ตู้เสียนเดินเข้ามาหารั่วอินอย่างเหม่อลอย รั่วอินรีบสวมใส่เสื้อผ้าอย่างลวกๆ มือของนางสั่นเทาจนไม่อาจจะมัดเชือกที่เอวได้ แม้แต่เสียงนางก็ลืมที่จะร้องออกมา
“ท่านเข้ามาได้อย่างไร” นางเอ่ยถามเสียงสั่น ทั้งยังถอยหลังไปชิดผนังห้องอย่างหวาดกลัว
ตู้เสียนเห็นแววตาของนางกำลังเผยความกลัวออกมาก็ยิ่งตื่นเต้น คนงามกำลังจะหลั่งน้ำตา หากอยู่ภายใต้ร่างของเขา เสียงร่ำไห้ของนางจะน่าฟังมากเพียงใด
เมื่อตู้เสียนกักขังรั่วอินไว้ในอ้อมแขน เขาก็ซุกเข้าหาซอกคอของนาง
รั่วอินกรีดร้องสุดเสียงทั้งยังดิ้นรนเพื่อให้พ้นจากเงื้อมมือของเขา ตู้เสียนปิดปากของนางไว้แน่น ทั้งจ้องฉีกเสื้อผ้าของนางออกอย่างรุนแรง
รุ่ยเผิงได้ยินเสียงร้องของรั่วอินก็วิ่งออกมาจากห้องด้านข้างอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นบ่าวของตู้เสียนที่เฝ้าอยู่ด้านนอก เสี่ยวซีก็ตรงเข้าไปจัดการทันที
เมื่อเข้ามาด้านในห้อง แววตาของรุ่ยเผิงก็แข็งกร้าวขึ้นมาทันที เขาคิดไม่ถึงว่าตู้เสียนจะลงมือรวดเร็วเพียงสี
เสื้อผ้าของรั่วอินหลุดลุ่ย ผมของนางสยายอยู่บนเตียงแววตาของนางบ่งบอกให้รู้ว่านางกำลังหวาดกลัวอย่างที่สุด ที่นางส่งเสียงร้องอีกไม่ได้ เพราะมือของตู้เสียนปิดปากของนางไว้แน่น
รุ่ยเผิงถีบไปที่ตัวของตู้เสียนจนเขาล้มไปกองกับพื้น รั่วอินดึงผ้าห่มมาคลุมร่างกายของนางอย่างรวดเร็ว
“เจ้าเป็นผู้ใด บังอาจมาขัดขวางข้า” ตู้เสียนเมื่อลุกขึ้นมายืนได้มั่นคงก็เอ่ยถามเสียงดัง
ไม่มีผู้ใดในเมืองกว่างหนานไม่รู้จัดบ่าวที่อยู่หน้าประตูของเขา แล้วเหตุใดถึงกล้าบุกเข้ามาเช่นนี้
รุ่ยเผิงไม่ได้ตอบคำถามของตู้เสียน แต่เขาตรงเข้าไปทุบตีตู้เสียนอย่างรุนแรง ตู้เสียนหมดสติไปแล้วเขาก็ยังไม่ยอมหยุดมือ จนเสี่ยวซีต้องเข้ามาดึงตัวเจ้านายของเขาไว้
“ใต้เท้า ประเดี๋ยวจะตายเสียก่อนขอรับ” เสี่ยวซีมองไปทางรั่วอินที่มุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างเห็นใจ
แม้ผ้าห่มจะหนาเพียงใด แต่แรงสั่นที่เกิดจากตัวของคนด้านในเขาก็รู้ได้ว่านางกำลังเสียขวัญมากแค่ไหน
หากนางได้รู้ว่าเจ้านายของเขาปล่อยให้ตู้เสียนเข้ามาพบนางในห้อง ไม่รู้ว่าจะเสียใจมากเพียงใด
รั่วอินนางไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ได้แต่แอบหมอบอยู่ใต้ผ้าห่ม เนื้อตัวสั่นเทา ไม่กล้าแม้แต่จะโผล่หน้าออกมาดูว่ารุ่ยเผิงจัดการกับบุรุษคนนั้นเช่นไร
“เจ้านำตัวไปขังไว้ที่ห้องด้านข้างก่อน แล้วเฝ้าเอาไว้ หากมันฟื้นขึ้นมาก่อนจะรุ่งเช้า ก็จัดการให้หมดสติไปอีกรอบเสีย”
รุ่ยเผิงไม่วางใจหากจะส่งตัวตู้เสียนให้คนของทางการในคืนนี้ และเขาต้องการจะสอบสวนด้วยตนเอง
แต่ในตอนนี้ไม่อาจทิ้งหญิงสาวที่ยังหวาดกลัวอย่างรั่วอินไว้เพียงลำพังได้ เสี่ยวซีลากตัวของตู้เสียนและบ่าวของเขาเข้าไปห้องด้านข้างที่รุ่ยเผิงเปิดไว้อีกห้องทันที
รุ่ยเผิงกำมือแน่น เขานึกเสียใจแล้วกับสิ่งที่ได้ทำลงไป เขาเดินเข้าไปหารั่วอินที่อยู่ใต้ผ้าห่มพร้อมทั้งดึงตัวนางมากอดไว้
รั่วอินยังหวาดกลัวเรื่องที่ตู้เสียนกระทำไว้กับนาง เมื่อถูกรุ่ยเผิงสัมผัสนางก็กรีดร้องออกมาอย่างเสียขวัญ ทั้งอย่างถอยหนีอย่างหนัก
“อินอิน ข้าเอง” เขาร้องเรียกนางเพื่อให้นางได้สติ
