4.เด็กในปกครอง

2534 Words
4.เด็กในปกครอง “วันนี้ไปร้านเหล้าหลังมอกัน” เป็นอีกครั้งที่เสียงของเพื่อนดังแทรกเข้ามาในขณะที่ฉันกำลังกดพิมพ์ต๊อกแต๊ก “ไปเป็นเพื่อนหน่อย” “ไม่เอา จะทำงาน” “ไปเป็นเพื่อนหน่อย” เจนย้ำอีกครั้ง ไม่เท่านั้นยังเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ แล้วกอดแขนฉันไว้อีกต่างหาก “แกทำให้ฉันเสียการเสียงาน” ถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ถ้าเพื่อนมาเวย์นี้ก็แพ้นั่นแหละ “วันเดียวเอง ต่อไปก็พักยาว ๆ แล้ว” “เห็นพูดแบบนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่ง” ฉันกับเจนเพิ่งมารู้จักกันก็ตอนปีหนึ่งในช่วงรับน้อง เราคุยกันถูกคอก็เลยคบกันเป็นเพื่อนยาว ๆ และมาจบที่เช่าคอนโดฯ อยู่ด้วยกัน เพียงแค่นอนคนละห้องเท่านั้น “คราวนี้จริง ๆ แล้ว โดนแม่หักเงินค่าขนม” น้ำเสียงบ่งบอกได้เลยว่าโดนหักค่าขนมจริง ๆ “ถ้ายังเที่ยวเตร่แบบนี้ มีหวังโดนสั่งให้กลับไปอยู่บ้านแน่” “วันนี้ก็เลยจะเที่ยวอำลาว่างั้น?” ฉันถามขำ ๆ นาน ๆ ทีจะเห็นเจนสลดแบบนี้ ปกติก็เปรี้ยวตลอด กลัวอะไรที่ไหน “ก็ประมาณนั้น” เธอพยักหน้า ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง “ไปนะ” “อือ ไปก็ไป” ฉันใช้เวลาอยู่กับงานตัวเองสักพักก็ไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เลือกใส่ชุดเดรสรัดรูป แต่ก็ไม่ได้โป๊มาก ก็แค่เดรสคอเหลี่ยมแขนยาวธรรมดา ส่วนหน้าก็แต่งนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากเพราะยังไงก็ใส่แว่นตาอยู่ดี “โป๊ไปไหม” ว่าแล้วก็หมุนตัวให้เพื่อนดู “ฉันว่ามันรัดนมไป” “ใส่แบบนี้แหละ ไปร้านเหล้ามันเป็นเรื่องธรรมดา” เจนที่กำลังรีดผมอยู่ก็ตอบขึ้น ไม่เท่านั้นยังทำหน้าล้อเลียนอีกต่างหาก “เป็นปีแล้วมั้งที่ไม่เห็นแกแต่งอะไรแบบนี้ คืนนี้จะได้ผู้ปะวะ” “ไม่ได้หรอก แค่แต่งไปเฉย ๆ ให้เกียรติสถานที่เขาหน่อย” ถ้าจะใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนขาสั้น แล้วก็อีแตะมันก็ดูจะชิลไป แต่งเพิ่มอีกนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่เป็นไรหรอก “แบบนี้แหละสวยแล้ว ผู้ชายจะได้เลิกมองว่าแกเฉิ่มสักที” พอได้ยินคำว่า ‘เฉิ่ม’ หน้าพี่ปายก็ผลุดขึ้นมาในสมอง ไม่มีใครเรียกฉันบ่อยจนเป็นฉายาเหมือนกันกับเขาอีกแล้ว แต่เขาก็แกล้งนั่นแหละ รู้อยู่ ก็เลยไม่ได้โกรธอะไร เล่าก่อนว่าที่ฉันโกหกพี่ปายว่า ‘ตด’ เขาก็ไม่ได้ซักถามเรื่องอื้อ ๆ อ้า ๆ อีก คงจะเอือมระอานั่นแหละ ก็เลยไม่พูด ฉันก็เลยลอยนวลปล่อยเบลอให้มันจบไป “ไม่ต้องใส่เสื้อกันหนาวก็ได้มั้ง” เจนพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นฉันหยิบเสื้อแขนยาวขึ้นมาใส่ “แต่งตัวออกจะสวย แกจะปิดทำไม” “เดี๋ยวค่อยไปเปิดทีหลังไง ตอนนี้ก็อำพรางไปก่อน” ว่าจบก็ส่องกระจกอีกนิดหน่อยก็หันไปหาเจนอีกครั้ง “ไปเหอะ พร้อมแล้ว” ร้านเหล้าหลังมอ เราใช้เวลาสักพักก็มาถึงร้านเหล้าหลังมอที่เจนนัดกลุ่มเพื่อนเอาไว้ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นเพื่อนผู้หญิงในมอ ที่ไหนได้แก๊งเดิม แถมมีผู้ชายหน้าแปลกโผล่มาสองคนอีกต่างหาก “ไอ้เฉิ่มออกจากรูด้วยเว้ย” ไม่ต้องให้บอกใช่ไหมว่านี่คือเสียงใคร เรียกแบบนี้มีคนเดียวนั่นแหละ “พี่ปายอย่าแซวมัน เดี๋ยวมันชวนเจนกลับห้อง” “วันนี้กูมาถูกวันว่ะ มีสาวมาแจมด้วย” ผู้ชายคนนึงที่ฉันไม่รู้จักพูดขึ้น ไม่เท่านั้นยังเลื่อนเก้าอี้ออกให้อีกต่างหาก “นั่งสิน้อง” “ไอ้คินมึงไปนั่งข้างไอ้โอ ให้ไอ้เฉิ่มมานั่งข้างกู” พี่ปายจัดแจงที่ให้ใหม่ด้วยสีหน้าเข้ม ๆ จนฉันกับเจนมองหน้ากันอย่างงง ๆ และพี่คินก็ยอมทำตามโดยการย้ายไปนั่งข้างคนที่ชื่อโอ ส่วนฉันก็ถูกดันให้ไปนั่งข้างพี่ปาย “ไอ้ปายมึงหวงเด็กเหรอวะ” ผู้ชายอีกคนที่นั่งข้างพี่โอพูดขึ้น “หวงดิ ไข่ตุ๋นเป็นเด็กในปกครองกู” ได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองหน้าพี่ปายทันที ไม่ได้มองอะไรนะ มองที่เขาเรียกฉันว่า ‘ไข่ตุ๋น’ เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เขาเรียกชื่อกัน “ชื่อไข่ตุ๋นเหรอ…น่าอร่อย” “ห้ามยุ่ง” เป็นพี่ภีมที่พูดขึ้นบ้าง สีหน้าก็ยังนิ่งเรียบอยู่เหมือนเดิม สงสัยจะเห็นพี่ได๋สะกิดก็เลยเอ่ยปากออกมา เพราะปกติพี่ภีมปากหนักจะตาย หน้าโหดด้วย เหมือนผู้ชายดุ ๆ ยังไงก็ไม่รู้ “อย่าบอกนะว่าเป็นเด็กไอ้ปายจริง ๆ” พี่โอยังคงมองหน้าฉันสลับกับพี่ปายไปมา “ไอ้ปายมึงลดสเปคเหรอวะ” “พูดแบบนี้หมายความว่าไงอะพี่” เจนที่นั่งข้างพี่คินพูดขึ้นบ้าง “ลดสเปคคือไร?” “เออ มึงพูดอะไรให้เกียรติผู้หญิงหน่อย” ส่วนเสียงนี้ก็คือเสียงของคนที่นั่งข้างกายฉันเอง ฉันที่เห็นทั้งโต๊ะกำลังเข้าสู่บรรยากาศอึมครึมก็รีบพูดขึ้น “ใจเย็นนะ หนูไม่ใช่เด็กใคร อีกอย่างพี่ปายก็มีแฟนแล้ว พูดแบบนี้เดี๋ยวแฟนพี่ปายก็เข้าใจผิดหรอก” “งั้นสนใจมาเป็นเด็กพี่ไหม” ผู้ชายข้างกายพี่โอพูดขึ้นด้วยสีหน้ายียวน “พี่ชื่อตั้มนะ ยินดีที่ได้รู้จักน้องไข่ตุ๋น” “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ฉันมองพี่ตั้มกับพี่โอผ่านแว่นกรอบหนา “ส่วนเรื่องเด็กใครอะไรนั่น หนูขอผ่านดีกว่า ไม่อยากให้พวกพี่ต้องมาลดสเปคเพราะหนู” “น้องก็บอกมันไปดิว่าจะเป็นแค่เด็กเสี่ย ไม่เป็นเด็กเหี้ย” พี่คินพูดขึ้นต่อจากฉัน แน่นอนว่ามันเรียกสีหน้าอึมครึมของผู้ชายสองคนนั้นได้เป็นอย่างดี “มึงว่าพวกกูเหรอไอ้คิน?” “ไม่เอาน่า…กูก็แค่หยอก เห็นมึงหยอกไข่ตุ๋น กูก็อยากหยอกมึงบ้าง” “พอ ๆ แดกเหล้าต่อ ชงให้สาว ๆ ด้วย” พี่ได๋พูดขึ้นห้ามทัพ “ของไข่ตุ๋นไม่ต้องใส่เหล้าเยอะ เดี๋ยวเมา” พี่ปายคุยกับพี่เดย์ที่เป็นคนชงเหล้าให้ฉันกับเจน เพียงเท่านั้นก็เรียกรอยยิ้มของพี่เดย์ได้ “มึงเลี้ยงเด็กเหรอไอ้ปาย” “เออ” “หนูเป็นคนเสนอขอเป็นเด็กพี่ปายเอง เด็กแบบเป็นน้องอะค่ะ หนูอยากมีพี่ชายรวย” ไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจไปในทางที่ผิดก็เลยอธิบาย ถ้าจะให้พี่ปายอธิบายก็คงยาก เพราะเขาไม่คิดอะไรนั่นแหละก็เลยไม่อธิบายอะไร “แล้ววันนี้ทำไมถึงออกจากห้องได้ เจนเอาอะไรขุด” พี่ปายหันมาพูดกับฉันบ้าง ที่เขาถามแบบนั้นก็เพราะเห็นฉันไม่ค่อยออกจากห้อง เวลาที่เขาทักมาคุยด้วยทีไร ฉันก็บอกแค่ว่าอยู่ห้องตลอด วันนี้เห็นฉันที่ร้านเหล้าก็คงแปลกใจ “ไม่มี” ฉันส่ายหน้าดุ๊กดิ๊ก “หนูเบื่อห้องก็เลยหนีตามเจนมา” “พูดเหมือนหนีตามผู้ชายเลยนะเฉิ่ม” เขาอมยิ้มเหมือนขำกัน แล้วใช้สายตาคมกริบมองมาที่เสื้อกันหนาวของฉัน “แล้วไม่ร้อนหรือไง ทำไมไม่ถอดออก” “ลืม” พูดแค่นั้นก็ถอดเสื้อกันหนาวออกเพราะเริ่มรู้สึกร้อน ถ้าพี่ปายไม่ทักก็ลืมไปเลยนะเนี่ย “ว้าว น้องไข่ตุ๋นไม่ได้เฉิ่มเหมือนที่มึงเรียกนะไอ้ปาย” พี่ตั้มพูดขึ้นพร้อมกับมองหน้าอกของฉันอย่างเปิดเผย ฉันที่กำลังจะเอาเสื้อแขนยาวขึ้นมาปิดก็มีเสื้อยีนเย็น ๆ พาดลงมาซะก่อน “ถ้ามึงยังพูดเหี้ย ๆ แบบนี้ก็กลับบ้านมึงไป ไม่งั้นก็แยกโต๊ะ” พี่ปายพูดขึ้นเสียงเข้ม ใช้สายตาคมกริบมองสองคนนั้นเหมือนพร้อมที่จะลุกทุกเมื่อ ส่วนมือก็กระชับเสื้อที่พาดอยู่บนตัวฉันแน่น “ใส่เสื้อพี่” เพราะได้ยินเสียงเข้ม ๆ บวกกับชุดมันรัดนมจนเห็นเป็นเต้ากลมก็เลยยอมใส่เสื้อยีนของพี่ปายแต่โดยดี ที่เลือกใส่ของเขาก็เพราะมันไม่ค่อยร้อน ถ้าใส่ของตัวเองก็เตรียมเหงื่อแตกได้เลย “กูว่าพวกมึงแยกกันก่อนที่มันจะเละดีกว่า” พี่เดย์เอ่ยปากขึ้นอีกคน มองหน้าพี่ปายสลับกับสองคนนั้นด้วยสายตานิ่ง ๆ “พวกกูไปก็ได้ แค่พูดนิดพูดหน่อยทำเป็นโมโห” พี่โอพูดด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร แล้วย้ายสายตามามองฉันบ้าง “แล้วเจอกันใหม่นะน้องไข่ตุ๋น” ว่าจบก็เดินออกไปทันที ตอนนี้ทั้งโต๊ะก็เลยเหลือแค่กลุ่มแก๊งเดิมที่เคยเจอวันนั้น ที่จริงหน้าพวกเขาโหดเถื่อนมากเลยนะ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสุภาพบุรุษได้ “เอ้า ๆ แดกต่อ” พี่คินพูดดึงบรรยากาศที่อึมครึมกลับมา ทั้งโต๊ะก็น่าจะมีเขานี่แหละที่ยังมีสีหน้าดี ๆ เหมือนสนุกไปกับทุกเรื่องยังไงก็ไม่รู้ “พวกหนูมาทำให้พวกพี่เสียบรรยากาศไหมเนี่ย” เจนพูดขึ้นพร้อมกับมองไปรอบ ๆ โต๊ะ แล้วหันหน้ามาหาฉัน “ทีหลังไม่ต้องแต่งตัวแล้วนะไอ้ตุ๋น ผู้ชายแย่งกันแล้ว” “เออ ทีไปบ้านเฮียแต่งตัวอย่างกับแม่ลูกอ่อน” แม่ลูกอ่อน… ว้อท? “แม่ลูกอ่อนอะไร หนูเพิ่งยี่สิบเองนะ” อดที่จะมองค้อนพี่ปายไม่ได้ พูดออกมาได้ไงว่าฉันเหมือนแม่ลูกอ่อน วันนั้นก็หาว่าฉันเหมือนผีหลอก ขอเก็บคำชมที่ว่า ‘สุภาพบุรุษ’ คืนนะ ไม่ปลื้มแล้ว!! “ไอ้เฉิ่ม” จากหน้าตึง ๆ เมื่อกี้ก็ยิ้มออกมา แถมยังวางมือใหญ่ของตัวเองลงบนหัวพร้อมกับโยกไปมาแผ่วเบา “ทำไมเฉิ่มแบบนี้วะ” “ใครบอกว่าหนูเฉิ่ม หนูไม่ได้เฉิ่ม!!” เริ่มจะโมโหแล้วนะ “เฉิ่ม…” เขาก็ยังลอยหน้าลอยตาล้อเลียนฉัน จนกระทั่งพี่เดย์พูดขึ้น “มึงหยอกไข่ตุ๋นคิดอะไรไหมไอ้ปาย” เป็นคำถามนั่นแหละ แต่หน้าดันยิ้ม “เฉิ่ม ๆ เซ่อ ๆ แบบนี้กูจะคิดอะไรได้” เขาแสดงสีหน้าอ่อนโยนออกมา “กูก็เอ็นดูเหมือนน้อง” “ดี ๆ มีพี่ชายรวยขนาดนี้ หนูยอม” “กูว่าน้องมึงไม่ได้เฉิ่มหรอกไอ้ปาย” พี่ภีมที่นั่งกินเหล้าเงียบ ๆ พูดขึ้นบ้าง เขาจับจ้องหน้าฉันเหมือนกำลังตลกอะไรสักอย่าง “ใช่ เพื่อนหนูไม่ได้เฉิ่มสักหน่อย พี่ไม่รู้จักของแซ่บซะแล้ว” เจนรีบพยักหน้าให้กับคำพูดของพี่ภีมถี่รัว “ของแซ่บนะรู้ไหม” “แซ่บ?” “ใช่ ของแซ่บ” ว่าแล้วลอยหน้าลอยตาตอบคำถามของพี่ปาย “หนูไม่ได้เฉิ่มสักหน่อย” “งั้นมาดวลเหล้ากันคืนนี้ ถ้าเมาแล้วไม่รั่วแสดงว่าแซ่บจริง แล้วพี่จะเลิกเรียกว่าเฉิ่ม” แก้วเหล้าที่อยู่ตรงหน้าถูกเลื่อนมาหาฉัน เขายกยิ้มขึ้นอย่างท้าทาย แต่ก็แววตาก็ยังสื่อออกมาว่าเอ็นดูฉันอยู่ เห็นแบบนั้นก็เลยตอบรับเสียงดัง “จัดไป!!” หลังจากนั้นเราก็ดวลเหล้ากันชนิดที่ว่าซดไม่ยั้ง มีเท่าไหร่เอามาให้หมด แต่ไม่ได้ดวลแค่ฉันกับพี่ปายหรอก คนอื่น ๆ ในแก๊งก็ยกประชันไม่ต่างกัน เราสลับวนเวียนกันยกอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะฉันกับไอ้เจนที่โดนยุยงโดยพี่คินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ‘น้องอย่าไปยอม ซดอีก’ ‘น้อง ไอ้ปายมันหมดแก้วอีกแล้ว’ ‘น้องอย่าอ่อนดิ เพื่อนพี่มันมองเยาะเย้ยแล้วเห้ย’ อะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด และตอนนี้เราทั้งคู่ก็เมาไปแล้วเรียบร้อย “ไหวไหมเห้ย” เสียงขำขันของพี่ปายดังขึ้นใกล้หู “ไหว…ไปเต้นกันปะ” ฉันพยักหน้าหงึกหงักแล้วเขย่าแขนพี่ปายเพื่อชวนเขาไปเต้น “แข่งเต้นกันเปล่า” “สภาพนี้ยืนให้ไหวเถอะไอ้เฉิ่ม” “อยากเต้นอะ” งอแงขึ้นเสียงดัง ตอนนี้รู้สึกเหมือนสายตาฟ่าฟางไปแล้วเรียบร้อย เหมือนพี่ปายมีสามร่างซะด้วย “ถอดเสื้อให้หน่อย ร้อน” “ถอดทำไม ใส่ไว้แบบนั้นแหละ” เขากระจับเสื้อให้แน่นขึ้นเมื่อฉันกำลังจะดึงเสื้อออก “ไอ้เจนไปเต้นกันไหม” ไม่สนใจการกระทำนั้นแล้วหันไปหาเจนที่นั่งเมาอยู่ข้าง ๆ “ไม่ได้เต้นนานแล้ว” “เต้นนี่แหละ ออกไปข้างนอกอันตราย” “เอาแบบที่ไอ้ได๋ว่านั่นแหละ เต้นที่โต๊ะก็ได้” คนข้างกายสนับสนุนคำพูดของพี่ได๋ “เฉิ่ม ๆ แบบนี้เดี๋ยวโดนฉุดไปหรอก” “ก็บอกว่าไม่ได้เฉิ่ม!!” แหวขึ้นเสียงดัง “ไม่เฉิ่มได้ไง ดูสภาพตัวเองบ้าง” “ไอ้ตุ๋นพิสูจน์ให้เขาเห็นไปเลยว่าแกไม่ได้เฉิ่ม!!” เจนพูดขึ้นเสียงดังไม่ต่างกัน เพียงเท่านั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะลอยมา เพราะโดนท้า โดนว่า ก็เลยทำให้อารมณ์พุ่งสูงแล้วตอนนี้ “จัดไป!!” “มิวสิคมา!!” สิ้นสุดเสียงของเพื่อนก็ถอดเสื้อของพี่ปายออก แล้วโชว์ลีลาท่าเต้นสุดฮอตที่ดูมาจากยูทูป พยายามทำตัวอ่อนที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยมีเสียงเพื่อนเชียร์ไม่ห่าง “ลม…พัดตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง” และเมื่อได้ยินเพลงนี้ก็กระดกเอวไปตามจังหวะเพลงทันที ไม่รู้หรอกว่าเซ็กซี่หรือขายขำ แต่ก็ใส่จนสุดแรงเกิดเหมือนกัน ยังไงวันนี้ก็ต้องเกิด!! ทุกคนต้องหยุดเรียกฉันว่าไอ้เฉิ่ม!! “เห้ย ๆ เดี๋ยวเอวหัก” “ไอ้สัสโคตรจี้” “หนูบอกแล้วว่าเพื่อนหนูแซ่บ” เจนหัวเราะขึ้นเสียงดังไม่ต่างจากคนอื่น ๆ ในกลุ่ม ส่วนฉันก็พักยกเพราะรู้สึกเหนื่อย แล้วหันไปหาพี่ปายด้วยใบหน้าเมา ๆ “เห็นยังว่าหนูไม่ได้เฉิ่ม” “เฉิ่มอยู่ดี” แล้วนิ้วเรียวยาวก็เคาะลงที่กรอบแว่นของฉัน “งั้นเอาใหม่ คราวนี้ไม่เฉิ่มแล้ว” “พอ ๆ เดินแทบจะไม่ตรงทางอยู่แล้ว” พี่ปายจับให้ฉันนั่งลงเหมือนเดิมเมื่อเห็นฉันจะออกสเต็ปเต้นอีกครั้ง ด้วยความที่เมา ๆ ก็เลยทิ้งตัวนั่งลงอย่างง่ายดาย ก่อนที่จะพูดขึ้นแล้วทำให้คนทั้งโต๊ะแตกตื่น “จะอ้วก…”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD