บทที่ 1 BAD DENGEROUS
บทที่ 1
มันจะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้ที่จะยอมอยู่ในสถานะที่ไม่มีชื่อเรียกกัน มันจะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้ที่ยังใช้ชีวิตกับสถานะที่ไม่มีชื่อเรียกแบบนั้น
แต่ต้องขออภัยที่ต้องตอบว่ามันมีหลายร้อยคนที่ชอบจะอยู่กับความสัมพันธ์แบบนั้น
อย่างเช่น เขาและเธอทั้งสอง...ที่อยู่กันแบบไม่มีชื่อเรียกในความสัมพันธ์นี้
เพียงแค่พอใจในกันและกันและแค่ยอมรับในกฎที่อีกฝ่ายเป็นคนสร้างขึ้นมาเท่านั้น ก็ถือว่าทุกอย่างเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ไซเรนเจ้าของไนต์คลับชื่อดัง เขาผู้มีใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปปั้นเดินได้ เป็นที่หมายปองของสาว ๆ แต่เขากลับเฉยชากับพวกเธอเหล่านั้น เพียงเพราะไม่ชอบความสัมพันธ์ที่ต้องผูกมัดกับใครคนใดคนหนึ่งไว้กับตัวเอง
เขาจึงสร้างกฎขึ้นมาเพื่อตัวเองไว้ห้าข้อ คือ
-ห้ามผูกพัน
-ห้ามเรียกร้อง
-ห้ามก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว
-ห้ามแสดงความเป็นเจ้าของ
และข้อสำคัญห้ามเผลอรักฝ่ายตรงข้ามเด็ดขาด!!
ถ้าใครสามารถรับได้ในกฎที่เขาสร้างไว้ก็ถือว่าไปต่อกันได้ แต่ถ้าไม่...ก็คงต้องโบกมือลาตั้งแต่ตอนนั้น
ซึ่งเธอ...เอวา สาวสวย ที่ไม่เคยมีความรักและไม่คิดที่จะมีความรัก เพียงเพราะมีความเชื่อว่าความรักมันอันตรายต่อเธอ เธอจึงหลีกเลี่ยงมันมาโดยตลอด แต่พอมาวันหนึ่ง เธอได้พบกับเจ้าของไนท์คลับอย่างไซเรนด้วยอุบัติเหตุที่แสนบังเอิญเข้า ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป เธอยอมใกล้ชิดผู้ชายอย่างเขา และอยู่ภายใต้กฎที่เขาสร้างขึ้นมาอย่างพอใจ
และมันก็เป็นแบบนั้นมาจนถึงตอนนี้โดยที่ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“อื้ม~”
“นายอย่าดูดสิ เดี๋ยวมันเป็นรอยไซเรน อ๊ะ!”
“ถ้าไม่ให้ดูดงั้นฉันกัด”
“อ๊ะ! ไซเรนพอได้แล้วนายหยุดแกล้งฉันได้แล้ว ฉันเหนื่อยแล้วนะ”
“แต่ฉันยังไม่อิ่ม และฉันก็ยังพอใจที่จะลงโทษเรื่องที่เธอกล้าตัดสายตอนฉันโทรไปด้วย”
“นายมันไร้เหตุผลที่สุด”
“หึ จะเอาเธอสักอย่างมันต้องใช้เหตุผลอะไรมากมายวะเอวา” สิ้นสุดประโยคคมคายร่างหนาก็จัดการคนใต้ร่างต่อทันที
1 ชั่วโมงต่อมา...
หลังจากที่โดนทำโทษจากบุคคลที่นอนพิมพ์โทรศัพท์อยู่บนเตียงเสร็จ เอวาก็รีบกุลีกุจอลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวทันที เพราะตอนนี้มันเลยเวลาที่เธอได้นัดไว้กับเพื่อนแล้ว เธอจึงต้องรีบและรีบให้ถึงที่สุด ไม่อย่างนั้นเพื่อนอาจจะสาปส่งเธอที่ไปช้าก็เป็นได้
แต่ในความเร่งรีบของเธอก็ดันทำให้คนที่กำลังคุยงานกับลูกน้องอยู่ต้องละสายตาจากโทรศัพท์ขึ้นมาถามด้วยความสงสัย
“แล้วนั้นเธอจะรีบไปไหน”
เสียงไซเรนที่ละสายตาจากโทรศัพท์ในมือเอ่ยถามเอวาที่กำลังยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจกด้วยความเร่งรีบ
“ไปผับ”
“ผับไหน”
“ดราก้อน ผับ” เอวาหันไปตอบชื่อผับด้วยน้ำเสียงติดรำคาญเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปแต่งตัวต่อ จึงทำให้คนที่ได้คำตอบแล้วนั่งเงียบไม่ถามต่อ เพราะชื่อผับที่ร่างบางตอบนั้นเป็นชื่อผับของเขาที่เป็นเจ้าของอยู่นั้นเอง
@Dragon Club
“เอวา มึงโคตรมาช้าเลยว่ะ พวกกูรอจนรากจะงอกอยู่แล้วเนี้ย”
ทันทีที่เอวาสามารถเบียดตัวจากฝูงชนที่กำลังยืนโยกตัวกันตามจังหวะเพลงที่ดีเจเปิดได้ เธอก็ได้ยินเสียงอลิสเพื่อนในกลุ่มตะโกนบ่นเสียงดังลอยมาคนแรกทันที แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากเดินไปนั่งแล้วจัดผมเผ้าให้เข้าที่เข้าทางเท่านั้น
และใช่ ตอนนี้เธอมาถึงผับที่นัดไว้กับเพื่อน ๆ แล้ว ซึ่งผับที่พวกเธอนัดกันมาคืนนี้ก็ตามที่ได้บอกไว้กับไซเรน
“เอวา เมื่อกี้กูเพิ่งเห็นเฮียไซเดินเข้ามาก่อนมึงแป๊บเดียวเองอะ นี่มาด้วยกันเหรอว่ะ”
แบมบี้เพื่อนชายใจหญิงของเอวาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัย จะไม่ให้สงสัยก็คงเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อเพื่อนของเธอทุกคนรู้ว่าเธอติดต่อกับไซเรน และรู้ว่าเธออยู่ในสถานะอะไร เป็นอะไรกับเขา เพื่อน ๆ จึงสงสัยที่เห็นแบบนั้น
“เปล่า ต่างคนต่างมา”
เอวาตอบเพื่อนออกไปด้วยสีหน้าราบเรียบ ก็ต่างคนต่างมาจริงตามที่เธอบอกไว้นั้นแหละ หลังจากออกจากคอนโดของเธอ ต่างคนก็ต่างขึ้นรถของตัวเองออกมาเหมือนคนไม่รู้จักกัน
อันที่จริงแล้วก็ไม่เชิงว่าต้องทำเป็นไม่รู้จักกันหรอก แต่เธอกับเขามักจะเป็นแบบนั้นเวลาอยู่ข้างนอกต่อหน้าคนอื่นเสมอ ทั้งสองคนเลยติดนิสัยทำแบบนั้น
“แล้วเฮียเขาไปหามึงมาเหรอว่ะ” เสียงมิล่าหนึ่งในเพื่อนของเอวาที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกันเอ่ยถามขึ้นอีกคน
“อืม”
“เฮ้อ~ กูถามจริงเหอะเอวา นี่มึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับเฮียเขาใช่ไหมว่ะ แบบเริ่มรู้สึกชอบแบบนี้อะ” แบมบี้เอ่ยถามเอวาด้วยสีหน้าเหนื่อยใจระคนเป็นห่วง
“ไม่อะ พวกมึงก็รู้ว่ากูและเขาอยู่ภายใต้กฎบ้า ๆ ที่เขาสร้างขึ้นมา”
“แล้วมึงก็ยังยอม นี่มันจะเดือนที่สามแล้วน่ะวา ที่มึงอยู่โดยไม่ได้เป็นอะไรกับเขาอะ มึงโอเคจริงอ๋อว่ะ อีกอย่างถ้าเกิดวันหนึ่งเขามีแฟนขึ้นมาจริงๆ มึงจะรับได้อ๋อว่ะ”
อลิสเอ่ยถามคนที่นั่งเงียบอย่างเอวาในขณะที่เธอเองกำลังทำสีหน้าเหนื่อยใจกับสถานะของเพื่อนที่ไม่ค่อยโอเคกับเธอสักเท่าไหร่นัก เพราะถ้าเป็นเธอถ้าได้ใกล้ชิดกันขนาดนั้น คงต้องมีความรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาบ้างละ
“กูโอเค วันไหนที่กูไม่โอเค เดี๋ยวกูก็เดินออกมาเอง พวกมึงก็รู้ว่ากูเป็นพวกที่ไม่ชอบให้ตัวเองเจ็บปวดอยู่แล้ว แต่ที่ตอนนี้กูยังอยู่ได้ก็เพราะกูยังโอเคกับสถานะแบบนี้อยู่”
“จ้า~ แม่คนเก่ง แม่คนสตรอง เหอะ! กูละเกลียดมึงจริงๆ ดื้อด้านฉิบหาย” แบมบี้ว่าออกไปด้วยน้ำเสียงประชดประชันพร้อมกับทำหน้าเบะปากใส่เอวา จนเพื่อนอีกสองคนหัวเราะร่ากับท่าทางนั้น....
“อีแบม มึงก็เบะปากจนเกินไป” มิล่าว่าพร้อมกับส่ายหน้ากลับไป
แต่ในขณะเดียวกันเอวากลับไม่สนใจกับท่าทางที่เพื่อนแสดงออกมา เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เพื่อนแสดงออกแบบนั้นต่อความสัมพันธ์ของเธอ และมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกอีกด้วยที่หัวใจของเธอจะรู้สึกชาวาบแบบนี้