ตอนที่4

1945 Words
“แต่ว่าคุณอิงเป็นผู้หญิง... เมื่อกี้ผมล่วงเกินคุณอิงไป คือผมกลัวจะ—” “นายคงรังเกียจฉันมาก ฮึก (T_T)” น้ำตาได้ยินก็รีบมา! จงมาน้ำตา จงม๊าาาาา~ “ไม่ใช่นะครับ! คือ... อย่าร้องสิครับ!” ฉันนั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟาน้ำตาไหลเป็นทางเหมือนก๊อกแตก ฌอนเชอร์เดินมาจะปลอบ ฉันก็หันหน้าหนีแบบนางเอกช่องเจ็ด! ตอแหลขั้นสุด อิงเอ๊ย ถ้าพ่อแม่รู้ว่าลูกสาวสุดหวงกำลังใช้กลยุทธ์น้ำตาตีบทแตกใส่ผู้ชายที่แอบปลื้มอยู่... คงเปลี่ยนจากหัวใจวายเป็นปาดน้ำตาปลื้มแทน คิก คิก “นายคงคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงใจง่าย ฮึก... ขอโทษนะที่มารบกวน ฉันจะไม่มาให้นายเห็นอีก ฮือ ๆ ๆ ๆ” (‧º·(˚ ˃̣̣̥⌓˂̣̣̥ )‧º·˚ ← น้ำตามาแบบพุ่งแรงระดับเจ็ทสกี) “ไม่ใช่นะครับ! โอเคครับคุณอิง... งั้นคุณนอนห้องผมก็ได้ครับ อย่าร้องนะครับ ได้โปรดดด” ฉันโผกอดเขาทันทีแบบสายฟ้าแลบ! โอ๊ยอิงงง เขินระดับสิบ! มือหนาของหนุ่มแว่นลูบหัวฉันเบา ๆ ใจเต้นแรงยิ่งกว่าตอนเจอลดราคากลางเดือน อดยิ้มไม่ได้ ซุกหน้าลงบนอกเขาอย่างผู้หญิงเจ้าน้ำตาที่เล่นใหญ่ยิ่งกว่าละครเวที ฌอนขา~ ถ้ารอยยิ้มของอิงคืออาวุธลับ... วันนี้อิงยิงเต็มแม็กเลยค่ะ ปัง! ปัง ๆ ~ เสียงเคาะประตูแรงขนาดนี้ มองแวบแรกนึกว่าเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีมาเก็บหนี้! ใครกันมายืนทุบห้องสุดที่รักฉันตอนมืดค่ำแบบนี้!? ฉันเงยหน้าขึ้นจากอกฌอน มองสีหน้าเขา... โอ้โห้ ไม่เคยเห็นหน้าเครียดแบบนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย ปกติก็หน้านิ่งเหมือนหมาหวงของ พอเครียดปุ๊บ เหมือนจะกลายร่างเป็นหมาป่า! “คุณอิงอยู่ในห้องผมก่อนนะครับ คนที่บ้านผมมา” คนที่บ้าน? อะไรนะ!? หรือจะเป็น... แม่!? พี่สาว!? หรือพ่อเฉิ่มของฉันมีคนแอบแซ่บ!? ฉันเดินเข้าห้องนอนไปอย่างว่าง่าย ห้องนอนของฌอนตกแต่งคล้ายๆ ด้านนอก มีตู้หนังสือขนาดกลางที่เต็มไปด้วยหนังสือ คงชอบอ่านหนังสือจริงๆ ที่นอนสีทะเลลึกเหมือนดวงตาของเขาวางอยู่กลางห้อง เฟอร์นิเจอร์ก็ดูดี ห้องก็สะอาดเป็นระเบียบจนอดอิจฉาไม่ได้ ฉันรู้สึกเหนียวตัวเพราะครีมกันแดดเลยถือวิสาสะเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ มีของใช้สำรองพอดี แอบใช้หน่อยคงไม่เป็นไร ไหนๆ ก็จะเป็นแฟนกันอยู่แล้ว (คิดเองคนเดียวเสร็จสรรพ) ก็อาบให้สบายตัวไปเลย “พี่ฌอน!” เสียงผู้หญิงแหลมปรี๊ดเรียกชื่อฌอน ทำเอาฉันสะดุ้ง จะไม่ให้ตกใจได้ไง ก็มันดังทะลุประตูแบบไม่เกรงใจใครเลย! ตอนนี้ฉันอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำของฌอน ไม่ได้ขอแต่ใช้ไปก่อน แต่ไม่ใช่ประเด็นใหญ่หรอก เสียงข้างนอกต่างหากที่น่าสนใจ ฉันแง้มประตูเบาๆ แค่พอให้มองเห็นก็แบบว่าเป็นห่วงแฟนตัวเองนิ (คิดเองอีกแล้ว) ฉันแอบมอง เอ้ย สอดส่องแบบใส่ใจ ...เห็นเด็กผู้หญิงสองคนนั่งหัวเราะคิกคักกันอยู่ตรงโซฟา ดูทรงน่าจะยังไม่จบม.