รถคันหรูชะลอลงจอดบริเวณสถานที่อโคจรที่คริมาไม่คุ้นเคย ทั้งสามใช้เวลาเดินทางราวๆ ชั่วโมงกว่าเพราะอิมชิตาแวะรับ ‘อันดามัน’ หรือ อัน เพื่อนอีกคนในกลุ่ม แก๊งพวกเธอมีลักษณะนิสัยแตกต่างกันชัดเจน อันดามันเป็นสาวหวาน บุคลิกภายนอกดูน่าทะนุถนอมทำให้พอเข้ามหาวิทยาลัย ก็ได้รับฉายานางฟ้าเอกฟิล์ม ส่วนอิมชิตานั้นเปรี้ยวซ่าเกินใคร ภายนอกอาจดูแรงตามประสาลูกคุณหนูซึ่งหลายคนอาจคิดว่าเอาแต่ใจ แต่ถ้าได้รู้จัก ยายคนนี้แค่เป็นคนตรงๆ คนหนึ่ง หล่อนมีมุมอ่อนโยนและน่ารักกับเพื่อนมาก
“ถึงล่ะ ขอฉันเติมหน้าเติมปากให้พร้อมแป๊บ” อิมชิตาว่าขณะหยิบเครื่องสำอางออกจากกระเป๋าแบรนด์เนม
“ทำไมแกต้องเวอร์ด้วย แค่มากินเหล้าก็เหมือนทุกครั้งที่แกออกไปสนุกไหมละยายอิม” อันดามันย่นคิ้วสงสัยในท่าทางผิดปกติของเพื่อน
“ไม่สิ รอบนี้ไม่เหมือนปกติ”
“ทำไม แกพาพวกฉันมาที่ไหนเนี่ย” คริมาเอ่ย เพราะเริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ อิมชิตาเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย บางครั้งหล่อนก็ชอบทำอะไรแปลกๆ โดยไม่ปรึกษาเพื่อนในกลุ่ม
“คริคริ เฉลยก็ไม่สนุกสิจ้ะสาวๆ” สาวเปรี้ยวขยิบตาพลางกลั้วหัวเราะ
“รับรองคืนนี้พวกแกจะฟินจนลืมไม่ลงเลยจ้า” พูดจบไฮโซสาวก็กดดับเครื่องยนต์ ทำเอาคริมาและอันดามันถอนหายใจพร้อมกัน หวังว่าคืนนี้อิมชิตาคงไม่หาเรื่องปวดหัวมาให้นะ หรือหล่อนจะนึกสนุกนัดหนุ่มที่ไหนมาเดตแล้วหวังดีจับคู่ให้พวกเธอด้วย
“ฉันชักรู้สึกไม่ปลอดภัยแล้วสิ” นัยน์ตาสีน้ำตาลมองตามไปนอกกระจก
“ฉันก็เหมือนกัน” ไม่ใช่แค่เธอคิดฝ่ายเดียว อันดามันก็ไม่ต่างกัน แต่อย่างไรเสียสองสาวก็ก้าวลงจากรถเพราะไม่อยากหักหาญน้ำใจเพื่อน วันนี้อิมชิตาดูตื่นเต้นซ้ำยังมีท่าทีคึกคักเป็นพิเศษ ตั้งแต่ประโยคแรกที่รับโทรศัพท์คริมาก็รู้ทันทีว่ายายนี่อยากเที่ยวแค่ไหน
พวกเธอยื่นบัตรประชาชนให้การ์ดข้างหน้า ชายร่างใหญ่ก้มดูสักพักก็ปล่อยผ่านเข้าไปข้างในทันที บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยแสงสีเหมือนผับทั่วไป แต่ที่แปลกตาคือเวทีเป็นตัววียาวมาถึงกลางร้าน ทำให้ทุกโต๊ะสามารถมองเห็นคนบนเวทีได้อย่างชัดเจน
“จองไว้ VIP 1 ค่ะ” อิมชิตายื่นบัตรให้พนักงานจากนั้นเขาก็นำหล่อนไปทางโต๊ะที่จองไว้ซึ่งตั้งอยู่ข้างหน้าและชิดขอบเวทีที่สุด
“อิม ทำไมแกต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้” คริมาถามเพื่อน
“นั่งๆ เดี๋ยวแกก็รู้คำตอบจ้ะ ดื่มอะไรดี?”
อันดามันและคริมาหันมองหน้ากันฉับพลัน ตอนนี้มีแต่ความเงียบเข้าครอบงำ เพราะไม่รู้ว่าต้องสั่งเครื่องดื่มแบบไหนดี
“โอ๊ยปวดหัวกับพวกแกมาก สงสัยต้องพามาออกรอบบ่อยๆ จะได้ชิน เดี๋ยวฉันสั่งเอง พวกแกมีหน้าที่ดื่มอย่างเดียวจบ!”
“ค่ะ ไหนๆ แกดูโปรขนาดนี้ งั้นสั่งแทนพวกฉันเลย” อันดามันแกล้งประชดประชัน หล่อนยื่นเมนูให้อิมชิตา ก่อนหันไปป้องปากกระซิบข้างหูคริมา
“ปล่อยให้ยายคนเก่งสั่ง เราจอยๆ ฟังดนตรีดีกว่า”
“ฉันก็ว่างั้น” คริมาเผยรอยยิ้มกว้าง ตอนนี้พวกหล่อนทำให้เธอรู้สึกเหมือนคนเป็นไบโพลาร์ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนพึ่งผ่านมรสุมน้ำตา ร้องไห้ซุกหมอนเน่าเพราะเสียใจที่ผู้ชายไม่รักจนจะเป็นจะตาย แต่ตอนนี้พออยู่กับเพื่อนกลับหัวเราะ หยอกเย้าแซวกันไปมาไม่เหลือแม้เศษน้ำตา สงสัยยายพวกนี้คงมีพลังวิเศษละมั้ง
ผ่านไปสักพักเครื่องดื่มก็มาเสิร์ฟ และดนตรีเพลงสากลบนเวทีก็เปลี่ยนเป็นบีทหนักๆ แทน
“มาได้จังหวะพอดีนะเนี่ย”
“จังหวะอะไรของแก” หญิงสาวฉงนใจกับคำพูดของอิมชิตา พอหันไปมองอันดามันเหมือนจะถาม อีกฝ่ายก็ส่ายหน้าคล้ายจะบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน
“จังหวะพิเศษ” จบคำพูดนั้นชายร่างสูงเผยแผงอกกำยำ ท่อนล่างสวมกางเกงยีนทยอยออกมาเต็มเวที แต่ละคนมีหน้าตาและบุคลิกแตกต่างกันชัดเจน มีทั้งสไตล์หนุ่มไทยหล่อเข้ม ขาวตี๋เกาหลีโอปป้า และสายฝอแบบที่ผู้หญิงหลายๆ คนชอบ เสียงหวีดร้องดังขึ้นท่ามกลางดนตรีมันๆ และสเตปโยกย้ายเข้ากับเสียงเพลงของชายหนุ่ม คริมาจึงสังเกตรอบข้างก็พบว่าส่วนมากแขกที่นี่มักเป็นสตรี
ทำไมเธอไม่สงสัยตั้งแต่แรกนะ…นี่มันบาร์โฮส!
“ยายอิม แกนี่แสบมาก พาพวกฉันมาที่ไหนเนี่ย ไหนว่ากินเหล้าชิลล์ๆ ธรรมดาไง ทำไมถึงได้…” อันดามันหน้าแดงก่ำ หล่อนสวดอิมชิตายกใหญ่ และทุกประโยคที่ว่าเหมือนแทนใจคริมาไปด้วย
“กินเหล้าเฉยๆ จะไปสนุกอะไร มาเจอกันทั้งทีก็ต้องมีอะไรพิเศษสิ จริงปะ” อิมชิตายักคิ้วบอก
“พิเศษมาก พิเศษจนพวกฉันจะเป็นลม”
“จะเป็นลมเพราะเขินหรือน้ำลายหกย่ะ” ท่าทีเขินอายพร้อมคำพูดไร้เดียงสาของคริมา ทำเอาไฮโซสาวหมั่นไส้จึงแกล้งเย้าต่อ
“แม่ชีอย่างแกอยากให้ฉันซื้อดริงก์ให้เอาปะ บางทีหนุ่มๆ พวกนั้นอาจทำให้แกฟินก็ได้นะ ดูดิขาวจั๊วะบอดี้โคตรดี เห็นกล้ามท้อง หน้าอกแน่นๆ ล่ะฉันอยาก…”
“ยายอิม หยุด! อย่าทำให้พวกฉันจินตนาการลึกกว่านั้น!” อันดามันเม้มริมฝีปาก หล่อนเหลือบตามองผู้ชายข้างบน ไล่ต่ำลงมาทีละนิดตามอิมชิตาบอกก็รีบห้ามเพื่อนเพราะไม่อยากเตลิดไปไกล
“คริคริ มาถ่ายรูปกันดีกว่าฉันจะโพสต์ลงไอจี อย่าลืมรีพลายสตอรีกลับด้วยล่ะ ไม่งั้นงอน” อิมชิตาลากเพื่อนสนิททั้งสองขนาบข้างตัวเอง หล่อนสัมผัสหน้าจอสมาร์ตโฟนเครื่องบาง หันหลังไปทางเวทีที่มีหนุ่มๆ เต้นอยู่เบื้องหลัง
“ยิ้มด่วนค่ะสาว เดี๋ยวคนอื่นเขาจะนึกว่าวันนี้พวกแกมาปฏิบัติธรรมนะ อย่าทำหน้าสงบนิ่งเหมือนปลงโลกขนาดนั้นสิ” คำพูดของยายตัวแสบทำสองสาวฉีกยิ้มกว้างตามที่สั่ง อิมชิตากดถ่ายเซลฟี่ก่อน เสร็จก็สั่งให้เพื่อนโยกย้ายตามเสียงเพลงแล้วบันทึกภาพเคลื่อนไหวต่อ
คริมาปล่อยตัวเองให้สนุกไปกับเสียงดนตรีมันๆ จิบเครื่องดื่มทีละนิด เต้นกับอิมชิตาและอันดามันต่อ เธอหวังว่าบางทีความสุขเพียงชั่วครู่อาจทำให้ลืมความผิดหวังได้บ้าง แค่ช่วงเวลาหนึ่งก็ยังดี
ด้านคนใจร้าย…
ตอนนี้การินพาตัวเองมานั่งจิบเบียร์เย็นๆ และปรับทุกข์กับเพื่อนสนิทอย่าง ‘พายุ’ หรือ ลม ไฮโซหนุ่มที่เพิ่งลั่นระฆังวิวาห์กับแฟนสาวและมีโซ่ทองคล้องใจได้ไม่กี่ปี ทีแรกเขาก็อยากกลับไปซุกหัวนอนที่คอนโด แต่เพราะฟุ้งซ่านเกินทนไหวทำให้ต้องหอบร่างกายอันเหนื่อยล้ามาหาเพื่อน
“นี่มึงดื่มเกือบๆ ห้าขวดละมั้ง มาถึงกูเห็นไม่พักเลย กลุ้มใจอะไรนักหนาวะ” พายุหรี่ตาสังเกตเพื่อน ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ คนปากหนักแบบการินไม่มีทางโผล่มารบกวนเขากับเทียนหอมในยามวิกาลแน่ๆ
“ถามจริงเป็นไรวะ ปกติมึงไม่เคยหลุดขนาดนี้”
“เปล่า” การินส่ายหน้าปฏิเสธ ปลายนิ้วคีบบุหรี่พลางหยิบไฟแช็กแล้วจุดมัน ระบายความกังวลผ่านควันคละคลุ้ง ปกติเขาแทบไม่แตะบุหรี่ด้วยซ้ำ ถ้าหยิบขึ้นมาใช้แสดงว่าปัญหาที่ว่ารบกวนจิตใจจนไม่อาจนิ่งเฉย ต้องลงมือผ่อนคลายกับอะไรสักอย่างเพื่อให้ตัวเองดีขึ้น
“มึงตอบไม่ตรงคำถาม ถ้ามาหาแล้วไม่กล้าบอกกูก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ”
ถ้อยคำของพายุเหมือนเสียงระฆังดังๆ เรียกสติการินกลับมา บางทีปัญหาที่รบกวนอยู่ตอนนี้ถ้าเผยให้อีกฝ่ายรู้อาจไขจนกระจ่างได้
“มึงรู้ได้ยังไงว่ารักเทียน” เขาถามเพื่อนตรงๆ
“ฮ่าๆ ทำไมวะ ปกติคนอย่างมึงเชี่ยวชาญเรื่องหญิงจะตาย ทำไมตอนนี้ถึงมาถามอะไรแบบนี้กับกูได้” พายุกลั้วหัวเราะ
“…”
“หรือมึงอกหัก” เจ้าพ่อโชว์รูมรถเลิกคิ้วถามเพื่อนสนิท
“เปล่า กูยังไม่รักใครจะอกหักได้ไง” ที่ไม่อยากบอกเพราะรำคาญตอนมันแซวนี่แหละ เห็นดวงตาเจ้าเล่ห์หรี่มองเขาพร้อมหัวเราะเบาๆ ชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิด
“อืม…แล้วมาถามทำไมว่ากูรู้ตัวตอนไหนว่ารักเทียน” พายุลูบปลายคางคล้ายกำลังครุ่นคิด มือคว้าขวดเบียร์ขึ้นมากระดกเบาๆ
“ตอนนั้นน่ะเหรอ…”
“…”
“ก็แค่กูอยู่กับเทียนแล้วมีความสุข กอดเขาแล้วรู้สึกอบอุ่น…เหมือนเทียนเป็นครอบครัว เป็นทุกอย่างของกู เป็นคนที่กูอยู่ด้วยแล้วปล่อยใจชิลล์ๆ ได้ไม่ต้องคิดอะไรให้ปวดหัว”
“…”
“ถ้ามีเขาในชีวิตแล้วมึงดีขึ้น มีความสุขมากกว่าอยู่คนเดียว แค่นั้นก็ชัดเจนแล้วปะวะ คนเรามันจะคิดอะไรเยอะ”
“งั้นเหรอ” สิ่งที่เพื่อนบอกอาจดูเหมือนธรรมดาทั่วไปแต่ไม่ใช่ ความรู้สึกแบบนี้สำหรับเขาไม่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
“เออ รักก็คือรัก”
“หึ…แล้วตอนที่เทียนทิ้งมึงเป็นไง”
“จะตายให้ได้สิไอ้สัด…ถามไรวะ ทำไม หรือมึงรักใคร” พายุย้อนเพื่อนบ้าง
“มึงก็รู้กูรักใครไม่ได้อีก”
“เพราะเรื่องลิตา” บาดแผลในอดีตทำเอาการินขยาดกับความรัก ตั้งแต่นั้นชายหนุ่มก็ไม่เปิดใจให้ผู้หญิงคนไหนเข้าย่ำยีอีกเลย
“ปล่อยวางบ้างเหอะ อีกหน่อยมึงก็ต้องมีครอบครัว”
“กูไม่คิดแต่งงาน ไม่อยากมีลูก” เอ่ยถึงคำว่า ‘ลูก’ ทีไร อาการเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายในเหมือนผุดขึ้นมาใหม่ ชายหนุ่มยังจำความร้าวรานที่ลลิตาฝากฝังไว้ได้ทุกลมหายใจ แถมภาพวันวานอันแสนหวานระหว่างทั้งคู่ก็ย้อนคืนกลับมา หลอกหลอนเขาในความทรงจำไม่มีทางมอดดับลงสักนิดเดียว ก่อนเคยคิดว่าสักวันหนึ่งอาจลืมเรื่องพวกนี้ได้…แต่ไม่
เขาไม่เคยลืมสิ่งที่ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นทำกับลูกของเราได้ลงคอ
สมัยเรียนมหาวิทยาลัย การินเคยสานสัมพันธ์ลับๆ กับลลิตาจนผู้หญิงคนนั้นตั้งท้อง หล่อนก็ไปอ้างกับพายุว่าอีกฝ่ายคือพ่อ ทั้งเขาและเพื่อนสนิทถูกลลิตาปั่นหัวเพราะหลงรักผู้หญิงคนเดียว ทางออกที่ลลิตาเลือกทำคือเอาเด็กออกโดยไม่ปรึกษาพ่อแท้ๆ อย่างเขาแม้แต่คำเดียว
บาดแผลที่หล่อนเคยร้ายใส่ทำให้การินไม่กล้าเปิดใจรักผู้หญิงคนไหนอีก ชายหนุ่มไม่อยากมีครอบครัว เขาไม่อยากคิดถึงลูก…ลูกที่ไม่มีโอกาสได้ลืมตาขึ้นมาเพราะแม่ใจร้ายอย่างหล่อน
“มึงก็รู้ ถ้ารักกับผู้ชายอย่างกู…กูไม่มีปลายทางหรืออนาคตให้เขาหรอก” ท่านประธานหนุ่มเย้ยหยันตัวเอง
“ถ้ามึงคิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้นก็ควรตัดสินใจให้เด็ดขาดแล้วพอ”
“พอ…” ย้ำคำเพื่อนอีกรอบเพราะไม่เข้าใจว่าพายุต้องการสื่อสิ่งใด
“มึงควรปล่อยผู้หญิงคนนั้น”
“ทำไมมึงถึงคิดว่ากูควรทำแบบนั้น” เขาถาม
“การรักใครสักคนแต่สุดท้ายต้องมารู้ว่าต่อให้พยายามแค่ไหนเขาไม่มีวันรักเรามันเจ็บมากนะ ยิ่งนานวันความรู้สึกผู้หญิงคนนั้นจะถลำลึกไปกับมึงเรื่อยๆ เหมือนมึงแค่ยื้อเขาไว้แค่รอเวลา เหมือนนักโทษประหารที่ยังไงก็ต้องตายอยู่ดี มึงนึกภาพออกไหม”
“…”
“มึงไม่รักก็ปล่อยเขาไปตอนนี้ ดีกว่าทำลายเขาในอนาคต อยู่ด้วยกันแบบไม่มีความชัดเจนน่าสงสารมากนะสำหรับคนรอ”
“…”
“กูพูดได้เท่านี้ ที่เหลือมึงไปคิดเอาเอง”
“อืม ขอบคุณ” การินเหลือบมองแววตาจริงจังของเพื่อนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ หรือคำแนะนำของพายุอาจเป็นทางออกที่ถูกต้องที่สุดในความสัมพันธ์ของเขาและคริมาในตอนนี้ เมื่อท้ายที่สุดความรู้สึกที่หญิงสาวปรารถนาเขาไม่มีวันให้ได้สักที สิ่งเดียวที่ผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างเขาจะพอชดใช้ให้เธอได้คือทำให้สถานะของเราคืนสู่จุดเดิม…
เขาควรเลิกรั้งและปล่อยเธอไป เพราะชายหนุ่มคิดว่าผู้หญิงน่ารักๆ นิสัยดีอย่างคริมาควรจะเจอใครที่คู่ควรกว่าคนอ่อนแอเช่นเขา!