ตู้เสียนถูกประหาร

1215 Words
รั่วอินนางตื่นขึ้นมาในเวลาสายของวัน เมื่อไม่เห็นรุ่ยเผิงอยู่ภายในห้อง ความกลัวของนางก็เพิ่มขึ้น เสี่ยวซีที่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวภายในห้อง จึงร้องเรียกอยู่หน้าห้อง เพื่อบอกนางก่อนว่าเขาจะเข้ามา เมื่อได้รับอนุญาติเสี่ยวซีก็พาสาวใช้ที่เขาไปหามาได้ ให้เข้าไปดูแลรั่วอิน เมื่อเห็นใบหน้างามยังเหลือความหวาดกลัวอยู่ก็อดมองนางอย่างเห็นใจไม่ได้ สาวใช้ที่เสี่ยวซีพามา เคยเห็นสาวงามอย่างรั่วอินเสียที่ไหน นางจ้องมองอย่างตกตะลึง มาได้สติก็ตอนที่เสี่ยวซีเอ่ยเรียกนาง บอกให้ไปเตรียมน้ำให้รั่วอินนางล้างหน้า สาวใช้ก็จัดการงานได้อย่างดีทั้งยังเตรียมอาหารให้รั่วอินนางได้กิน แต่นางก็กินไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สาวใช้ที่มาใหม่นางไม่กล้าถามว่าเหตุใดริมฝีปากสวยได้รูปจึงได้มีบาดแผลมากมายเพียงนี้ แต่นางไปแจ้งกับเสี่ยวซีให้หายามาให้นาง เพื่อนางจะนำไปทาให้รั่วอิน เสี่ยวซีไม่อาจทิ้งรั่วอินแล้วออกห่างจากนางได้ จึงได้ให้เสี่ยวเอ้อของโรงเตี๊ยมไปจัดการเรื่องยาให้เขาแทน ทางด้านรุ่ยเผิง เมื่อเจ้าหน้าที่ศาลกว่างหนานรู้ว่ารองตุลาการศาลต้าฉีลงมือสอบสวนคดีนี้ด้วยตนเอง จะมีผู้ใดกล้าเพิกเฉยดั่งเช่นที่ผ่านมาได้อีก ความผิดของตู้เสียนทั้งหมดถูกเปิดเผยออกมา แม้แต่บิดาที่เป็นถึงท่านเจ้าเมืองก็ไม่มีอำนาจช่วยเหลือเขาในเรื่องนี้ได้ ขุนนางขั้นเจ็ดเช่นท่านเจ้าเมืองหรือจะสู้ขุนนางขั้นสี่ที่เป็นของรุ่ยเผิงได้ เขาจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับโทษของบุตรชายในครั้งนี้ ตู้เสียนถูกโบยถึงห้าสิบไม้ ก่อนจะถูกคุมตัวไว้ในห้องขังเพื่อรับโทษที่เหลือต่อ เพราะโทษของเขามิได้จบลงเพียงแค่นี้แน่ เมื่อมีผู้เสียชีวิตมากถึงหกคน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต่างได้รับโทษที่ร่วมกันปกปิดความผิด ทั้งยังทำลายหลักฐานที่จะสาวมาถึงตัวของตู้เสียนทิ้งอีกด้วย รุ่ยเผิงส่งมาเร็วเข้าเมืองหลวง เพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฮ่องเต้รับรู้ แล้วตัดสินโทษลงมาด้วยพระองค์เอง เมื่อเสร็จจากเรื่องที่ศาลกว่างหนาน เขาก็รีบกลับมาที่โรงเตี๊ยมทันที ก็ทันได้นั่งร่วมโต๊ะกินมื้อเย็นกับรั่วอินพอดี ยิ่งเห็นนางเอาแต่เขี่ยอาหารในชามไปมารุ่ยเผิงก็ปวดใจจนมิอาจจะเอ่ยออกมาได้ เขารวบตัวนางให้ขึ้นมานั่งบนตัก ทั้งยังป้อนอาหารให้อย่างเอาใจ “กินให้มากเสียหน่อย” “ข้าอิ่มแล้วเจ้าค่ะ” นางก้มหน้าตอบเสียงเบา รุ่ยเผิงจึงตักอาหารเข้าปาก ก่อนจะจับคางรั่วอินให้หันมาทางเขา แล้วก้มลงประกบริมฝีปากของนางเอาไว้ อาหารในปากของเขาถูกส่งเขาไปในปากของนาง ก่อนจะปิดปากของนางไว้แน่น เพื่อให้นางยอมกลืนอาหารลงไป “แล้วหากข้าป้อนเช่นนี้เล่า เจ้าจะยอมกินเพิ่มหรือไม่” รุ่ยเผิงกระซิบถามเสียงแหบพร่า นางยังคงเป็นยากำหนัดชั้นดีสำหรับเขา ไม่ว่าจะกลิ่นกาย หรือความหอมหวานในปากของนาง ล้วนกระตุ้นให้เขาแทบคลั่งทุกครั้งที่ได้ลิ้มลอง รั่วอินจำต้องยอมกินข้าวในชามเพิ่มต่ออีกสองสามคำ นางเขินอายกับวิธีที่เขาบังคับใช้กับนางจนใบหน้าแดงเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ตลอดเวลาที่รอจดหมายตอบกลับจากเมืองหลวง รุ่ยเผิงไม่เคยออกห่างจากรั่วอินนางเลย จนในตอนนี้ความหวาดกลัวที่นางมีเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้างามก็เริ่มมีรอยยิ้มมากขึ้น เมื่อถูกรุ่ยเผิงเอ่ยคำหวานเอาอกเอาใจ สามวันต่อมาเมื่อคำตัดสินถูกส่งมาจากที่เมืองหลวง รุ่ยเผิงก็เปิดศาลตัดสินคดี ชาวเมืองกว่างหนานมากมายมารอรับฟัง ครอบครัวของหญิงสาวที่เสียชีวิตตะโกนด่าทออย่างโกรธแค้น ตู้เสียนถูกตัดสินให้ประหารชีวิตทันที เพื่อชดเชยกับหญิงสาวที่เสียชีวิตไป ท่านเจ้าเมืองตู้ถูกสั่งปลดจากตำแหน่ง ทั้งยังถูกเนรเทศไปไกลกว่าห้าพันลี้ทั้งตระกูล เพราะเขามิอาจสั่งสอนบุตรชาย ทั้งไม่ห้ามปรามจนตู้เสียนกระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกินกว่าจะให้อภัย เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องทั้งหมดถูกถอดออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งถูกส่งไปใช้แรงงานสามปีชาวเมืองต่างก้มลงคำนับไปทางเมืองหลวงเมื่อได้รับความยุติธรรมเช่นนี้ ผิดกับตระกูลตู้และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับโทษ ต่างล้มไปกองกับพื้น บางคนถึงขั้นหมดสติไป เสียงร้องคร่ำครวญดังไม่ทั่วเมืองกว่างหนาน มีทั้งผู้ที่ยินดีกับผู้ที่โชคร้าย รุ่ยเผิงอยู่จัดการเรื่องทั้งหมดต่ออีกหลายวัน เพราะเขายังต้องรอคำสั่งแต่งตั้งท่านเจ้าเมืองคนใหม่ ทั้งเจ้าหน้าที่ในศาลที่ต้องปรับตำแหน่งด้วย ผ่านมานับเดือนอาการของรั่วอินนางก็ดีขึ้น ยิ่งมีสาวใช้คนใหม่ที่ช่างหาเรื่องเล่าสนุกมาพูดให้นางได้มีเสียงหัวเราะ จิตใจของนางก็นับว่าเกือบจะกลับมาปกติแล้ว “พรุ่งนี้ข้าพาเจ้าไปเที่ยวเล่นดีหรือไม่” รุ่ยเผิงฝั่งจมูกลงกับซอกคอของรั่วอินพร้อมทั้งเอ่ยถามอย่างเอาใจ “จริงหรือเจ้าคะ” นับตั้งแต่ที่เกิดเรื่องรั่วอินนางก็ไม่ได้ออกจากห้องในโรงเตี๊ยมเลย เมื่อได้ยินเช่นนี้อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ “ข้าเคยหลอกเจ้าหรือ” รั่วอินมองค้อนเขา นางอยากจะพูดว่าท่านหลอกข้าอยู่ประจำ เมื่อคืนท่านก็เพิ่งหลอกข้าว่าเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่กว่ารุ่ยเผิงจะยอมให้รั่วอินนางนอนพัก ตัวเขาก็เสร็จสมไปถึงสามหน ส่วนนางนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะจำไม่ได้เสียแล้ว รุ่ยเผิงกดจูบที่ขมับของรั่วอิน เมื่อเห็นสายตาที่มองค้อนเขาอย่างตำหนิ เขาหัวเราะในลำคออย่างเอ็นดู รุ่งเช้ารุ่ยเผิงก็ทำตามที่เขาพูดกับนางไว้ เขาพารั่วอินไปจวนพักตากอากาศนอกเมืองที่เสี่ยวซีไปหามาให้ รั่วอินนางอดจะตกตะลึงกับภาพความงามตรงหน้าไม่ได้ จวนพักที่อยู่บนเขา ท่ามกลางต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด กลิ่นหอมของดอกไม้ทำให้นางสูดดมอยู่นานอย่างพอใจ “มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ด้านหลัง คืนนี้ข้าจะพาเจ้าไปแช่” รุ่ยเผิงกระซิบเสียงเบาบอกรั่วอิน แววตาที่มองนางมีลึกซึ้ง ทำให้รั่วอินต้องก้มหน้าลงอย่างเขินอาย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD