12
[AVA]
ขยับเข้าไปอีกนิด
ม.6
ปีนี้ฉันอายุสิบแปดแล้วล่ะ (มีผัวได้) ความรักของฉันปกติดี แต่เพิ่มเติมคือโตตามอายุที่มีแอบคุยเรื่องสิบแปดบวกบ้าง แต่ยังไม่ข้ามขั้นไปเซ็กซ์โฟนนะ จะมีก็แค่หยอกล้อกันตอนอาบน้ำ...
ตอนเขาอาบฉันถือสายรอก็แซวไปขำๆ
'อย่าหันหลังหลบเค้านะ เค้าแอบดูอยู่'
(แอบดูแล้วชอบไหม?)
'ชอบมาก'
(มาหามันสิ... มันรอเป็นของเธอขา)
ส่วนเวลาที่ฉันอาบน้ำ...
'อย่าแอบดูเค้านะ เค้าเขิน'
(กำลังจะจับเลย)
'ตัวเองงงงง'
(อาบให้หอม)
'ทำไมคะ'
(เดี๋ยวตอนเจอกันจะบอกว่าจะทำอะไร)
'บ้า ตัวเองต้องปล้ำเค้าแน่ๆ'
(ทั้งวันทั้งคืน)
เขินสะบัดไปเลย
ส่วนเรื่องรูปเรื่องประวัติฉันยังไม่โป๊ะ เพราะถือคติไม่เซ้าซี้เขามากเขาคงไม่ถามกลับ ซึ่งมันก็จริง คบกันมาสองปีเขาได้รูปหนึ่งรูปถ้วนและไม่ขออีกเลย แถมไม่ถามอะไรให้ฉันอึดอัดด้วย
แต่ฉันไม่หยุดพัฒนาตัวเองเลยสักวัน มาสก์หน้า ขัดผิว ใส่เสื้อคาร์ดิแกนแขนยาวกันแดด มีได้รางวัลเกรดดีจากครูแม่เจนเป็นคอร์สในคลินิกด้วย ถ้าเทียบเมื่อก่อนกับตอนนี้ฉันเปลี่ยนไปเยอะเลย
แต่มีเรื่องอัพเดทอีกเรื่อง ฉันได้มหาลัยเรียนแล้ว ผลพวงจากการสรุปหนังสือให้พวกผู้ชายแทบจะทุกวิชา ฉันสอบติดแพทย์ทุกมหาลัยในกรุงเทพ
แต่ฉันเลือกเรียนคณะอักษรม.ดังแห่งหนึ่ง เพราะครูแม่เจนมากำชับว่าอย่าเอาใจผู้ใหญ่ อย่าเลือกเรียนตามกระแส เลือกที่อยากเรียนจริงๆ และชอบมัน
ฉันชอบงานเขียนชอบวรรณกรรม ก็เลยเรียนสาขาวรรณกรรมและการเขียนเชิงสร้างสรรค์
'แม่ไม่เคยอยากให้ลูกเป็นหมอ อยากให้ลูกมีเวลาอยู่กับแม่ อยากให้ลูกใช้ชีวิตสบายๆ'
'เอวาอยากให้แม่เจนอวดคนอื่นได้ไงคะ ว่ามีลูกสาวเก่ง'
'ตอนนี้ครูทั้งโรงเรียนรู้หมดแล้วว่าเอวาติดหมอทุกม. มาชมกันใหญ่ แต่แม่อยากอวดว่าเอวาติดคณะที่อยากเรียนมากกว่านะ แบบนั้นน่าภูมิใจกว่าเยอะเพราะเป็นความสุขและความตั้งใจของเอวา'
ไม่ให้ฉันรักและอยากให้ภูมิใจได้ไง นี่สิคนเป็นแม่ คนที่หวังดีกับฉันจริงๆ นอกจากฉันจะเป็นลูกที่ดีแล้ว ฉันก็สัญญาเลยว่าจะไม่มีวันลืมบุญคุณอันยิ่งใหญ่นี้
พอได้ที่เรียนชีวิตม.หกฉันก็ฟรี รับงานสรุปเนื้อหาได้มากขึ้น มีเงินเก็บมากขึ้น แต่มีคนเดียวที่ฉันสรุปให้ฟรีคือปุยฝ้าย ปุยฝ้ายอยากเรียนมหาลัยเดียวกันกับฉันคณะอักษรเหมือนกัน แต่รอบแรกเธอไม่ติด ต้องมาลุ้นกันรอบแอดมิชชั่น
จนกระทั่งถึงวันปัจฉิมนิเทศ ที่โรงเรียนของฉันจัดให้ม.หกและม.สามในช่วงต้นเทอมสองของทุกปี วันนี้เลยค่อนข้างครึกครื้น นอกจากมีซุ้มแสดงความยินดีของน้องๆตั้งเต็มโรงเรียน ก็มีแลกเขียนเฟรนด์ชิปกับเพื่อนในห้องและต่างห้อง อวยพรให้กัน บอกความในใจกัน จากนั้นทิ้งช่องทางการติดต่อกันไว้
อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือเขียนเสื้อนักเรียนเป็นที่ระลึก
ปุยฝ้ายป๊อปมากผู้ชายมาขอเขียนเพียบ นั่นไม่แปลกหรอก นางสวยมากนี่น่า แต่ที่แปลกคือนังเอวานี่แหละค่ะมีคนมาขอเขียนเสื้อและให้ดอกไม้ฉันเยอะมาก ส่วนมากคนเอามาให้จะเป็นรุ่นน้องผู้ชาย รวมถึงเพื่อนในห้องที่คิดไม่ถึง
"อ้าวเอิง มาเขียนเสื้อเหรอ ข้างหลังนะ ข้างหน้าขอสงวนสิทธิ์ให้ผู้หญิง" ฉันถามเอิงที่ถือปากกาเมจิกมาพร้อมกับช่อดอกกุหลาบสีขาว
"ใช่ หันหลังหน่อยสิ"
ฉันหันหลังให้ แต่พอหันหลังก็มีช่อดอกไม้ส่งมาจากด้านหลังอีกที
"อะไรอ่ะ?"
"เอ่อ เราให้"
ตาฉันเบิกกว้าง มองรอบๆโรงอาหารจนสบตากับคนที่มองเราอยู่ หนึ่งในนั้นมีปุยฝ้ายที่กำลังยืนหันหลังให้เพื่อนเขียนเสื้อด้วย ฉันเลยทำนิ้วชี้ๆบอกว่าของหล่อนนั่นแหละ ปุยฝ้ายถึงพยักหน้าและมองไปทางอื่น
"เอ่อ... เอิงให้เราเอาไปให้ปุยฝ้ายใช่ป่ะ นี่ก็จะไม่ได้เจอกันแล้วนะ สารภาพรักไปเลย"
"จริงเหรอ เราพูดได้เหรอ?"
"ได้ดิ"
"งั้นเขียนเสื้อให้เอวาก่อนแล้วกัน"
ฉันรับดอกไม้มาถือให้และปล่อยให้เอิงเขียนเสื้อตรงมุมไหล่ซ้ายจนเสร็จ แต่พอจะคืนดอกไม้ให้เอิงเอาไปให้ปุยฝ้ายเอง เขากลับไม่รับและยืนมองหน้าฉันด้วยสายตาแปลกๆ หมุนปากกาเมจิกในมือไปมา
"เอาไปให้ปุยฝ้ายเองสิเอิง เมื่อกี้นางมองแล้วนะ เราว่าคนที่คะแนนนำโด่งน่าจะเป็นเอิงนะ"
"ถ้าคนที่เราชอบ ไม่ใช่ปุยฝ้ายล่ะ"
ฉันชะงัก มองดอกไม้สลับกับหน้าเอิง
"อะไรนะ?"
"เราชอบเอวา... ชอบมานานแล้ว"
คุณพระ...
อิหยังอีก!
ฉันหันมองซ้ายมองขวาทำสีหน้าไม่ถูก มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีคนมาสารภาพรักฉัน ยิ่งกับผู้ชายแบบเอิงที่ออกจะป๊อปในโรงเรียน เขาเหมาะกับปุยฝ้ายจะตาย
"เอ่อ ขอบใจที่ชอบเรานะเอิง แบบไม่คาดคิดเลยนะเนี่ย ปกติมีแต่คนชอบปุยฝ้าย เซอร์ไพรส์มาก แหะๆ"
"ไม่ชอบเราบ้างเหรอ?" คำถามเอิงจริงจังสุดๆ แน่ล่ะนอกจากปุยฝ้ายก็ไม่มีใครรู้ว่าฉันมีแฟน
"เรามีแฟนแล้วอ่ะ" คิ้วหนาของคนตรงหน้าขมวดชนกันทันที ปากกาในมือหยุดหมุน เอิงมองหน้าฉันด้วยสายตาคาดคั้นแกมอึ้ง
"ใคร? ไอ้นัต ไอ้ภูมิ ไอ้เบสหรือใคร?" เป็นฉันที่ตกใจเอง เรื่องมันไปถึงพวกผีสามคนนั้นได้ยังไง
"เดี๋ยวๆ ทำไมถึงคิดว่าเป็นสามคนนั้น"
"พวกมันชอบเอวาเหมือนกันนี่"
หา?!! O_o
คืนนี้กูจะนอนหลับไหมเนี่ย
มันเปลี่ยนไปแล้ว นอกจากเอิง... วันนี้ก็มีคนมาสารภาพรักฉันอีกหลายคนรวมถึงสามคนนั้นที่เอิงได้บอกไว้ด้วย ฉันตอบทุกคนว่ามีแฟนแล้ว พอพวกนั้นถามว่าใครก็เอารูปแฟนตัวจริงที่ตั้งไว้เป็นภาพหน้าจอให้ดู
พวกนั้นหลุดขำออกมาบอกว่าฉันมโนมาก นั่นมันดาราเกาหลี ไม่มีใครเชื่อเลยสักคนเอาแต่บอกว่าเป็นรูปดารา หรือเป็นใครสักคนที่ไม่เหมาะสมกับฉัน บอกให้กูเลิกเป็นติ่งว่าซ่าน แล้วมาคบกับพวกมันจะได้อยู่กับความจริง
แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ยืนยันว่าฉันมีแฟน ไม่ขอรับรักใครทั้งนั้น นัตแอบฉุนเฉียวอยู่บ้าง พูดเสียงดังว่าไม่น่าเสียเวลากับฉันเลย และตามสันดานที่ไม่ดีบอกว่าเชิญฉันเพ้อเจ้อเพ้อฝันต่อไปเถอะ ขึ้นคานแน่ๆ
ส่วนเอิงตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกัน พอๆกับปุยฝ้ายที่ไม่ค่อยมาโรงเรียน ช่วงนี้ต้องเดินทางไปสอบที่กรุงเทพ และขอนแก่น
จนผลแอดมิชชั่นออกถึงได้ไลน์คุยกันว่าติดม.เดียวกันกับฉันแล้ว ตอนนั้นฉันดีใจมากที่จะได้มีเพื่อนไปอยู่กรุงเทพด้วย แถมเป็นเพื่อนสนิทอีกต่างหาก
และตื่นเต้นมากอีกเรื่องคือ
กรุงเทพ... เป็นจังหวัดที่เขาอยู่
ระยะทางไม่ได้ไกลกันเหมือนเดิมแล้วนะตัวเอง...
เค้าจะไปดม PM2.5กับตัวเองแล้ว ~
•••xxx•••
กรุงเทพมหานคร
ช่วงมาอยู่ที่นี่ฉันไม่ได้ถือสายคุยกับคุณออสตินทั้งคืนเพราะยุ่งมาก ไปรายงานตัวที่มหาลัย หาหอพัก ซื้อชุดนักศึกษา ซื้อของเข้าหอวุ่นวายไปหมด
แต่ถ้าไม่ได้ครูแม่เจนมาเตรียมตัวช่วย และเป็นผู้ปกครองให้คงวุ่นวายกว่านี้เยอะ เพราะฉันเพิ่งมากรุงเทพครั้งแรกเงอะงะตั้งแต่ก้าวขาลงจากหอพัก