แต่เหมือนรั่วอินนางจะเสียขวัญเกินกว่าที่เขาจะคาดคิด เมื่อรุ่ยเผิงดึงผ้าห่มที่คลุมตัวนางออก ก็ได้เห็นใบหน้างามที่มีแต่คราบน้ำตาเต็มใบหน้า ทั้งเลือดที่ริมฝีปากสวยได้รูปไหลซึมออกมา เพราะนางกัดปากตนเองหลายรอย
เขาปวดใจจนตั้งกอดนางไว้แน่น ทั้งยังช่วยลูบแผ่นหลังเพื่อปลอบประโลมนาง เขาพร่ำเรียกชื่อนางไม่ขาดปาก เพื่อให้นางมีสติ
“อินอิน ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ” รุ่ยเผิงพูดประโยคเดิมซ้ำๆ จนคนในอ้อมแขนหยุดดิ้นรน
นางเงยหน้าขึ้นมองรุ่ยเผิง พร้อมทั้งเอ่ยเรียกเขาเสียงสั่น จนทำให้ใจของรุ่ยเผิงสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่อยู่
“ใต้เท้า” ดวงตาสวยคู่งามมีน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
มือหนาของรุ่ยเผิงใช้ปลายนิ้วเช็ดออกให้นางอย่างทะนุถนอม
“จะไม่มีเรื่องเช่นนี้อีกแล้ว” เขากระซิบบอกนาง
ถึงแม้จะรู้ว่าตู้เสียนมิได้แตะต้องนางมากเท่าไร แต่การที่มือของตู้เสียนสัมผัสที่ผิวของนางเป็นเรื่องจริง เขาเห็นด้วยตาตนเอง
ตัวเขายังมีโทสะมากถึงเพียงนี้ที่ดึงนางเข้ามาอยู่ในแผนการ หากรั่วอินนางรู้คงได้เกลียดเขาจนไม่อาจยอมรับได้
“ข้าพาเจ้าไปอาบน้ำดีหรือไม่”
รั่วอินพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง นางรังเกียจสัมผัสที่เขาทิ้งไว้ที่ผิวกายของนาง
รุ่ยเผิงออกไปเรียกเสี่ยวเอ้อให้ยกน้ำร้อนเข้ามาให้ แต่เขารอรับอยู่ที่หน้าประตู เพราะกลัวว่ารั่วอินที่เสียขวัญ เมื่อเห็นผู้อื่นเข้ามานางจะยิ่งหวาดกลัว
รุ่ยเผิงอุ้มรั่วอินลงไปนั่งในอ่างน้ำ ตัวเขาก็ลงไปอยู่กับนางในอ่างด้วย ทั้งยังช่วยขัดผิวของนางอย่างเบามือ เมื่อเห็นว่ารั่วอินนางขัดผิวจนเกิดรอยแดงที่น่าหวาดกลัว ตัวรุ่ยเผิงทนมองไม่ได้ จึงได้ขัดให้นางด้วยตนเอง
“อย่าได้ทำเช่นนี้ ข้าปวดใจยิ่งนัก” เขากระซิบบอกนางเสียงแหบพร่า
“ใต้เท้า ท่านปล่อยข้าไปดีหรือไม่ ข้า ข้ามีมลทินเสียแล้ว” ตัวของนางสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่อยู่
ตัวนางยังรังเกียจตนเองมากเพียงนี้ แล้วเขาที่เป็นบุรุษเข้ามาเห็นภาพที่เกิดขึ้นคงไม่อาจจะรับได้
“ข้าไม่มีวันปล่อยเจ้าไป อินอิน” รุ่ยเผิงกอดนางจากด้านหลัง ทั้งยังดูดเม้มตามลำคอของรั่วอินที่ตู้เสียนทิ้งรอยไว้
แต่เพราะรั่วอินนางยังหวาดกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น รุ่ยเผิงจึงทำได้เพียงเท่านั้น เขาพานางขึ้นจากน้ำ ทั้งยังแต่งตัวให้อย่างใส่ใจ ก่อนจะดึงตัวนางเข้ามาในอ้อมกอด ตบแผ่นหลังของนางเบาๆ เพื่อให้นางหลับได้
รั่วอินตัวสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมกอดของรุ่ยเผิงเกือบตลอดทั้งคืน ทั้งยังกอดรุ่ยเผิงไว้แน่น ด้วยกลัวว่าหากเขาลุกหายไป ตู้เสียนจะกลับมาอีกครั้ง เกือบฟ้าสว่างรั่วอินนางถึงได้หลับสนิท
รุ่ยเผิงเห็นว่านางหลับสนิทแล้ว จึงลุกขึ้นไปบอกให้เสี่ยวซีไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาที่โรงเตี๊ยม
เพียงไม่นานเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง เขาก็เปิดเผยตัวตนว่าเป็นรองตุลาการศาลต้าฉี ทั้งยังตามเจ้าหน้าที่ ที่มาคุมตัวของตู้เสียนไปที่ศาลกว่างหนาน เสี่ยวซีถูกทิ้งให้เฝ้าอยู่ที่หน้าห้องของรั่วอิน