บทที่10
“เอวา! หึ ฉันคงเอาเธอเบาไปใช่ไหมว่ะ ถึงกล้าพยศกับฉันไม่เลิก”
ตึก ตึก ตึก เสียงเท้าไซเรนเดินเข้าหาฉันก่อนที่มันจะ...
พรึบ!
“อ๊ะ! ไซเรนนี่นายจะทำบ้าอะไรหะ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลยน่ะ”
ใช่ เมื่อกี้ไซเรนมันเดินดุ่ม ๆ เข้ามาหาฉันก่อนที่มันจะอุ้มฉันขึ้นพาดบ่ามัน แล้วเดินมายังเตียงกว้างในห้องนอนของฉัน พร้อมกับ...
ตุบ!
“อ๊ะ!” ใช่ ไซเรนมันโยนฉันเหมือนฉันเป็นกระสอบข้าวสารอีกแล้ว มันจะรู้ไหมว่าฉันจุกขนาดไหนตอนที่มันโยนลงมา!
“มองแบบนี้...คืนนี้อยากได้กี่รอบดีหืม?”
มันถามฉันที่ยังจ้องหน้ามันตาขวาง ที่ฉันมองมันแบบนั้นก็เพราะโมโหมันที่โยนฉันเมื่อกี้นี้ไง แต่มันกลับมองฉันด้วยสายตากวนๆ กลับมาแทน
ขณะที่มือของมันกำลังแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองด้วยท่าทางใจเย็นอยู่ตรงปลายเตียง
และใช่ เหตุการณ์คล้ายกันกับเมื่อเช้าไม่มีผิด และฉันก็เกลียดสีหน้าของมันที่ดูเหนือกว่าฉันตอนนี้มากด้วย...
“ฉันไม่อยากได้อะไรทั้งนั้นแหละ เพราะฉันขยะแขยงของที่ใช้ร่วมกับคนอื่น” ฉันค่อยๆ ยันตัวเองขึ้นจากเตียงพร้อมกับตอบมันไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย คนแบบมันก็ต้องปากร้ายแบบนี้แหละถึงจะสมน้ำสมเนื้อ!
“หึ ปากดี แต่ฉันอยากบอกเธอว่ะเอวา ว่าฉันไม่เคยสดกับใครนอกจากเธอ...”
“เหรอ... แล้วไงอะ ฉันควรต้องดีใจว่างั้น ที่อย่างน้อยนายก็ป้องกัน แล้วฉันควรต้องรู้สึกว่าตัวเองพิเศษสำหรับนายด้วยไหมที่นายไม่ยอมสดกับคนอื่นแต่ยอมสดกับฉันคนเดียวอะ...”
“...”
“ขนาดนายยังบอกเลยว่าไม่ชอบใช้ผู้หญิงซ้ำกับใคร ฉันก็ไม่ชอบใช้ขะ-....”
จุ๊บ จ๊วบ!
“อื้อ”
ตุบตุบตุบ!
ฉันพูดยังไม่ทันจบก็ต้องกลืนคำพูดของตัวเองลงคอเมื่อไซเรนมันดึงใบหน้าของฉันเข้าไปบดจูบอย่างป่าเถื่อนด้วยความเดือดดาล จนฉันต้องร้องท้วงในลำคอและทุบตีมันให้ปล่อย
แต่มันก็ไม่ยอมผละออกจากปากฉันสักที แถมตอนนี้มันยังรวบมือฉันไว้ พร้อมกับผลักฉันลงไปบนเตียงแล้วกดแขนทั้งสองข้างของฉันไว้กับเตียง แล้วมันก็ตามมาจูบฉันอีกครั้งพร้อมกับสอดลิ้นร้อนๆ ของมันเข้ามาตวัดในปากฉัน
จนฉันรู้สึกได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์และบุหรี่ในปากตัวเองที่มาจากมันรวมทั้งกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของมันที่ตียุ่งกันไปหมดจนฉันรู้สึกมึน...
“อื้อ” ฉันร้องท้วงขึ้นมาอีกครั้งเพราะตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะขาดอากาศหายใจแล้วเพราะไซเรนไม่ยอมผละออกจากปากของฉันเลย...
พลั่ก! แค่ก ๆ
หลังจากที่ไซเรนมันถอนจูบออกไปจากปากฉัน ฉันก็นอนหอบหายใจเหนื่อยแถมยังสำลักไอหน้าดำหน้าแดงอีก ก่อนที่จะใช้หลังมือของตัวเองเช็ดปากที่โดนมันจูบเมื่อกี้นี้ พร้อมกับมองตาขวางใส่มันอย่างโกรธเคืองที่มันเกือบทำให้ฉันขาดอากาศหายใจ
เฮอะ แต่ดูเหมือนว่ามันไม่สำนึกกับการกระทำของตัวเองเลยสักนิด เพราะมันยังมีหน้ามามองหน้าฉันด้วยสายตากวนๆ บนตัวฉันอยู่เลย....
“หึ นึกว่าจะแน่เหมือนปากที่ชอบพูดจาแดกดันฉันไว้ซะอีก อ่อนหัดชะมัด แค่นี้ก็จะตายแล้วเหรอว่ะ”
“หึ แล้วใครมันจะไปเก่งและสำส่อนอย่างนายละไซเรน” ฉันว่าขึ้นบ้าง คิดว่าฉันจะยอมแพ้เหรอ บอกแล้วไงว่าฉันจะไม่ยอมมันอีกต่อไปแล้ว แรงกับฉันมาฉันก็จะแรงกับมันกลับทวีคูณเข้าไปอีก
“เอวา! คืนนี้เธอไม่ได้ตายดีแน่”
แควก!
จุ๊บ จ๊วบ!
“อ๊ะ อื้อ”
หลังจากที่ไซเรนพูดจบมันก็จัดการฉีกเสื้อนอนของฉันทันทีหลังจากที่ฉันเพิ่งเปลี่ยนไปเมื่อกี้ พร้อมกับก้มลงมาฉกจูบปากฉันอย่างดุเดือดอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ฉันรู้สึกว่าเขารุนแรงกว่าครั้งแรกหลายเท่า จนฉันรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดในปากตัวเอง
ใช่ ปากฉันแตกเพราะมันอีกแล้วและเป็นรอบที่สองของวันนี้แล้วด้วย
ไซเรนใช้มือบีบคลึงหน้าอกของฉันอย่างแรงตามอารมณ์ที่มันกำลังเป็นตอนนี้ จนฉันรู้สึกเจ็บไปหมดแถมมันยังเลื่อนมือหนาของตัวเองสัมผัสลูบไล้เนื้อตัวของฉันโดยการไล่ลงต่ำไปเรื่อย ๆ จนถึงสะโพกกลมมนของฉันที่ตอนนี้เหลือเพียงแพนตี้ตัวบางตัวเดียวห่อหุ้มส่วนนั้นเอาไว้อยู่ด้วย
ก่อนที่มันจะขย้ำและบีบสะโพกของฉันอย่างเมามัน พร้อมกับดึงแพนตี้ฉันลงไปแล้วใช้ขาตัวเองเขี่ยมันออกไปให้พ้นก่อนที่มันจะแทรกตัวเองมาอยู่ตรงกลางฉัน...
จากนั้นมันก็ผละออกจากปากของฉันก่อนจะหันไปจัดการกางเกงตัวเองออกและไม่รอช้าที่มันจะกระทำกับตัวฉันอีกครั้งโดยที่ฉันไม่สามารถดิ้นหนีได้ เพราะมือของฉันที่มันรวบไว้เหนือหัว และขาของฉันที่มันแยกไว้ไม่ให้ฉันขยับได้ และที่สำคัญมันกำลังดึงแก่นกายของมันออกมาจ่อที่ตรงนั้นของฉัน...
“มะไม่น่ะไซเรน นายหยุดเดี๋ยวนี้เลยน่ะ ฉันยังเจ็บอยู่น่ะ” ฉันเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่นเมื่อเห็นมันกำลังจะยัดเยียดตัวเองเข้ามาในตัวฉัน คือฉันยังเจ็บเข้าใจไหม แค่เมื่อเช้าที่มันทำฉัน ฉันยังเจ็บไม่หายเลยนะ
“เหรอเอวา เจ็บใช่ไหม แต่โทษทีเพราะฉันไม่สามารถหยุดความต้องการของตัวเองได้แล้วว่ะ และเธอก็เตรียมรับกรรมไปได้เลย”
สวบ!
“กรี๊ด อื้อ~ เจ็บ!” หลังจากที่ไซเรนเสียบท่อนเอ็นเข้ามาในตัวฉันแล้ว ฉันก็แทบจะหยุดหายใจทันทีเพราะความแสบตรงส่วนนั้นมันแทบจะกระชากวิญญาณของฉันออกจากร่าง
มันเป็นความเจ็บปวดและแสบจนทำน้ำตาของฉันไหลออกจากหางตา
“ถ้าไม่อยากให้ฉันโมโหและเอาเธอแรงๆ แบบนี้อีก วันหลังก็พูดดีๆ กับฉันเอวา” ไซเรนพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ในขณะที่ท่อนนั้นของมันยังแช่อยู่ในตัวของฉัน...
หึ พูดดีๆเหรอ มันจะยังมีวันให้ฉันกับมันได้พูดกันดีๆอีกเหรอ ทำกับฉันขนาดนี้แล้วไม่คิดว่าฉันอยากจะฆ่ามันบ้างหรือไง!
“ไม่! ฉันจะไม่ยอมนายอีกแล้วไซเรน”
“หึ ขนาดโดนฉันเสียบอยู่เธอก็ยังปากดีไม่เลิกเอวา งั้นก็นอนเจ็บไปจนเช้าละกัน เพราะฉันจะไม่ออมมือกับผู้หญิงที่ชอบพยศฉันแบบเธอเอวา!”
“อ๊ะ! ซะไซเรน ฉันเจ็บ” พูดจบไซเรนก็เริ่มขยับแก่นกายของมันอย่างรุนแรงทันทีจนฉันที่นอนอยู่ใต้ร่างของมันต้องกัดปากกำผ้าปูที่นอนแน่นด้วยความทรมานอย่างเลี่ยงไม่ได้
“อ๊ะ เจ็บ”
“นายหยุดสักที ฉันเจ็บ!”
“ซี้ด เธอจะให้ฉันหยุดได้ไงว่ะเอวา เครื่องมันกำลังร้อนขนาดนี้ หึ”
“แต่ฉันไม่ไหวแล้วน่ะไซเรน อ๊ะ!”
“ทนไปก่อน ฉันพอใจเมื่อไหร่ฉันหยุดเอง” ปากว่าช่วงล่างขยับไม่หยุดแถมสายตาตอนตอบฉันก็ยียวนฉันชะมัด
“ไอ้บ้า!!! แต่ฉันเจ็บนายขะ-...อื้ม”
อีกแล้ว มันปิดปากฉันทุกครั้งที่ฉันกำลังจะเถียงมัน และฉันก็ได้แต่ร้องในลำคออย่างเดียวตลอด เพราะมันไม่ให้โอกาสฉันได้ใช้เสียงเลยสักครั้ง และต่อให้ฉันอยากดิ้นแค่ไหนก็ดูเหมือนไม่มีทางจะหลุดพ้นจากมันได้เลยสักนิด
เพราะร่างกายไซเรนใหญ่กว่าฉันหลายเท่าและแรงมันก็เยอะกว่าฉันหลายเท่าอีกด้วย
“ฮื่ม จ๊วบ”
“เวลาอยู่ใต้ร่างฉันปากเธอโคตรหวานเลยเอวา”
ไซเรนผละออกออกจากปากของฉัน ก่อนจะเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเชิงหยอกเย้าฉันก่อนที่มันจะก้มลงไปดูดดึงยอดอกของฉันสลับกับซุกไซร้ซอกคอฉันพร้อมกับ...
“อ๊ะ!” ใช่มันดูดและกัดต้นคอของฉันจนรู้สึกได้ถึงความแสบที่คอ ก่อนที่มันจะเงยหน้ามายิ้มร้ายใส่ฉันที่สามารถทำให้ฉันเจ็บตัวได้
“อ๊ะ! ซี้ด อ่าส์”
และสุดท้ายไซเรนก็หยุดทุกอย่างลงพร้อมกับที่ฉันรู้สึกถึงของเหลวที่ฉีดพุ่งเข้ามาในตัวฉันและรู้สึกถึงแรงกระตุกสองสามครั้งจากตัวไซเรน ก่อนที่มันจะนอนหอบเหนื่อยอยู่บนหน้าอกของฉันที่ตอนนี้ทั้งตัวมันและตัวของฉันเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ และไม่ใช่แค่มันที่เหนื่อย ฉันก็เหนื่อยเหมือนกันและเจ็บตรงนั้นมากด้วย ตรงที่ยังมีท่อนนั้นของมันเชื่อมต่อกับฉันอยู่
“เสร็จแล้วก็ลงไปจากตัวฉัน” ฉันบอกเสียงแข็ง
“รอบเดียวมันจะไปพออะไรวะเอวา”
“หมายความว่าไง”
“ฉันบอกเธอแล้วไง ว่าคนที่มันชอบพยศฉันแบบเธอมันต้องไม่ตายดี เพราะฉะนั้นคืนนี้ฉันจะเอาเธอจนกว่าฉันจะพอใจเอวา และมันจะไม่ใช่แค่รอบเดียว”
“ไม่น่ะไซเรน ฉันไม่ไหวแล้วน่ะ”
ปึก!
“ต้องไหวสิที่รัก” เสียงแหบพร่าถูกกระซิบลงมาที่ใบหูของฉันอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะเคลื่อนมาสบตากับฉันโดยตรง จากนั้นไม่นานรอยยิ้มร้ายกาจตรงมุมปากก็เผยขึ้นมา ทำเอาฉันที่ได้เห็นใจเต้นแรงแทบจะอยากถอยหนีเดี๋ยวนั้น เพราะนี่มันเป็นสัญญาณแห่งความหัยนะชัดๆ
และไอ้คำว่าที่รักนั้นมันก็ไม่ได้แปลว่าเขารักฉันแต่เขาต้องการทำให้ฉันระบมไปทั้งตัวต่างหาก!
.
.
.
เช้าวันต่อมา......
“อื้อ~” ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะมีแสงแดดส่องเข้ามาผ่านกระจกหน้าต่างของห้องนอนเข้ามากระทบที่ใบหน้าของฉันจนรู้สึกแสบตาไปหมด
ฉันจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นข้างเดียวก่อนที่จะใช้มือของตัวเองขยี้ตาเพื่อปรับโฟกัส จากนั้นก็ค่อยๆตื่นจากที่นอนเพื่อลุกไปเข้าห้องน้ำ...
พรึบ! ตุบ!
“โอ๊ย!”
หลังจากที่ฉันแตะเท้าตัวเองลงบนพื้นเพื่อลุกขึ้นจากเตียง อยู่ ๆ ก็รู้สึกมึนหัวพร้อมกับขาอ่อนขาสั่นขึ้นมา ไม่พอแค่นั้น ฉันยังรู้สึกว่าตรงส่วนนั้นของฉันตอนนี้มันระบมและเจ็บแสบไปหมดด้วย
นี่เมื่อคืนไซเรนมันทำอะไรกับร่างกายของฉันบ้างเนี่ย ทำไมถึงรู้สึกปวดเมื่อยไปหมดแบบนี้นะ?
“เมื่อคืนโดนฉันเอาจนสลบตื่นมาก็อวดเก่งเลยเหรอว่ะเอวา”
ฉันหันขวับไปตามเสียงทุ้มของไซเรนทันทีที่ได้ยิน ก่อนที่จะเห็นมันกำลังยืนพิงกอดอกมองมาที่ฉันอยู่ที่ขอบประตูห้องอย่างสบายใจและดูมันไม่ทุกข์ร้อนด้วยที่เห็นฉันอยู่ในสภาพนี้ ฉันเลยพยายามที่จะยันแขนไว้กับเตียงแล้วลุกขึ้นเดินหนีมันซะ
แต่...
ตุบ!
“อ๊ะ!” บ้าจริงคือตอนนี้ขาฉันมันไม่มีแรงพอที่จะลุกขึ้นมาเลยเหรอ
แต่ฉันก็ไม่ลดความพยายามลงหรอกนะ ฉันลองลุกขึ้นมาอีกครั้ง ทว่ามันกลับลุกขึ้นไม่ไหวเลยให้ตายเถอะ นี่ฉันโดนไซเรนทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ
ฉันได้แต่นั่งข่มอารมณ์ตัวเอง ข่มความโกรธแค้นที่กำลังปะทุขึ้นมาตอนนี้ และข่มความเจ็บปวดต่างๆ นานาที่ประเดประดังเข้ามา เอาสิ เอาเลยจะให้ฉันรู้สึกยังไงอีกก็เชิญเข้ามาทีเดียวเลย
แต่ฉันจะไม่เอ่ยปากขอให้ปีศาจร้ายที่ยืนยิ้มเยาะตรงประตูนั้นเข้ามาช่วยหรอกนะ ไม่มีทาง
“.......”
“หึ ไม่มีแรงลุกขนาดนั้นแล้วยังอวดดีอีกน่ะเอวา”
ไซเรนเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันพร้อมกับยืนล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างของมัน แล้วมองฉันด้วยสายตาเยาะเย้ยใส่ฉัน ก่อนที่มันจะ....
พรึบ! ก้มลงมาอุ้มฉันแล้วเดินไปทางห้องน้ำทันทีโดยที่ไม่พูดไม่จาใดๆออกมา
พอเข้ามาในห้องน้ำแล้วมันก็วางฉันลงบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแล้วก็ยืนมองหน้าฉันนิ่ง แต่มันไม่ได้ยืนธรรมดาไงมันกลับแทรกตัวเองเข้ามายืนตรงระหว่างขาของฉัน
แล้วออกคำสั่งใส่ฉันหน้านิ่ง!
“รีบๆ จัดการตัวเองซะ ฉันจะออกไปทำธุระต่อ” เฮอะ! ตลกชะมัด จัดการทุกอย่างเองทั้งนั้น ฉันไม่ได้เอ่ยปากขอเลยสักนิด แล้วทำไมต้องมาทำเหมือนฉันเป็นภาระที่ต้องคอยดูแลละ
“ก็ไปสิ ฉันไม่ได้จับขานายไว้นี่”
“ก่อนจะพูดอวดดีกับคนอื่น ช่วยดูสภาพตัวเองด้วยเอวา ว่าพร้อมขนาดไหน” ไซเรนหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายและเหมือนรำคาญฉันเต็มทนที่ฉันชอบอวดดีใส่มันแต่ไม่ดูสังขารตัวเอง ก่อนที่มันจะหยิบแปรงสีฟันและยาสีฟันมาใส่ให้เรียบร้อย แล้วจ่อตรงปากฉัน...
“แล้วก็รีบแปรงฟันซะ จะได้เลิกพูดมากน่ารำคาญ”
“อื้อ!!”
และใช่ มันไม่ใช่แค่จ่ออย่างเดียวแต่มันแปรงฟันให้ฉันด้วย แล้วพอฉันทำท่าจะขยับมือมาจับเอง มันก็รีบจับมือฉันไว้ไม่ให้ยุ่งกับมือของมันที่กำลังแปรงฟันให้ฉันอยู่ จนฉันต้องนั่งนิ่งๆ ให้มันแปรงจนเสร็จ
“เสร็จแล้ว รีบบ้วนปากสิ รึต้องให้ฉันส่งน้ำจากปากฉันให้เธอ”
“ไม่ต้อง!” ฉันรีบปฏิเสธทันทีที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น จะบ้ารึไงส่งน้ำจากปากมันให้ฉันนะเหรอ?
เฮอะ!แค่โดนมันจูบปากไปฉันก็แทบอยากจะตัดปากตัวเองทิ้งแล้ว
“หึ งั้นเธอก็รีบบ้วนปากก่อนที่ฉันจะทำจริงๆ” พอไซเรนพูดจบฉันก็รีบหยิบแก้วกรอกน้ำทันทีแล้วจัดการบ้วนปากตัวเองต่อ ต่อด้วยล้างหน้าล้างตาให้เรียบอย่างรวดเร็วด้วยความขึงขัง ก็หงุดหงิดกับมันนี่แหละสั่งอยู่ได้!
พอฉันทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ไซเรนก็ทำท่าจะยกตัวฉันลงจากเคาน์เตอร์ แต่ฉันขืนตัวไว้ไม่ยอมให้มันอุ้มฉันลงมันจึงเลิกคิ้วถามฉันอย่างสงสัย....
“อะไรอีก”
“ฉันปวดฉี่ ขอฉี่ก่อน แล้วช่วยยกฉันไปตรงนั้นด้วย” ฉันพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่โถส้วมที่อยู่ข้างหลังไซเรนเยื้องเข้าไปข้างในนิดหน่อย
“อืม”
พรึบ! ไซเรนยกฉันลงจากเคาน์เตอร์แล้วพาฉันไปนั่งที่โถส้วม ฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปมองหน้ามันก่อนที่จะสั่งให้ออกไป
“ออกไปรอที่เคาน์เตอร์สิ จะยืนดมฉี่ฉันรึไง”
“จิ๊ เธอนี่มัน...”
ไซเรนหยุดพูดแค่นั้นก่อนที่มันจะหันหลังเดินออกไป ฉันจึงรีบจัดการธุระให้เสร็จไวๆ ก็ไม่รู้หรอก ว่าเมื่อกี้มันจะพูดอะไร แต่ดูสายตามันแอบเคืองๆ ฉันอยู่เหมือนกัน
ก็ฉันพูดจริงอะ จะยืนทำบ้าอะไรละคนยิ่งปวดฉี่อยู่ถ้าขืนมันยืนจ้องหน้าฉันแบบเมื่อกี้ ฉันก็ฉี่ไม่ออกนะสิ...
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ฉันเคาะตู้กระจกห้องน้ำที่เป็นกระจกกั้นเฉพาะห้องส้วมเท่านั้นหลังจากที่ทำธุระเสร็จ ไซเรนที่กำลังยืนกอดอกมองพื้นอยู่ตรงเคาน์เตอร์จึงเงยหน้ามองฉัน ก่อนจะขยับมาหาในเวลาต่อมา
“เสร็จแล้ว?”
“อืม”
“แล้วจะนั่งนิ่งเป็นหุ่นเพื่อ?”
ไซเรนบ่นฉันหน้ายุ่งที่เห็นว่าฉันทำธุระเสร็จแล้วแต่ไม่ยอมเรียก ฉันเลยทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจที่มันบ่น มันเลยถอนหายใจใส่ฉันแล้วอุ้มฉันออกไปจากห้องน้ำในที่สุด เดินออกจากห้องน้ำได้ไม่นานมันก็เดินมาถึงโซฟา ก่อนจะวางฉันลงแล้วยืนเท้าเอวมองฉันนิ่ง
หึ ยังดีน่ะที่รอบนี้มันไม่โยนฉันเหมือนที่ผ่านมาที่มันชอบทำ
“ฉันจะออกไปทำธุระข้างนอก ฉันทำอาหารเช้าให้แล้วรีบทานซะ แล้ววันนี้ก็ห้ามออกไปไหนด้วย ส่วนรถเธอเดี๋ยวฉันให้เด็กขับมาส่งที่คอนโด”
ไซเรนพูดจบฉันก็ปรายตามองไปที่ถาดอาหารที่มันบอกไว้ ก่อนจะเห็นว่ามีข้าวต้มแก้วน้ำเปล่าแล้วก็ยาจัดอยู่ในนั้นอย่างเรียบร้อย
เฮอะ ผีบ้าตัวเมื่อคืนมันออกจากร่างไปแล้วเหรอ ถึงได้มาทำดีกับฉันแบบนี้
ตบหัวแล้วลูบหลังชะมัด คิดว่าทำกับฉันแบบนั้นแล้ว ฉันจะหายว่างั้นเถอะ เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่!!
“ฉันทำให้เธอกิน ไม่ใช่ให้มานั่งมอง”
“ฉันไม่อยากกิน แล้วก็ช่วยเอามันไปทิ้งด้วยเห็นแล้วจะอ้วก” ไซเรนดุนกระพุ้งแก้มเบือนหน้ามองทางอื่นทันทีที่ฉันพูด เหมือนกำลังข่มอารมณ์ไม่ให้แตกออกมา
แต่...
คร่อก~ คร่อก~ จู่ๆ เสียงอันน่าอายที่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับฉันก็ร้องดังขึ้นมาซะงั้น ฉันเลยรีบเอามือตัวเองมาจับไว้ พลางนึกบ่นในใจว่าไอ้ท้องบ้านี่มันมาร้องหาอะไรตอนนี้เนี่ย!
“หึ ยังจะให้ฉันเอาไปทิ้งอีกไหม”
ไซเรนยิ้มเยาะทันทีที่ได้ยินเสียงท้องของฉันร้อง ก่อนจะหุบยิ้มลงแล้วหมุนตัวเดินออกไปทันที โดยที่ไม่สนใจฉันเลยสักนิดว่าจะกินอาหารเช้าที่มันทำให้ไหม
หึ พอเห็นแบบนั้นแล้วก็รู้สึกใจสั่นขึ้นมาเลยแฮะ ตลกดีเหมือนกันนะ พอโดนเมินใส่แล้วหัวใจก็รู้สึกจี๊ดขึ้นมาทันทีเลย ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เอาความรู้สึกตัวเองมาทิ้งกับคนแบบมัน...
ตึก ตึก ตึก
เวลาผ่านไปหลายนาทีฉันยังนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟาตัวเดิม แต่จู่ ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินกลับเข้ามาอีกครั้งจึงเงยหน้าขึ้นไปมอง
“อย่าให้ฉันรู้เด็ดขาดว่าเธอนัดไอ้เวรนั้นมาที่ห้องอีก ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
ใช่ ไซเรนมันกลับมาพูดแค่นั้นก่อนจะหมุนตัวกลับไปทางประตูอีกครั้งเพื่อออกจากห้องไป โดยที่ไม่หันกลับมามองอีก