แต่ก่อนที่ครูแม่เจนแม่ทูนหัวที่สุดในใจของฉันจะกลับ มือนุ่มๆแสนซัพพอร์ตคู่นั้น ก็ดึงมือฉันไปที่ร้านเสริมสวยร้านหนึ่งกลางสยาม
"แม่เจนจะทำผมเหรอคะ"
"เอวาทำไง" ฉันส่ายหน้า
"ไม่เป็นไรค่ะ ผมเอวาไม่ได้มีปัญหาอะไร" ครูแม่เจนส่ายหัวเล็กน้อยต่อหน้าช่างสาวสองที่ยืนรอต้อนรับเราอยู่
"เอวา ผู้หญิงเราจะเข้าร้านเสริมสวยได้ ไม่ได้หมายถึงผมเรามีปัญหานะ แต่เรามาทำสวย ทำผมที่สวยอยู่แล้วสวยขึ้นไปอีก ไหนๆก็จะมาเป็นสาวกรุงเทพเรียนม.ดังสุดๆแล้ว เปลี่ยนลุคหน่อยนะลูกสาวแม่^^"
ที่ผ่านมาฉันว่าฉันก็เปลี่ยนเยอะแล้วนะ
"เอวากลัวแพงค่ะ"
"แม่มีเงิน ทำเถอะเดี๋ยวไปซื้อของกันต่อ"
แล้วครูแม่เจนก็หันไปยิ้มกับพนักงานโดยที่ไม่รอคำตอบจากฉัน
"หาทรงผมที่เหมาะกับลูกสาวฉันให้ทีค่ะ ทำสีด้วยนะคะ เอาให้สวยๆผู้ชายตะลึงเลย"
"ได้ค่ะคุณแม่ จัดให้ค่าาาา^^"
ใช่ค่ะ ฉันถูกลากไปจับทำสี จับตัดผม อยู่ในร้านเสริมสวยหลายชั่วโมงเลย มองป้ายราคาหน้ากระจกและนับนิ้วคำนวณราคาขนแขนถึงกับลุกพรึบ
ฉันบอกครูแม่เจนว่าพอเถอะ มันแพงมาก ท่านก็ทำตัวเป็นคนแก่หูทวนลม ผมฉันยาวถึงหลังทำสีก็ห้าพัน ไหนจะตัดอีก แต่ไม่ว่ายังไงครูแม่เจนก็ให้เหตุผลเดิม
'ทำเถอะแม่เห็นแล้วมีความสุข ลูกสาวสวยขึ้น'
ทั้งเสียเวลาและแพง ฉันหลับสัปหงกไปหลายรอบเลย
ทว่าผลที่ออกมาหลังจากที่ช่างปลดผ้าสะบัด คือฉันอึ้ง
O_O
นะ นี่ฉันจริงเหรอ?
ผมสีน้ำตาลคาราเมลถูกดัดและตัดเป็นทรงหน้าม้าบางๆ ทำปลายให้มีวอลูมขึ้น หน้าสว่าง เข้ากับทรงหน้าฉัน มันสวยมากจริงๆ
"สวยมากค่ะคุณแม่ น้องจะเข้าปีหนึ่งใช่ไหมคะสีขนาดนี้กำลังพอดี ได้จับลงประกวดดาวเดือนแน่เลยค่ะ"
"ใช่ค่ะ ขึ้นปีหนึ่ง ทำออกมาได้ดีมากค่ะ ต้องชมช่างเลย"
"หน้าน้องดีด้วยค่ะคุณแม่ สวยสุดๆ^^"
ครูแม่เจนยิ้ม แล้วเดินมายืนด้านหลังวางมือสองข้างไว้บนไหล่ มองฉันผ่านกระจกเงาด้วยสายตาภูมิใจ
"สวยมากเอวา แม่ว่า... เอวาพร้อมไปเจอแฟนแล้วนะ"
หัวใจฉันเต้นแรงจนได้ยินเสียงตึกตัก นั่งมองหน้าตัวเองสลับกับคนด้านหลังผ่านกระจกตรงหน้า
มันพูดไม่ออกเลย อึ้งหน้าตัวเอง อึ้งความตั้งใจของครูคนหนึ่งที่อุปการะฉันจนถึงวันนี้ และยังหวังดีกับฉันไปถึงเรื่องความรักที่เริ่มต้นไม่ถูกต้อง
"จะ จริงเหรอคะ... หนูดูพร้อมจริงเหรอคะแม่เจน"
"ใช่ แม่อยากให้เอวามั่นใจในตัวเองได้แล้วนะ ตอนนี้เอวาสวยมากเลยลูก ถ้าไม่อยากเสียเขาไป... เอวาดึงความมั่นใจมาให้ตัวเองเยอะๆและเผชิญหน้ากับความจริง ทำให้ถูกต้อง ถ้าเขารับไม่ได้ เขาไม่พอใจ แสดงว่าเขาไม่เหมาะสมกับลูกสาวแม่แล้วล่ะ"