"พ่อคะ คุณภูมินทร์ว่ายังไงบ้างคะ"
ตั้งแต่วันก่อน ที่มีการนัดดูตัวของพี่สาวเธอกับคุณภูมินทร์ ก็ยังไม่เห็นพ่อพูดอะไรถึงเรื่องนี้อีกเลย
"ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ก็ตกลงหาฤกษ์งามยามดี แล้วก็คงจะเตรียมงานแต่งน่ะลูก"
เมื่อฉันได้ฟังผู้เป็นพ่อบอกแบบนั้น ก็รู้สึกสบายใจ แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ทำไมพี่สาวของเธอถึงยอมง่ายนัก และเธอก็ยังเห็นพี่สาวของเธอ ยังไปหาก้องภพแฟนหนุ่มอยู่เหมือนเดิม
"แล้วพี่ทับทิมยอมหรอคะ"
ฉันก็อดจะถามพ่อไม่ได้อีกนั่นแหละ
"พ่อก็ไม่เห็นพี่ทับทิมจะต่อต้านอะไรนะ คงจะทำใจได้แล้วละ ไม่อย่างนั้นคนอย่างทับทิมก็คงโวยวายแล้วละ"
ถึงพ่อจะพูดอย่างนั้น แต่ฉันก็ไม่ได้เชื่อสนิทใจหรอก หรือว่าเจ้าบ่าวจะหน้าตาดี ถึงทำให้พี่สาวของเธอยอมแต่งงานได้
"คุณภูมินทร์หล่อไหมคะพ่อ"
หญิงสาวถามผู้เป็นพ่ออย่างไร้เดียงสา
"สำหรับพ่อ พ่อก็มองว่าพี่ภูมินทร์หล่อนะ อาจจะดูขรึมๆไปหน่อยตามประสา แต่โดยรวมๆแล้วพ่อว่าหล่อมากเลยล่ะ พี่สาวเราก็คงจะถูกใจไม่น้อย"
เมื่อพ่อพูดว่าคุณภูมินทร์หล่อ เธอเองก็โล่งอกแทนพี่สาว เพราะถึงจะไม่ถูกกันยังไง เธอก็ยังเป็นห่วงพี่สาวอยู่ดี อย่างน้อยได้คนที่ทั้งหล่อทั้งรวยพี่สาวของเธอก็คงจะไม่ฝืนใจมาก
"ดีจังค่ะพ่อ ธุรกิจของบ้านเราจะได้ดีขึ้น"
เธอยิ้มกว้างให้ผู้เป็นพ่อ
"ต่อไปนี้ เราก็ทำดีกับพี่เขาหน่อย อย่าทะเลาะกันให้มากเข้าใจไหม เพราะว่ายังไงพี่ทับทิมก็คือคนที่ช่วยบริษัทของเราไว้"
ผู้เป็นพ่อบอกลูกสาวคนเล็ก
"ค่ะพ่อ ต่อไปหนูจะทำตัวให้ดีกับพี่ทับทิมให้มากๆ "
ผู้เป็นพ่อลูบหัวเธอเบาๆ ก่อนแยกย้ายกันไปเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เธอมีเรียนแต่เช้า
เช้า บ้านทัศนัย
"พ่อคะ หนูไปมหาลัยแล้วนะคะ"
เมื่อเดินมาถึงชั้นล่าง เธอก็เห็นพ่อกับพี่สาวนั่งจิบกาแฟอยู่ เธอเลือกที่จะบอกพ่อแต่ไม่ได้บอกผู้เป็นพี่
"ไปแล้วเหรอลูก ไม่กินข้าวเช้าก่อนล่ะ"
พ่อเธอรีบเรียกไว้
"ไม่เอาค่ะพ่อ วันนี้หนูมีเรียนแต่เช้าเดี๋ยวสายหนูไปก่อนนะคะ"
แล้วร่างบางก็รีบเดินไปที่รถ และเปิดประตูรถขึ้นไปทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่ภูมินทร์
เลี้ยวรถเข้ามาในบ้าน และเธอก็ขับรถออกไป
"ใครมาบ้านแต่เช้ากันนะ"
เธอมองดูสักพัก ก่อนที่จะขับรถออกไปมหาลัย โดยไม่ได้หันไปมองว่าคนที่ลงมาจากรถเป็นใคร
ภูมินทร์
วันนี้เป็นวันที่ผมจะต้องพาทับทิมไปลองชุด เพราะเดือนหน้าคือฤกษ์แต่งงานแล้ว และดูเหมือนว่าอะไรๆก็ต้องเร่งรัดไปหมด วันนี้ผมเลยมาบ้านคุณอาทัศนัยตั้งแต่เช้า
"สวัสดีครับคุณอาทัศนัย น้องทับทิม"
แล้วผมก็ไหว้สวัสดีคุณอาทัศนัย และก็ไม่ลืมที่จะทักทายว่าที่ภรรยาผม ที่เธอเอาแต่นั่งหน้าบูดหน้าบึ้ง ไม่บอกก็รู้ว่าไม่สบอารมณ์
"มาแล้วหรอภูมินทร์ ทานข้าวเช้ามาหรือยัง มาทานด้วยกันก่อนสิ"
แล้วคุณอาทัศนัยก็เรียกผมทานมื้อเช้า
"ผมทานกาแฟมาจากบ้านแล้วครับคุณอา ว่าจะรีบไปเลย เพราะเดี๋ยวต้องไปเอาการ์ดอีก"
ผมบอกกับคุณอาทัศนัยไป แต่ก็ไม่ลืมที่จะมองดูว่าที่ภรรยาของผม ที่เธอเองก็ไม่แม้แต่จะมองหน้าผมเลยสักนิด
"งั้นก็รีบไปเถอะทับทิม เดี๋ยวพี่เขาจะรอนาน"
พอสิ้นเสียงของพ่อเธอ เธอก็รีบลุกขึ้นและเดินออกมานอกตัวบ้าน โดยไม่พูดกับผมสักคำ
บรรยากาศในรถก็ดูอึมครึมตลอดทาง จนมาถึงร้านลองชุด
"ที่โทรมาจองไว้ครับ"
เมื่อมาถึงร้าน ผมก็รีบบอกพนักงานที่ร้านทันที
เพราะผมโทรมาจองไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ว่าจะเข้ามาลองชุด
"เชิญค่ะคุณลูกค้า"
แล้วผมก็เข้าไปด้านใน โดยเปิดประตูให้ทับทิมเดินเข้าไปก่อน
"ขอบคุณค่ะ"
นี่คือประโยคแรก ที่เธอพูดกับผม
"เดี๋ยวคุณผู้หญิงมาลองที่ห้องนี้นะคะ ส่วนคุณผู้ชายไปที่ห้องทางด้านนู้น"
แล้วเราทั้งสองคน ก็แยกย้ายกันลองชุด
"หล่อมากเลยค่ะ คุณลูกค้าอยากไปให้เจ้าสาวเห็นหน่อยไหม"
แล้วพนักงานก็เอ่ยถามขึ้น ก็ดีเหมือนกันจะได้รู้ว่าชุดเข้ากันหรือเปล่า
"ก็ได้ครับ"
และผมก็เดินไปหาว่าที่เจ้าสาว ที่ตอนนี้เธอนั้น
ก็อยู่ในชุดเจ้าสาว กระโปรงบานๆเปิดโชว์ไหล่ ก็ดูสวยน่ามองเหมือนกัน
"เป็นไงคะคุณเจ้าบ่าว เจ้าสาวสวยไหมคะ"
แล้วพนักงานที่ร้านก็ถามผม
"สวยครับ"
ผมก็ได้แต่ตอบตามมารยาท เอาจริงๆเธอก็สวย แต่มันก็ไม่ใช่สเปคผมสักเท่าไหร่
"เสร็จแล้วใช่ไหมคะ กลับกันได้หรือยัง"
เมื่อลองชุดเสร็จเธอก็รีบชวนผมกลับ ผมเองก็คิดแบบเดียวกับเธอ จึงรีบพาเธอกลับ ผมมาส่งเธอที่บ้านแต่ก็ไม่ได้ลงรถ
"ขอบคุณนะคะ"
ก่อนเปิดประตูลงจากรถ ยังดีที่เธอหันมาขอบคุณผม
"ครับ"
ผมตอบเธอแค่นั้น พอเธอเปิดประตูลงจากรถผมก็เลี้ยวรถกลับทันที
วันนี้ผมไม่เข้าไปในไร่ เพราะไม่ได้มีงานอะไร
"กลับมาแล้วหรอภูมินทร์ เป็นไงบ้างไปลองชุดกับน้องเรียบร้อยดีไหม"
พ่อผมที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก เมื่อเห็นผมเดินมาก็รีบถามทันที
"เรียบร้อยดีครับพ่อ"
ผมตอบพ่อแค่นั้น ก่อนจะเดินขึ้นห้องไป
เพราะวันนี้ผมมีนัดกับเพื่อนๆ ว่าจะไปดื่มแก้เครียดหน่อย
"อย่ากลับดึกนักล่ะ จะแต่งงานแล้วทำตัวให้มันดีๆหน่อย"
ผมโตขนาดนี้แล้ว จะไปไหนมาไหนพ่อผมก็ยังบอกเหมือนผมเป็นเด็กๆไปได้
ผับxxx
"ไง ว่าที่เจ้าบ่าวป้ายแดง"
พอผมมาถึง เพื่อนตัวดีก็เอ่ยแซวผมทันที ไอ้ธาดา กับ ชาคริส เป็นเพื่อนของผมตั้งแต่สมัยเด็ก จนตอนนี้ก็ยังคบกันอยู่
"การ์ด"
ผมไม่ตอบคำถามเพื่อน แต่ยื่นการ์ดให้เพื่อนทั้งสองทันที ก่อนที่พวกมัน 2 ตัวจะรับไป
แล้วเปิดการ์ดอ่าน
"ทำไมเร่งรัดจังว่ะ"
ไอ้ชาคริสอ่านการ์ดเสร็จ ก็เงยหน้ามาถามผม
"มันเป็นการแต่งงานเพื่อรักษาธุรกิจ แต่ก่อนที่บ้านของกูธุรกิจมีปัญหา พ่อของเธอก็ยื่นมือเข้ามาช่วย พอตอนนี้ธุรกิจของที่บ้านเธอมีปัญหา พ่อกูก็เลยช่วยเหลือกลับก็แค่นั้น"
ผมตอบเพื่อนแบบไม่ใส่ใจนัก
"แล้วสวยหรือเปล่าวะ"
ไอ้ธาดาจ้องหน้าผม เพื่อรอคำตอบ
"ก็สวยใช้ได้ แต่ก็ไม่ได้สวยมาก และก็ไม่ใช่สเปคกู"
ผมตอบเพื่อนตามความจริง
"แล้วทำไมมึงยอมพ่อมึงง่ายจังว่ะ ปกติเรื่องแบบนี้มึงไม่เคยให้พ่อมึงบังคับได้เลยนี่หว่า"
แล้วไอ้ธาดาก็ถามผมอย่างสงสัย
"ก็อย่างที่บอก เขาเคยช่วยเหลือครอบครัวพวกกู ถ้ากูไม่ช่วยก็ดูจะใจดำ ถึงจะไม่เต็มใจแต่งก็เถอะ"
เอาจริงๆผมก็ไม่อยากแต่งหรอก แต่ก็ขัดใจพ่อไม่ได้ ถ้าผมมีแฟนแล้วก็ว่าไปอย่าง ผมยังจะอ้างได้ว่าผมมีแฟนแล้ว
"กูกลับละ"
นั่งดื่มกับเพื่อนนิดหน่อย ผมก็บอกลาเพื่อนๆ
"เอ้า ไอ้นี่รีบจังวะ"
แล้วไอ้ชาคริสกับไอ้ธาดาก็มองหน้าผม
"พรุ่งนี้ต้องเข้าไร่แต่เช้า"
เอาจริงสังสรรค์ผมก็มีบ้าง แต่ผมชอบเข้าไร่มากกว่า ผมมันพวกบ้างาน