5.ไดร์ฟข้อมูลจากพราวมุก💾

1748 Words
> “อย่าใช้ชีวิตเพื่อลบใครออกจากใจ…” “แต่ใช้มันเพื่อจำว่าเธอมีหัวใจ” น้ำตาเป่าเป้ยไหลเงียบๆโดยไม่รู้ตัว คำพูดของคินทำให้โลกที่เคยมีแค่ “ความแค้น” เริ่มถูกท้าทาย และในตอนนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนใหม่ > 📩 “ถ้าเธออยากรู้ความจริงทั้งหมด…พรุ่งนี้เจอกันที่คาเฟ่Y 10 โมง [คืนก่อนที่เป่าเป้ยจะไปเจอกับพราวมุก] > 📞 เสียงวิดีโอคอล: “ปิ๊งง~” ภาพหลินปรากฏบนหน้าจอมือถือของเป่าเป้ย เธออยู่ในห้องนอน กำลังนอนพอกหน้าด้วยมาส์กสีขาวเต็มใบหน้า >“เฮ้~ ตัวแม่สายล้างแค้น วันนี้ไปขยี้หัวใจท่านประธานเหยียนมาอีกกี่คำจ๊ะ?” เป่าเป้ยถอนหายใจเบาๆ นั่งพิงผนังห้องด้วยสีหน้าอ่อนล้า > “เลิกล้อสักวันได้ไหมยัยหลิน…” > “ไม่ได้~ เดี๋ยวแกหลุดจริงจังกับเขาขึ้นมาจะยุ่งนะ!” เสียงนั้นเหมือนจะแซวแต่กลับดูจริงจังอยู่ลึกๆ >“ว่าแต่แกดูแปลกๆนะเป้ย ตั้งแต่เล่าเรื่องเจอผู้หญิงชื่อ ‘พราวมุก’ สีหน้าแกมันแบบ…ไม่ใช่คนจะเอาชนะแล้วนะ มันคือคนที่กลัวจะรู้ความจริงมากกว่า” เป่าเป้ยเงียบไปไม่ตอบ แต่ดวงตาสั่นระริก >“แกเคยสงสัยไหม…ว่าเรารู้จักพี่คินดีพอหรือเปล่าบางทีเขาอาจไม่ต้องให้ฉันแก้แค้นเลยก็ได้” เสียงของเป่าเป้ยดูอ่อนๆลง หลินจ้องเธอผ่านจอ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่จริงจัง > “เป้ย…ถ้าใจแกเริ่มลังเล ก็แปลว่าแกยังรักตัวเองอยู่นะ” >“แกคิดแบบนั้นหรอหลิน” >“อื้อ แค่แกสัญญากับฉันว่า ถ้าวันนึงแผนมันเริ่มทำร้าย‘หัวใจ’ของแกมากกว่าที่คิด แกจะหยุดมัน” เป่าเป้ยก้มหน้าลงเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ >“อื้อ ฉันสัญญา” (แล้วถ้าเกิดฉันถอนตัวไม่ขึ้นหละฉันจะทำยังไงดี) แน่นอนว่าเป่าเป้ยไม่ได้พูดคำนี้กับหลิน เธอเก็บไว้ในใจคนเดียว >“แล้ววันนี้เป็นไงบ้าง เหยียนชุนเขาสงสัยแกมั้ย?” >“ไม่น่าจะสงสัยอะไรหนิ” >“อืม ดีแล้ว ” >“อืม แค่นี้ก่อนนะหลินฉันเหนื่อยอ่ะ” >“เอ้า พึ่งคอลไปเอง โอเคถ้าเหนื่อยแกก็พักนะ” เป่าเป้ยไม่ได้ตอบหลินวางสายไป เธอจึงออกไปพบกับพราวมุก แต่หลินกลับคิดว่าเธอดูแปลกๆ เป่าเป้ยแอบนัดพบกับพราวมุกที่คาเฟ่ท์Yเพื่อ “ขุดความจริง” เกี่ยวกับพี่ชายเธอ…แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้มาเพียงลำพัง