“คุณพ่อ..” เทียร์รดายืนมองผู้เป็นพ่อบุญธรรมอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ว่าท่านวิรุณจะเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีกจนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อีกต่อไป คุณหญิงนิภารัตน์นั่งป้อนข้าวต้มให้สามี ในแววตาดูอมทุกข์หนักจนพูดไม่ออก แต่ก็ยังคอยอยู่เคียงข้างท่านวิรุณไม่ห่างไปไหน “พ่อเขาผลัดตกบันไดน่ะลูก น่าจะเป็นเพราะความเครียดก็เลยทำให้เป็นลมจนหมดสติไป” น้ำเสียงราบเรียบของคุณหญิงเอ่ยขึ้น หากทว่าเทียร์รดากลับมุ่นคิ้วไม่เชื่อในคำพูดที่ได้ยิน สายตาท่านวิรุณที่มองมาคล้ายว่ากำลังขอความช่วยเหลืออยู่เป็นนัยน์ เอาแต่จ้องเทียร์รดาไม่พักขณะที่ส่งเสียงอู้อี้ในลำคอฟังแทบไม่ได้ศัพท์ “แล้วทำไมคุณแม่ไม่โทรหาหนูล่ะคะ หนูจะได้มาช่วยดูคุณพ่อให้” “แม่ต้องรับผิดชอบสิ่งที่มันเกิดขึ้นให้ได้.. ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันเป็นความผิดของคนเป็นแม่” พูดจบประโยคคุณหญิงนิภารัตน์ก็หันมายิ้มให้เทียร์รดา ครันเ