(จีน)
วันต่อมา
10.23 am.
แกร็ง!
"มึงเป็นบ้าไปแล้วรึไง?"
ฉันเงยหน้ามองโจโฉหลังมันแทบจะทำประตูห้องฉันพัง เพราะฉันไม่ได้ยินเสียงออด มันใช้เท้าเคาะประตูรึไงกัน
"มาเสียงดังอะไรแต่เช้า"
"มึงนอนไปในสภาพแบบนี้เนี่ยนะ?"
"ทำไม? สภาพไหนกูก็สวยแหละ"
"ไม่ใช่เวลามาตลกนะจีน มึงรู้ไหมพ่อมึงโทรมาหากูแต่เช้าจนกูไม่ต้องนอนมันแล้ว!"
โจโฉถีบเก้าอี้ที่บาร์ในครัวฉันอย่างแรงจนมันล้มลงไปพื้น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ทำให้ฉันรู้สึกกลัวในความใจร้อนและโมโหร้ายของมันแม้แต่นิด ฉันเดินไปส่องกระจกดูใบหน้าตัวเองที่ตอนนี้มุมปากเริ่มบวมเบ่งขึ้นมา ถึงว่าพูดเมื่อกี้เจ็บปากฉิบหาย
"ได้ซื้อยามาให้ไหม?"
ฉันหันมองโจโฉพร้อมกับแบมือก่อนจะได้หลอดยาที่ไอ้โจโฉมันโยนมาใส่ ฉันเม้มปากมองมันอย่างนึกรำคาญก่อนจะก้มลงไปหยิบยาแก้ฟกช้ำมาทาที่มุมปากและโหนกแก้ม
"จีนคลิปที่มึงไปตบกับเขาหน้าร้านว่อนไปทั่ว พ่อมึงโมโหมาก"
"อือฮึ"
"มึงจะขำไม่ลงนะถ้าพ่อมึงกักบริเวณอีก"
"เขาเป็นพ่อกูนี่ เขาจะทำอะไรกูก็คงได้หมดแหละแต่แล้วยังไงล่ะในเมื่อเรื่องมันเกิดไปแล้ว แล้วกูก็เป็นแบบนี้ถ้าพ่อคิดจะเอากูไปเร่ขายก็เอาเลยดิกูมันไม่มีค่าอะไรอยู่แล้วนิ"
ไอ้โจเงียบไปทันทีเมื่อฉันหันไปมองมันอย่างไม่พอใจ และพูดอะไรยาวเหยียดอย่างที่ตัวเองไม่ชอบทำ ฉันเดินไปหยิบน้ำขึ้นมาเปิดดื่มก่อนจะหยิบน้ำส้มของโปรดไอ้โจติดมือไปให้มันด้วย
"มึงอย่าไปคิดงั้นดิ ที่พ่อทำก็เพราะเป็นห่วงมึง"
"ถ้าเขาเป็นห่วงเขาจะไม่ขังกูไว้แบบนี้ นี่มันไม่ต่างอะไรกับคุก"
ฉันถอนหายใจออกมาอีกครั้งและนั่งลงข้างๆไอ้โจ
"ขอโทษมึงแล้วกันที่ทำให้ต้องตื่นแต่เช้า จริงๆมึงโทรมาหากูว่ากูยังไม่ตายแล้วก็พอไม่ต้องถ่อมาถึงนี่"
"กูก็แค่อยากมาเห็นกับตาว่ามึงยังไม่ตาย" ฉันหันมองไอ้โจก่อนมันจะยกยิ้มมุมปากระหว่างที่เปิดขวดน้ำส้ม "แล้วมึงชนะไหม?"
"เมื่อคืนเหรอ?"
"เออ"
"กูตีเพื่อนมันเจ็บไปสี่เลยนะ ส่วนอีคนเก่งมันเกือบจะหน้าแหกแล้วถ้าหมอกไม่มาดึงกูออกก่อน"
"หมอก?"
"หมอกไง" ฉันเลิกคิ้วมองไอ้โจก่อนจะยิ้มทั้งที่ยังเจ็บปากอยู่ "คนที่กูอยากได้มากๆตอนนี้"
ไอ้โจแสยะยิ้มมุมปากและหันไปยกน้ำส้มดื่มทางอื่นทำให้ฉันไม่เห็นหน้ามันแต่ใครสน
"ถ้าเขาไม่มาห้ามปานนี้รู้ผลแล้ว"
"แม่คนเก่ง"
"เอ้า ห้าต่อหนึ่งมึงว่าไงล่ะ"
"ครับ มึงมันเก่งที่หนึ่งอยู่แล้ว"
ฉันหัวเราะเบาๆก่อนจะเอนตัวไปอิงไอ้โจโฉไว้ พลางหลับตาลงนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เพิ่งเกิดขึ้น
"เมื่อคืนมึงรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น"
"มึงโดนไอ้หน้าจืดนั่นด่าเละ"
"เราจูบกัน"
ฉันลืมตามองสบตาไอ้โจโฉพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"รสชาติเลือดยังติดปลายลิ้นกูอยู่เลย"
"มึงคงคลั่งมันมากสินะ"
"ก็นะ..พอได้จูบหนึ่งครั้งมันก็อยากจะทำอีก"
พรึบ
โจโฉรั้งต้นคอฉันเข้าไปหาจนใบหน้าเราห่างกันแค่คืบทำให้ฉันได้เห็นดวงตาเรียวหรี่ที่เฉี่ยวราวกับเหยี่ยวที่กำลังมองลงมาได้เต็มๆตา
"รู้ว่ากำลังสนุก แต่คำนึงถึงขอบเขตที่มึงทำได้ด้วย"
"มึงจะทำให้กูรู้สึกอยู่ในคุกไปอีกคนเหรอ ทั้งๆที่กูไว้ใจมึงมากขนาดนี้"
ฉันมองสบตาโจโฉแบบไม่วางตาและขยับเข้าไปใกล้มันมากขึ้นจนลมหายใจเราสองต่างเป่ารดกัน และเป็นไอ้โจโฉเองที่ขยับออกและลุกขึ้นยืนมองฉันที่กำลังหัวเราะขำอยู่
"ฮ่าๆ มึงชอบเริ่มเกมจ้องตาแต่ก็แพ้กูตลอดอ่ะ!"
"กูไม่มีเวลาว่างมาเล่นกับมึงขนาดนั้น"
"วันนี้วันเสาร์มึงมีเรียนเหรอ?"
"อย่างน้อยก็ต้องเข้าบริษัท ในเมื่อกูอยากได้หุ้นแล้วก็เงินกูก็ต้องหากูไม่ใช่มึงที่เอาแต่เล่นสนุก"
"แหม เพิ่งโตขึ้นไม่กี่ปีทำแอคใหญ่"
ฉันนอนลงบนโซฟา และถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ฝากล็อกห้องด้วยกูจะจำศีลสักวันสองวันให้หน้าหายบวมกว่านี้สักหน่อย"
"ก็ถ้าพ่อมึงไม่ให้คนมาลากตัวไปหามึงก็คงจะได้จำศีลอยู่หรอกนะ"
ไอ้โจโฉขู่ฉันอีกครั้งก่อนมันจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ฉันนอนหลับตาอยู่บนโซฟา ก่อนฉันจะขยับเปลือกตาขึ้นและเดินไปหยิบโทรศัพท์ในห้องมาเปิดเครื่อง...และทันทีที่เปิดแจ้งเตือนเป็นร้อยจากพ่อก็เด้งขึ้นมาจนเครื่องแทบจะน็อกไปอีกรอบ
"เฮ้อ"
ช่างมัน ตอนนี้ฉันต้องหายามากินแล้วนอน เพราะฉันไม่เอาหน้าบวมๆแบบนี้ไปเจอหมอกแน่ๆให้ตายสิ!
1.23 pm.
"ยึดบัตรกับรถเนี่ยนะ?"
"ครับ ประธานแจ้งว่าอีกหนึ่งอาทิตย์จะเอามาคืนถ้าคุณหนูทำตัวดีขึ้น"
"ดียังไง ให้ไปทำจิตอาสาล้างถนนไหมถึงจะว่าเป็นคนดีขึ้น?"
เลขาพ่อมองฉันด้วยแววตาเหนื่อยล้าขณะที่ฉันกำลังกอดอกมองเขาอย่างเบื่อหน่าย
"ช่างเถอะอยากทำอะไรก็ทำถ้าคิดว่าทำแล้วลูกเขาจะเข็ดจะหลาบ แต่ว่านะ..ฝากไปบอกพ่อด้วยว่าแค่การมาหาลูกเพื่อตักเตือนยังมาไม่ได้ก็อย่าเรียกตัวเองว่าพ่อเลย น่าสมเพช"
ปึ่ก!
ฉันกระแทกประตูปิดและเดินกลับมานั่งที่โซฟาอย่างเหนื่อยล้า รถก็ไม่มีขับแล้วแถมเงินยังถูกจำกัดใช้อีก..แต่คิดว่าฉันจะไม่มีแผนสำรองรึไง ใครจะโง่ไม่กดเงินสดมาไว้ก่อนล่ะจริงไหม?
วันต่อมา
12.22 pm.
"ข้าวผัดทะเลไข่ดาวไม่สุกหนึ่งแล้วก็แตงโมปั่นแก้วนึงนะคะคุณหมอก"
"ครับ"
ฉันเบะปากไล่หลังร่างสูงของหมอกที่เพิ่งจะเดินมารับออเดอร์ไปจากฉันหลังจากฉันเดินเข้าร้านมาเพื่อจะหาอะไรกิน จริงๆฉันไม่ได้ตั้งใจมาแต่ฉันขี้เกียจจะรออาหารมาส่งแล้วอีกอย่างฉันมีแว่นกันแดดที่สามารถปิดบังรอยช้ำจากที่โดนตบของตัวเองได้ฉันเลยใส่มันมาด้วยทั้งที่แดดไม่ได้ออก
ที่ใส่เพราะจำใจล้วนๆ เพราะว่าก็ว่าตอนนี้ฉันแทบจะมองไม่เห็นอะไรในร้านอยู่แล้ว
"แตงโมปั่นครับ"
"จีนไม่ได้เป็นอะไรมากนะแค่ปากแตก โหนกแก้มช้ำเท่านั้นเองทุกอย่างโอเคหมอกไม่ต้องเป็นห่วง"
"ผมไม่ได้ถามเลย"
ฉันเงยหน้ามองหมอกผ่านแว่นกันแดดก่อนจะยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นรอยแตกที่ริมฝีปากล่างของเขา ให้ตายพอมีรอยแตกแบบนั้นมันยิ่งเร้าใจกันเป็นบ้า
"ก็เผื่อหมอกเป็นห่วงเห็นแอบมองเราบ่อยๆ"
"ผมต้องมองอยู่แล้วเพราะเธอเป็นลูกค้า"
"อือฮึ จะเชื่อแล้วกัน"
หมอกขมวดคิ้วมองฉันก่อนเขาจะเดินออกไปทิ้งให้ฉันนั่งยิ้มคนเดียวกับน้ำแตงโมปั่นในมือ
"ข้าวผัดได้แล้วค่ะ"
ฉันเงยหน้ามองพนักงานหญิงที่เดินเข้ามาเสริฟแทนหมอกก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ และมองหาหมอกอีกครั้งแต่ไม่เจอ
"หมอกล่ะ?"
"คะ?"
"พนักงานที่ชื่อหมอกอยู่ไหน?"
"อ่อ พี่หมอกสลับไปกินข้าวค่ะ"
"เขากินข้าวกับใคร?"
"กับเพื่อนพนักงาน"
พนักงานสาวตอบเสียงเบาด้วยท่าทีกลัวๆจนฉันต้องลดระดับความไม่พอใจของตัวเองลงและส่งยิ้มให้เธอบางๆ
"งั้นฝากเอากาแฟไปให้หมอกหน่อยสิ บอกว่าจีนชื่อให้นะ"
"ได้ค่ะ"
ฉันยิ้มให้เธอก่อนเธอจะรีบเข้าไปหลังเคาน์เตอร์เพื่อทำกาแฟไปให้หมอก ขณะที่ฉันก็เริ่มกินข้าวเพื่อที่จะได้กินยาแก้อักเสบตาม ปกติฉันกินข้าวเร็วมากนะแต่ดูตอนนี้สินี่ฉันแทบจะกินข้าวได้ทีละเม็ดแล้วอ่ะ
พรึบ
ฉันหรี่ตามองแก้วกาแฟที่ถูกวางลงตรงหน้าก่อนจะเงยหน้ามองหมอกที่กำลังยืนมองฉันอย่างไม่พอใจจนฉันต้องยิ้มตอบอย่างใจเย็น
"ว่าไง"
"เลิกทำแบบนี้สักที"
"แบบไหน?"
"ก็ตามไปทุกทีแล้วก็ระรานผมไปทั่วแบบนี้"
"ซื้อกาแฟให้เขาเรียกระรานเหรอ?"
"ผมไม่อยากให้เธอมาตามแบบนี้"
"ฉันแค่มากินข้าวเพราะมันใกล้คอนโด นี่เข้าใจว่าโมโหกันอยู่แต่สภาพแบบนี้ก็ไม่อยากจะออกไปไหนเหมือนกันแหละ"
หมอกมองฉันด้วยแววตานิ่งเรียบขณะที่ฉันกำลังเม้มปากมองเขาคล้ายกับว่ากำลังจะร้องไห้ให้ได้
"จีนโดนพ่อยึดรถยึดบัตรไปแล้ว แล้วจีนยังจะโดนหมอกไล่ให้ไปกินที่อื่นได้อีกมันไม่ใจร้ายกับจีนไปหน่อยเหรอ?"
ฉันเม้มปากมองเขาพร้อมกับจมูกตัวเองที่เริ่มร้อน และฉันมั่นใจว่ามันกำลังแดงอยู่แน่นอน
"งั้นหมอกก็ไปคิดเงินเลยก็ได้เดี๋ยวเรากลับเลย"
ฉันหยิบกระเป๋าเงินออกมารอแต่หมอกกลับยืนนิ่งจนฉันต้องเงยหน้ามองเขาอีกครั้งด้วยความสงสัย
"ผมแค่บอกว่าไม่เอากาแฟไม่ต้องซื้อให้"
"แต่เรากินกาแฟไม่ได้ แล้วที่อยากซื้อให้ก็เพราะอยากไถ่โทษ..แต่ถ้าหมอกไม่กินก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราเอาไปทิ้งเองก็ได้"
หมอกหรี่ตามองฉันขณะที่ฉันก็ทำเป็นไม่มองสบตาเขาตอบจนเขาถอนหายใจ และเอื้อมมือมาหยิบแก้วกาแฟขึ้นไป
"ทีหลังอย่าทำอีก"
"ขอโทษนะ"
ฉันเงยหน้ามองหมอกและเม้มปากมองเขาอย่างรู้สึกผิด
"จีนไม่รู้ว่าควรจะเข้าหาหมอกยังไงแล้ววันนั้นจีนก็เมา..จีนไม่อยากให้หมอกเกลียดจีน จีนรู้ตัวว่าอาจจะถูกหมอกมองไม่ดีไปแล้วแต่จีนก็อยากขอโทษ"
หมอกยังคงมองฉันด้วยสายตานิ่งเรียบแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็รู้สึกว่ามันไม่ได้แข็งกระด้างอย่างเคยฉันจึงหันมากินข้าวต่อไม่ได้สนใจอะไรเขาอีกจนหมอกเดินไปนั่นแหละฉันถึงยกยิ้มมุมปาก และเงยหน้ามองตามหลังหมอกด้วยรอยยิ้ม
อย่างน้อยหมอกก็ยังเอากาแฟฉันไปล่ะนะ ยังถือว่าวันนี้ไม่ได้แย่อะไร