หญิงสาวมองภาพที่สามีสบตากับผู้หญิงคนนั้นอย่างร้อนแรง ฝ่ามือหนาลูบไล้บั้นท้ายบีบขยำเคล้นคลึง แหงนหน้ารับจูบดูดดื่มที่บดเคล้าพลางแลกจูบตอบเร่าร้อนไม่แพ้กัน ทั้งมือทั้งปากเธอสั่นระริก หัวใจยิ่งสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ข้างในปริร้าวแตกสลายกลายเป็นซากปรักหักพัง ขาแขนพานอ่อนแรงจนยืนทรงตัวไม่อยู่มือบางตะปบพนักโซฟาตัวข้างๆ ฝังเล็บจิกลึกช่วยพยุงกายไม่ให้ล้มลงไปเสียก่อน
“ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ” เธอกดเสียงถามบังคับไม่ให้สั่นอย่างยากเย็น ทั้งที่อยากจะร้องไห้เต็มทีในแววตามีแต่ความขมขื่น
ดนุวัศผละจูบจากสาวสวย จุ๊บเบาๆ ที่ริมฝีปากแดงราวจะขอโทษที่โดนขัดจังหวะ ก่อนจะหันมาปรายตามองคนถามพลางเหยียดยิ้ม
“นี่บ้านฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้”
“แต่โปรดเป็นภรรยาพี่ ถึงไม่รัก ก็ช่วยให้เกียรติกันหน่อยไม่ได้เลยเหรอคะ” ทำไมเขาจะต้องพาผู้หญิงอื่นมาเหยียบย่ำเธอถึงที่นี่ด้วย?
จริงอยู่ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผ่านมาเธอรับรู้ตลอดว่าสามีควงผู้หญิงหลายคน มีภาพดนุวัศปรากฎในข่าวสังคมแทบไม่ว่างเว้น เดี๋ยวก็ควงไฮโซเซเลบออกงาน ไปดินเนอร์หวานกับนางเอกสาว ยันไปถึงเข้าโรงแรมกับนางแบบดาวรุ่ง แต่คนที่ดูจะมาวินผู้คนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษก็คือ...รมิดา กุลวณิก นางแบบและเซเลบแถวหน้าที่เขาควงกลับมาวันนี้นี่แหละ
ทั้งคู่มักไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้งโดยไม่สนปาปารัซซีที่ตามถ่าย ยิ่งถ่ายก็ยิ่งควงกันให้เห็น แถมยังมีโมเมนต์สวีทหวานอย่างเปิดเผยไม่แคร์สายตาใคร
ขณะที่เธอแต่งงานกับเขามาร่วมสามปี ไม่มีสักครั้งที่เขาพาเธอไปทนข้าวดูหนังหรือเดตกันแบบคู่สามีภรรยา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะพาออกงานหรือเปิดตัวต่อสังคม เขาโยนเธอไว้เป็นเมียก้นครัว อยู่ในซอกหลืบที่อับทึบมืดมน มองเธอเหมือนสิ่งสกปรกน่าขยะแขยง แค่จะพูดจาดีๆ กันสักคำยังแทบเป็นไปไม่ได้ แม้แต่หน้าเธอดนุวัศยังรังเกียจที่จะมองเลย
สีหน้าแววตาเกลียดชังจากเขาเป็นสิ่งที่เธอเห็นจนชินตา แต่ไม่เคยชินใจเลยสักครั้ง ยังคงเจ็บปวดกับมันเสมอ และยิ่งปวดร้าวเจ็บลึกมากขึ้นทุกที... ทุกคืนทุกวัน...
“อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไสหัวออกไป!” ดนุวัศตวาดเสียงกร้าว ยกมือลูบไล้หัวไหล่เปลือยของคนในอ้อมแขนแผ่วเบาอย่างปลอบโยน ที่เผลอเสียงดังจนอาจจะทำให้หล่อนตกใจ สาวสวยแนบร่างอ่อนระทวยอิงซบอกแกร่งอย่างออเซาะ ไล้ปลายนิ้วเล้าโลมอกหนั่นแน่นอย่างยั่วยวน ปรายหางตามองผู้หญิงที่ยืนตัวสั่นเทิ้มแล้วยิ้มเยาะสมเพช
“นี่ใครคะดอม นางบำเรอหรือว่าคนใช้บ้านคุณคะ?” ไม่ใช่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคือภรรยาของเขา เมื่อกี้เจ้าตัวก็พูดอยู่เต็มสองหู แต่แล้วยังไงล่ะ เจ้าหล่อนยักไหล่ มองเหยียดคนเป็นเมียอย่างดูแคลน “แต่...มิดาดูยังไงก็เป็นแค่คนใช้เท่านั้นเอง”
ดนุวัศกระตุกยิ้ม ปรายตามองใบหน้าซีดเผือดที่สบตาเขาด้วยแววตารวดร้าวตัดพ้อ ยิ่งโปรดปรีดาเจ็บมากเท่าไร ความเจ็บปวดในใจเขาก็ยิ่งบรรเทาลงเท่านั้น เขาจึงไม่ลังเลที่จะใช้ความรักที่เธอมีต่อเขาเป็นคมมีดกรีดหัวใจเธอให้เหวอะหวะด้วยการจูบหัวไหล่เนียนนุ่มของรมิดา เอ่ยเสียงนุ่มเอาใจว่า
“คุณเห็นเป็นยังไง ก็ตามนั้นเลยครับ”
รมิดาหัวเราะคิกคัก แสร้งเล่นตัวเบี่ยงไหล่หลบอย่างมีจริต มือก็ดันอกเขาเบาๆ เอ่ยหยอกล้อว่า
“อืม...อย่าเล่นสิคะ ไม่เหนียวตัวเหรอ เมื่อกี้เราก็เพิ่ง...”
ดนุวัศไม่ฟังไล่ตามจูบหัวไหล่มนอย่างมันเขี้ยว ดวงตากรุ่นเข้มกวาดมองเรือนร่างเซ็กซี่อย่างร้อนแรงหิวกระหาย
“แต่ผมอยาก รอไม่ไหวแล้ว” เขากระซิบข้างหูสาวสวย แต่ดังพอที่จะให้อีกคนได้ยินด้วย