ร้านอาหารชื่อดัง_
ร่างอรชรรวบรวมแฟ้มเอกสารมาถือกอดเอาไว้ ระหว่างที่ก้าวเท้าลงจากรถยนต์เดินไปยังห้องอาหาร ที่ทำการนัดกับลูกค้าคนสำคัญท่านนึงไว้
"สวัสดีค่ะคุณชรินทร์ทิพย์ แล้ว..." เสียงหวานลากยาว ไม่รู้ว่าชายหนุ่มด้านข้างหญิงวัยกลางคนคือใคร ไม่รู้อีกว่าเธอจะมีคนติดตามมาด้วย
"นี่คือลูกชายของดิฉันเองค่ะ ชื่อกรยุทธค่ะ" ฝ่ายคนแนะนำรีบผายมือเชิญให้ร่างอรชรนั่งลง
"สวัสดีนะคะ ณิไม่ทราบว่าคุณชรินทร์ทิพย์จะพาลูกชายมาด้วย ไม่อย่างนั้นณิก็จะให้เลขามาแนะนำข้อมูลให้ จะได้เข้าใจง่ายกว่า"
ณิชาบอกอย่างประหม่า เธอเคยมาช่วยบิดาแล้วครั้งนึง ก็เจอแต่หญิงวัยกลางคนเพียงลำพังเลยเข้าใจว่าครั้งนี้จะมาเป็นส่วนตัวอีก
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ครั้งที่แล้วคุยกับคุณณิชาเข้าใจกว่า วันนี้ดิฉันเลยพาลูกชายมาฟังด้วย เผื่อต่อไปจะได้วางมือจากเรื่องงานไปพักหน่อย"
"....." ทันใดนั้นเธอดันเห็นโต๊ะอาหารมุมสุด เป็นวิวดีติดหน้าต่างชมวิวบนตึกสูง คือไตรภูมิและผู้หญิงที่เธอเคยเห็นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขา
"ค่อยๆ บอกคุณณิชาสิครับ เห็นไหมว่าตกใจจนฟังไม่ทันเลย" กรยุทธบอก แล้วผายมือให้ณิชาเลือกอาหารทาน
"ไม่เป็นไรเลยค่ะ แต่ณิชาชอบฟังเสียงคุณชรินทร์ทิพย์คุยนะคะเหมือนคุณแม่ณิเลยค่ะ" เธอเลือกอาหารจานเดียวง่ายๆ อย่างสลัดผักให้ทางพนักงานรับออเดอร์
"ว่าแต่คุณทศวรรษอาการดีขึ้นหรือยังคะ ช่วงนี้ไม่เห็นในข่าวเลย"
"ดีขึ้นระดับนึงแล้วค่ะ เร็วๆ นี้อาจจะกลับมาทำงานกับณิได้แล้วนะคะ" ณิชาเลือกจะตอบให้ความมั่นใจแก่ลูกค้าคนสำคัญตรงหน้าก่อน เธอดันไปสบตาคู่คมพอดี แต่เขาทำเหมือนมองผ่านไม่รู้จักเธอเลยสักนิด แถมยังมีคำพูดคุยกับหญิงสาวคนนั้นมากกว่าที่เคยคุยกับเธอซะอีก
"งั้นก็ดีเลยสิคะ ไว้คราวหน้าให้ผู้ใหญ่คุยกันส่วนเด็กๆ อย่างหนูณิชากับกรยุทธก็แยกคุยกันไป"
"อ่อค่ะ..." เธอกำลังรับรู้ได้ว่าชรินทร์ทิพย์ต้องการจะพูดสิ่งใด แต่เพื่อไม่ให้เรื่องงานเสียเวลาเปล่า เลยนำแฟ้มเอกสารมาเปิดให้บุคคลทั้งสองอ่านดูคร่าวๆ ก่อน
"จริงๆ ผมไม่ได้ติดปัญหาตรงไหนนะครับ มันก็เหมือนกับฉบับที่คุณณิชาส่งไปบริษัทเรา"
