บทที่ 2
กำยานปลุกกำหนัด
ในตอนนั้นเองที่อี้หยางเซียวหมิ่นโอบเอวบาง แล้วหมุนตัวนางให้อยู่ใต้ร่างของตนแทน เป็นจังหวะเดียวกับที่ตันหรานเปิดประตูเข้ามา เนื่องจากเจียงไฉเป็นบุรุษจึงไม่อาจหาญก้าวเข้ามาในห้องหอของผู้เป็นนายในยามนี้
อี้หยางเซียวหมิ่นตวัดสายตามองตันหราน แม้ตันหรานจะไม่ได้เบนสายตามองมาที่อี้หยางเซียวหมิ่นและเป่าซูเม่ย แต่ก็รับรู้ได้ถึงสายตาของบุรุษ
“จุดกำยานทั้งหมดที่เจ้าเอามา แล้วออกไปซะ”
“เจ้าคะ”ตันหรานรับคำสั่งก่อนจะรีบจุด รีบออกไป จากน้ำเสียงและหางตาที่เหลือบเห็นท่าทางของคนทั้งสองแล้ว ดูเหมือนนางจะมาขัดจังหวะ
…ข้าคิดว่าหมิ่นอ๋องจะมิสนใจหวางเฟยเสียอีก เหตุใดท่าทีจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้ อีกทั้งยังรีบร้อนไล่ข้าอีก…
“ทะ ท่าน! นั่นคือกำยานกระไรหรือเจ้าคะ!?”
“ในคืนวสันต์ เจ้าคิดว่าควรใช้กำยานกระไรหรือ?”
ไม่ว่าเปล่า อี้หยางเซียวหมิ่นยังยื่นหน้าไปจนเกือบชิด ดวงตาประสานตาราวกับกำลังค้นหาบางอย่างซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายใน
ฝ่ามือเล็กแตะแผงอกกว้างแล้วออกแรงดันออก อี้หยางเซียวหมิ่นที่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธตน จึงกระเด็นตามแรงผลักของนาง เป่าซูเม่ยกระเถิบถอยออกห่าง เว้นระยะพอสมควร ก่อนจะจ้องมองดวงตาของบุรุษ…
“ข้าและหมิ่นอ๋อง ต่างเต็มใจกับการแต่งงานในครั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองสกุล ซูเม่ยผู้นี้เล็งเห็นว่าขนบธรรมเนียมบางอย่างจึงควรปล่อยผ่านไปดีหรือไม่ โปรดหมิ่นอ๋องพิจารณา”
ยกฝ่ามือทับซ้อนกับภายใต้ชายอาภรณ์ยาว ก่อนจะยกขึ้นแล้วก้มหน้าลงเป็นการแสดงความเลื่อมใสอีกฝ่าย
“เม่ยเอ๋อร์…”
เป่าซูเม่ยสะดุ้งเมื่อบุรุษเอ่ยเรียกชื่อนางเสียสนิทสนม ดวงตาคู่นั้นจ้องมองมาที่นาง เป่าซูเม่ยเผลอกำมือแน่นด้วยความประหม่า แม้จะยังไม่รู้แน่ชัดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ เรื่องราวต่างจากในอดีตเล็กน้อยทำให้เป่าซูเม่ยเริ่มสับสนว่าสรุปแล้ว นี่คือความจริงหรือความฝัน ทว่าดวงตาของบุรุษทำให้นางหวาดหวั่นเหลือเกิน ดวงตาของอ๋องทรราชผู้ฆ่าได้แม้กระทั่งเชื้อสายตนเอง
“จุดกำยานไปแล้ว ถือว่าตัดสินใจไปแล้ว เจ้าอาจจะไม่รู้เพราะเราเพิ่งได้พูดคุยกันก็วันนี้…แต่อี้หยางเซียวหมิ่นผู้นี้พูดแล้วมิคืนคำ ตัดสินใจแล้วตัดสินใจเลย”
เป่าซูเม่ยเผลอลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างยากลำบาก ไม่ต้องการแสดงให้บุรุษตรงหน้ารับรู้ว่านางกำลังหวาดกลัว
“อีกอย่าง…”
“อ๊ะ!?”
แขนบอบบางถูกกระชากจนสตรีตัวน้อยเซถลาเข้าสู่อ้อมอกของบุรุษ ก้มหน้าลงกระซิบที่ข้างหูของสตรีที่สั่นเทาไปทั้งตัวพร้อมรอยยิ้มของสุนัขจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์
“เจ้าวิ่งหนีออกไปเช่นนั้น ผู้คนจะกล่าวว่ากระไร?”
“ชะ เช่นนั้นพวกเราก็แค่ร่วมหลับนอนเฉยๆ…”
“หากเจ้าไปกล่าวอ้างทีหลัง ว่าข้าได้ทำหน้าที่ไม่สมกับเป็นสามีในคืนวันเข้าหอจะทำอย่างไร หืม?”
“มะ เม่ยเอ๋อร์มิมีทางกล่าวเช่นนั้น…”
กลิ่นกำยานหอมกรุ่นเริ่มทำงานกระตุ้นกำหนัดของบุรุษและสตรีภายในห้องหอ เป่าซูเม่ยซึ่งถูกโอบกอดภายในอ้อมแขนแกร่งนั้นไร้เรี่ยวแรงจะต่อกร ในขณะที่บุรุษเองก็ก้มหน้าดอมดมกลิ่นหอมที่ลำคอระหง กลิ่นหอมรัญจวนแยกไม่ออกว่าแท้จริงแล้วเป็นกลิ่นกำยานหรือกลิ่นกายสตรีกันแน่
ข้อมือเล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ก่อนจะเลื่อนมาประคองท้ายทอยของนางเพื่อให้ง่ายต่อการรับจูบ เอวบางถูกโอบกระชับแน่น ก่อนที่ริมฝีปากอวบจะถูกครอบครองในเวลาต่อมา
ฤทธิ์ของกำยานปลุกกำหนัดได้ผลดีเกินคาด เป่าซูเม่ยไร้เรี่ยวแรงต่อต้านเพราะกลิ่นฉุนของมัน ในขณะที่อี้หยางเซียวหมิ่นนั้นมีแรงเหลือล้น บดกลีบปากของนางเคล้าคลึงราวกับกำลังสำรวจความนุ่มนิ่มของริมฝีปากอิสตรี
ปลายลิ้นถูกสอดแทรกเข้าไปอย่างเชื่องช้า สร้างความปั่นป่วนในช่วงท้องให้แก่เป่าซูเม่ย นางสะดุ้งตกใจและถอยหนี แต่ด้วยแรงที่บังคับท้ายทอยด้วยกำลังของบุรุษ และกำยานปลุกกำหนัดทำให้นางไม่สามารถกระทำดั่งใจคิดได้ สัมผัสแปลกใหม่ทำให้นางมึนงงไปชั่วครู่
…ข้า…มะ เม่ยเอ๋อร์ผู้นี้…
สองฝ่ามือเล็กเลื่อนขึ้นหมายจะผลักอกของบุรุษออก แต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดและร่างกายสั่นเทาทำให้ยากเย็นเหลือเกิน ริมฝีปากของนางถูกตักตวงอย่างหนักหน่วงจนรู้สึกเจ็บแสบ
แขนแกร่งโอบกระชับเอวบอบบางจนตัวนางขึ้นมาเกยบนตัก โดยที่ริมฝีปากยังไม่ถอดถอนออกเลยสักวินาที ยังคงดูดดึง ตักตวงริมฝีปากของสตรีที่ก่อนหน้านี้คิดที่จะไม่ร่วมหอกับนางด้วยอย่างคนอดอยาก ดูดดื่มจนเกินพอดี คล้ายกับกำลังกลืนกินไปทั้งริมฝีปาก
อี้หยางเซียวหมิ่นผละริมฝีปากออกเพื่อให้นางได้สูดอากาศเข้าปอด แม้ตนจะมีประสบการณ์ไม่มากนักหากเทียบกับบุรุษวัยเดียวกัน แต่ก็ถือว่ามีประสบการณ์มากกว่าสตรีตัวน้อยในอ้อมกอด เขารับรู้ได้ถึงลมหายใจที่ขาดห้วงของนาง ก็รู้แล้วว่านางคงจะหายใจไม่ทัน
ต่อมาก็เตรียมที่จะกดริมฝีปากลงไปใหม่ด้วยความหลงใหล ทว่าสตรีตัวน้อยได้เบี่ยงหน้าหลบ ทำให้ริมฝีปากหยักได้รูปจรดลงที่ลำคอระหง ไม่รีรอที่บุรุษวัยกำหนัดจะทำการสร้างรอยรักตีตราบนตัวของภรรยาป้ายแดงผู้นี้
“อ๊ะ!”
เป่าซูเม่ยร้องด้วยความเจ็บแสบ เมื่อย่นคอหนีก็ติดใบหน้าคมคายที่ยังคงซุกอยู่ และสร้างรอยตีตราอีกหลายรอย จิตใจของนางไม่อยู่กับร่องกับรอย สมองประมวลผลช้า เนื่องจากถูกกำยานตัดสติสัมปชัญญะรู้ผิดรู้ถูก มีเพียงอารมณ์ราคะเพียงเท่านั้น
ปลายลิ้นลากจากลำคอขาวเนียนมาจนถึงใบหู ก่อนจะขบมันเบาๆ แล้วกลับลงไปสร้างร่องรอยใหม่ เป่าซูเม่ยได้แต่เงยหน้าปล่อยให้บุรุษทำตามใจโดยที่ตนไม่มีแรงต่อต้าน แค่จะทรงตัวยังยากเย็นแสนเข็ญ หากไม่ได้อ้อมแขนแกร่งโอบกอดไว้ก็คงจะนอนราบบนเตียงไปแล้ว
อาภรณ์ของเป่าซูเม่ยถูกปลดออกเผยหัวไหล่นวลเนียน สตรีผู้หวงแหนร่างกายดั่งชีวิตถึงกับสะดุ้งแล้วโอบกอดตัวเอง ก้มหน้าซุกแผงอกกว้าง เป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่นางเองก็ไม่รู้ตัว สตรีตัวน้อยสั่นระริกในอ้อมกอดของอ๋องทรราช อี้หยางเซียวหมิ่นไร้จิตใจเมตตา หาได้สนใจท่าทางหวาดหวั่นของนางไม่ บุรุษดันกายนางกดลงบนเตียงแล้วอ้าปากดูดริมฝีปากอวบอย่างคนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ
ร่างกายของเป่าซูเม่ยได้แต่เคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของอี้หยางเซียวหมิ่น ฝ่ามือเล็กจับอาภรณ์ของบุรุษกำแน่น ดวงตาปิดสนิทโอนอ่อนไปกับสัมผัส ธรรมชาติของร่างกายช่างน่ากลัว แม้จะไม่ต้องการแต่หากเล้าโลมจุดอ่อนไหวร่างกายก็มักตอบสนองตามใจ ไม่ได้ขยับตามสมองสั่งการ แต่ที่น่ากลัวกว่าก็คือกำยานปลุกกำหนัดที่มีฤทธิ์ทำให้ไม่สามารถต่อต้านอารมณ์ทางเพศได้เช่นนี้
ฝ่ามือหยาบกร้านดึงอาภรณ์ผ้าไหมสีแดงออกจากร่างบอบบาง ทว่าฝ่ามือเล็กก็จับที่ข้อมือแกร่งเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง
“มะ หมิ่นอ๋อง…!”
ดวงหน้าหวานแดงซ่าน เต็มไปด้วยกามารมณ์ ดวงตาสั่นระริกช่างน่าเอ็นดู อี้หยางเซียวหมิ่นได้คิดว่านั่นมันคือสายตาของนางที่หวาดกลัวต่อการเสียพรหมจรรย์ จึงกระชากอาภรณ์ออกและเหวี่ยงออกไปอย่างไร้ทิศทาง ขอเพียงมันไม่ได้ปกปิดร่างกายของสตรีเป็นพอ
“โอบกอดข้า ปรนนิบัติข้าเฉกเช่นศรีภรรยา”
อี้หยางเซียวหมิ่นเป็นบุรุษที่ในชาติก่อนนางไม่ได้มีความรักใคร่ มีเพียงความเลื่อมใสในฐานะบุรุษผู้มากความสามารถ และจัดการปัญหาบ้านเมืองได้ดี แต่ด้วยสถานการณ์บางอย่างทำให้อี้หยางเซียวหมิ่นประหารชีวิตสกุลของนางอย่างไร้ความปราณีเช่นกัน ทว่าบัดนี้นางกลับต้องมาปรนนิบัติบุรุษผู้นี้เฉกเช่นศรีภรรยาเช่นนั้นหรือ?
“อ๊ะ!?”
ไม่รอให้เป่าซูเม่ยทำตามที่ตนได้เอ่ย ใบหน้าคมคายเลื่อนลงจนถึงทรวงอกคู่สวย ดึงฝ่ามือของนางออกให้โอบรอบลำคอของตนก่อนจะอ้าปากกัดยอดอกราวกับเป็นการลงโทษ
“อ๊ะ!? ทะ ท่าน อื้อ!...”
สองแขนยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง เพียงเท่านั้นจากฟันคมๆ ก็เปลี่ยนเป็นริมฝีปากอ่อนนุ่มดูดดื่มสร้างความวาบหวามให้กับสตรีตัวน้อยทันที ตวัดโอบรอบยอดอกแล้วดูดดื่ม ดูดดึงจนติดปากคล้ายกับทารกที่กัดนมแม่ ความเต่งตึงของทรวงอกอวบอิ่ม เด้งตามแรงสั่นสะเทือนเมื่อบุรุษดูดแล้วส่ายหน้าไปมาราวกับหยอกล้อเล่นกับมัน
ฝ่ามือหยาบบีบเคล้นทรวงอกราวกับนวดแป้ง สร้างรอยแดงด้วยฝ่ามือ เรียวขาสองข้างบิดเข้าหากันด้วยความวาบหวาม กลางลำตัวร้อนรุ่มคล้ายกับมีไฟอยู่ในกาย นางไม่ชินกับความรู้สึกเช่นนี้เลย