หอพักราคาประหยัดแต่ก็ใกล้กับมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่ เจ้าของห้องนี้ชื่อว่าชมพูพิ้งค์ หรือ พิ้งค์ หน้าสวยหุ่นบางสไตล์สาวตัวเล็ก เธอตากลมโตผมยาวสีดำมีรอยยิ้มสะกดใจ
"เซ็งช่วงนี้ขายกระเป๋าไม่ค่อยได้จะเอาเสื้อผ้ามาขายก็ไม่มีเวลา เพิ่งเปิดมหาวิทยาลัยกิจกรรมอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด" ฉันถอนหายใจนั่งขดตัวอยู่บนเตียงจ้องมองเพื่อนสนิทสองคนกำลังกินมะม่วงดอง "ว่าแต่อีอาร์มไปทำงานร้านเบเกอรีเหรอ แล้วมึงอะตาล"
เพื่อนสาวผมสั้นใส่เส้นเรียบร้อยพูดน้อยมาก ชื่อ ตาล เราสามคนเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถม เนื่องจากพวกเราเป็นเด็กบ้านนอกย้ายมาเรียนและสอบได้มหาวิทยาลัยเดียวกัน
อาร์ม มีแต่ยายที่ทำนาส่วนตาลพ่อทำงานโรงสีข้าว และ ฉัน มีญาติรับเลี้ยงโยนกันไปมา เนื่องจากพ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ตั้งแต่ยังแบเบาะ จะเรียกว่าเด็กกำพร้าเลยก็ได้
"กูยังไม่รู้แต่คิดว่าอาจจะรับเขียนงาน" ตาลพูดพลางขยับแว่นที่สวมใส่ อาร์มกระเด้งตัวลุกจากเตียงตะโกนโวยวาย "ฉิบหายละปวดท้อง!"
ปู๊ดดดด
"หยี๋ อีอาร์ม!!!"
ชายร่างบางวิ่งเข้าไปในห้องน้ำหลังตดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนเพื่อนทั้งสองคนละอายตะโกนด่าดังลั่น
เวลาผ่านไปหลายนาที
"มึง กะ กูไม่ไหวแล้ว" ท่าทางอ่อนเพลียเนื่องจากท้องเสียนั่งลงบนเตียงอย่างช้าๆ "ใครก็ได้ไปทำงานวันแรกแทนกูหน่อย"
"กูไม่ว่างนะพอดีรับงานเขียนวิชาการในออนไลน์ไว้ด้วย" ตาลรีบออกตัว ทุกคนหันขวับจ้องหน้าชมพูพิ้งค์ "อีพิ้งค์กูไหว้ล่ะวันแรกถ้ากูขาดงานเขาไล่กูออกแน่"
"มึงก็โทรไปลาบอกว่าเกิดเหตุสุดวิสัยสิ กูอยากขายกระเป๋าต่อ"
"กูแบ่งเงินของวันนี้ให้เลยครึ่งนึง"
"เท่าไหร่..."
"ร้อยห้าสิบ"
"ถุ้ย!! กูขายกระเป๋าใบหนึ่งกำไรห้าร้อยไปทำงานแทนมึงได้ร้อยห้าสิบ"
ใครมันจะไปเอาฉันรีบเบี่ยงปฏิเสธทันทีแต่อาร์มก็พยายามรบเร้า
"ก็กูได้วันละสามร้อยกูให้ร้อยห้าสิบเหลืออีกร้อยห้าสิบกูก็จะเอาไปหาหมอ มึงไม่สงสารเพื่อนตาดำๆ เหรอ นะอีพิ้งค์นะมึงคนสวย" เสียงหวานอ้อนคว้าเขย่าแขนของเพื่อน
"เอ่อ! ไปก็ไปโอนมาก่อนเลยเดี๋ยวมึงเบี้ยว"
"ขี้งก"
"มึงว่าอะไรนะ"
"กูบอกว่าสุดยอดมึงคือบุคคลตัวอย่างของผู้หญิงรอบคอบ"
"ตอแหลตะกี้ดูได้ยินสั้นกว่านี้!!"
