บทที่4.2

1136 Words
เคิร์กขมวดคิ้วตอนที่ถามออกไป เพราะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยบทสนทนาระหว่างทั้งคู่จึงเป็นไปอย่างสนิทสนม ไม่ได้เป็นบทสนทนาที่ดูเป็นทางการนัก แม้ว่าตอนนี้เอมิลี่จะอยู่ในฐานะผู้จัดการของเคิร์กก็ตาม “ช่วงบ่ายมีงานด่วน” “งานด่วนอะไรของเธอ” “ถ่ายแบบเสื้อผ้า” “ไม่ ฉันไม่ถ่าย” เคิร์กปฏิเสธเสียงแข็ง “แต่ฉันรับงานไปแล้วยังไงนายก็ต้องถ่าย” “ไม่” เคิร์กยังยืนยันคำเดิม “เอ๊ะ ฉันบอกว่าถ่ายก็ต้องถ่ายสิ ฉันเป็นผู้จัดการของนายนะ นายเป็นคนอนุญาตฉันเองนะเคิร์กว่าให้ฉันรับงานให้นายได้ตามความเหมาะสม ถ้าไม่เชื่อกลับไปอ่านในหนังสือสัญญาได้” “เฮอะ” ได้ยินแบบนั้นเคิร์กก็อดแค่นเสียงขึ้นจมูกไม่ได้ “เธอรับงานให้ฉันเหมือนฉันมีหนี้ท่วมหัวเกินไปแล้วนะเอ็ม ทั้งๆ ที่ฐานะของฉันไม่ได้ใกล้เคียงแบบนั้นเลย” “ใช่ นายไม่ได้ร้อนเงิน แต่ฉันร้อนเงินไง” “ฮึ” “นะเคิร์กนะ ฉันรับปากเค้าไปแล้วด้วย” เมื่อไม้แข็งไม่ได้ผลเอมิลี่จึงลองเปลี่ยนมาใช้ไม้อ่อนดูบ้าง ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะได้ผลดีเลยทีเดียว เพราะท้ายสุดเคิร์กก็ตกปากรับคำ “ก็ได้ แต่นี่เป็นงานสุดท้ายที่ฉันจะรับในช่วงพักผ่อนแบบนี้นะเอ็ม ถือว่าขอเถอะ” “โอเคเลย” “เฮอะ เธอก็พูดแบบนี้ทุกที” “เห็นแก่เพื่อนที่เกือบสนิทแล้วผันตัวมาเป็นผู้จัดการนายหน่อยไม่ได้หรือไงกัน” “แล้วทุกวันนี้ที่ฉันต้องรับงานนอกรอบบ่อยๆ ไม่ใช่เพราะเห็นแก่เธอหรือไงกัน” “ขี้บ่นเป็นตาแก่ไปได้ ฉันรบกวนเวลาพักผ่อนของนายก็จริง แต่ฉันมีของทดแทนน่า” “อะไร” เคิร์กถามด้วยน้ำเสียงคล้ายเบื่อหน่ายแต่ก็แฝงความใคร่รู้ไว้ในน้ำเสียงนั้น “ฉันมีตั๋วเข้าดูนาสคาร์ที่สนามเดย์โทน่าอยู่สองใบเผื่อนายจะสนใจ” เอมิลี่กล่าวถึงนาสคาร์ คัพ ซีรีส์ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบประเภทหนึ่ง โดยรถที่ใช้แข่งจะเป็นรถที่มีการปรับแต่งมาอย่างดีแต่ยังคงรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนรถที่เห็นตามท้องถนนทั่วไปหรือที่เรียกกันว่าสต็อกคาร์ และการแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นที่เดย์โทน่าอินเตอร์เนชั่นแนลสปีดเวย์ ซึ่งเป็นสนามแข่งรถตั้งอยู่ที่เดย์โทน่าบีช รัฐฟลอริดา “อืม ถือว่าดี” “อย่าเก็บอาการดีใจจนคับอกของนายเอาไว้เลยเคิร์ก ฉันรู้ว่านายกำลังยิ้ม” “เรื่องของฉันเถอะน่า ว่าแต่ตั๋วทั้งสองใบนั่นเป็นของฉันใช่ไหม” “ใช่ ว่าแต่นายจะชวนใครไป สาวๆ ในสต็อกนายงั้นเหรอ” “ใครก็ได้ที่ไม่ใช่เธอน่ะเอ็ม” “นายเลวกว่าที่ฉันคิดเอาไว้น่ะเคิร์ก” “ฮ่าๆ” “ไม่ต้องมาหัวเราะ เดี๋ยวแม่ฉีกตั๋วทิ้งซะนี่” “ใจเย็นก่อนน่า ฉันแค่ล้อเล่น” “ดีมาก ให้รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” “แต่ฉันก็ยังยืนยันนะว่าคนที่ฉันจะชวนไปยังไงก็ไม่ใช่เธอ” “ไอ้บ้าเคิร์ก!” “กรุณาสุภาพหน่อยนะครับคุณสุภาพสตรี” “เจอหน้านายเมื่อไรฉันจะผ่าหมาออกจากปากนาย” “ได้สิ ฉันรอเลย” “เฮอะ คุยกับนายนี่เปลืองพลังงานชีวิตจริงๆ เดี๋ยวฉันส่งรายละเอียดงานกับโลเกชั่นไปให้ เจอกันบ่ายโมงตรง โอเค๊” “โอเค แล้วอย่าลืมตั๋วนาสคาร์ของฉันล่ะ” “ไม่ลืมหรอกน่า” “โอเค ไว้เจอกัน” “เจอกัน” หลังจากเอมิลี่กดวางสาย เคิร์กที่ตื่นเต็มตาแล้วก็ลุกจากโซฟา เพราะเมื่อคืนเจ้าตัวนอนหลับอยู่ตรงนั้น ขายาวก้าวไปที่ห้องนอนซึ่งอยู่ที่ชั้นสองของตัวบ้าน จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อรอไปตามนัดหมายของเอมิลี่ เขมรดาได้รับโทรศัพท์จากสการ์เล็ตสำหรับงานแรกที่เข้ามาเร็วมาก เป็นงานถ่ายแบบเสื้อผ้าชั้นนำยี่ห้อหนึ่งเพราะนางแบบคนเดิมที่ถูกวางตัวเอาไว้เกิดป่วยกะทันหัน ในฐานะที่นางแบบคนนั้นอยู่ในสังกัดของสการ์เล็ต หล่อนจึงต้องหาคนไปแทน และคอมการ์ดของเขมรดาก็ตรงกับที่แบรนด์ต้องการหล่อนจึงได้รับเลือกงานนี้ เขมรดาก้าวเข้ามาในตัวตึกสีขาวหม่น หล่อนแจ้งตรงเคาน์เตอร์ที่ล็อบบี้ว่าตามนัดหมาย ครู่หนึ่งพนักงานก็บอกให้หล่อนขึ้นไปที่ชั้นสามซึ่งสตูดิโอที่ใช้ถ่ายภาพอยู่ตรงนั้น ร่างบางหยุดตรงหน้าห้อง ประตูที่เปิดแง้มเอาไว้เล็กน้อยจึงทำให้ดวงตากลมโตมองเห็นด้านใน ก่อนที่เขมรดาจะขยับเท้าก็มีคนเดินสวนออกมา “ขอโทษนะคะ ฉันเป็นคนของคุณสการ์เล็ตค่ะ จะมาถ่ายแบบเสื้อผ้าวันนี้” “อ๋อ เชิญด้านในได้เลยค่ะ” หญิงสาวที่มีป้ายสตาฟฟ์คล้องคอผายมือเชิญให้เขมรดาเข้าไปด้านใน หล่อนกล่าวขอบคุณแล้วพาตัวเองเข้าไป ภายในสตูดิโอมีคนอยู่สี่ห้าคน ส่วนหนึ่งกำลังดูความเรียบร้อยของฉาก วันนี้เป็นการถ่ายแบบสไตล์กรันจ์ ซึ่งเป็นแฟชั่นที่มีส่วนผสมระหว่างแฟชั่นสไตล์พังค์และแคชชวลเอาท์ดอร์แวร์ โดยไอเท็มเด่นๆ ก็คือเสื้อลายสก็อตผ้าสักหลาดกับยีนส์ฟอก อีกส่วนนั่งที่โซฟากำลังบรีฟงานกัน “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเขมรดา เป็นคนของคุณสการ์เล็ตค่ะ” “อ๋อ งั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ” หนึ่งในสองคนที่นั่งบรีฟงานกันลุกขึ้นมาแล้วพาเขมรดาเข้าไปยังห้องแต่งตัว สตาฟฟ์สาวจัดให้เขมรดานั่งตรงเก้าอี้หน้ากระจกบานใหญ่ ในนั้นมีช่างแต่งหน้าทำผมรออยู่ก่อนแล้ว “เดี๋ยวแต่งหน้าทำผมก่อนนะคะ เราจะเริ่มถ่ายกันตอนประมาณบ่ายสองโมง ระหว่างนี้ฉันขออนุญาตบรีฟงานนะคะ” “ได้ค่ะ” เขมรดาตอบรับระหว่างที่ถูกช่างแต่งหน้ารวบผมของเธอขึ้นไม่ให้บดบังใบหน้าเนียนใสที่กำลังจะถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเขมรดามักจะได้ร่วมกิจกรรมอยู่บ่อยๆ แม้จะไม่ได้เป็นดาวมหาวิทยาลัยแต่เขมรดาก็เป็นดาวคณะฯ ดังนั้นเรื่องการถ่ายแบบแม้เจ้าตัวจะไม่ใช่มืออาชีพแต่ก็มีประสบการณ์ไม่น้อย สิ่งที่สตาฟฟ์กำลังอธิบายจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เขมรดาจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD