็บ... ฮึก...”
เสียงสะอื้นหลุดจากปากบาง ร่างเล็กสั่นสะท้าน น้ำตาใสไหลอาบแก้ม เธอกำลังเจ็บ เจ็บจนพูดไม่ออก
ขนาดและความลึกของเขามันเกินไปสำหรับร่างกายที่ยังคงบอบช้ำจากค่ำคืนที่ผ่านมา…
“ชู่ว... ใจเย็นนะ แม่กระต่ายน้อย เดี๋ยวมันจะดีขึ้น”
เสียงปลอบดังเบา ๆ ข้างหู ชายหนุ่มจูบริมฝีปากเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะค่อย ๆ ดันสะโพกเข้าไปอย่างเชื่องช้า
“แต่ณิ...ณิ… อือ…”
เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาไม่รอให้พูดจบ
ริมฝีปากร้อนปิดปากเธอไว้ สอดลิ้นเข้าไปลึก ขณะที่สะโพกเริ่มเคลื่อนไหวอย่างอ่อนโยน
“อ๊า… อ่าสส...”
เมื่อทุกอย่างเข้าที่ หยาดน้ำหวานหลั่งออกมาหล่อเลี้ยงจังหวะรักของทั้งสอง
กวินถอนริมฝีปากออกจากเธอ ก่อนจะจ้องตาลึก เขาเริ่มขยับสะโพก ช้า ๆ เนิบ ๆ ลึกแต่ไม่เร่งเร้า
ร่างเล็กครางเสียงพร่า สะโพกบางสั่นไหวรับแรงกระแทกในจังหวะเดียวกัน
“คุณวินขา… ณิ… ณิทรมาน…”
เสียงออดอ้อนนั้นแทบทำให้เขาหลงใหลยิ่งกว่าเดิม เขาก้มลงครอบครองอกอิ่มที่เต่งตึง ขบเม้มปลายยอดเบา ๆ ก่อนจะกระแทกแก่นกายเข้าไปลึกจนเธอหวีดร้องอย่างลืมตัว
“อ๊า… อ่าสสส…”
“ซี๊ด…อืม…”
ชายหนุ่มปลดปล่อยตัวตนเข้าไปในกายเธออย่างล้นทะลัก
ณัฐณิชากระตุกเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งเข้ามาภายใน
แต่เขาไม่หยุด...
“ยังไม่พอ... มันยังไม่พอ”
เสียงครางต่ำพร้อมรอยยิ้มกระหายทำเอาเธอตาโต ร่างเล็กแทบหมดแรงจะขยับ แต่แทนที่จะปล่อยให้ได้พัก เขากลับอุ้มร่างของเธอที่ยังคงเชื่อมต่อกันแน่นเข้าไปในห้องนอน
วางเธอลงขอบเตียง ก่อนจะยกเรียวขาข้างหนึ่งขึ้นพาดแขน แล้วเริ่มต้นบทรักอีกครั้งจากมุมใหม่
“อ๊า… คุณวิน… อ่าสสส...”
เสียงครวญครางดังระงมทั่วทั้งห้อง จังหวะกระแทกที่ไม่ยอมหยุดหย่อนยังคงดำเนินต่อไป