คำเตือน🔞
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการที่ผู้แต่งเขียนขึ้น ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงหรือพาดพิงถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งรวมถึงตัวละคร และสถานที่ อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ไม่เหมาะสม ความรุนแรง เพศ และการใช้ภาษาผู้อ่านที่รักควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ควรหลีกเลี่ยง
“ยิ้มมึงมันก็แค่ผู้หญิงร่าน อยากให้กูติดใจใช่ไหม? คิดว่ามีอะไรกันแล้วกูจะเลิกกับแพรว แล้วหันมาคบกับมึงงั้นสิ”
น้ำเสียงของเจษเกรี้ยวกราดทันทีที่ลืมตามาเจอหน้าหนูยิ้ม ที่ตอนนี้ร่างกายของเธอเปลือยเปล่าบนเตียงของเขา บ่งบอกได้ว่าเขาไม่พอใจเธอเป็นอย่างมาก ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสาวของแฟนเขาเอง กลับมานอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับเขาในสภาพน่าสมเพชแบบนี้
“ไม่! ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะเจษ”
“อย่ามาทำเป็นใสซื่อหน่อยเลยยิ้ม กูดูออกว่าผู้หญิงอย่างมึงมันก็แค่ทำตัวเรียบร้อยต่อหน้าเพื่อน แต่ลับหลังกลับอยากจะขึ้นเตียงกับแฟนเพื่อนตัวเอง!”
คำพูดแต่ละคำเสียดแทงราวกับตบหน้าหนูยิ้มซ้ำๆ
จนเธอร้องไห้สั่นระริกไปทั้งตัว
“พอเถอะเจษ!อย่าพูดอะไรแบบนั้นอีกเลยยิ้มขอโทษ”
เจษหัวเราะเย็นชา
“ทำไมรับไม่ได้หรอ? มึงควรจะชินสิ เพราะจากนี้ไป ทุกครั้งที่กูเห็นหน้ามึงกูจะไม่ลืมว่ามึงเป็นผู้หญิงร่าน ”
นั่นคือตราบาปที่อยู่ในใจของหนูยิ้มตั้งแต่วันนั้นมา เธอไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้เลยแต่เพราะความอ่อนแอ บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เธอทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ไม่มีค่าในสายตาของ'เจษ' แถมยังถูกเขาดูถูกเหยียดหยามซ้ำเติมว่าเป็นผู้หญิงร่าน
ย้อนกลับไปคืนที่ผิดพลาด
เสียงเพลงดังภายในผับหรูใจกลางเมือง ล่อลวงหนุ่มสาวให้ลุ่มหลงแสงสีเสียง ไฟหลากสีวูบวาบส่องสะท้อนร่างคนที่กำลังเต้นอย่างสนุกสนาน วันนี้เป็นคืนวันเกิดของ'แพรว'เพื่อนสนิทของหนูยิ้ม ทุกคนในกลุ่มต่างแต่งตัวสวยหล่อมาร่วมฉลอง ทว่า…ภายใต้รอยยิ้มสดใสของ 'หนูยิ้ม' กลับซ่อนความเจ็บปวดไว้แน่นอก
เธอเพิ่งอกหักสดๆร้อนๆจากผู้ชายที่คบหาด้วยมานานเกือบปี ทั้งที่ทำทุกอย่างให้แต่เขากลับไปเลือกผู้หญิงคนอื่น หนูยิ้มจึงยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนใบหน้าแดงซ่านตาพร่าเบลอด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
ตรงมุมหนึ่งของผับ 'เจษ' แฟนหนุ่มของแพรว กำลังยืนคุยกับเพื่อนของเขา ใบหน้าคมคายดูเข้มขรึม แต่แววตาเหลือบมองหนูยิ้มที่กำลังหัวเราะเสียงดัง ทั้งที่สายตาขุ่นมัว เจษไม่เคยชอบเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะหนูยิ้มมักเป็นคนขัดใจ และชอบแซะเขาเวลาอยู่กับแพรว
ทว่าคืนนั้นโชคชะตากลับเล่นตลก…
หลังงานเลี้ยงเลิก แพรวถูกเพื่อนสาวอีกกลุ่มลากไปต่อ หนูยิ้มที่เมาจนยืนแทบไม่ไหวกลับต้องเป็นคนที่'เจษ'อาสาจะพาไปส่ง ด้วยเหตุผลที่ว่า 'เป็นเพื่อนของแฟน' เท่านั้น
“มึงจะดื่มเห*้ยอะไรนักหนาวะยิ้ม!” เจษบ่นพึมพำให้คนตัวเล็กที่ยืนโงนเงนไปมาแทบไม่มีสติหลงเหลือ
“อย่ามายุ่งกับฉัน ปล่อย!”
“มึงเป็นเพื่อนแฟนกูนะ ถ้ากูปล่อยมึงไปสภาพแบบนี้แพรวคงบ่นกูแย่”
รถหรูคันสีดำแล่นเข้าจอดที่คอนโด หนูยิ้มโงนเงนจนล้มลงกับเบาะร่างสูงต้องก้มลงประคอง แต่กลิ่นหอมหวานจากเรือนกายหญิงสาว กลับทำให้สติที่พร่าเลือนของเขาสั่นไหวไปด้วย
“อย่า… อย่ามองฉันแบบนั้น”
หนูยิ้มพึมพำเสียงแหบพร่า ดวงตาขุ่นมัวเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่กักเก็บมานาน แค่เพียงเสี้ยววินาทีที่เผลอ ริมฝีปากของทั้งคู่ก็แตะต้องกันโดยไม่ได้ตั้งใจ และจากนั้นทุกอย่างก็ไหลลื่นไปตามแรงปรารถนาที่ควบคุมไม่อยู่
คนที่พาหนูยิ้มขึ้นไปบนห้องก็เป็นเจษเอง เพราะไม่รู้ว่าห้องเธออยู่ที่ไหน ถามอะไรไปเธอก็ไม่รู้เรื่อง เอาแต่ละเมอถึงชื่อแฟนเก่า ด้วยความที่เจษเองก็เมาเหมือนกัน จึงเลือกกลับมาที่คอนโดตัวเองเพราะไม่อยากขับรถต่อ
พออุ้มเธอมานอนที่เตียงเขาค่อยๆวางเธอลง แล้วดึงผ้าขึ้นมาห่มให้หนูยิ้ม ถึงจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าแต่เธอก็คือเพื่อนของแฟน พอเขาหันหลังให้เธอก็รีบคว้าข้อมือเจษไว้ทันที ดึงเขาลงมาด้วยแรงทั้งหมดที่มี ทำให้เจษล้มลงไปที่เตียงนอนหนูยิ้มพลิกตัวขึ้นคร่อมเจษทันที
“นายใจร้าย ทำไมนายไม่รักฉันบ้างทั้งๆที่ฉันรักนาย”
เสียงหนูยิ้มสะอื้นพร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาไม่หยุด เขายังเสียใจที่โดนแฟนบอกเลิกจนขาดสติ คิดว่าผู้ชายที่นอนอยู่ใต้ร่างของเธอคือ'กฤต' อดีตแฟนที่พึ่งบอกเลิกเธอไปหมาดๆ ส่วนคนที่นอนอยู่ใต้ร่างเธอทำหน้างงๆ แต่ก็ปล่อยให้เธอนั่งคร่อมเขาอยู่แบบนั้น
“พูดอะไรของมึงวะลงไปได้แล้ว ถ้ามึงไม่ลงตอนนี้อย่าหาว่ากูไม่เตือนนะยิ้ม!”
“ไม่ลง!”
มือเรียวเล็กปลดกระดุมเสื้อของเจษทีละเม็ดๆ ทุกครั้งที่นิ้วเธอสัมผัสกับเนื้อเขาเหมือนมีไฟแผดเผาไปทั่วร่าง เขาปล่อยให้เธอปลดกระดุมเสื้อทุกเม็ด แล้วจับเธอพลิกลงข้างล่างแล้วขึ้นคร่อมเธอแทน เจษก้มลงไปสัมผัสริมฝีปากบางของยิ้มเบาๆ ก่อนจะเพิ่มความรุนแรงดิบเถื่อนเข้าไป ด้วยการกัดริมฝีปากล่างของเธอ หนูยิ้มอ้าปากร้องด้วยความเจ็บ แต่มันเป็นการเปิดโอกาสให้เจษสอดลิ้นร้อนเข้าไปไล่ต้อนความหวานในโพรงปากนุ่มของเธอ มือเรียวถอดเสื้อเจษออกจนเปลือยเปล่า เธอหลับตาพริ้มกับรสจูบอันแสนเร่าร้อน ยกมือเรียวมาลูบไล้แผงอกแกร่งสะกิดยอดถันของเขายิ่งเพิ่มแรงปรารถนาในกายเขามากขึ้น
“มึงเลือกเองนะยิ้ม”
เจษผละริมฝีปากออกหยัดตัวขึ้นมองร่างบางที่หอบหายใจใต้ร่าง ก่อนที่เสื้อผ้าทุกชิ้นของทั้งสองคนจะถูกถอดกองไว้ที่พื้น เจษแสดงความพึงพอใจกับร่างบางตรงหน้ามาก สองมือแกร่งยื่นไปบีบขย้ำหน้าอกของหนูยิ้ม จนล้นออกตามง่ามนิ้วมือด้วยแรงบีบ
“อื้ออ~เจ็บบบ~”
