วัณณ์ฎา 9

2115 Words
ทางด้านลออ หลังจากซ้อมรำเสร็จก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ตีคู่กับปันกลับบ้าน ขณะรถออโตสองคันแล่นเคียงคู่ทั้งสองก็พูดคุยกันเหมือนเช่นทุกวัน กระทั่งใกล้ถึงบ้านซอยของปัน ลออก็หันไปมองเพื่อนสนิท “กูเข้าบ้านก่อนนะ” “อือ พรุ่งนี้เจอกัน” เมื่อปันเลี้ยวรถเข้าไปในซอยบ้านแล้ว ลออก็ขับรถมุ่งตรงไปยังซอยบ้านของเธอก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปในบ้าน พอถึงบ้านลออก็เข้าไปในครัวเพื่อหุงข้าวทำกับข้าว เมื่อเสร็จ ไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย จากนั้นก็นั่งกินข้าวและพูดคุยกับคนเป็นพ่ออยู่ข้างบนบ้าน ขณะที่สองพ่อลูกกำลังคุยกันจู่ ๆ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อนอนของลออก็ดังขึ้น มือเล็กจึงล้วงออกมาดู พอเห็นปันโทรเข้ามาจึงกดรับสาย “ว่าไง” (พอดีกูจะไปดูพี่ปืนดักหนูที่ท้ายนา มึงไปด้วยไหม?) “ตอนนี้เหรอ?” (ใช่) “พี่ปืนไปกับใคร?” (ไปกับไอ้นะ) “ตา...เอ่อพี่วัณณ์ไม่ได้ไปใช่ไหม” สิ้นเสียงเล็กคนเป็นพ่อที่นั่งกินข้าวอยู่ก็เหลือบมองครู่หนึ่งแต่ก็ไม่พูดอะไร (มึงเคยเห็นเขาไปด้วยเหรอ) แม้รู้ดีว่าเขาไม่เคยไปที่แบบนี้แต่เธอก็อยากถามให้แน่ใจ ก่อนจะตอบปันกลับไป “เออกูไป” (งั้นมึงแต่งตัวรอเลยเดี๋ยวกูไปรับ) หลังจากตกลงเรียบร้อยก็หันไปมองพ่อเธอ ทว่าก็ยังไม่ได้พูดอะไร คนเป็นพ่อที่ได้ยินหมดแล้วก็พูดขึ้นก่อน “อยากไปก็ไป แล้วก็ดูแลตัวเองด้วย” “จ้ะพ่อ” จากนั้นลออก็เดินเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนกางเกงเป็นขายาว เนื่องจากอากาศข้างนอกค่อนข้างเย็น อีกทั้งพวกเธอนั่งอยู่ที่โล่งจึงต้องเตรียมพร้อมสำหรับลมหนาว เมื่อใส่กางเกงขายาวเสร็จ มือเล็กก็คว้าเสื้อกันหนาวก่อนจะเดินออกไปข้างนอกห้อง ซึ่งเป็นจังหวะที่ปันขับรถเข้ามาในบ้านพอดี ลออจึงเอ่ยบอกพ่อเธออีกครั้ง “หนูไปก่อนนะ” “อือ” จากนั้นลออก็รีบลงไปข้างล่างแล้วเดินไปนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของปัน ก่อนที่เพื่อนสนิทเธอจะขับรถออกจากบ้าน แล้วมุ่งตรงไปยังนาท้ายหมู่บ้าน โดยมีคนเป็นพ่อยืนมองด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ไม่อยากปิดกั้นความสุขของลูกสาว หากทำอะไรแล้วสบายใจตนก็จะไม่ห้ามแต่จะคอยดูห่าง ๆ ทางด้านลออเมื่อนั่งซ้อนท้ายปันออกมาจากบ้าน ก็เอ่ยถามปันที่กำลังขับรถอยู่ “พี่ปืนไปแล้วเหรอ?” “ใช่ ไปตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว” ลออได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากนั่งเงียบ ๆ กระทั่งรถมอเตอร์ไซค์กำลังจะแล่นผ่านบ้านของวัณณ์ฎา เธอจึงหันไปมองเห็นไฟบนบ้านอีกคนเปิดสว่างจ้า ก่อนที่ปากเล็กจะเบะคว่ำเมื่อนึกถึงคำพูดของเขาเมื่อช่วงเช้า จากนั้นใบหน้าจิ้มลิ้มก็สะบัดไปทางอื่น... ทางด้านวัณณ์ฎาขณะกำลังจะเข้าไปในห้องรับรองเพื่อนั่งสมาธิให้จิตที่ฟุ้งซ่านตลอดทั้งวันสงบลง แต่พอลุกขึ้นจากโต๊ะไม้สักเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งแล่นไปยังทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน จึงคิดว่าคงเป็นวัยรุ่นชายในหมู่บ้านไปดักหนู เหมือนเพื่อนสนิทของตน จึงเลือกไม่สนใจ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องรับรอง... ทางด้านปืนหลังจากวางบ่วงดักหนูเสร็จ ก็นั่งดื่มเหล้าหน้ากองไฟที่ก่อกับรุ่นน้อง เพื่อรอช่วงดึกจะเดินไปดูบ่วงดักหนู ว่าหนูติดกับดักหรือเปล่า ขณะชายหนุ่มต่างอายุกำลังนั่งคุยกันก็เห็นแสงสีส้มของรถมอเตอร์ไซค์กำลังขับมุ่งตรงมายังนาตัวเอง ก็มอง ด้วยความสงสัย กระทั่งเห็นน้องสาวของตนขับรถมากับเพื่อนก่อนจะจอดรถ ปืนจึงเอ่ยถามปันด้วยใบหน้าสงสัย “มาเฮ็ดหยัง?” (มาทำไม?) “มาเบิ่งอ้ายปืนยามหนู” (มาดูพี่ปืนดักหนู) “มันม่วนหม่องได๋” (มันสนุกตรงไหน) ด้วยน้องสาวเป็นผู้หญิงจึงไม่อยากให้ออกจากบ้านกลางค่ำกลางคืน แม้ตัวเขาจะอยู่ด้วยก็ตาม “กะม่วนกว่าอยู่เฮือนอยู่ดอก” (ก็สนุกกว่าอยู่บ้านอยู่หรอก) เอ่ยบอกพี่ชายจบปันก็หันไปพยักหน้าให้ลออ จากนั้นทั้งสองก็เดินไปยังกองไฟ ปืนจึงเอ่ยบอกปันด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง “เสื่ออยู่เถียงนา ไปเอามาปูนั่ง” เพราะไม่อยากให้ทั้งสองนั่งยังพื้น เพราะเดี๋ยวจะเปรอะเปื้อนขี้ดินเหมือนตนกับรุ่นน้อง ปันได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยถามพี่ชายเธอออกไป ในขณะที่ลออฟังเงียบ ๆ “อ้ายเอาสาดมานำเบาะ” (พี่เอาเสื่อมาด้วยเหรอ) “บ่ได้มีแค่สาดเด้ะ ที่นอนหมอนมุ้งกะมี” (ไม่ได้มีแค่เสื่อนะ ที่นอนหมอนมุ้งก็มี) สิ้นเสียงปืนปันก็มองไปยังเถียงนา เห็นพี่ชายเธอกางมุ้งพร้อมนอนเรียบร้อย เธอจึงไม่พูดอะไรนอกจากเดินไปเอาเสื่อมาปูนั่งตามที่ปืนบอก ส่วนลออขณะยืนรอปันเดินไปเอาเสื่อ ก็ได้ยินปืนพูดขึ้นเธอจึงเบี่ยงสายตาไปมอง “บักนะรินวิสกี้ปีสี่ศูนย์ให้กูแหน่” (ไอ้นะรินวิสกี้ปีสี่ศูนย์ให้กูหน่อย) “ได้ครับ” ลออได้แต่สงสัยว่าอีกคนเอาวิสกี้มาจากไหน เนื่องจากไม่ใช่เหล้าถูก ๆ เลย ก่อนจะหันไปมองนะที่หยิบเหล้าขวดสีน้ำตาลฉลากรวงข้าวสีแดง เธอจึงรู้ทันทีว่าวิสกี้ปีสี่ศูนย์ที่ปืนหมายถึงคือเหล้าอะไร ด้านปืนเมื่อยกเหล้าดื่มจนร้อนท้องวาบก็ส่งแก้วคืนให้นะ จากนั้นก็หันไปทางลออที่ยืนมองอยู่จึงเอ่ยถาม “กินเหล้าไหมคนสวย?” “บ่ต้องชวน หนูเตรียมของหนูกะหมู่มาอยู่” (ไม่ต้องชวน หนูเตรียมของหนูกับเพื่อนมาอยู่) ขณะลออกำลังจะตอบปืนกลับไปทว่าได้ยินปันพูดขึ้นก่อน เธอจึงหันไปมองเห็นเพื่อนเดินถือเสื่อมาปูนั่ง ก่อนจะล้วงสิบสี่ดีกรีขวดสีเขียวออกจากถุงย่าม ตามด้วยส่วนผสมทำเหล้าป๊อกตั้งวางบนเสื่อ ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะเธอก็อยากกินอยู่พอดี ซึ่งต่างจากปืนเมื่อเห็นเช่นนั้น ก็อยากจะเขกหัวน้องสาวของตัวเองให้ยุบ แต่ก็ได้แค่คิดและบ่นเท่านั้น เพราะตัวเขาก็ยังกินแล้วนับประสาอะไรจะไปห้ามน้อง “ให้มันเบา ๆ แหน่ อ้ายบ่แบกกลับเด้ะให้นอนหม่องนี่ละ” (ให้มันเบา ๆ หน่อย พี่ไม่แบกกลับนะปล่อยให้นอนที่นี่แหละ) “ส่ำนี่บ่พอเมาดอก” (แค่นี้ไม่เมาหรอก) หญิงสาววัยกำลังห้าวพูดเถียงพี่ชายออกไปทันควัน เพราะมั่นใจว่าเหล้าแค่นี้ทำอะไรเธอไม่ได้ นะได้ยินเช่นนั้นจึงพูดขึ้นในขณะที่ปืนและลออนั่งมองเงียบ ๆ “บ่เมา แต่ก็บ่สร่างหลับยาวสอดแจ้ง” (ไม่เมา แต่ก็ไม่สร่างหลับยาวยันเช้า) “กูบ่ได้คออ่อนปานนั้นบักนะ” (กูไม่ได้คออ่อนขนาดนั้นไอ้นะ) “ข่อยสิรอเบิ่ง” (ฉันจะรอดู) ลออที่นั่งฟังอยู่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะมองปันที่เริ่มทำเหล้าป๊อกแก้วแรก เมื่อเสร็จก็ยื่นให้เธอ “ให้กูเปิดเลยเหรอ” “เออเดี๋ยวกูปิดเอง” ลออไม่ได้ตอบแต่เลื่อนมือไปรับแก้วเหล้าจากปัน ก่อนจะไม่รอช้ายกดื่มรวดเดียวหมด จากนั้นก็ส่งคืนให้เพื่อนพร้อมกับอ้าปากเล็กน้อย เมื่อความร้อนของแอลกอฮอล์ผสมกับความหวานของน้ำอัดลมไหลลงคอ “หวานไหม” “มาก” จากนั้นทั้งสี่ก็นั่งดื่มและพูดคุยกันจนกระทั่งเวลาเดินไปเกือบถึงครึ่งคืน ปืนที่นั่งอยู่บนรองเท้าก็เริ่มเจ็บก้นจึงหันไปเอ่ยบอกนะ “บักนะมึงขับรถไปเอาเสื่อเฮือนบักวัณณ์มาแหน่” (ไอ้นะมึงขับรถไปเอาเสื่อบ้านไอ้วัณณ์มาหน่อย) “ได้ครับหัวหน้า” เมื่อนะได้ยินเช่นนั้นก็ไม่รอช้า รีบขับรถไปเอาเสื่อที่บ้านวัณณ์ฎา ตามที่พี่มันบอกทันที ทางด้านลออขณะนั่งกินเหล้ากับปันพอได้ยินชื่อของใครบางคน เธอจึงเงยหน้าขึ้นแล้วหันมองไปยังรอบข้าง แต่พอไม่เห็นคนที่เธอไม่อยากเจอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ปันที่มองอยู่พอเห็นการกระทำของเพื่อนจึงพูดขึ้น “ไอ้นะมันไปเอาเสื่อที่บ้านพี่วัณณ์ พี่วัณณ์ไม่ได้มาที่นี่ค่ะ มึงไม่ต้องคาดหวัง” “กูไม่ได้คาดหวังสักหน่อย” “อยากให้มันมาไหมล่ะ เดี๋ยวพี่โทรบอกมันให้” เพราะอยากให้รุ่นน้องสมหวังกับเพื่อนสักทีปืนจึงอยากช่วย “หนูไม่อยากให้เขามา” “เป็นไรมันทำให้โกรธเหรอ?” “นิดหน่อย” “อย่าไปสนใจมันเลย มันไม่เคยมีแฟนก็เป็นแบบนี้แหละ” “เขาไม่เคยมีแฟนเหรอ?” หากปืนไม่บอกเธอก็ไม่รู้เลย แม้จะอยู่หมู่บ้านเดียวกันทว่าลออก็ไม่ได้สนใจอีกคน “ใช่” สิ้นเสียงปืนลออก็ได้แต่คิดในใจ ถึงว่าไร้เสน่ห์ที่จะเอามาเป็นผัวสิ้นดี หากฐานะหน้าตาหุ่นไม่ดี หน้าตาไม่หล่อเหลาและขาวเนียน กลิ่นกายไม่หอมฟุ้ง ซิกซ์แพ็กไม่ล่ำสันน่าหลงใหล ถามหน่อยจะมีผู้หญิงคนไหนอยากเอามาทำผัว... จากนั้นก็เลือกไม่สนใจเลื่อนมือไปหยิบขวดเหล้าแล้วรินใส่แก้ว จัดการยกดื่มเพียว ๆ ปันเห็นเช่นนั้นจึงจะเอ่ยห้ามทว่าไม่ทัน เมื่อเพื่อนสาดมันลงคอไปแล้ว “มึงกินกะจะนอนที่นี่เลยเหรอ” “มึงห้ามกูตอนนี้ทันไหม” ในเมื่อมันติดลมไปแล้วให้หยุดคงไม่ได้ นอกจากใส่สุด ภาพตัดค่อยว่ากันอีกที ทางด้านปืนที่นั่งฟังปันกับลออคุยกันจึงพูดขึ้น “กินไปเดี๋ยวพี่เฝ้าเอง” ริมฝีปากเอ่ยบอกขณะมือหนาหยิบฟืนที่เตรียมไว้ใส่ยังกองไฟ เพื่อเติมความสว่างให้อยู่ถึงเช้า ส่วนลออกับปันได้ยินเช่นนั้นก็ไม่รอช้านั่งดื่มกันต่อ เมื่อสบายใจแล้วที่คืนนี้มีปืนคอยดูแล... อีกฝั่งหนึ่งบนชั้นสองของบ้านไม้ หลังจากนั่งอยู่ในห้องรับรองนานสองนาน กระทั่งเริ่มง่วง วัณณ์ฎาจึงเตรียมจะเข้านอน ขณะขายาว ๆ กำลังจะเดินไปยังห้องนอน จู่ ๆ ก็เห็นไฟสีส้มสาดเข้ามาในบ้าน ตาคมกริบจึงหรี่มองเห็นรถเวฟสีแดงของเพื่อนขับเข้ามาข้างใน ทว่ากลับไม่ใช่เพื่อนสนิทของตัวเองเป็นคนขับแต่เป็นรุ่นน้องในหมู่บ้าน วัณณ์ฎาจึงเดินไปยังหัวบันไดบ้านแล้วมองนะด้วยใบหน้าสงสัยว่ามาทำอะไร กระทั่งอีกคนจอดรถเอ่ยบอกตนถึงเรื่องที่มาหา... “พี่ปืนให้ผมมายืมเสื่อพี่วัณณ์” “เออ เดี๋ยวกูไปเอาให้” พูดจบร่างสูงก็เดินไปหยิบเสื่อกกที่วางพิงยังฝาบ้านเอาไปให้รุ่นน้อง “ขอบคุณครับผม” “เออ” เมื่อเสร็จธุระวัณณ์ฎาก็เตรียมเดินกลับขึ้นไปบนบ้าน ทว่าได้ยินนะเอ่ยขึ้นก่อน “พี่วัณณ์ไม่ไปท้ายนาเหรอบรรยากาศโคตรดี พี่ปันกับพี่ลออก็ไป” ในเวลาที่กำลังจะตอบปฏิเสธตั้งแต่รุ่นน้องพูดขึ้น แต่พอได้ยินชื่อของใครบางคนอยู่ที่นั่นด้วย วัณณ์ฎาจึงตอบนะกลับไป “มึงรอกูแปบเดี๋ยวกูไปด้วย” “ครับผม” สิ้นเสียงนะ วัณณ์ฎาก็เดินขึ้นไปบนบ้าน ก่อนจะคว้าเสื้อกันหนาวมาสวมใส่แล้วเดินลงไปข้างล่าง นั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของรุ่นน้อง ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะขับมุ่งตรงไปยังนาท้ายหมู่บ้านทันที…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD