"ไอ้ฟินมัวยืนอึ้งอะไรรีบมาไหว้น้าอรสิ" พ่อกวักมือเรียก "แกนี่ชักช้าจริง"
"ขอโทษทีครับรถติด"
"เร็วๆ มานั่งทำความรู้จักกันไว้"
ทันทีเขาก็เดินผ่านไปทำเหมือนกับว่าไม่รู้จักฉัน เฮ้อออ~~โล่งใจหน่อยแต่จะปิดได้นานแค่ไหนกันอาจเพราะตอนนี้ฉันอยู่ในร่างสาวแว่นวัยใสล่ะมั้ง
"ขนมเค้กมาไหว้พี่สิลูก"
โอ้โห!! แม่เรียกชื่อย้ำไปอีก แต่คนชื่อนี้มีตั้งมากมายเขาคงไม่เอะใจอะไรหรอกมั้งอีกอย่างวันนี้ไม่ได้แต่งหน้าเพราะเพิ่งกลับจากโรงเรียน
ทั้งหมดนั่งพูดคุยกันเพื่อสร้างความสนิทสนม แม้ไม่ได้จัดงานแต่งใหญ่โตแต่บรรดาเพื่อนและคนสำคัญก็รับรู้กันหมด
"น..หนูขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ" ฉันรีบร่ำลาเพราะกลัวอยู่นานเขาจะจำได้
ตึก ตึก ตึก
หมับ!
จู่ๆ แขนก็โดนคว้าจับให้ชะงักไว้ในขณะที่ขึ้นบันไดขั้นที่ใกล้จะถึงห้องด้วยซ้ำ น้ำหนักมือนี้ไม่คุ้นเคยเหมือนกันจนค่อยๆ หันกลับไปมอง
"!!!!"
"พอดีว่าหลงทาง ห้องน้ำไปทางไหนครับ"
"____"
"ห้องน้ำอยู่ตรงไหน.."
"อ๋อ อะ อยู่ด้านล่างตรงซ้ายมือค่ะ"
"ขอบคุณ"
"ค..ค่ะ"
เขาผละมือออกแล้วส่งยิ้มมาดูท่าจะจำไม่ได้จริงๆ ฉันรีบยกมือทาบอกพยายามใจเย็น ก่อนจะวิ่งใส่เกียร์หมาเข้าห้องนอนตัวเอง
กรี๊ดดดด!!!!!
ฉันก้มหน้ากรีดร้องใส่หมอนข้าง ทั้งทุบตีที่นอนอย่างตื่นตกใจถ้าจำได้ล่ะ..จะฉิบหายไหม ตอนนี้เรามีสถานะเป็นพี่น้องกัน ถึงแม่จะไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมายก็เถอะ
"ฟู่ ใจเย็นๆ ขนมเค้กใจเย็น" ฉันกระเด้งตัวลุกนั่งทำท่าสูบลมปรานเพื่อเรียกกำลังภายใน "ตั้งสติไวัแล้วไปอาบน้ำ"
น้ำเย็นชโลมอาบทำให้คิดย้อนวันวาน ฉันจดจำใบหน้าหล่อเหลานี้ได้ชัดเจน และยังจำความรู้สึกเจ็บนั้นเเม้แทบจะฉี่หรือเดินไม่ได้คล้ายเขาเอาขวดเบียร์ใหญ่ยัดเข้าใส่มดลูก
หัวใจน้อยยังเต้นตึกตักอยู่ ภาวนาให้เขาอย่าจำมันได้สำหรับคืนนั้นฉันจะคิดซะว่าฝันไปเพราะผู้หญิงแซ่บคนนั้น ไม่ได้ปรากฏตัวทุกวันมีเพียงแค่น้องแว่นใสต่างหากและนี่แหละคือตัวตนของฉัน
แกร๊ก
ฉันเดินลงมาชั้นล่างเพราะหิวมากหลังจากเขากลับจึงรีบตรงดิ่งมาห้องครัวทันที
"เอ้า..ไม่มีอะไรเลย" ตู้เย็นว่างเปล่าเหลือเพียงแค่คัพเค้กชิ้นเก่า "จะอิ่มไหมเนี่ย"
โป๊ะ!
เค้กชิ้นเดียวที่เหลือหลุดมือลงกระเเทกพื้นจนเละเทะพอปิดตู้เย็นก็เห็นใครบางคนยืนหน้าประตูพอดี
"หิวเหมือนกันเลย"
"ท...ทำไมพี่ถึงยังอยู่"
"พอดีพ่ออยากให้ทำความคุ้นเคยเลยสั่งให้ย้ายมาอยู่ด้วยสักพัก"
"ย้ายมาอยู่ด้วย!!"
เสียงตกใจหนักของสาวน้อยที่แทบจะหมดแรงหายใจ หลังจากอาบน้ำเธอมัดผมม้วนพร้อมใส่ชุดนอนสีชมพูลายหัวใจ
"สายตาสั้นสินะถึงสวมใส่แว่นหนาขนาดนี้" เขาเอ่ยถามพร้อมกระตุกยิ้มหนึ่งที
"ชะ ใช่ค่ะแล้วนี่พี่ฟินหิวเหรอ..แต่ไม่มีอะไรกินแล้วนะคะ"
"กินขนมเค้กได้ไหมล่ะ"
"!!!!"
สายตาที่เขามองพร้อมรอยยิ้มร้ายทำฉันสะดุ้งหนักก่อนที่จะเดินมาหยุดตรงหน้าเนื่องจากด้วยความสูงฉันเพียง155 ทำให้เขาโน้มตัวลงมา หรือว่า..เขาจะจำได้! ไม่นะ ไม่
"ก็ที่นี่ทำขนมขายโฮมเมด..มีขนมเค้กเหลือไหมล่ะจะได้กินแก้หิว"
"เฮ้ออออ"
"ทำไมถอนหายใจเฮือกใหญ่ขนาดนั้น"
"ปะ เปล่าค่ะแต่ตอนนี้เหลือแค่น้ำเปล่า"
"เหรอ..หิวจัง"
แกร๊ก
"อ้าวยังไม่นอนกันอีกเหรอแม่เห็นไฟห้องครัวเปิดก็เลยลงมาดู"
"พอดีหนูหิวค่ะ"
"ตายจริงลืมไปเลยว่าลูกยังไม่ได้กินข้าวเย็น"
"ไม่เป็นค่ะเดี๋ยวหนูกินบะหมี่ก็ได้เหลือบนห้องหนึ่งซอง"
ทันทีสาวน้อยก็เดินอ้อมก่อนจะเดินซอยเท้าวิ่งกลับเข้าห้องตัวเองอย่างไว
"โอ๊ยๆๆ จะบ้าตาย!! มาอยู่ด้วยแบบนี้เขาจะจับได้ไหม..เขาจะจำเราได้หรือเปล่า..ว่าเราคือผู้หญิงแซ่บคนนั้น"
ฉันเดินวนเหมือนสวนสนาม ลุกลี้ลุกลนอย่างคนบ้าพยายามคิดไม่ตกสักอย่างแต่สักพักก็นึกบางอย่างได้
"ใช่ๆ พอสอบมหาวิทยาลัยก็ขอแม่ออกไปอยู่หอพักสิจะได้เที่ยวเต็มที่แถมไม่เจอไอ้พี่ฟินนี่" บางครั้งฉันก็เหมือนคนป่วยชอบคิดไปเองและพูดพร่ำรำพัน
เช้าวันต่อมา
"ขนนเค้กตื่นสายจังไม่อายพี่เขาบ้าง" แม่ดูเมื่อลูกสาวเดินหงอยลงมา "มานั่งกินข้าวต้มรอรถโรงเรียนนะแม่จะไปเอาไข่ให้ป้าสา
"ค่ะ"
"ทำหน้าให้ดีหน่อย"
"ก็หนูง่วงนี่นา"
แม่เดินถือตะกร้าเพื่อออกไปเอาไข่ให้เพื่อน
"นอนกี่โมงเหรอเมื่อคืน" อยู่ๆ เขาก็เอ่ยถามในขณะที่นั่งจิบกาแฟอยู่ตรงข้าม
"ไม่รู้สิคะคงดึกมาก"
"มัวคิดอะไรอยู่สินะ"
"เปล่าสักหน่อยค่ะ"
"เหรอ..นึกว่าคิดถึงเรื่องคืนนั้นของเราซะอีก"
"!!!!"