"ไม่ติดปัญหาไม่สงสัยเลยเหรอคะ ณิชาจะได้เอากลับไปแก้ไขให้ทางคุณชรินทร์ทิพย์พอใจก่อน"
"มีหน่อยสิลูก เรายังเป็นมือใหม่ในวงการนะฟังหนูณิชาอธิบายสักหน่อยก็ยังดี" ชรินทร์ทิพย์รีบส่งเสริมลูกชายให้เลื่อนเก้าอี้มาฝั่งณิชา
"ตรงไหนเหรอคะ เดี๋ยวณิชาอธิบายให้ก่อน"
"ตรงนี้เลยครับ กำลังสวยเลย" ฝ่ายคนบอกยกยิ้มกว้างให้มารดา เมื่อเห็นว่าร่างอรชรก้มสนใจเอกสารจริงจัง แล้วเขาก็อยู่ใกล้มากจนได้กลิ่นหอมบนกายสาว จนรู้สึกว่าเธอน่ารักและมีเสน่ห์ไปหมด สมกับที่มารดาบอกจริงๆ
"ตรงนี้ก็เป็นยอดสรุปคร่าวๆ นะคะ ทางบริษัทณิจะหักลบภาษีไปด้วยในราคานี้ ซึ่งถือว่าต่ำสุดในตลาดทั่วไปแล้วค่ะ"
"อ่อครับ ผมสนใจนะครับแล้วอย่างนี้มีตรงไหนที่ต้องแนะเพิ่มอีกไหม?" คราวนี้เขายิ่งลากเก้าอี้มาประชิด ก้มเงยตามร่างอรชรที่มีท่าทีสนใจ
"ณิว่าข้อมูลตรงนี้ก็เป็นทั่วๆ ไปแล้ว คุณ..."
เคล้ง~ มือบางไม่ทันระวังชนแก้วน้ำส้มหก มันกระเด็นเลอะโดนแขนเสื้อสูทสีอ่อน เพราะเธอดันเงยหน้าขึ้นมาเจอกรยุทธจ้องมองไปในคอเสื้อชุดเดรสข้างในพอดี
"เป็นอะไรไหมหนูณิชา กรยุทธก็สนใจงานเกินไปหน่อย ดูซิจะไปเบียดอะไรหนูณิชาอย่างนั้น" ชรินทร์ทิพย์รีบเอ่ยบอกแก้สถานการณ์
"ณิขอตัวไปล้างแขนแปบนึงนะคะ ระหว่างนี้ฝากคุณกรยุทธอ่านเอกสารต่อก่อนนะคะ จะได้ไม่เสียเวลารอ"
ร่างอรชรเลยนำกระเป๋าสะพายติดมือมาด้วย เธอรู้สึกโกรธนะที่ฝ่ายชายไม่ให้เกียรติเลย แต่จะทำไรได้ในเมื่อต้องพึ่งพากันทางธุรกิจช่วงที่ยังมีปัญหาหนักอยู่
สองเท้าเล็กเลยพาตัวเองเดินเข้าห้องน้ำทันที มาถอดเสื้อสูทออกแล้วใช้น้ำสะอาดล้างตามแขนที่เหนียวเหนอะหนะ แต่เธอจะเดินออกไปอย่างไรต่อ ในเมื่อชุดเดรสที่สวมมาข้างในมันเว้าแขน โชว์ผิวขาวละเอียดอ่อนจะเหมาะสมหรือไม่
"คิดว่าตัวเองอยู่ในสถานะมายั่วคนอื่นได้อีกเหรอ?" ร่างสูงพุ่งเข้ามาในห้องน้ำทันที เขากระชากประตูเสียงดังอย่างไม่สนใจสายตาคมข้างนอก โชคดีที่ในนี้ไม่มีผู้ใช้บริการอยู่เลย
"ณิไม่ได้จะทำอะไรอย่างนั้นเลยนะ แค่มาคุยงานเอง" อีกฝ่ายมีท่าทีโมโหจนเธอรู้สึกกลัว
"คุยงานกันท่าไหนล่ะ มันแทบจะซุกหน้าเข้าไปในนมเธออยู่แล้ว!"
