สาวสองคนลากขนมเค้กเดินออกมายังที่จอดรถ ก่อนจะฟาดตบเข้าแก้มซ้ายจนหน้าหันคว่ำ แต่อีกคนก็ล็อกตัวไว้ทันจนโดนตบซ้ำอีกที
"มึงยุ่งกับผัวกูเหรออีกะหรี่!!" เสียงคนตบถามพร้อมคว้าปลายคางเรียวขึ้นบีบ "คนที่มึงเอาในห้องน้ำชื่อพี่สองผัวกูเว้ย"
"ใครจะไปรู้ก็มันบอกว่าโสด"
"มึงโง่!โดนมันหลอกสินะแต่ดูท่าทางคงยังละอ่อนเด็กหน่อเพิ่งแตก"
"แล้วยังไงเหรอพี่? ผัวพี่มันไม่รักดีเองจะมาโทษ..ชาวบ้านได้ไง"
ฉันพูดเว้นวรรคมองต่ำลงหว่างขา คงไม่ต้องบอกว่าที่เว้นวรรคจุด..คือคำว่าอะไร
หมับ!
"มึงอยากลองดีเหรออีเด็กแรดหัดใหม่กูนี่มือตบแห่งพระนครใต้มึงเจ็บแน่!!"
ในขณะที่ฉันโต้เถียงมันก็ง้างมือจะตบย้ำ สัญชาตญาณก็เลยสั่งให้หลับตาแต่ปรากฏว่าทุกอย่างหยุดชะงักนิ่งไป
"ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไม่ใช่ซ่อง!อย่าตบเเย่งแขกกันสิครับคุณคนสวย"
น้ำเสียงทุ้มนุ่มเดินเข้ามาช่วยคว้าจับข้อแขนที่จะฟาดลงเกือบถึงแก้ม
"พี่ชื่อ 'ฟิน' ที่นี่เป็นคลับของเพื่อนพี่อย่าทะเลาะกันเลยนะครับคนดีเอาเป็นว่าพี่ให้กินฟรีไม่อั้นทั้งคืน" เขาพูดจบก็ยกมือเรียกพนักงานที่คอยดูแล "ให้พี่เป็นเจ้ามือเลี้ยงนะตกลงไหม"
"ตกลงค่ะ" สองสาวมือตบตอบพร้อมกันอย่างมั่นใจ เดินตามพนักงานร้านออกไปแต่โดยดี
ชายหนุ่มรูปหล่อท่าทางสุขุมแถมหน้าตาโคตรเทพบุตรมาเกิดเดินผ่านมาพอดี
"เลือดน้องออกที่มุมปาก" ผ้าเช็ดหน้าสีขาวบางถูกหยิบขึ้นมาจากด้านข้างกระเป๋ากางเกงสแล็คสีดำพร้อมปาดเช็ดให้
"มะ...ไม่เป็นไรค่ะ"
"ชอบความรุนแรงเหรอเราขนาดเลือดออกยังจ้องสู้เขาขนาดนั้น"
"พี่เห็นเหรอคะ.."
"อืม ยืนสั่งงานลูกน้องตั้งนานได้ยินเสียงทะเลาะกันเลยมาดู"
รอยยิ้มร้ายกาจพุ่งกระเเทกใจน่าดูคนอะไรไม่รู้ทำให้แทบอยากจะฆ่าตัวตายแล้วเกิดใหม่เป็นกางเกงใน 'อยากอยู่ใกล้เขาตลอดเวลาจัง'
ในร้าน
"บ้าจริงอีพวกนี้ได้ผู้ชายละสลายตัวทันที" เมื่อมาถึงโต๊ะปรากฏว่าไม่มีใครแถมเช็คบิลออกไป แต่ช่างเถอะเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก
ตุ้บ
"อักกก"
"ขอโทษนะครับ"
"____"
อุตส่าห์ลืมไปแล้วแท้ๆ ยังมาเดินชนเขาอีกจะบ้าตาย ขนาดอยู่ในแสงไฟริบหรี่ยังโคตรหล่อเลยพี่โอ๊ยใจบาง!!
"เตกีล่าไหมดื่มไหวหรือเปล่า" เขายื่นแก้วเหล้าเพียวให้ "ถ้าไม่ไหว.."
