ในห้องที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายในร่างคน พร้อมจะขยำเธอให้จมเขี้ยวตายอย่างอนาถ อัยยาก้าวเข้าไปหยุดยืนอย่างไม่สะทกสะท้าน สายตาจ้องตอบพวกเขาทีละคน ก่อนจะกระตุกยิ้ม
อยู่กันพร้อมหน้าเลยนะ!
ไล่มาตั้งแต่หัวโจกอย่างคุณย่ามหาภัย พ่อเลี้ยงวายร้าย คู่แม่ลูกจอมลวงโลก คนรักสารเลวและพ่อของเขา
“มีอะไรก็รีบๆ พูดมา ฉันไม่มีเวลามากนัก”
สิทธาเห็นลูกเลี้ยงแสดงท่าทีจองหอง ไม่เห็นพวกตนอยู่ในสายตา ก็ยิ่งโมโหจนควันออกหู หน้าที่บูดบึ้งอยู่แล้วยิ่งถมึงทึงเหมือนปีศาจ
“แกสร้างเรื่องวุ่นวาย ทำลายชื่อเสียงของสองบ้านจนป่นปี้ ยังกล้าอวดดีอีกเหรอ”
“ไม่ดูความผิดของลูกหลานตัวเอง แล้วยังกล้าโยนความผิดให้คนอื่นอีกเหรอคะ” เธอย้อนกลับทันควัน
สิทธาไม่คิดว่าจะถูกนังเด็กนอกคอกย้อนอย่างเจ็บแสบ นั่งอึ้งหลายอึดใจ พอคลำหาเสียงเจอก็ตะคอกใส่อัยยาว่า
“เพราะเรื่องแค่นี้ แกถึงกับทำร้ายน้อง ทำร้ายคนที่แกรักอย่างเลือดเย็นเลยหรือยัยหยา”
อัยยามองเขาอย่างเย็นชา รู้สึกคลื่นไส้แทบทนไม่ได้ที่ชื่อของเธอหลุดออกมาจากปากอันโสโครกของสิทธา
“เรื่องแค่นี้? น้องสาวกับแฟนเล่นชู้กันลับหลังฉัน พวกเขารวมหัวกันสวมเขาฉัน ทำร้ายฉันแบบไร้ยางอาย แต่คุณกลับมาประณามว่าฉันเลือดเย็น ไม่คิดว่ามันทุเรศไปหน่อยเหรอคะ”
“แทนที่แกจะเที่ยวโทษคนอื่น แกควรมองตัวเองให้ดีเสียก่อนว่ามีอะไรบกพร่องจนผู้ชายเขาเบื่อหน่าย ถ้าแกดีจริง ชนนท์จะทิ้งแกไปหายัยแพรทำไม ความผิดของตัวแท้ๆ ยังไม่สำนึก เที่ยวโทษคนอื่นไปวันๆ แกนี่มันเกินเยียวยาแล้วจริงๆ”
อัยยามองหน้าคนพูดอย่างเหลือเชื่อ ไม่ใช่เพราะเสียใจ แค่คิดไม่ถึงว่าความเห็นแก่ตัวของคนจะทำให้หน้าด้านได้ขนาดนี้
“ก็จริงค่ะที่ฉันอาจจะสตรอว์ไม่เก่ง เรื่องแบบนี้ใครจะไปสู้เมียกับลูกสาวคุณได้ล่ะคะ คนเป็นแม่ก็เสแสร้งแย่งสามีคนอื่น ลูกสาวก็เลยได้ตัวอย่างที่ดี เจริญรอยตามแม่แย่งแฟนชาวบ้าน สงสัยฉันคงต้องเรียนรู้จากเธอให้มากๆ แล้วละแพรวา”
เธอปรายตาเหยียดหยามมองไปยังหญิงสาวที่นั่งกอดมารดาด้วยสีหน้าซีดเซียว เนื้อตัวสั่นเทาดูเปราะบางเหมือนจะแตกหักเพราะคำพูดของเธอได้ทุกเมื่อ
“พี่คะ...”
แพรวาพูดเพียงแค่นี้ก็ยกมือขึ้นกุมหัวใจ แสดงท่าทีเจ็บปวดรวดร้าวจนคนเห็นพากันเป็นห่วง กลัวหล่อนจะเป็นลมเป็นแล้งไปได้ทุกเมื่อ สายตาที่มองมายังเธอจึงติเตียนและไม่พอใจมากยิ่งขึ้น
ชนนท์มองอัยยาอย่างเหนื่อยใจ เธอก็เป็นแบบนี้ แข็งกระด้างและเย็นชา ทำอะไรไม่เคยไว้หน้าหรือเกรงใจใคร กับน้องสาวและครอบครัวตัวเองแท้ๆ ก็ยังก้าวร้าวไม่ยอมลดราวาศอกเลยสักนิด ขนาดเขากับพ่อนั่งร่วมวงอยู่ตรงนี้ด้วยเธอยังทำเป็นมองไม่เห็นหัวเลย
มันทำให้เขาเบื่อหน่ายมากจริงๆ
อัยยาผิดกับแพรวาที่อ่อนโยนและว่านอนสอนง่าย อยู่ด้วยกันแล้วทำให้เขามีแต่ความสบายใจ ถ้าหากว่าวันนี้เขาต้องเลือก เขาก็ขอเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองดีกว่า
ชนนท์ลุกขึ้นเดินไปหยุดตรงหน้าของอัยยา มองเธออย่างตัดสินใจแน่วแน่ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“เราเลิกกันเถอะ”
อัยยาเม้มริมฝีปากจนห้อเลือด ถึงรู้อยู่แล้วว่าเรื่องต้องจบลงแบบนี้ และเธอเองก็เตรียมใจไว้พร้อมแล้ว แต่พอได้ยินเขาพูดว่า ‘เลิก’ ออกมาง่ายๆ อย่างไม่แยแส ก็อดเจ็บปวดไม่ได้อยู่ดี
เธอยิ้มบางๆ แต่เต็มไปด้วยความขมขื่น บังคับสุ้มเสียงถามเขาไม่ให้สั่นเครือว่า
“เราคบกันมากี่ปีแล้ว”
“เจ็ดปี”
“เจ็ดปี คุณพูดกับฉันง่ายๆ แค่นี้เหรอ”
“เราเข้ากันไม่ได้”
“เข้ากันไม่ได้?” เธอเยาะเย้ย “เพราะฉันไม่ยอมให้คุณเข้ามาง่ายๆ ผิดกับน้องสาวสุดที่รักที่พร้อมอ้าขาให้คุณอยู่ตลอด นั่นมากกว่าละมั้งเหตุผลที่เราเข้ากันไม่ได้”