"พี่ไตรทำไมพูดน่าเกลียดอย่างนั้น! ณิไม่ได้คิดอะไรแย่ๆ อย่างที่พี่ไตรพูดเลย!"
"พี่เห็นอยู่เต็มตา! คงไม่ได้บอกใครล่ะสิว่ามีผัวแล้ว เลยอ่อยไปทั่วน่ะ!" เขาตรงเข้ามารั้งเอาข้อมือเล็กที่คิดจะสู้ ยกขึ้นแนบผนังห้องน้ำกระเบื้องเหนือศรีษะ
"ณิเจ็บนะ! พี่ไตรต่างหากที่ไม่ได้บอกใครล่ะสิว่าจะแต่งงานแล้ว ถึงได้ควงผู้หญิงมานั่งกินข้าวน่ะ ฟังดูแย่ยิ่งกว่าณิอีก!" เธอก็เริ่มโมโหไม่ต่างกัน เขาด่าทอจนเหมือนว่าเธอมีนิสัยเป็นผู้หญิงใจง่ายเลย ทั้งที่ไม่ได้คิดจะอะไรผิดต่อสามีในอนาคตสักนิด
"อย่าเอาผู้หญิงคนนั้นมาเปรียบเทียบกับเธอ มันไม่ได้เหมือนกันทุกคนหรอกนะ!"
"แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครคะ ณิจะได้หลีกทางให้ถ้าเธอเป็นผู้หญิงที่พี่ไตรคบอยู่!"
"หลีกทางให้เพื่อที่เธอจะไปแต่งไอตรีน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ.."
"อื้อออ...อี้ไออ่อย" เรียวปากบางถูกกระแทกจูบกลบเสียงใสจนหายไปในลำคอ มันเจ็บแสบซ่านไปทั่วผิวปากนุ่ม เพราะแรงบดขยี้หนักจนเธอต้านไว้ไม่ไหว
โดนลิ้นสากเข้ามาลุกลานควักเอาน้ำหวานหนัก ดูดดุนเรียวเล็กจนขยับดิ้นสู้ไม่ได้เลย
"คิดจะอ่อยคนอื่นก็หัดมาทำกับผัวให้ดูก่อน!..อื้ม!" ไตรภูมิยิ่งบดขยี้จูบคนอวดดีต่อซ้ำๆ เขาต้องสั่งสอนผู้หญิงมีนิสัยชอบใช้มารยาหลอกล่อผู้ชาย พอมาเจอคนจริงอย่างเขาก็ไปไม่เป็น
"หยุดนะ! พี่ไตรหยุดทำอย่างนี้ณิสักที!" ร่างอรชรรีบรวบรวมแรงผลักร่างสูงออกไกลตัว เธอเจ็บรอบเรียวปากนุ่มไปหมดเลย ก่นเป็นน้ำตาใสใสรอบเบ้าดวงตาคู่สวย
"จะหวงตัวทำไมอีก! พี่เห็นของเราไปตั้งเท่าไหร่แล้วหรือจะหวงเอาไว้ให้ไอผู้ชายหน้าไหนไปดูต่อ!" เขาตรงเข้ามาช้อนอุ้มร่างอรชรขึ้นนั่งขอบเคาเตอร์อ่างล้างมือ อีกฝ่ายจะตะเกียกตะกายจะปีนลงก็ไม่ได้
"หยุดพูดเรื่องบ้าๆ พวกนี้สักทีได้ไหม!"
"งั้นก็พิสูจน์สิ ถ้าไม่ทำให้พี่พอใจก่อน เธอก็จะไม่เดินออกไปข้างนอกแน่" มุมปากหยักยกยิ้มร้าย ในเสี้ยววินาทีโทรศัพท์มือถือของณิชาดังขึ้น คงเป็นคนข้างนอกที่สงสัยเลยโทรเข้ามาตาม
"พี่ไตรเลวกว่าที่ณิคิดไว้อีกนะ!..."
......................