อาร์มแอบขำ แม้ชมพูพิ้งค์จะเห็นแก่เงินแต่เพราะต้องดูแลค่าใช้จ่ายของตัวเองทั้งหมด เธอขยันทำงานตั้งแต่อายุสิบห้าเนื่องจากญาติเลี้ยงไม่ไหวถึงดิ้นรนด้วยตัวเองมาตลอด
กริ๊ง
ช่วงหกโมงเย็น เป็นเวลาทำงานของอาร์มที่ต้องมาเก็บกวาดและถูเช็ดล้าง ส่วนตอนเช้าหรือบ่ายก็มีพนักงานเสิร์ฟูไทม์ที่จ้างมาประจำต่างหาก หลังจากประตูเปิดออกกว้างทั้งหมดต่างจับจ้องเป็นตาเดียว
ชมพูพิ้งค์เดินเข้ามาพร้อมกับแนะนำตัว วันนี้สามหนุ่มนั่งริมซ้ายซึ่งอยู่ริมเคาน์เตอร์
"สวัสดีค่ะหนูชื่อชมพูพิ้งค์หรือเรียกว่าพิ้งค์ก็ได้มาทำงานแทนอาร์มที่ป่วย"
"!!!!"
"เอ้า..พี่คนนั้นที่เคยช่วยหนูไว้นิ ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะคือว่า..หนูมีหน้าที่ทำอะไรบ้างคะ"
"____"
ผวะ
"มึงจะอึ้งหาแม่มึงเหรอไอ้ยักษ์ น้องคนสวยถามว่าต้องทำอะไรบ้าง" เหลือมฟาดฝ่ามือเต็มศีรษะเพื่อน "นิ่งเป็นนาฬิกาหยุดเวลาเลยไอ้สัส"
"เออ ได้ยินแล้วกูกำลังจะตอบไง"
"คิดนานจังวะ"
"ทานโทษนะนี่ร้านกูมึงเสือกอะไร"
ผัวะ!
ยักษ์ฟาดฝ่ามือกลับเต็มศีรษะของเหลือมคืน จากนั้นก็หันมาชี้แจงรายละเอียดให้กับสาวน้อยหน้าใส
"ไอ้แชมป์มึงดูคอกูสิหักยังแม่งตบกูอย่างกับไปกัดหูมัน! รุนแรงฉิบหาย" เหลือมบ่นพึมพำ
"ไม่หักแค่แดงแล้วช้ำๆ"
"ค่อยโล่งใจที่ยั้งมือ ถุ้ย! ไอ้ห่าสมองกูไหลมารวมกันแล้วมั้ง"
"มึงไปทำมันก่อน ฮ่าๆ"
สองหนุ่มพูดคุยตบมุกตลก หลังร้านมีสองคนยืนอยู่ยักษ์อธิบายห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดพร้อมกับหยิบยื่นให้
"จ้องหน้าทำไม" ผมถามเมื่อรับรู้ถึงสัมผัส
"ปะ เปล่าคะ"
"เรียนอยู่คณะเดียวกับเพื่อนเหรอ"
"เปล่าหรอกค่ะ หนูเรียนวิจิตรศิลป์ส่วนอาร์มเรียนศิลปกรรมเรารู้จักกันแต่เด็กว่าแต่พี่เรียนที่เดียวกับพวกเราแล้วเรียนคณะอะไร"
"บริหารจัดการ"
ผมตอบปัดแล้วรีบพาออกจากห้องเก็บของมายังด้านหน้าสั่งให้เก็บกวาดทุกอย่างเนื่องจากร้านเบเกอรีของผมปิดในเวลาหนึ่งทุ่มตรง
เวลาล่วงเลยผ่าน เพื่อนทั้งสองก็กลับไป ทั้งร้านเหลือแค่ผมกับเด็กพนักงาน part time
"โอ๊ยยย!"
"ขอโทษค่ะ"
น้ำร้อนที่ชมพูพิ้งค์ถือรดราดบนนิ้วของยักษ์ที่กำลังคิดบัญชี สักพักเธอก็หยิบโถแก้วขึ้นมาเพื่อจะทำความสะอาด
ตุ๊บ
"โอ๊ยยยย! ทำบ้าอะไรเนี่ย"
"ขอโทษอีกครั้งค่ะมันหลุดมือ ม..มันหนัก"
"นี่เธอแกล้งฉันหรือจงใจมาฆ่ากันเนี่ย!!"
"หนูตัวเล็กนิดเดียวโถมันหนักจะตาย"
คิ้วหนาผูกปมสาดเสียหงุดหงิดใส่ ยักษ์หยิบสมุดบัญชีมานั่งทำตรงโต๊ะกลมที่ประจำสักพักเสียง กริ๊ง กระดิ่งร้านเปิดออกปรากฏว่าเป็นตาลที่ได้นัดหมายให้มารับชมพูพิ้งค์ที่ร้าน เธอถือแผ่นกระดาษบางอย่างมาพร้อมยกชูแล้วตะโกนดังลั่นเนื่องจากไม่รู้ว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย
"อีพิ้งค์กูขอรูปนี้นะเห็นมันปลิวมาจากหลังตู้มึงโคตรเท่เลย..รูปยักษ์ตาสีแดงด้วย"
"!!!!"
"!!!!"