เสียงครางหวานเล็ดลอดออกมาจากคนที่สติเลือนราง ยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของเจษให้เตลิดไปไกล เขาก้มลงไปขบเม้มซอกตอขาวจนเกิดรอยแดง มือหนาเลื่อนต่ำลงไปใจกลางความสาวที่ไวต่อสัมผัส ร่างบางยิ่งบิดเร่าด้วยความรู้สึกเเปลกที่แล่นผ่านภายในกาย เธอไม่เคยถูกชายใดสัมผัสส่วนนั้นมาก่อน
“อื้ออ~อย่าจับตรงนั้นนะ มะ..มัน อื้ออ~”
“เสียวหรอ กูทำให้มึงเสียวได้กว่านี้อีก”
ร่างสูงก้มลงไปครอบครองสองเต้าอวบป้อนเข้าปากอย่างมูมมาม มือก็เล่นงานส่วนล่างของเธอไปด้วยก่อนจะยกยิ้มมุมปาก เมื่อรู้ว่าร่างกายเธอตอบสนองเขาแล้ว
เจษค่อยๆจับแก่นกายที่แข็งขืน ถูไปมาตรงจุดอ่อนไหวต่อสัมผัสของเธอ ก่อนที่น้ำใสๆจะไหลเยิ้มออกมา ทำให้ร่างบางสั่นสะท้านทุกครั้ง ที่โดนส่วนปลายหัวแตะลงไป เจษค่อยๆลุกขึ้นไปหยิบถุงยางออกมาสวมใส่อย่างช้าๆ โดยไม่ละสายตาจากเธอเลย
ร่างบางนอนหอบหายใจโรยรินเหมือนคนหมดเรี่ยวแรง เขาคลานเข่าเข้าไปแทรกตรงกลาง ก่อนจะใช้เข่าทั้งสองข้างดันขาเธอให้แยกออกจากกัน มือหนาจับล็อคเอวบางไว้ดึงเข้าหาแก่นกาย ก่อนจะค่อยๆดันเข้าไปจนสุดลำ จน กึ้ด!!ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของเธอ ถึงแม้เขาจะเมาแทบไม่ได้สติ แต่ก็พอจะรู้ว่าเยื่อพรหมจรรย์ของเธอถูกเขาทำลายเป็นคนแรก
“อ๊ายย~เจ็บ~ยิ้มเจ็บ~เอามันออกไปนะ”
“ทนหน่อยสิยิ้ม!”
“ไม่เอา~ยิ้มเจ็บ อื้ออ~ปล่อยยิ้มไปเถอะกฤต ยิ้มขอโทษ”
เธอหลับตากรีดร้องด้วยความเจ็บใจกลางความสาว แต่เธอไม่รู้เลยว่า คนที่พรากความสาวของเธอไปคือเจษแฟนของเพื่อน เจษถึงกับหยุดชะงักมือหนาจับคางเธอบีบเต็มแรง ก่อนจะกระแทกแท่งเอ็นเขื่องเข้าออกสองสามครั้ง ร่างบางเริ่มมีสติอยู่บ้างลืมตาขึ้นมา
“คิดจะปั่นหัวกูหรอยิ้ม?ดูให้เต็มตาสิว่าใครที่กำลังเอากับมึงอยู่”
“เจษ~”
เธอเรียกชื่อเจษออกมาเบาๆ ทำให้ร่างสูงยิ่งกระแทกลำเอ็นเข้าไปอีกหลายครั้ง ร่างบางพยายามผลักอกเขาออกแต่ก็เหมือนจะสู้แรงเขาไม่ได้ ทุกครั้งที่เจษกระแทกกายเน้นลงมาเธอกลับแอ่นรับสัมผัสนั้น เผลอครางออกมาเเทบไม่เป็นภาษา
“ปล่อยยิ้ม..อ๊ะ~อื้ออ~เจษ~ยิ้มเจ็บ”
“ปล่อยหรอ?มึงยั่วกูเองนะยิ้ม แกล้งเรียกชื่อแฟนมึงงั้นหรอ ที่จริงคนที่มึงอยากขึ้นเตียงด้วยคือกูไม่ใช่หรอ มึงครางชื่อกูสิ ครางดังๆไม่งั้นมึงอย่าหวังว่าจะได้ออกจากห้องกู”
เจษจงใจกระแทกลำเอ็นเขื่องเข้าออกอย่างรุนแรง เมื่อเห็นอีกฝ่ายกัดปากไม่ยอมครางชื่อเขาออกมา ยิ่งทำให้เจษไม่พอใจดึงลำเอ็นออกมาถอดถุงยางทิ้ง ยิ้มพอจะมีสติลุกขึ้นรีบคลานหนีเจษแต่โดนเขาล็อคเอวไว้พอดีในท่าคลานเข่า เขากดลำเอ็นเขื่องเข้าไปโดยไร้เครื่องป้องกัน
“อ๊ะ!เจษยิ้มเจ็บ อย่าทำแบบนี้”
“สายไปแล้วยิ้ม แต่กูสัญญาว่ากูจะไม่ปล่อยใน ถ้ามึงครางชื่อกู”