"ได้ค่ะหนูไหว"
"ว่าแต่เราชื่ออะไรอายุสิบแปดเเล้วใช่ไหม"
"ใช่ค่ะอายุสิบแปดชื่อขนมเค้ก"
"ชื่อเพราะดีนิเหมาะกับหน้าตาส่วนพี่ชื่อฟินนะ"
เหลือเชื่อว่าคำพูดสุภาพนั้นแฝงความร้อนแรงบางอย่างทางสายตา บวกกับความประหม่าครั้งแรกที่รู้สึกไปไม่เป็น เผลออีกทีกระดกเหล้าไม่รู้กี่แก้วจนกระทั่งมันเย็นวูบอยู่ช่วงล่าง
"ชอบใส่กางเกงในจีสตริงด้วยเหรอเนี่ย..ร้อนแรงไม่เบาเลยนะ"
"ท..ที่นี่ที่ไหนคะ"
"คอนโดฉันไงเธอขอกลับมาด้วยทำเป็นลืมซะได้สงสัยจะเมามากไปสินะ"
"คอนโด.."
ยอมรับว่าตอนนี้เปลือกตาโคตรหนัก เหมือนแบกหินเอาไว้ก้อนใหญ่ก่อนที่หัวใจจะเต้นตุบตับเมื่อปรายตามองท่อนล่างกระโปรงสีดำกำลังถูกถอดออก
"พะ...พี่กระโปรงหนู"
"ดูท่าทางเธอจะอยากโดนเต็มที่ตอนอยู่ในคลับเต้นร่อนยั่วฉันขนาดที่ว่า..คนทั้งร้านมองมาเป็นตาเดียว"
"อะไรนะคะ"
"หรือจะปฎิเสธว่าเธอไม่อยากได้ฉัน"
ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกันแน่..แต่ไม่ค่อยได้ยินชัดทุกคำก่อนจะรู้สึกตัวว่าหัวเข่าถูกยกตั้งฉากและมีบางอย่างทำให้เย็นวาบจนขนลุกซู่
"อ๊าาาย์~~อื้อ"
"เเค่ใช้ปลายลิ้นเลียเธอครางซะดังลั่นถ้าโดนมังกรของฉันเลื้อยเข้าถ้ำไม่แหกปากจนเจ็บคอเลยเหรอ..หืม"
"____"
"เอาเป็นว่า..มาเริ่มกันเลยดีกว่านะฉันไม่ใช่ผู้ชายที่ถูกใจใครง่ายๆ แต่กับผู้หญิงร่านอย่างเธอมันโคตรโดนใจชะมัด"
พรึ่บ
สักพักก็เห็นเสื้อคลุมโบกสะบัดคล้ายเขากำลังถอดมันออก แต่ทว่า..บางอย่างที่เป็นเงาตะคุ่มทำให้แยกไม่ออกทำไมเขามีขาสามอันล่ะเนี่ย? มันใหญ่เท่าๆ กันหมดเลย
อ๊าาาก์!!!!
หลายวันหลังจากนั้น
ขนมเค้กอ้างว่าหลับไม่รู้เรื่องจึงไม่ได้ออกมาช่วยแม่ ทั้งที่จริงเธอเพิ่งกลับถึงบ้านเมื่อเช้าตรู่ โดยมีเงินวางอยู่บนหัวเตียงแต่ไร้วี่เเววเจ้าของห้องและภาพจำคืนนั้นก็เลือนรางแต่แน่นอนว่าความเจ็บยังคงชัดเจน
ร้านกาแฟใกล้มหาลัย
"อะไรนะ..มึงหายไปเพราะไอ้มังกรบินมึงอักเสบ"
"เออ! เห็นร่านกูนึกว่าลื่นใส่เต็มเหนี่ยวสรุปแม่งยังซิงเจ็บฉิบหาย"
"อยากจะเห็นหน้าแล้วว่ะใครทำมึงขนาดนี้พ่อคาสโนว่า ฮ่าๆ"
"ทำอะไร"
"เด็กทำให้เรดาร์มึงเสียไง..มองพลาดจนได้!! แดกผู้หญิงมามากมายเสือกล้มเหลวให้เด็กซิง"
"หุบปากไปเลยไอ้เจได"
ผมนั่งคุยกับเพื่อนสนิทที่กวนตีน มันชื่อ เจได เป็นลูกชายนักการเมืองท้องถิ่นเปิดร้านกาแฟไว้แอ๊วสาวเล่น ก่อนที่เพื่อนสนิทอีกคนจะเดินทางมาจากลาวไอ้สัสนี่ชอบลูกครึ่งมันกินเหยื่อไปทั่ว
"สวัสดีพ่อคาสโนว่าเรดาร์พัง"
"ไอ้สัสกล้า!!มึงก็เอากับมัน"
"กูหายไปแค่แป๊บเดียวล้มเหลวเลยนะโดนเด็กหลอกสิท่าว่าแรด"
"มันแรดจริงแต่กูแค่ไม่ทันสังเกต"
"โธ่ ไอ้ฉิบหาย ฮ่าๆ"