ติ๊ด .... ติ๊ด .... เสียงเครื่องช่วยหายใจอุปกรณ์พยุงชีพต่าง ๆ กำลังทำงานอย่างหนัก หมอน่านน้ำเดินเข้ามาข้างในห้องผู้ป่วย VVIP นั่นก็คือห้องของพี่สาวต่างมารดา ร่างของน้ำเหนือนอนสภาพไม่ไหวติงไม่ต่างจากร่างไร้วิญญาณบนเตียง ที่เต็มไปด้วยเครื่องมือสายระโยงระยางสภาพน่าเวทนายิ่งนัก
“อึก!” เสียงสะอื้นของหมอหนุ่มที่เดินเข้ามากุมมือพี่สาว เขาทั้งรู้สึกอิจฉาและรักพี่สาวคนนี้มาก เพราะตลอดเวลาที่เขาอาศัยชายคาบ้านของพ่อตั้งแต่เก้าขวบจะมีแค่แม่และพี่สาวเท่านั้นที่เข้าใจและเอ็นดู
“พี่ไม่น่าทิ้งทุกอย่างไว้แบบนี้เลย พ่อเขาไม่เคยมองเห็นผมเป็นลูกไม่สิ....เป็นคนแบบเขาด้วยซ้ำคนที่น่าจะนอนอยู่ตรงนี้ควรจะเป็นเขาเสียมากกว่าไม่ใช่พี่น้ำเหนือ”
“ฮึก! ฮือ....พี่ครับผมขอโทษ”
“ต่อไปนี้ผมจะทำทุกอย่างแทนพี่เองนะครับ พี่นอนพักให้สบายรอวันที่น้องชายที่ไม่ได้เรื่องคนนี้กลับมา และจะทำให้พ่อรู้ว่าเขามองผมผิดไป”
หลังจากเช็ดคราบน้ำตาคุณหมอน่านน้ำนายแพทย์ด้านกระดูกและข้อ ที่พ่วงตำแหน่งว่าที่ผู้บริหารโรงพยาบาล H ได้เดินออกมาปฏิบัติหน้าที่ของเขาต่อในฐานะแพทย์ ในใจของเขานั้นครุ่นคิดตลอดเวลาว่าจะเกลี่ยกล่อมแฟนสาวให้ยุติการตั้งครรภ์ และเขาจะให้คำมั่นว่าหลังจากกลับมาจากการไปเรียนต่อเฉพาะทางแล้วจะขอเธอแต่งงานทันที
ทางด้านหมอนุชาหมอเวธัสและหมอสาวเพื่อนร่วมรุ่นอย่างคุณหมอสายรุ้ง ที่กำลังเสร็จจากการราวน์วอร์ดและผ่าตัดช่วยอาจารย์แพทย์นั้นก็ได้มารวมตัวกันก่อนกลับบ้าน
สามหมอได้นัดกันไปปาร์ตี้ที่ร้านประจำสมัยเรียน เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของหมอเวย์ศัลยแพทย์หัวใจที่หล่อเหลาเก่งกาจเป็นที่จับตามองของอาจารย์หมอและคนไข้ เรื่องส่วนตัวบุคลิกก็ไม่เป็นสองรองใครเป็นที่หมายปองของเหล่าหมอและพยาบาลสาวในโรงพยาบาล เรียกว่าฮอทไม่แพ้หมอน่านน้ำและหมอนุชาเลยทีเดียว
“สวัสดีนุเวย์ วันนี้อ่วมเลยผ่าตัดเคสที่สี่คงจะดึกไม่ไหว ยังไงก็สุขสันต์วันเกินนะหมอเวย์ รุ้งมีของขวัญจะให้ด้วยแหละ” หมอเวย์ยิ้มกริ่มในวันเกิดเขาจะมีหมอสายรุ้งและหมอนุชา อยู่ร่วมฉลองอวยพรวันเกิดเหมือเช่นทุกปีหมอคนสวยจะให้ของขวัญเขาเสมอเช่นกัน
“ไม่เห็นต้องลำบากเลยสายรุ้ง”
“ลำบากอะไรกันเล่า นี่มันก็ปีที่เท่าไหร่แล้วนะ” คุณหมอสาวยกนิ้วขึ้นมานับเพราะทั้งสามคนเป็นเพื่อนกัน ตั้งแต่ม.ปลายยันเป็นหมอและทำงานที่เดียวกัน
“รุ้งไม่พอหรอกเอานิ้วเท้าเราไปนับด้วย.....” หมอนุชาที่ติดตลกแกล้งหยอกเพื่อนรักทั้งสองคน
“เดี๋ยวเถอะ ไอ้หมอโรคจิต” หมอเวย์รีบด่าหมอนุชาทั้งสามคนต่างหัวเราะกันอย่างสนุกสนานในวันนี้เป็นวันสำคัญ หมอเวย์กับหมอนุชามีแผนการบางอย่างที่นอกเหนือจากวันเกิดปีนี้เขาอยากได้ของขวัญชิ้นพิเศษมอบให้ตัวเอง นั่นก็คือการสารภาพรักกับหมอสายรุ้ง
Rrrrrrrrrr
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของคุณหมอสาวก็แผดดังขึ้น คุณหมอสาวรีบหยิบมือถือขึ้นมาอ่านดูสายที่โทรเข้ามาทำให้เธอเผลอยกยิ้มที่มุมปากดวงตากลมโตฉายแววเป็นประกายแสดงถึงความดีใจ จนสองหมอหนุ่มเพื่อนสนิทถึงกับลอบมองด้วยความสงสัย จากนั้นก็รีบตัดสายทิ้งไปพร้อมกับล่ำราสองหมอเพื่อนสนิทอย่างรีบร้อน
“เอ่อ เรามีธุระด่วนเดี๋ยวรีบตามไปที่ร้านนะหมอเวย์ วันนี้จะฉลองให้เต็มที่เลยกับมิตรภาพของเรา หมอนุตามหมอเวย์ไปก่อนขอเวลาไม่เกินสองชั่วโมงจ๊ะ”
“ได้ เดี๋ยวสายรุ้ง....เรารอเธอที่ร้านประจำนะวันนี้แต่งตัวให้สวยที่สุดด้วยวันเกิดเวย์ทั้งที” มือหนาจับที่ข้อแขนเล็กรั้งไม่ให้ไปก่อนจะเอ่ยบอกเพื่อนสาว ใบหน้าหล่อเหลาของหมอเวย์ดูท่าทางประหม่าเล็กน้อยเขารู้สึกเก้อเขินที่ต้องทำอะไรแบบนี้ เพราะทั้งหมดเป็นแผนการของหมอนุชาที่อยากจะให้เพื่อนรักทั้งสองคนได้ลงเอยคบกันสักที หลังจากที่รู้ว่าหมอเวย์แอบรักหมอสายรุ้งมานานตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมด้วยกัน
“หือ...โอ๋ ๆ มานี่มา” คุณหมอสาวหันหน้ามาสวมกอดร่างเพื่อนรักอย่างหมอเวย์ เธอนั้นสนิทสนมและรักเขามากเช่นกัน ทว่าตัวเธอเองก็พอจะรู้ว่าหมอเวย์คิดกับเธอแบบไหนแต่นั่นมันกลับยิ่งทำให้เธอกังวล เพราะไม่อยากหักหาญน้ำใจเพื่อนสนิทและตัวเธอเองก็รักกับหมอหนุ่มรุ่นพี่อย่างหมอน่านน้ำไปแล้ว
“มาให้ได้นะสายรุ้งเราจะรอ....” เสียงนุ่มทุ่มกระซิบบอกข้าง ๆ หูของเพื่อนสาว เขาดีใจและสวมกอดเธอกลับหมอนุชาที่ยืนดูอยู่เขายิ้มและดีใจคิดว่า วันนี้สถานะของเพื่อนทั้งสองคงขยับเลื่อนขั้นมาเป็นคู่รักอย่างแน่นอน
“จ๊ะ เดี๋ยวเจอกันนะ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีและในทุก ๆ ปีจะมีเราอวยพรวันเกิดให้หมอเวย์เสมอ.... ขอบคุณนะที่ยอมเป็นเพื่อนกับเราเด็กนักเรียนทุนจน ๆ จากบ้านเด็กกำพร้าคนนี้ และก็หมอนุชาด้วยขอบคุณนะที่มาเป็นเพื่อนกับสายรุ้ง”
(“..........”)
ทั้งสามคนยิ้มให้กันมิตรภาพที่สวยงามเรื่องราวความทรงจำของทั้งสามคนนั้น มากมายหมอเวย์และหมอนุชาที่ฐานะร่ำรวยทุกอย่างแตกต่างจากหมอสายรุ้งมาก
เพราะความต่างนี้ไม่มีใครในโรงเรียนมัธยมดัง ยอมเป็นเพื่อนกับเธอเนื่องจากยากจนลูกหลานที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้ต่างมาจากตระกูลที่ร่ำรวย มีแค่เพียงหมอสายรุ้งที่เป็นนักเรียนทุนเธอเป็นเหมือนแกะดำในโรงเรียน โดนเพื่อนล้อและไม่มีใครกล้าคบกับเธอจะมีแค่สองหมอหนุ่มเท่านั้นที่ไม่สนใจและรังเกียจ ทั้งสามคนเลยเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่นั้นเรื่อยมา
ทันทีที่คุณหมอสาวเดินจากไปหมอเวย์ได้แต่มองตามแผ่นหลังเล็กของเพื่อนสาวไป ท่าทีของเธอนั้นดูเร่งรีบคงมีธุระสำคัญอย่างที่เจ้าตัวบอก สายตาอ้อยอิ่งของเขา ที่ไม่มั่นใจว่าวันนี้จะเสียเพื่อนรักไปเพราะเพียงความรู้สึกที่อัดแน่นข้างใน อยากจะครอบครองสมหวังในรักข้างเดียวมาแสนนาน แต่ถึงอย่างนั้นแม้จะไม่สมหวังแต่มันก็ดีเสียกว่าเก็บเอาไว้เพียงลำพังเพราะความรู้สึกที่มีมันล้นในอก
เขาไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนไหนเพราะเธอ.... วันนี้จึงตัดสินใจยอมเสี่ยงสารภาพให้รับรู้ไป เพราะหมอสายรุ้งก็ไม่ได้มีแฟนหรือคุยกับผู้ชายคนไหนเท่าที่รู้จักกันมาหลายปี หากเขาไม่สมหวังแม้เธอจะปฏิเสธเขาก็น้อมรับยินดีที่จะขอดูแลเธอต่อไปในฐานะเพื่อนก็ไม่เสียหาย
“หมอเวย์อดทนอีกนิดนะเพื่อน หมอสายรุ้งคงพิจารณาคนอย่างมึงว่ะเธอต้องรับรักแน่ ๆ เพื่อน” มือหนาของหมอนุชาแตะไปที่ไหล่ของเพื่อนรักพร้อมตบเบา ๆ ให้กำลังใจ เพราะรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันที่หมอเวย์จะเปิดใจในวันเกิดของตัวเอง
“เออขอบใจว่ะ ตัวต้นเรื่องก็มึงนะไอ้หมอนนุถ้ากูอกหักมึงช่วยดามไหมล่ะสัด!”
“เหอะ! อกหักมึงก็ให้หมอออโธดามสิ นั่นไงพูดถึงก็มาเลย หมอน่านน้ำเดินเร็วขนาดนี้รีบไปไหนของเค้าวะ” ท่าทีที่เร่งรีบของหมอน่านน้ำเขาเดินจ้ำอ้าวไปกดลิฟต์ โดยไม่ทันสังเกตเห็นสองหมอที่กำลังมองเขาอยู่
“ชิ! ไม่ตลกไอ้หมอรุ่นพี่ลูกเจ้าของโรงพยาบาลนั้นน่ะเหรอ พวกเสแสร้งทำตัวดีเป็นพ่อพระปั้นหน้าเก๊กหล่อไปวัน ๆ กูไม่ชอบขี้หน้ามันว่ะ”
“เฮ้ย ๆ นั่นลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเชียวนะเว้ย! อนาคตผู้บริหารที่นี่มึงก็รู้”
“แล้วไง มันไม่ได้มีโรงพยาบาลเดียวปะว่ะ กูจะเปิดเองก็ยังไหว ”
“เออรู้แล้วครับท่าน รู้ว่ารวยตั้งแต่เกิดคุณหมอเวธัส ลูกชายนักการเมืองใหญ่กับคุณหญิงเจ้าของแบรนด์เพชรชั้นนำ”
“เหอะ! ว่าแต่กูพ่อแม่มึงก็ธรรมดาที่ไหนบ้านเช่าอสังหาธุรกิจร้านอาหารที่อเมริกา รองเท้าเสื้อผ้าที่กูใส่ก็แบรนด์ตระกูลมึงทั้งนั้นไอ้หมอนุ”
“แฮร่ ๆ ก็จริงของมึง”
“มึงไปก่อนนะกูลืมเอกสาร เดี๋ยวตามไป” หมอเวย์ที่ต้องรีบไปเก็บเอกสารเพื่อเตรียมงานของวันต่อไป เขารีบเดินขึ้นไปที่ตึกจึงบอกให้เพื่อนเดินทางล่วงหน้าไปก่อน
“เค เดี๋ยวสองทุ่มเจอกันที่ร้านเดิมนะเว้ย!”
“อือ”
ระหว่างที่เดินไปเอาเอกสารที่ห้องทำงานเขาก็เห็นว่าลิฟต์นั้นไม่ว่าง ด้วยความเร่งรีบหมอเวธัสจึงเลือกใช้การเดินเท้าขึ้นบันได เพราะห้องทำงานของเขาอยู่ชั้นไม่สูงมากและถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว จึงถือโอกาสนี้เดินขึ้นไปในใจก็ตื่นเต้นที่จะรอคอยเวลานัดหมาย คำพูดมากมายที่เขาอยากจะบอกเพื่อนสาวที่ตนนั้นแอบหลงรักมาเนิ่นนานแรมปี
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าของคุณหมอที่จังหวะมั่นคงเดินขึ้นไปเขาก็สะดุด เมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนเล็ดรอดออกมาจากประตูทางเดินหนีไฟ เพราะทางบันไดนี้ไม่ค่อยมีคนไข้หรือหมอใช้สักเท่าไหร่และในตอนนี้ก็มีเพียงแค่เขาเท่านั้น
“อ๊ะ! พี่หมออย่าซนสิคะ” เสียงครางหวานออดอ้อนเล็ดลอดออกมาหลังประตูของบันไดหนีไฟ หมอเวธัสตกใจเพราะเสียงนี้มันคุ้นหูมาก
กึ๊ก!
ร่างสูงรีบหยุดชะงักเขาตกใจเพราะเสียง ๆ นี้มันช่างคุ้นเคย และเขาจดจำได้ดีว่าเจ้าของเสียงหวานนี้เป็นใคร ด้วยความสงสัยหมอหนุ่มที่ใจเต้นโครมครามราวกับว่ามันจะทะลวงออกมาจากอกเสียให้ได้ ถือวิสาสะเพราะต้องการพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้หูแว่วคิดไปเองเพราะเพลียจากการทำงานหนัก จึงค่อย ๆ แนบหูฟังราวกับว่าเขาเป็นพวกถ้ำมองชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน
“อ๊า อย่าค่ะ เดี๋ยวคนก็มาเห็นเข้า”
“ไม่หรอก ไม่มีใครใช้ทางเดินแถวนี้เชื่อพี่”
หลังจากมั่นใจว่ามีคนกำลังพลอดรักกันอยู่ข้างในหมอเวธัสที่ทั้งตัวเหงื่อเริ่มผุด ใบหน้านั้นซีดเผือดขาวโผลนเขาลังเลอยู่นานว่าสมควรจะแอบดูหรือไม่ ถ้าหากเสียงนั้นไม่ใช่เสียงของคนที่คุ้นเคยที่เขากำลังคิดว่าคือใครเขาจะไม่เสียมารยาททำการถ้ำมองแบบนี้ คุณหมอหนุ่มแพทย์ประจำบ้านศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก จึงเอื้อมมือที่สั่นเทาค่อย ๆ บิดลูกบิดช้า ๆ จากนั้นก็สอดสายตาเข้าไปดู
ปึก! ปึก!
“อืมมม...”
ภาพที่เห็นเพียงแผ่นหลังระหว่างชายหญิงที่สภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย เรียวขาเล็กหันหน้าเข้ากับกำแพงสองมือของเธอนั้นค้ำยันผนังเอาไว้ร่างบางถูกซ้อนทับกับร่างสูงของชายผู้นั้น
ส่วนมือหนาที่กอบกุมเนินอกนิ่มบีบเค้นมันอย่างบ้าคลั่ง กระโปรงที่ถูกถลกขึ้นสูงรั้งเอวคอดมือหนาที่จับเอวบางแน่นกระหน่ำกระแทกบั้นท้ายงามงอนครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นจังหวะเสียงดังสนั่นทั้งคู่อยู่ในห้วงอารมณ์เสน่หาเข้าด้ายเข้าเข็มกันอย่างถึงอกถึงใจ โดยไม่รู้ตัวว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองการกระทำบัดสีนี้อยู่
“ซี๊ดส์ ! สายรุ้งเธอนี่มันถึงใจพี่ชะมัด อ๊า....ให้ตายเถอะ”
“อื้อ พี่น่านน้ำเบา ๆ ค่ะ จุกไปหมดแล้วนะ คนบ้า อร๊าย!”
ปึก ! ปึก!
เอวสอบที่ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเสียงครางระรมบ่งบอกถึงความพึงพอใจ สลับกับเสียงเนื้อที่กระทบกันสั่นห้องภาพที่เห็นทำเอาหมอเวธัสถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เขาแทบจะหยุดหายใจเหมือนมีรถบรรทุกวิ่งผ่านเข้ามาชนจนโลกมืดดับไป
ทุกอย่างมืดสนิทตัวชาหน้าชาไม่อาจเคลื่อนไหว ทำได้แต่ปล่อยให้หยดน้ำที่ล้นออกมาจากดวงตาคมกริบนั้นรินไหลลงมาซับบาดแผลสดที่อยู่ตรงหน้า แม้ใจอยากจะเข้าไปกระชากร่างทั้งสองให้แยกออกจากกัน แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรแบบนั้นเพราะสถานะของเขาเป็นได้แค่เพื่อน
“หึ! ช่างกล้าทำสายรุ้ง....หมอน่านน้ำ”
หลังจากเรียกสติกลับคืนมาหมอเวธัสจึงปิดประตูลง ปล่อยให้หมอสายรุ้งและหมอน่านเล่นบทรักเริงสวาทกันให้สมใจ ร่างสูงทรุดตัวลงช้า ๆ สองมือกุมขมับนั่งก้มหน้าร้องไห้ และใช้มือนั้นทุบอกแกร่งของตัวเองเขาแทบจะขาดใจตายตรงนี้
ในสมองขาวโพลนว่างเปล่าตกตลึงกับสิ่งที่เห็นเมื่อสักครู่ ทั้งภาพและเสียงที่ชัดเจนตรงหน้าคิดไม่ถึงเลยว่า หมอสาวเพื่อนสนิทจะลักลอบมีความสัมพันธ์กับหมอรุ่นพี่ โดยที่เขานั้นไม่รู้มาก่อนและที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นผู้ชายที่เธอนั้น กำลังมีสัมพันธ์คือคนที่หมอเวธัสไม่ถูกชะตาเอาเสียเลย
“ทำไม….สายรุ้งทำไมต้องเป็นไอ้น่านน้ำด้วย ฮือ....”
“ฉันช้าเกินไปใช่มั๊ย หรือว่าเธอไม่เคยจะใจตรงกัน”