หลินแอบสะกดรอยเป่าเป้ยมาด้วย และกลายเป็นคนที่ช่วยรับมือความกดดันจากพราวมุก พร้อมกับทำให้ความจริงที่ถูกปิดบังเริ่มเผยออกมา… ความจริงบางส่วน เสียงฝีเท้าเบาๆ เดินเข้าไปในร้านค่าเฟ่ทที่ไม่ค่อยมีคนเยอะมากนัก เป็นร้านเล็กๆน่ารักๆแถวๆบริษัทของเหยียนชุนที่พนักงานต่างชอบมานั่งที่นี่ เป่าเป้ยเดินเข้าไปช้าๆ ใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เธอซ่อนมือถือเอาไว้ในกระเป๋าเปิดเครื่องบันทึกเสียงเผื่อไว้ > “มาเร็วกว่าที่คิดนะ” เสียงเรียบของพราวมุกดังมาจากมุมหนึ่ง เธอนั่งกอดอกอยู่ใต้แสงแดดอ่อนๆ ยิ้มจางๆให้เป่าเป้ยที่กำลังเดินเข้ามา >“ฉันมาเพราะอยากฟังเรื่องของพี่คิน ที่เธอบอกว่าฉันยังไม่รู้” เป่าเป้ยตอบนิ่งๆ พยายามเก็บสีหน้าไม่ให้เธอรู้ว่าตัวเองกำลังกลัว พราวมุกเดินเข้ามาใกล้ๆเป่าเป้ย >“เธอคิดว่าฉันเป็นคนทรยศพี่ชายเธอ แล้วไปรักเหยียนชุนใช่ไหม?” เป่าเป้ยเม้มปาก >“แล้วเธอเคยรู้ไหมว่าพี่ชายเธอเคยโกหกฉันว่าเขาโสด? ว่าเขาไม่เคยใช้ฉันเป็นทางผ่านเพื่อดึงดูดสายตาของเหยียนชุน?” เป่าเป้ยชะงักไปอีกครั้งเมื่อได้ยินคำนี้จากปากเธออีกคน หลังจากที่ฟังคลิปเสียงที่คินอัดไว้ > “ไม่จริง…” >“ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากเชื่อหรอก แต่บางทีผู้ชายดีๆในสายตาของน้องสาว อาจไม่ใช่คนดีในความสัมพันธ์เสมอไป” ในจังหวะนั้นเอง เสียงฝีเท้าอีกคู่หนึ่งก็ดังขึ้นเบาๆ จากด้านหลัง >“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาไงจ๊ะพราวมุก” เสียงใสๆของหลินดังขึ้น พราวมุกหันกลับไปเห็นหญิงสาวสวมแว่นตัวเล็กสวมฮู้ดสีเทา เดินออกมาพร้อมถือมือถือขึ้นถ่ายวิดีโอ >“เธอกำลังพูดอะไรที่คนเป็นแฟนเก่า ไม่ควรพูดเลยนะพราวมุก!” เป่าเป้ยอ้าปากจะพูดแต่หลินยกมือห้ามเบาๆ >“ขอโทษนะเป้ยฉันรู้ว่าเธออยากมาเจอพราวมุกคนเดียว แต่ฉันปล่อยให้เธอมาเจอผู้หญิงอันตรายคนนี้คนเดียวไม่ได้หรอก” หลินหันไปหาพราวมุกพร้อมกับมือถ่ายวีดีโอไว้ >“ถ้าเธอจะให้ข้อมูล ก็ต้องให้แบบมีหลักฐาน” หลินพูดกับพราวมุก แต่เธอกลับหัวเราะเบาๆแต่มันน่าหมั่นไส้มากเชื่อมั้ย >“กล้าดีนะ…เพื่อนเธอเนี่ย” พราวมุกแสยะยิ้ม >“ไม่ใช่แค่กล้า” หลินตอบกลับทันควัน >“ฉันมีสมองด้วย แล้วก็เซ้นส์จับคนโกหกที่แม่นมาก” บรรยากาศเริ่มตึงเครียด แต่เป่าเป้ยกลับรู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้อยู่คนเดียว พราวมุกถอนหายใจ แล้วยกมือขึ้นยอมแพ้เล็กน้อย >“ก็ได้ฉันจะไม่พูดอะไรลอยๆ ลองไปเปิดดูคลิปที่อยู่ในแฟลชไดรฟ์นี้ละกันรหัสคือวันตายของพี่เธอ” เธอยื่นแฟลชไดร์ฟให้เป่าเป้ย ก่อนจะเดินจากไป โดยไม่พูดอะไรอีก แต่มันทำให้น้ำตาของเป่าเป้ยกลั้นไม่อยู่ ไหลลงมาอาบเปื้อนแก้มทั้งสองข้าง >“วันตายพี่คินหรอ ฮึก~ฮือๆ~” เป่าเป้ยเก็บอารมณ์ไม่อยู่ร้องไห้ออกมา >“เป่าเป้ยแกอย่าร้องสิ เข้มแข็งหน่อย” >“ฉันเหนื่อยว่ะแก นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” เป่าเป้ยยืนอยู่กับหลินตรงหน้าทางออก ทั้งสองจ้องแฟลชไดร์ฟในมือโดยไม่พูดอะไร >“แกคิดว่า…มันจะเป็นอะไร?” เป่าเป้ยถามเสียงเบา ความกลัวกำลังกลับมาอีกครั้ง > “ฉันไม่รู้หรอก…” หลินบีบมือเธอเบาๆ >“แต่ไม่ว่าอะไรอยู่ข้างใน แกก็ไม่ได้อยู่คนเดียวอีกแล้วนะเป้ย แกมีฉัน” หลังจากแยกกับพราวมุก เป่าเป้ยและหลินก็กลับมาที่หอพักนักศึกษาฝึกงานอย่างเงียบๆ แต่คนที่เธอไม่คิดว่าจะเจอ…กำลังยืนพิงรถหรูสีดำอยู่หน้าหอพักของเธออยู่ > “ประธานชุน!” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นช้าๆ สายตาเขานิ่ง แต่ลึกลงไปในนั้นมีความ “ไม่ไว้ใจ” แฝงอยู่ในแววตาคมกริบคู่นั้น > “หายไปไหนทั้งวัน?” น้ำเสียงเขาเย็นชามาก > “เอ่อ…คือ…” เป่าเป้ยลังเลที่จะตอบหลินเลยรีบพูดแทรกขึ้น >“ฉันพาเธอไปหาหมอค่ะ พักหลังเป่าเป้ยดูเหมือนจะเครียดง่าย เลยให้ไปปรึกษาแพทย์” ชุนขมวดคิ้วเล็กน้อย >“แต่ผมเช็กแล้ว…วันนี้เป้ยหลินขอออกไปโดยไม่ได้แจ้งหัวหน้างาน” เป่าเป้ยใจเต้นแรง เธอเผลอกำมือแน่นกลัวชุนจะจับได้ แต่ก็ต้องแกล้งใจดีสู้เสือไว้ > “คุณเป็นห่วงฉันเหรอคะ?😄” เป่าเป้ยแสร้งยิ้มทำหน้าทะเล้นให้ชุน >“เปล่า ผมไม่ชอบคนโกหก และผมก็ไม่ชอบคนที่โกหกต่อหน้าด้วย😠” ประโยคนั้นเหมือนมีบางอย่างทิ่มลึกเข้ามาในใจเธอ เป่าเป้ยได้แต่ยืนนิ่ง ไม่รู้จะตอบว่าอะไร >“ถ้ามีอะไรที่คุณอยากรู้ คุณรออีกนิดได้ไหมคะ เดี๋ยวฉันจะบอกเอง” เธอเงยหน้าขึ้นดวงตาเต็มไปด้วยความลังเล แต่จริงใจที่สุดเท่าที่เคยมีมา ชุนนิ่งมองเธออยู่สักพัก ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ > “ผมจะรอ แต่แค่ครั้งเดียวเท่านั้น” >“กดดันจัง” เป่าเป้ยพูดลอยๆด้วยเสียงที่เบามากแต่เขากลับได้ยิน >“ผมได้ยินนะเป้ยหลิน” >“ค่ะ สมองดีไม่พอหูยังดีด้วย” >“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?” >“เพิ่งชมไปหยกๆ ฉันบอกว่าคุณสมองดีค่ะ แฮร่ๆ☺️” >“เธอนี่มัน..ตกลงไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหมถึงได้พูดเก่งขนาดนี้” ชุนขมวดคิ้วเข้ม >“ไม่เป็นไรแล้วค่ะ” เป่าเป้ยยิ้มบางๆให้เหยียนชุน >“ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันจะได้กลับ วันหลังถ้าจะออกไปไหนรายงานฉันด้วย” >“ค่ะท่านCEOเหยียนชุน☺️” ชุนชะงักไปเล็กน้อยกับรอยยิ้มของเธอ เหมือนมากเหมือนกับรอยยิ้มของคิน >“พูดมากแบบนี้ก็ดีแล้ว ฉันจะได้ไม่...” ชุนหยุดพูดกลางคัน >“ไม่อะไรหรอคะ จะบอกว่าจะไม่ได้เป็นห่วงหนูใช่มั้ย” ชุนไม่ตอบ แต่เดินไปที่รถ >“เดินทางปลอดภัยนะคะหนูเป็นห่วง” ชุนนิ่งไปแว้บนึง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถซักพักแล้วขับออกไป >“ให้ความหวังเขาคือหนึ่งในแผนของแกใช่ไหมยัยเป่าเป้ย”หลินแซะเพื่อนทันที >“แน่นอน” ------------------- คืนวันนั้นห้องพักเต็มไปด้วยความเงียบ มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ กับสายตาของเป่าเป้ยและหลินที่จ้องหน้าจอโน้ตบุ๊ก ซึ่งเพิ่งเชื่อมกับไดร์ฟข้อมูลจากพราวมุก เป่าเป้ยค่อยๆ พิมพ์รหัส: 2707 (วันเสียชีวิตของพี่ชายเธอ) 📂 [คลิปวิดีโอ: “บันทึกก่อนลา”] 📂 [กล้องวงจรปิด: คาเฟ่หิมะ, 3 ปีก่อน] 📂 [เสียงบันทึกจากโทรศัพท์: มุก– ชุน – คิน] สองคนสบตากันนิ่ง ก่อนที่เป่าเป้ยจะเลือกเปิดคลิป “กล้องวงจรปิด” ขึ้นก่อน 🎬 [ภาพจากกล้อง – คาเฟ่หิมะ – 3 ปีก่อน] โต๊ะไม้ริมหน้าต่าง ปรากฏร่างของสามคน คนแรกคือ พี่ชายของเธอคิน คนถัดไปคือเหยียนชุน, และผู้หญิงที่นั่งฝั่งตรงข้ามคือพราวมุก ทุกคนดูอึดอัด แววตาเหมือนไม่ไว้ใจกัน เสียงในคลิปเบา แต่พอจับใจความได้ว่า >“นายเคยบอกว่าเธอไม่สำคัญ” คินเปิดคำถามกับชุน >“เพราะตอนนั้นเธอยังไม่ใช่คนที่ทำให้ฉันลังเลในคำว่ามิตรภาพ” ชุนตอบคินกลับไปด้วยน้ำเสียงเบาและสั่นเครือเล็กน้อย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD