บทที่ 6 BAD DANGEROUS

2924 Words
บทที่ 6 หลายชั่วโมงต่อมา... -ไลน์- Bambee: คืนนี้ออกป้ะ Alis_ss: ออกจ้ากูเบื่อมาก Mila_qqq: กูได้หมด Bambee: แล้วมึงอ่ะอีวา Ava_rin: ออก Bambee: เค เจอกันที่เดิมผับดราก้อน หลังจากที่ตอบไลน์กลุ่มเสร็จแล้ว ฉันก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ แล้วก็นั่งดูซีรี่ย์ในโน้ตบุ๊คต่อ เอาจริงๆ คืนนี้ก็ไม่อยากไปไหนหรอก ไม่อยากไปที่ผับนั้นด้วย ไม่รู้สิมันเซ็งๆ ยังไงไม่รู้ที่ต้องไปในที่ที่มีไซเรนอยู่ แต่สุดท้ายก็ต้องไปไงก็เมื่อกี้ฉันตอบไลน์พวกนั้นไปแล้วด้วย อยากหยุมหัวตัวเองที่มือลั่นไปแบบนั้น 22.05น. ตอนนี้ฉันยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่หลังจากที่แต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วเตรียมพร้อมที่จะออกไปผับตามที่นัดกันไว้ คืนนี้ฉันเลือกใส่เดรสรัดรูปสีดำสั้นเหนือเข่าขึ้นมา พร้อมกับเปิดเว้าส่วนหลังถึงบั้นท้ายโชว์แผ่นหลังเนียนขาวของตัวเองอย่างเซ็กซี่ ที่ฉันเลือกใส่ชุดนี้เพราะอยากใส่ รู้สึกไม่ได้จัดเต็มแบบนี้นานละ เหตุผลมีแค่นั้นแหละ ไม่ได้ต้องการยั่วผู้ชายที่ไหน Rrrr ครืดดดดด ครืดดดดด [พวกกูถึงละน่ะ] “อืมๆ กำลังจะออกไปแล้ว” [เคๆ เร็วๆ ละมึง] ติ๊ด. ฉันกดวางสายโทรศัพท์หลังจากที่คุยกับอลิสเสร็จก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าและกุญแจรถยนต์จากนั้นก็เดินออกจากห้องทันที แต่พอเดินมาถึงใกล้ลิฟต์ก็มีคนเปิดประตูห้องออกมาพอดี ใช่ค่ะ คนที่เปิดประตูออกมาคือไซเรน เขาเดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงที่เจอวันนี้ หึ ที่หายไปทั้งวันหลังจากเจอกันที่ร้านนั่งชิว ที่แท้ก็มากกอยู่กับยัยเด็กนี้นี่เอง แล้วมันโมโหและรู้สึกโกรธตรงไหนรู้ไหม? โมโหตรงที่ยัยเด็กนี่มันดันอยู่คอนโดเดียวกับฉันไปอีก หึ จะเล่นกับผู้หญิงที่มันไม่ได้อยู่คอนโดเดียวกันกับฉันไม่ได้รึไง หรือไม่ก็ชั้นอื่นก็ได้อะ ทำไมต้องชั้นเดียวกับฉันด้วยว่ะ หลังจากที่ฉันหยุดเดินเมื่อกี้ก็ทำให้ฉันกับไซเรนเผลอสบตากัน แต่มันก็ทำหน้านิ่งใส่ฉันเหมือนคนที่ไม่เคยรู้จักกันเลยสักนิด ก่อนที่มันจะโอบเอวผู้หญิงคนนั้นเดินออกไปยืนรอลิฟต์ข้างหน้า ฉันจึงก้าวขาเดินตามหลังมันไป.... ฉันยืนมองแผ่นหลังของไซเรนในระหว่างที่กำลังรอลิฟต์มาด้วยความรู้สึกที่... หึรู้สึกใจสั่นดีแฮะ รู้สึกมีก้อนอะไรสักอย่างถูกตีตื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่คออะ ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นภาพแบบนี้ต่อหน้าต่อตาและไม่คิดว่าจะได้รับสีหน้าแววตาแบบนั้นจากไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย ปกติมันก็ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เคยเจอจริงๆ จังๆ แบบนี้ไง พอเจอแบบนี้เข้าก็รู้สึกแปลกๆ ดีแฮะ รู้สึกจุกดี... ติ๊ง. เสียงประตูลิฟต์เปิดออกพอดี พวกเขาสองจึงเดินเข้าไปก่อน ฉันจึงเดินตามพวกเขาเข้าไปทีหลัง ทำให้ตอนนี้กลายเป็นว่าในลิฟต์มีพวกเราสามคนโดยมีฉันยืนข้างหน้าพวกเขา ซึ่งในลิฟต์ตอนนี้ก็โคตรเงียบอะ เงียบจนฉันรู้สึกว่าตัวเองยืนอยู่คนเดียวในลิฟต์ อีกอย่างจากชั้นยี่สิบแปดลงไปชั้นล่างสุด ฉันเพิ่งรู้สึกว่านานมากก็วันนี้แหละ เป็นความรู้สึกที่แบบโคตรอึดอัดอะ ติ๊ง. หลังจากที่ลิฟต์จอดถึงชั้นล่างสุดแล้วพอประตููเปิดออกฉันก็รีบเดินออกมาจากลิฟต์เดินดุ่ม ๆ ไปที่รถทันทีโดยที่ไม่ได้สนใจและไม่คิดจะหันไปมองสองคนข้างหลัง @Dragon Club พรึบ!! “อะ กว่าจะเสด็จมาถึงนะมึง” เสียงอลิส “แล้วนั่นทำไมทำหน้าแบบนั้นว่ะวา” เสียงมิล่า “.....” ส่วนนี้ก็หน้าฉันหลังจากที่นั่งลงแล้วก็ไม่ตอบพวกมันที่กำลังถามฉัน แต่ฉันเลือกที่จะยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว พรึบ อึก อึก อึก ปึง! พร้อมกับวางแก้วลงที่โต๊ะอย่างรุนแรง “อีดอกค่ะ มึงพูดค่ะไม่ใช่มาทำนางเอกMVแบบนี้ย่ะที่มาถึงก็ยกแก้วเหล้ารวดเดียวหมดแก้วอะ” นี่ก็เสียงแบมบี้ “เอามาอีก คืนนี้กูอยากเมา” ฉันไม่ตอบเพื่อนและไม่สนใจด้วยว่ามันกำลังพูดหรือด่าอะไรฉันอยู่เพราะตอนนี้ฉันอยากเมาเท่านั้น “เดี๋ยวๆ หยุดก่อน มึงเป็นอะไรหะวา” มิล่าที่เห็นฉันกำลังจะยกแก้วเหล้าอีกรอบรีบจับมือฉันไว้พร้อมกับถามฉัน ฉันจึงตอบมันไปแบบส่งๆ ว่า “ถ้าพร้อมแล้วเดี๋ยวกูเล่าให้ฟังเอง” แต่... “อีแบม โน้นมึงดูโน้นก่อน” ฉันเห็นยัยอลิสมันสะกิดแขนของแบมบี้ให้หันไปมองข้างหลังฉัน ฉันเลยหันไปมองด้วย จึงเห็นว่าไซเรนกำลังพายัยเด็กนั้นขึ้นไปที่ชั้นสองของผับ หึ ชั้นสองงั้นเหรอ หมอนั้นพายัยเด็กนั้นไปห้องวีไอพีที่พวกมันอยู่แน่ ๆ พิเศษขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ พรึบ! ฉันหันกลับไปทางเดิมอีกครั้งก่อนที่จะหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มอีกครั้ง แล้ววางมันลงบนโต๊ะอย่างแรง ปัง!! “กูว่าพวกมึงไม่ต้องรอให้มันเล่าแล้วแหละอาการออกขนาดนี้” เสียงมิล่าที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับหันมามองหน้าฉันที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา “อืม ก็อาการชัดเจนขนาดนี้อะ อีวาน่ะอีวา ตอนกูเตือนไมมึงไม่ฟังกูว่ะ” เสียงแบมบี้บ่นออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายกับท่าทางของฉัน แต่ถึงพวกมันจะพูดจะว่าไงฉันก็ไม่สนใจหรอกเพราะตอนนี้สิ่งที่เดียวฉันสนใจก็คือเหล้าตรงหน้าต่างหาก เพราะฉะนั้นฉันจะดื่มให้เมาจนหาทางกลับบ้านไม่ถูกเลยคอยดู! 1ชั่วโมงผ่านไป.... ท่ามกลางจังหวะเพลงEDMมันๆ ที่ดีเจกำลังเปิดอยู่ ช่างเป็นเสียงเรียกให้เหล่าผีเสื้อราตรีที่พร้อมจะออกเสต็ปสำหรับคืนนี้ได้ออกมาโชว์ลวดลายกันภายใต้ความมืดที่มีเพียงแสงสีไฟสลัวๆ คอยส่องหมุนเวียนไปทั่วกลางฟลอซึ่งตอนนี้เริ่มอัดเต็มไปด้วยหนุ่มสาวที่กำลังเมามันกับจังหวะเพลงยิ่งนัก หลังจากที่ฉันดื่มเหล้าไปได้หลายแก้วแล้ว พวกฉันทั้งสี่คนก็เดินออกไปเต้นกันที่กลางฟลอ แต่ในขณะที่ฉันกำลังเต้นอยู่นั้น อยู่ๆ ก็มีมือปริศนาของใครไม่รู้ดึงฉันเข้าไปกอดแนบชิดกับร่างกายของตัวเอง ฉันจึงรีบหันไปมองทันที ก่อนจะเห็นเป็นผู้ชายที่หน้าตาก็ใช้ได้อยู่แหละ แต่ดูท่าทางมันจะหื่นๆ หน่อย ฉันจึงรีบผลักเขาออกจากตัวฉันทันทีอย่างไม่ไว้ใจ พร้อมกับเตรียมจะเดินออกไปจากตรงนั้น... “หึ เล่นตัวซะด้วย อย่ามาเล่นตัวหน่อยเลย อยากอัพราคาก็บอกมาตรงๆ ฉันจ่ายไม่อั้น” แต่มันก็ดันมาใช้คำพูดที่ดูถูกฉันมาก ซึ่งฉันรับไม่ได้! “ไอ้บ้า!! ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้เลยน่ะ” ฉันจึงหมุนตัวหันไปแหว่เสียงดังอย่างไม่พอใจใส่มันด้วยความโมโหที่มันมาพูดจาดูถูกฉันแบบนั้น “วา มีไรป่ะมึง” พวกเพื่อนฉันที่กำลังเต้นอยู่กับฉันเมื่อกี้รีบเดินมาจับตัวฉันไว้ทันทีที่เห็นฉันมีสีหน้าโกรธจัดขึ้นมา “หึ มีเพื่อนมาด้วยเหรอว่ะ เห้ย!! พวกมึงมาดูนี้ดิสวยๆ ทั้งนั้นเลยว่ะ” ไอ้ผู้ชายลามกตรงหน้าฉันมันหันไปเรียกเพื่อนมันอีกสองสามคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลให้เดินเข้ามาร่วมกับมัน ก่อนที่มันจะเดินเข้ามาดึงตัวฉันออกจากเพื่อนฉัน ส่วนพวกเพื่อนมันที่เหลือก็ไปดึงพวกเพื่อนฉันแทน “นี่ปล่อยเดี๋ยวนี้น่ะไอ้บ้า ฉันไม่ไปกับแกหรอกน่ะ” ฉันพยายามฉุดกระชากกับมันสองคนเพื่อจะยื้อตัวไว้ จนกระทั่งได้ยินเสียงคุ้นเคยดังข้างหลังฉัน... “เห้ย! ผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วยมึงจะบังคับเธอทำไมวะ” “เดเนียล?” พรึบ ทันทีที่ฉันหันไปเห็นเดเนียล เดเนียลก็รีบดึงตัวฉันออกมาจากไอ้ลามกที่คิดจะลากฉันไปทันที ทำให้ตอนนี้ฉันมายืนอยู่ข้างๆ เดเนียลแทน “มึงมายุ่งอะไรด้วยว่ะ ผัวเมียเขาจะคุยกัน” ไอ้ลามกไอ้ตันหากลับมันบอกเดเนียลด้วยสีหน้าโมโห แต่เดี๋ยวนะ...ฉันไปเป็นเมียของมันตอนไหนไม่ทราบ “หึ เมียมึงงั้นเหรอ?” เดเนียลหัวเราะขำที่ไอ้บ้านั้นมันพูดแบบนั้น ก็แหง่สิฉันเรียนอยู่จะไปเป็นเมียของมันได้ไง แต่จู่ๆเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเดเนียลที่ยืนขำก่อนหน้านี้ได้สลับใบหน้าเปลี่ยนเป็นไอ้เหี้ยมต่อยไอ้บ้านั้นอย่างไม่มีปี่มีขลุยขึ้นมา ผลัวะ! ผลัวะ! “กรี๊ด~เดเนียล!!!” ฉันร้องกรี๊ดเสียงดังด้วยความตกใจทันทีที่เห็นเดเนียลมันลงมือต่อยไอ้ลามกนั้นไม่ยั้ง ตุบ เพล้ง! โครม! “เดเนียล” ฉันได้แต่ยืนดูเดเนียลมันผลัดกันแลกหมัดกับผู้ชายคนนั้นอย่างทำอะไรไม่ถูก อีกอย่างตอนนี้เหตุการณ์มันก็ตะลุมบอนกันไปแล้วด้วย เพราะจู่ๆก็มีพวกผู้ชายที่พากันแลกหมัดต่อยกันจนไม่รู้ว่ากลุ่มไหนเป็นกลุ่มไหนแล้วอะ.... แต่ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายไปมากกว่านี้อยู่ๆ ก็มีคนเดินเข้ามายิงปืนขึ้นชี้ฟ้าหนึ่งนัด.. ปัง!!!!! “หยุด!!! พวกมึงคิดว่าผับกูเป็นสถานที่เด็กเล่นรึไงว่ะ” ใช่ เป็นไซเรนที่ตะโกนออกมาเสียงดังอย่างเดือดดาล และใช่เขาเดินลงมาจัดการเอง เมื่อกี้ก็เป็นเขาที่ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อที่จะให้เหตุการณ์สงบลง และตอนนี้เขาก็ยืนจ้องหน้าฉันนิ่งด้วยสีหน้าที่ยากจะคาดเดา เขาคงกำลังโกรธมากเพราะตอนนี้สภาพรอบตัวคือเละไปหมด ข้าวของพังกระจัดกระจายเต็มไปหมด “วา มึงเป็นอะไรไหม” ฉันได้ยินเพื่อนฉันวิ่งเข้ามาหาฉันพร้อมกับเกาะแขนฉันไว้ ส่วนข้างๆ แบมบี้ก็มีเดเนียลที่เดินออกมาด้วยสภาพเสื้อผ้าหน้าผมยุ่งเหยิงไปหมดและมีเลือดออกที่มุมปากเล็กน้อย แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจใครทั้งนั้น เพราะสายตาของฉันตอนนี้มองแต่ไซเรนคนเดียว ฉันยืนจ้องหน้าเขาคนเดียวแต่เขากลับไม่มองหน้าฉันด้วยซ้ำ ตกลงเขาเป็นอะไรกันแน่ เพราะหลังจากที่เจอกันที่ร้านนั้นเขาก็ดูแปลกไปเลย ในขณะที่ฉันกำลังยืนจ้องหน้าไซเรนเหมือนเดิม อยู่ๆ ก็มีพี่ชายไซเรนเดินลงมาก็คือเฮียราม เขาเดินลงมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนก็ได้แต่ยืนเงียบไม่มีใครกล้าเอ่ยปากตอบเฮียรามสักคน จนกระทั่งเฮียรามเดินเข้าไปหาผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่ยืนตัวสั่นอยู่ฝั่งตรงข้ามเฮียเขา จากนั้นเฮียรามก็จัดการปล่อยหมัดและกระทืบผู้ชายคนนั้นจนมีสภาพที่น่ากลัวเลือดอาบไปหมดทั้งหน้า แต่อยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงหน้าตาสวยมากคนหนึ่งเดินไปกอดเอวเฮียรามให้หยุด พร้อมกับที่ไซเรนเดินไปห้ามอีกคน จากนั้นเฮียรามจึงหยุดแล้วก็ดึงผู้หญิงคนนั้นออกไปทันที ซึ่งฉันคิดว่าช่วงตะลุมบอนเมื่อกี้มันน่าจะมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นแน่นอน และน่าจะเกิดกับผู้หญิงคนนั้นด้วย เฮียถึงดูโกรธแบบนั้น... ในขณะที่ฉันกำลังยืนอึ้งอยู่กับเหตุการณ์เมื่อสักครู่อยู่ อยู่ ๆ เดเนียลก็ลากฉันให้เดินตามมันออกไปให้พ้นจากพื้นที่ชุลมุนนั้นโดยที่มันไม่พูดไม่จาอะไรเดินดุ่ม ๆ ออกไป พร้อมกับเพื่อนๆ ของฉันที่เดินตามออกมาด้วย ฉันได้แต่เดินตามเดเนียลออกมาอย่างเงียบๆ เพราะยังรู้สึกตกใจกลัวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้และรู้สึกใจสั่นอย่างเจ็บปวดกับสายตาของไซเรนที่เขาไม่ได้ดูเป็นห่วงฉันเลยสักนิด เขาได้แต่ยืนนิ่งโกรธกับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่เขาไม่แม้จะเดินเข้ามาถามฉันว่าฉันเป็นยังไงบ้าง เข้ามาถามในฐานะคนรู้จักก็ได้อะ หึ แต่ฉันคงจะหวังมากไปสินะกับผู้ชายเย็นชาแบบเขา หวังว่าอย่างน้อยเขาจะเดินมาถามฉันบ้าง เมื่อเดินออกมาจากผับแล้วเดเนียลก็รีบถอดเสื้อแจ็คเก็ตของมันมาคลุมไหล่ของฉันไว้ มันคงจะเห็นว่าฉันเหม่อลอยแถมยังมีอาการตัวสั่นมั้งเลยเอามาคลุมให้ฉัน “เธอไม่เป็นอะไรใช่ปะ” ฉันส่ายหัวให้มันเป็นการตอบคำถาม เพราะไม่รู้จะตอบอะไรมันไปนอกจากส่ายหัวให้มัน จะให้ตอบว่าฉันเป็นแบบที่ฉันรู้สึกตอนนี้ก็คงไม่ได้ “อืม ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว คราวหลังห้ามแต่งตัวแบบนี้มาผับอีกน่ะ ฉันห่วงและหวงเธอมากรู้ปะ” เหอะ ตลกละไอ้คนที่อยากเห็นเขาเป็นห่วงเดินมาถามไถกลับมาไม่มาแต่ไอ้คนที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันกลับบอกเป็นห่วง ชอบมันนะชัดเจนกับความรู้สึกตัวเองดี “อะฮึ่ม เอ๋อ คุณเดเนียลค่ะ ดิฉันคิดว่าเวลานี้ไม่เหมาะแก่การมาจีบกันนะคะ” เสียงแบมบี้ว่าด้วยน้ำเสียงจีบปากจีบคอที่เห็นเดเนียลยืนมองหน้าฉันไม่วางตา ก็ตามนั้นแหละตามที่แบมบี้มันว่านั้นแหละ เดเนียลมันก็กำลังจีบฉันนั้นแหละ แต่ฉันไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับมันไง เลยมองหน้ามันเงียบๆไป แต่พอมันถูกแบมบี้แซวแบบนั้นมันก็ยกมือเกาท้ายทอยตัวเองแล้วทำท่ากระแอมไอแก้อาการเขินแทน “อะฮึ่ม! อืมแล้วนี้จะกลับกันยังไง ขับรถไหวรึเปล่า” “แล้วถ้าพวกฉันบอกว่าไม่ไหวนายจะไปส่งรึไง” มิล่าเอ่ยถามเดเนียล “อืม เดี๋ยวฉันอาสาไปส่งทุกคนเอง” หลังจากที่เดเนียลเอ่ยปากว่าจะเป็นคนไปส่งพวกฉันให้ เพื่อนฉันทั้งสามคนของฉันก็มองหน้ากันทันทีก่อนจะตกลงให้เดเนียลเป็นคนไปส่งเพราะไม่อยากปฏิเสธน้ำใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และตอนนี้พวกฉันทุกคนก็ขึ้นมานั่งบนรถของเดเนียลเรียบร้อยแล้วด้วย ส่วนรถของฉันกับรถแบมบี้ก็จอดทิ้งไว้ที่นี่ไปก่อนค่อยมารับวันหลัง เดเนียลทยอยไปส่งเพื่อนของฉันทีละคนตามคอนโดของพวกมัน จนตอนนี้ในรถเหลือแค่ฉันเป็นคนสุดท้ายที่เดเนียลกำลังขับไปส่งและในที่สุดก็ถึงคอนโดของฉัน “ขอบคุณน่ะที่มาส่ง แล้วก็ขอบคุณเรื่องที่ช่วยฉันไว้ด้วย” “อืม ไม่เป็นไร ก็เธอเป็นว่าที่เมียฉันนี่ก็ต้องดูแลปกป้องอย่างดีไหมว่ะ ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมอะเคยได้ยินปะ” “จิ๊ นายนี่มันเป็นคนแบบไหนหะ ยังมีอารมณ์มาเล่นอยู่อีก” “ฉันไม่ได้เล่นน่ะเอวา ฉันกำลับจีบเธอจริงๆ” อยู่ๆ เดเนียลก็ทำหน้าจริงจังตอนพูดออกมา ทำเอาฉันนั่งนิ่งไปเลยเพราะไปต่อไม่ถูก แต่กว่าจะรู้ตัวก็มีมือหนาๆ ของเดเนียลกำลังสัมผัสใบหน้าของฉันแล้ว ใช่ เดเนียลมันกำลังสัมผัสแก้มใสของฉัน เป็นการสัมผัสที่เบามือและอ่อนโยนจนฉันไม่กล้าจะหายใจ ก่อนที่จู่ ๆ มันจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้กับใบหน้าของฉันทำให้จมูกของเราสองคนห่างกันแค่เซนเดียวเท่านั้น แต่มันก็หยุดไว้แค่นั้น ก่อนที่มันจะเลื่อนใบหน้าตัวเองขึ้นไปจุ๊บหน้าผากมนของฉันแทน... จุ๊บ! “ฝันดีน่ะว่าที่เมีย” หลังจากที่เดเนียลผละออกไปนั่งที่เดิมของมันแล้วฉันก็นั่งนิ่งพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงอย่างแปลกไป ก่อนจะตั้งสติกลับคืนมาแล้วหันไปตอบมันอย่างเหม่อลอย “อืม ฝันดีเช่นกัน” หลังจากนั้นฉันก็เปิดประตูรถลงจากรถของมันแล้วเดินเข้าคอนโดตัวเองทันที ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่กำลังใจเต้นแรงกับหมอนั้น หรือนี่จะเป็นส่วนหนึ่งจากผลข้างเคียงของการดื่มเหล้ามากไปเหรอ? โอ้ย! ช่างมันเถอะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD