04 โดดถีบขาคู่

956 Words
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ยักษ์กระเด้งตัวลุกจากที่นั่งเพื่อเดินอ้อมโซฟากั้นมาเพื่อดูรูป ง่ำ ง่ำ "เชี่ย! อีพิ้งค์มึงแดกกระดาษทำไม" เสียงตาลตกใจหน้าเหวอ "อูอิว" "ฮะ?!" "อู อิว อ้าววว"{กูหิวข้าว} "____" ยังไม่ทันได้เห็น ปรากฏว่าสาวน้อยคว้ารูปวาดยัดใส่ปากแล้วเคี้ยวขณะที่ยักษ์เองไม่รู้จะตกใจตรงไหนก่อน เขาก็นิ่งจ้องมองแต่ไม่พูดอะไร กริ๊ง เป็นช่วงเวลาเสร็จงานพอดี ชมพูพิ้งค์คว้ากระเป๋าแล้วลากแขนเพื่อนสาววิ่งออกนอกร้าน เหลือทิ้งไว้แค่เจ้าของใบหน้าหล่อหุ่นสูงใหญ่ ที่กำลังครุ่นคิดบางอย่าง "เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ลืมทั้งที่ลบความจำไปแล้วและเมื่อตอนตื่นก็จำอะไรไม่ได้หรือว่า..." อึก เสียงลูกกระเดือกขยับ เนื่องจากผมกลืนน้ำลายลงคอด้วยความฝืดเคือง อายุของผมผ่านมาเกือบร้อยปี ซึ่งแน่นอนว่าย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ ส่วนมากคนรอบตัวก็แค่ลบความทรงจำทิ้งไปก็ไม่สามารถจำได้ว่าผมเคยมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ แต่เพราะว่าครั้งนี้มันผิดแปลก แต่จะว่าไปผู้หญิงคนนั้น...มีกลิ่นเลือดคลุ้งรอบตัวมากกว่าคนปกติ หอพักสิริ "มึงไม่ได้กลืนใช่ไหมกระดาษเปื้อนสีอันตรายนะ" ตาลหยุดเดินดึงแขนชมพูพิ้งค์ไว้ "ไอ อะ อืน" "ฮะ..." "โทษที แหวะ! ใครจะกลืน" ฉันทำใจควักกระดาษที่อยู่ในปากออกมา จากนั้นก็เก็บใส่กระเป๋าผ้า ท่าทางของตาลดูไม่เข้าใจแต่เนื่องจากอุปนิสัยที่ไม่ค่อยชอบถามหรือวุ่นวายเราสองคนจึงเดินกลับไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านประจำ จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ ที่ให้ตาลมารับเนื่องจากว่าเราสองคนมักจะแวะกินข้าวด้วยกันช่วงเย็น แกร๊ก ฟุบ ฉันโยนกระเป๋าที่มีสัมภาระมากมายทิ้งบนเตียง จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดตัวอย่างชำระล้างร่างกาย ทำงานแทนเพื่อนโคตรจะเหนื่อยหน่าย อีกทั้งมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้ฉันคิดมากมายมาหลายวัน คอนโด เหลือม "มึงว่าอะไรนะ?" เสียงค่อนข้างประหลาดใจเอ่ยถามย้ำเมื่อยักษ์มาปรึกษา "แต่กูยังไม่เห็นรูปภาพนั้นนะเพียงแค่เพื่อนของเด็กนั่นพูดขึ้นมา" "อาจจะดูหนังมาแล้ววาดเล่นหรือเปล่า น้องคนนั้นเรียนพวกวาดรูปไม่ใช่หรือไง" "งั้นดูหนังเรื่องอะไร?" "อุลตร้าแมน" ผวะ! "มึงไปดูภาคไหนมาอุลตร้าแมนเป็นยักษ์!" ความกวนประสาทมันไม่มีใครเทียบผมจึงฟาดหัวมันไปที "โอ๊ยยย ถึงกูไม่ใช่มนุษย์ปกติก็เจ็บเป็นนะ" "หรือว่าเกิดเรื่องผิดปกติอะไรขึ้นกับความสามารถกู" "มึงจะบ้าเหรอ มึงไม่สามารถใช้พลังกับพวกผีปีศาจได้แต่มึงบอกเองว่าเด็กคนนั้นเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา" "เออ" ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อไอ้เหลือมพยายามยกเหตุและผลต่างๆ แต่กลับไม่สามารถหักล้างความรู้สึกสงสัย ภาพนั้นถูกยัยเด็กบ้ายัดเข้าปากแล้วเคี้ยวจนไม่สามารถแสดงเป็นรูปเป็นร่างได้ หรือสาวน้อยธรรมดาจะมีอะไรที่พิเศษกว่าใคร... หอพัก สิริ ซ่าาา เสียงน้ำฝักบัวรดไหลลงร่างกาย ตัวเล็กถูสบู่ฟองฟอดละเลงไปทั่ว เธอรวบผมมัดจุกกลางศีรษะ หลับตาลงคิดทบทวนหลายอย่างที่กำลังถกเถียงกันในสมอง "หรือเราอาจจะพักผ่อนน้อยและเครียดหนัก" ฉันรีบสลัดความคิดวุ่นวายทิ้ง "ช่างเถอะ เฮ้อ" แกร๊ก เมื่อออกมาจากห้องน้ำโดยพันผ้าเช็ดตัวและมีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดไหล่ สาวน้อยนั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งกลมใส หยิบเครื่องสำอางบำรุงขึ้นมา "ลิปมันสีชมพูพิ้งค์" คือสีที่ฉันชอบมากและแม่เองก็คงจะชอบเหมือนกันถึงได้ตั้งชื่อนี้ให้ ปวะ! ริมฝีปากบางกระจับเม้มเข้าหากันเพื่อเกลี่ยความเนียนของลิปสติกเนื้อสวย แม้จะล้างหน้าไร้เครื่องสำอางแต่ความสวยก็คงอยู่ เพราะว่าเป็นผู้หญิงเข้มแข็งไม่ค่อยหวั่นเกรงอะไรถึงสามารถดูแลตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้ชาย และแน่นอนว่าไม่เคยมีแฟนเลยสักครั้งเดียว ว้ายยย!! พรึ่บ สิ้นเสียงกรีดร้องเมื่อตัวเล็กลุกจากโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อจะเดินไปหยิบชุดนอนแต่กลับเห็นใครบางคนที่เข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบ ผ้าขนหนูเจ้ากรรมหลุดร่วงกองกับพื้นสายตาของผู้บุกรุกจ้องมองเป็นประกายมันวาว เพียงชั่วครู่เลือดก็ไหลออกจากจมูก ไฟในห้องกะพริบพั่บเป็นจังหวะแต่มีแสงสีแดงเปล่งประกาย ผู้ชายตัวสูงใหญ่ตรงหน้ามีเขี้ยวเเหลมงอกแทรกออกมาจากปาก อีกทั้งลวดลายที่เหมือนรอยสักเด่น หากเปรียบเทียบในวรรณคดีก็คือ ยักษ์ ดวงตาสีแดงเริ่มชัดคล้ายกำลังจะกลายร่าง ตุ๊บ! อักกก! ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้งภายในไม่กี่นาที เสียงร้องอึกอักตะกี้คือของผู้บุกรุก "พี่เข้ามาได้ไง ล..แล้วเข้ามาทำไม!" บ้าไปแล้วฉันต้องบ้าแน่ๆ "ตอบมาสิหนูกลัวนะ!!" "กล้าพูดคำว่ากลัว เหอะ อีเด็กบ้า" "พี่เข้าห้องหนูมาทางไหนก็ไม่รู้ จู่ๆ โผล่มาตรงหน้าหนูตกใจมือไม้มันก็ไปเอง" ฉันถือมีดปอกผลไม้ป้องกันตัวรักษาระยะห่าง ผู้ชายที่ลอบเข้ามาก็คือเจ้าของร้านเบเกอรี เราเจอกันหลายครั้ง "มือไม้ไปเองเหรอ...เหอะ ส้นตีนล้วนๆ มากกว่า เธอกระโดดถีบขาคู่จนฉันสลบไปยังมีหน้ามาพูดมือไม้ไปเองอีกเหรอ!!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD