บทที่ 2
ผลัก!!
ใบหน้าหล่อเหลาของไซเรนเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือที่กำลังเล่นอยู่หันไปมองทางประตูทันทีที่ได้ยินเสียงคนผลักประตูเข้ามาในห้องVIPที่เป็นห้องประจำสำหรับกลุ่มของพวกเขา
ก่อนจะเห็นร่างสูงโปร่งเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาทว่าติดขี้เล่นขององศาเดินหน้าระรื่นเข้ามา
“เฮียไซ คืนนี้ข้างล่างแม่งสุดจัดเลยว่ะ แต่ละคนนี้เด็ดๆ ทั้งนั้น...โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้”
องศาเดินไปนั่งเคียงไซเรนพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้ไซเรนดูอย่างตื่นเต้น ซึ่งข้างในนั้นมีรูปภาพของเอวาหญิงสาวที่อยู่ในความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดกับไซเรนอยู่ในนั้น
ทว่าสายตาราบเรียบของไซเรนกลับเหลือบมองรูปภาพของเอวาอย่างเฉยชาเท่านั้น ก่อนจะปัดมือขององศาออกให้พ้นจากหน้าของเขาอย่างนึกรำคาญในเวลาต่อมา
จากนั้นก็นั่งหน้านิ่งไม่สนใจสิ่งรอบข้างที่มีชีวิตอย่างองศาต่อไป
“อะไรว่ะเฮีย คนนี้ไม่เด็ดเหรอว่ะ เฮียถึงดูไม่สนใจอะ” องศาค่อนข้างที่จะแปลกใจอยู่เล็กน้อยที่ไซเรนดูเฉยชาต่อสาวสวยในโทรศัพท์ของเขา ทั้ง ๆ ที่เวลาปกติไซเรนจะไม่เป็นแบบนี้
“งั้นผมเอานะเว้ย” เมื่อเห็นว่าพี่ชายที่เคารพรักไม่ตอบ เขาจึงไม่รอช้าที่จะจองตัวเอวาเป็นของตัวเอง
แต่...
ผัวะ!
“ซี้ดดด เฮีย ตบหัวผมทำไมวะ” เมื่อทนแรงกดดันจากน้องชายอย่างองศาไม่ได้ เขาก็ไม่รอช้าที่จะยกฝามืออรหันต์ของตัวเองขึ้นไปผัวะกบาลองศาเข้าให้ จนเจ้าตัวที่โดนผัวะหันมาทำหน้างงใส่
“เขามีผัวอยู่แล้ว มึงจะไปยุ่งทำไม”
“ผัว? เฮียมั่วละ เท่าที่ผมรู้อะ ยัยนี้อะโสด ที่มหาลัยเธอฮอตมากเลยน่ะเฮีย ผู้ชายจากคณะอื่นรุมจีบกันเต็มอะ”
“ฮอตขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ” ไซเรนถึงกับถามกลับสีหน้าราบเรียบโดยสายตายังจ้องอยู่ที่โทรศัพท์เหมือนเดิม ทว่าในใจกลับรู้สึกร้อนรุ่มไม่พอใจกับประโยคบอกเล่าขององศาที่ดูจะจริงจังจนเขานึกภาพของอีกฝ่ายเวลาที่มีบุรุษหนุ่มรูปงามตามเข้ามาจีบอยู่ไม่น้อย
“ก็ใช่ดิเฮีย ทั้งกลุ่มเธออะ”
“งั้นมึงก็ไปยุ่งกับคนอื่นดิว่ะ จะยุ่งกับคนที่มีผัวอยู่แล้วทำไม” นิ้วเรียวหยุดชะงักก่อนที่จะตวัดสายตาขึ้นไปจ้องเงียบ ๆ
“เหรอว่ะเฮีย แต่ผมไม่สนว่ะ อยากลองเอากับคนมีผัวอยู่แล้วบ้างว่ะ คงจะแซ่บน่าดู” ทันทีที่ได้ยินคนข้าง ๆ พูดจาไม่เข้าหูจบไซเรนก็เม้มปากถอนหายใจออกมาทันที ก่อนจะยกเท้าหนัก ๆ ของตัวเองขึ้นไปถีบยอดอกองศาจนกระเด็นตกจากโซฟา
“อั๊ก! เฮียแม่ง! มึงเป็นเหี้ยไรเนี่ย ถีบผมทำไมอีกวะ...เป็นเหี้ยไรไหนบอกมาดิ”
องศาหันไปถามตาเขม็งใส่ไซเรนที่นั่งอยู่บนโซฟา เมื่อจู่ ๆ เขาก็โดนถีบตกลงมาจากโซฟาโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ
ก่อนหน้านี้ก็โดนตบกบาลจนหัวสั่นไปทีหนึ่งแล้ว มาคราวนี้เล่นแรงกว่าเดิมด้วยการถีบตกลงจากโซฟาอีก
“เปล่า เส้นเอ็นมันกระตุกว่ะ โทษที” แต่คำตอบที่ได้กลับมาอย่างไม่แยแสของอีกฝ่ายที่ตอบออกมาทำเอาคนที่นั่งบนพื้นอย่างองศาถึงกับแค่นเสียงในลำคออย่างไม่สบอารมณ์
“เหอะ! กระตุกเหี้ยไรละเฮียถีบกูกระเด็นขนาดนี้” องศาว่าเสียงฉุน แต่จู่ ๆ สมองอันชาญฉลาดของเขาก็ผุดคำถามบางอย่างออก จึงหันขวับกลับไปจ้องไซเรนด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“ทำไม...หรือว่าเฮียรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมว่ะ” ดวงตาเจ้าเล่ห์หรี่ตาลงอย่างจับผิดพร้อมกับลุกขึ้นไปนั่งที่เดิมแล้วยิ้มร่าออกมา
“หึ มึงยังโง่ดูไม่ออกอีกเหรอว่ะไอ้องศา ว่ามันเป็นอะไร”
เสียงเพื่อนพี่ชายในกลุ่มอย่างแผ่นดินที่นั่งโซฟาตรงข้ามและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างมาสักพัก แสยะมุมปากขึ้นพร้อมกับเอ่ยออกไปอย่างผู้รู้ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไปในที่สุด ปล่อยให้คนอื่น ๆ ในห้องนั่งกันต่อไป
“เฮียดินพูดอะไรวะเฮีย” แต่องศาที่ยังตามไม่ทันกลับทำหน้างงงวยออกมา จนคนที่เหลืออยู่อีกคนอย่างรามสูรซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของไซเรนอดที่จะพูดขึ้นมาด้วยความรำคาญไม่ได้
“ก็คนที่มึงบอกว่าจะเอาอะ เขาเป็นเด็กไอ้ไซมันไงไอ้โง่!!” ว่าจบรามสูรก็ลุกเดินตามแผ่นดินออกไปอีกคน
องศาที่ได้คำตอบแล้วจึงหันขวับไปตั้งคำถามกับไซเรนต่อทันที
“เฮีย ที่เฮียรามพูดเมื่อกี้จริงเหรอว่ะ แล้วทำไมผมไม่รู้อยู่คนเดียวอะ”
“แล้วทำไมกูต้องบอกให้มึงรู้ด้วยว่ะ! มึงเป็นเมียกูรึไง”
พูดจบไซเรนก็เดินออกไปจากห้องทันทีทิ้งให้องศานั่งอยู่ในห้องคนเดียว เพราะถ้าขืนเขายังนั่งอยู่ในนั้น องศาได้ตั้งคำถามกับเขาไม่หยุดเป็นแน่
อย่างเช่นเจอกันได้ยังไง รู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งเขาเป็นพวกไม่ชอบเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเดินออกมาดีกว่า ส่วนที่พี่ ๆ ทั้งสองคนรู้เรื่องของเขากับเอวาก็เพราะสองคนนั้น...
แสเรื่องของเขาไงละ...
โดยเฉพาะพี่ชายอย่างรามสูร เห็นรามสูรมาดดุคมเข้มอย่างนั้น แต่เขานั้น...ชอบตามสืบเรื่องของน้องชายยิ่งกว่าอะไร เขาถึงรู้ว่าเอวาเป็นเด็กของไซเรน
แต่ในความเป็นจริงแล้วเอวาไม่ใช่เด็กของไซเรน และไม่ใช่อะไรทั้งนั้นด้วย เพราะเขากับหญิงสาวได้ตกลงกันไว้แล้วว่าจะอยู่ภายใต้กฎที่เขาเป็นคนสร้างขึ้นมา...
ซึ่งเหตุผลหลัก ๆ ที่เขาสร้างกฎขึ้นมาก็เพราะความสะดวกของตัวเองและความพึงพอใจในการที่จะครองโสดต่อไปเรื่อย ๆ เขาจึงได้สร้างมันขึ้นมาและเขาก็พอใจมาก ๆ กับสถานะที่เป็นอยู่ตอนนี้
เพราะต่างคนต่างจะทำอะไรก็ได้ แฟร์ ๆ กับทั้งสองฝ่าย เขาจึงไม่ค่อยเดือดร้อนอะไรเท่าไหร่นัก เวลาที่เอวาจะทำอะไรที่ไหนกับใคร
แต่เมื่อกี้ที่เขาห้ามองศาเพราะเขาแค่ไม่อยากให้องศาไปยุ่งเท่านั้น ไม่ได้หวงก้างหรืออะไรทั้งนั้น!
ตึก ตึก ตึก
ไซเรนเดินออกมาจากห้องVIPหยุดยืนอยู่ที่ระเบียงเหล็กข้างนอกตรงจุดที่แผ่นดินกับรามสูรกำลังยืนสูบบุหรี่กันสองคนขณะที่กำลังคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไปไปด้วย แต่ไซเรนไม่ได้สนใจที่จะฟังด้วยก็เลยยืนมองบรรยากาศโซนหน้าเวทีข้างล่างที่มีสาวๆ กำลังยืนเต้นกันตามจังหวะเพลงที่ดีเจเปิดภายใต้แสงสีไฟอย่างเย้ายวนใจเงียบ ๆ
ทว่าขณะที่สายตาของเขากำลังมองลงไปข้างล่าง จู่ ๆก็มีบางอย่างที่ทำให้เขาชะงักไปชั่วขณะ
หญิงสาวในชุดสายเดี่ยวสีดำเนินอกทะลักออกมานอกเสื้อเล็กน้อย กระโปรงหนังสั่นสีดำสั้นเหนือเข่าไปหลายคืบ เธอกำลังยืนเต้นกับชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเห็นหน้าไม่ค่อยชัดเพราะร่างสูงที่เธอเต้นด้วยอยู่นั้นหันหลังให้อยู่ แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว เขาเห็นใบหน้าของเธอชัดเจนราวกับความคมชัดของHDว่าเป็นหญิงสาวที่ทำให้เขาต้องออกมายืนอยู่ตรงนี้
เอวา...
“หึ ขี้อ่อยฉิบหาย” ปากหนาขยับว่าออกไปขณะที่สายตาก็จ้องเขม็งอย่างไม่ลดละ
ทางด้านเอวา
หญิงสาวรูปร่างผอมเพรียวเอวเล็กน่าหลงใหลกำลังยืนเต้นเบาๆ อยู่คนเดียวข้างโต๊ะที่เธอนั่งดื่มเหล้าอยู่ก่อนหน้านี้ แต่จู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาโอบเอวบางของเธอจากทางด้านหลังก่อนจะย้ายตัวเองมายืนอยู่ข้างหน้าของเธอ ทำให้ตอนนี้เธอสามารถเห็นหน้าของคนที่ถือวิสาสะมาโอบเอวของเธอได้อย่างชัดเจน
ซึ่งเขาเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างหน้าตาที่จัดว่าหล่อเหลาใช้ได้เลยทีเดียว รูปร่างสูง ผิวขาว หน้าเรียวจมูกโด่งรับกับใบหน้าได้ดี จนทำให้เอวาเผลอจ้องหน้าอย่างลืมตัว
ซึ่งโดยปกติแล้วเธอจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยตื่นเต้นกับชายหนุ่มที่คอยแวะเวียนมาขายขนมจีบเท่าไหร่นัก นอกจากไซเรนเท่านั้นที่มีบ้างที่เขาทำให้หัวใจของเธอเผลอหวั่นไหว
“หวัดดี ฉันเดเนียล เธอชื่อเอวาใช่ปะ”
ร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อเหลานามว่าเดเนียลเอ่ยถามเอวา ซึ่งนั้นก็ทำให้เอวาแปลกใจขึ้นมาที่จู่ ๆ ก็มีคนรู้จักชื่อของเธอ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าในมหาวิทยาลัยกลุ่มของพวกเธอนั้นฮอตไม่เบา ก็เลยไม่แปลกใจที่ชายหนุ่มตรงหน้าอาจจะรู้จักเธอ จึงคลายคิ้วเรียวสวยที่เกือบจะผูกกันเป็นโบก่อนหน้านี้ลง ก่อนจะตอบเสียงในลำคอออกไป
“อืม”
“แล้วนี่เธอมาคนเดียวเหรอ”
“เปล่า มากับเพื่อน แต่เพื่อนไปเข้าห้องน้ำอะ” เอวาตอบคนตรงหน้าไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เตรียมจะหันหลังกลับไปที่โต๊ะของตัวเองเพราะเริ่มรู้สึกว่ายิ่งเต้นยิ่งออกห่างจากโต๊ะของตัวเอง
แต่ยังไม่ทันจะได้หมุนตัวเดเนียลก็ดึงแขนของเธอกลับไปหาเสียก่อน...
“อ๊ะ!” ทำให้เธอเสียหลักจะล้ม มือใหญ่เลยรีบคว้าเอวบางของเธอเข้าไปกอดไว้ ทำให้ตอนนี้เธอกับเดเนียลยืนกอดกันไปโดยปริยาย...
“โทษทีฉันดึงเธอแรงไปหน่อย”
“อืม”
เอวาตอบรับก่อนจะผละออกจากเดเนียล แต่พอใบหน้าเธอหันออกไปด้านข้าง ก็พอดีกับที่สายตาของเธอสบเข้ากับดวงตาคมของไซเรนที่กำลังยืนมองเธอจากชั้นสองด้วยสีหน้าราบเรียบพอดี
เธอจ้องตากับคนชั้นสองอยู่สักพัก ก่อนที่จะฉุกคิดบางอย่างออกมาได้ จึงหันไปหาคนตรงหน้าอีกครั้งพร้อมกับทำบางอย่าง...บางอย่างที่ทำให้คนบนชั้นสองแอบขบกรามเบาๆ เมื่อได้เห็นสิ่งที่เธอทำลงไป
เอวาซบใบหน้าไปกับหน้าอกของเดเนียลแล้วเต้นเบาๆตามจังหวะเพลงที่ดีเจเปลี่ยนเป็นจังหวะช้าๆ เนิบ ๆ ให้คู่รักทุกคู่ออกมาดื่มด่ำกับบรรยากาศ
และในขณะที่เธอกำลังยืนกอดกับเดนียลสายตาของเธอก็ยังคงจ้องไปที่ชั้นสองไม่วางตา ทว่าเจ้าของคลับอย่างไซเรนกลับมองด้วยสีหน้าราบเรียบอย่างเฉยชาไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆผ่านสีหน้าออกไปก่อนที่จะเดินออกไปจากตรงนั้นในที่สุด
เอวาที่เห็นว่าร่างสูงบนชั้นสองเดินออกไปแล้ว จึงผละออกจากร่างสูงที่กำลังกอดทันที ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเองอย่างไม่คิดที่จะหันกลับไปสนใจคนที่กอดไปก่อนหน้านี้
พรึบ!!
“ชะนีหลายผัว มึงไปยืนกอดกับใครมาเมื่อกี้ กูเห็นน่ะอีดอก” ทันทีที่เอวากลับไปถึงโต๊ะที่มีแบมบี้นั่งอยู่ เขาก็ทักเอวาขึ้นทันทีพร้อมกับหรี่ตาลงอย่างจับผิด
“ไม่ได้ตั้งใจกอด แค่อุบัติเหตุเล็กน้อย”
“อุบัติเหตุท่าไหนของมึงว่ะ ยืนกอดกันกลางฟลอร์ขนาดนั้น” เสียงอลิสว่าขึ้นเป็นคนที่สอง
“พวกมึงนี่พอเมาแล้วพูดมากว่ะ หัดอยู่นิ่งๆ แบบยัยมิล่ามันบ้าง”
เอวาว่าขึ้นอย่างนึกรำคาญกับเพื่อนอีกสองคนที่เซ้าซี้เธอไม่หยุดก่อนจะพยักหน้าหันไปทางเพื่อนอีกคนอย่างมิล่าที่นั่งดื่มอยู่เงียบๆ แบมบี้กับอลิสที่เห็นสีหน้าของเธอเริ่มหงุดหงิดจึงนั่งเงียบไปในที่สุด
แต่พอเวลาผ่านไปสักพักใหญ่อลิสที่รู้สึกว่าดึกมากแล้วจึงเอ่ยขึ้นมา
“พวกมึงนี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ กูว่ากลับกันเหอะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าน่ะเว้ย เดี๋ยวก็ตื่นไม่ทันกันพอดี”
อลิสว่าพร้อมกับยกโทรศัพท์ให้ทุกคนดูตรงหน้าจอว่าตอนนี้คือเวลาเที่ยงคืนแล้วจริงๆ ก่อนที่เธอจะเป็นคนลุกออกจากเก้าอี้เตรียมตัวจะกลับห้องเป็นคนแรก คนที่เหลือที่เห็นว่าเธอลุกออกไปแล้วจึงลุกตามเธอออกไป
หลังจากที่เอวาได้แยกย้ายกับเพื่อนๆ ตัวเองแล้ว เธอก็เดินไปยังรถของตัวเองที่จอดไว้ตรงลานจอดรถ แต่ในขณะที่มือของเธอกำลังจะเปิดประตูรถอยู่นั้น จู่ ๆก็มีเหตุการณ์ บางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ
“กรี๊ดดด” เอวาร้องกรี๊ดเสียงดังที่จู่ ๆ ก็ถูกดึงแขนให้หมุนตัวหันหลังให้ประตูอย่างอุกอาจ ดวงตาคู่สวยปิดแน่นไปพร้อมๆกับหน้าอกข้างซ้ายที่กำลังเต้นแรงอย่าตกใจกลัว หลังจากที่อยู่ ๆ ก็ถูกกักขังในอ้อมแขนของใครก็ไม่รู้
“ฉันเอง เดเนียล ลืมตาดิ” เอวาได้ยินเสียงคุ้นๆ เหมือนตอนอยู่ในผับจึงค่อยๆ ลืมตามอง ก็พบว่าคนตรงหน้าเป็นเดเนียลจริงๆ เธอเลยรีบใช้กระเป๋าแบรนด์เนมของตัวเองทุบไปที่หน้าอกของคนตรงหน้าอย่างโมโหทันที
“ไอ้บ้า! ใครใช้ให้นายมาทำแบบนี้ห่ะ รู้มั๊ยว่าฉันตกใจแค่ไหน”
“โทษที ฉันแค่จะมาขอไลน์เธออะ”
เดเนียลยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้เอวา แต่เอวากลับเมินหน้าหนีไม่สนใจเตรียมหันหลังให้เดนียลเพื่อที่จะเปิดประตูขึ้นรถ
มีอย่างที่ไหนมาขอไลน์ผู้หญิงแบบนี้ เธอไม่ให้หรอกน่ะ
แต่ในขณะที่เธอกำลังบ่นอยู่ในใจสายตาเจ้ากรรมก็ดันเหลือบไปเห็นไซเรนเดินออกมาจากผับพอดี และกำลังเดินมาทางลานจอดรถที่เธอยืนอยู่ ซึ่งรถที่จอดอยู่ข้างๆ ของรถเธอก็คือรถของไซเรนนั้นเอง เอวายืนใช้ความคิดอยู่สักพักก่อนที่ไอเดียบางอย่างจะผุดขึ้นมาจากสมองของเธอ เธอจึงหันกลับไปทางเดเนียลอีกครั้ง
เพราะแค่อีกไม่กี่ก้าวร่างสูงของไซเรนก็จะเดินมาถึงรถของเขาแล้ว เธอจึงหยิบโทรศัพท์ของเดเนียลพิมพ์ไลน์ของตัวเองลงไป เสร็จแล้วจึงยื่นโทรศัพท์คืนให้เดเนียลไป ก่อนจะหันหลังเตรียมขึ้นรถอีกครั้ง แต่...
หมับ!
“อ๊ะ!” สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ เธอก็โดนเดเนียลกอดจากทางด้านหลังอย่างถือวิสาสะ ซึ่งเป็นจังหวะพอดีกับไซเรนเดินมาถึงรถของเขาพอดี
สายตาราบเรียบยืนมองการกระทำของหนุ่มสาวที่ยืนกอดกันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ ถึงแม้ว่าหญิงสาวที่กำลังถูกชายหนุ่มกอดจากทางด้านหลังอยู่นั้นจะเป็นคนรู้จักกันดีก็ตาม
“ตัวเธอโคตรนุ่มเลยว่ะเอวา อยากจะกอดแบบไม่อยากปล่อยเลยว่ะ” เดเนียลพูดเสียงดังฟังชัดในขณะที่ยังกอดร่างกายของเอวาอยู่ แต่คนที่ได้ยินอย่างไซเรนกลับทำหน้านิ่งจนถึงวินาทีสุดท้าย ก่อนที่จะขึ้นรถแล้วขับออกไปในที่สุด
เอวาที่เห็นดังนั้นแล้วจึงรีบผละออกจากเดเนียลแล้วรีบเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถทันที ก่อนที่จะขับรถกลับคอนโดของตัวเอง
เพราะถ้าขืนเธอไม่รีบผละออกจากเดเนียล เธอเกรงว่าจะโดนเดนียลลากกลับคอนโดเสียก่อน อีกอย่างธอก็รู้สึกว่าคืนนี้ตัวเองเปลืองตัวกับคนที่ไม่เคยรู้จักอย่างเดเนียลมากเกินไปแล้ว ซึ่งเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้หน้ามืดตามัวทำแบบนั้น ทั้งๆ ที่ไซเรนก็ไม่ได้สนใจไยดีเธอเลยสักนิด หรือแม้กระทั้งแสดงอาการหึงหวงอย่างคนรู้จักกันเป็นพิเศษก็ไม่มีให้เห็นบนใบหน้าของเขา
เหอะ! ตลกชะมัด เธอต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆที่เริ่มทำแบบนั้นเพียงแค่ต้องการเห็นเขาหึง