ปลายด้วยซ้ำ ส่วนพ่อหนุ่มแว่นของฉันนั่งฝั่งตรงข้าม สีหน้าเหมือนเดิม โหมดสุภาพบุรุษ 100% พูดแต่ “ครับ ครับ ครับ” ราวกับหุ่นยนต์ AI ที่ตั้งโปรแกรมไว้แล้ว ต๊ายตาย เด็กสองคนนี้เป็นใคร!? หรือพ่อหนุ่มแว่นของฉันจะชอบแนวโลลิ!? ไม่ทันจะคิดจบ ยัยเด็กคนหนึ่งแอบเทผงสีขาวใส่ในแก้วน้ำของฌอน แล้วทำเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เฮ้ย! ผงอะไร!? จะวางยา!? จะทำอะไร!? ฉันเริ่มใจคอไม่ดี ไม่อยากเป็นหม้ายตั้งแต่ยังไม่ทันเป็นแฟน (อีกรอบ) พอเห็นหนุ่มแว่นของฉันเดินออกมาจากครัวพร้อมของว่างในมือแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แล้วก็จะหยิบแก้วนั้นขึ้นมาดื่ม!! “อย่านะพ่อคุณ!!!” ฉันกระชากประตูพุ่งตัวเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ แย่งแก้วมาดื่มเองแบบไม่คิดชีวิต! อึก อึก อึก! ดื่มจนหมดแล้วถึงรู้ตัวว่า... เฮ้ย!? เราเพิ่งซดของต้องสงสัยไปทั้งแก้ว!? ทั้งห้องเงียบกริบ สายตาทุกคู่จ้องมาที่ฉัน “คุณอิง?” ฌอนตกใจสุดขีด! “ค่ะ... เอ๊ะ... ฉัน... ดื่มจริงๆ เหรอเนี่ย?” กะพริบตาปริบ ๆ โอ๊ย อยากจะตบตัวเองสามฉาด! ความอยากปกป้องพ่อหนุ่มแว่นทำพิษ! แล้วนี่ฉันกินอะไรลงไป อย่าบอกนะว่าผงกระดูกเหมือนในรายการเดะโกรส ༼⁰o⁰;༽ “พี่ฌอน! ยัยนี่เป็นใคร!? แล้วทำไม...” ยัยเด็กหน้าหวานหันมามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า “เฌอ อย่าพูดจาเสียมารยาทกับแขกของพี่” “แขกอะไรกัน! ออกมาจากห้องนอนพี่ด้วยชุดแบบนี้ คงเป็นผู้หญิงแบบนั้นสินะ!” ยัยชะนีเด็กที่ชื่อเฌอ หันมองฉันด้วยหางตา “อีตัวนะสิไม่ว่า?” หน็อยแน่ะ! นังเด็กผี นัดตบสักทีดีม่ะ “เฌอ! ถ้าจะเสียมารยาทแบบนี้ กลับบ้านไปซะ!” เสียงฌอนตะคอกลั่นห้อง ฉันเองยังตกใจ แต่ก็แอบสะใจนิดนึง “พี่ไล่เฌออีกแล้ว! พี่เห็นยัยนี่ดีกว่าน้องสาวตัวเองใช่ไหม ฮึก เฌอจะฟ้องคุณพ่อ!” น้องสาว? มิน่าชื่อคล้ายกัน แต่หน้าตาไม่เห็นจะเหมือนกัน นิสัยยิ่งคนละโลก “ออกไป!” เขาชี้ไปที่ประตู “ฌอน...” ฉันพยายามเรียกเขาเบาๆ เพราะรู้สึกเหมือนขาไม่มีแรง ร่างกายมันร้อนจนทรุดลงไปซบอกเขา ฌอนรีบประคองฉันไว้ “คุณอิง เป็นอะไรครับ?” ฉันร้อนวูบวาบไปทั้งตัว เหงื่อซึมออกมาทุกจุด ร่างกายเหมือนจะไม่ฟังคำสั่ง แขนขาอ่อนแรงเหมือนจะล้ม จนฌอนต้องเข้ามาประคองฉันไว้ “น้ำ… เด็กคนนั้นแอบใส่อะไรในน้ำ” ฉันชี้ไปที่แก้วในมือด้วยมือสั่นๆ ฌอนหันไปถามสองเด็กสาว “เฌอ ใส่อะไรลงไปในน้ำพี่ ว่าไงแพรว” เด็กอีกคนหน้าเสีย “คือ… ยา ยาปลุกค่ะ…” ฌอนกำแขนน้องสาวแน่น สีหน้าเขาดุดัน “ทำไมทำแบบนี้?” “ก็เพื่อนเฌอชอบพี่ เฌออยากให้พี่ชอบแพรวบ้าง แต่พี่ไม่เคยมองเลย ฮึก… ที่พี่ไม่กลับบ้าน เพราะผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม!” เพี้ย!! เสียงตบดังลั่น ฌอนฟาดเข้าที่หน้าของน้องสาวเต็มแรง เธอกุมแก้มไว้ น้ำตาไหลพราก “กลับไป อย่ามาที่นี่อีก” ฌอนพูดเสียงนิ่งในขณะที่ยังประคองฉันไว้ “ไม่! เฌอไม่กลับ! พี่ฌอนต้องกลับกับเฌอ ฮือ ฮือ!” เสียงโวยวายของน้องสาวยังไม่แผ่วลง แถมยังสะอึกสะอื้นประหนึ่งนางเอกละครน้ำเน่า เพื่อนสาวที่นั่งข้างๆ เห็นท่าไม่ดี เลยรีบคว้าแขนเบาๆ แล้วกระซิบกระซาบด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “เฌอ... กลับเถอะ แพรวอาย...” สุดท้ายนังเด็กเป-ตรทั้งสองคนก็สะบัดเท้าเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไป ทิ้งกลิ่นน้ำหอมฉุนๆ กับความพังพินาศไว้กลางห้องอย่างงดงาม “ยัยชะนีเด็ก… ฝากไว้ก่อนเถอะ! วันหน้ามีทวงคืนแน่!” ฉันคิดในใจพลางมองตามแผ่นหลังสองตัวต้นเหตุที่เพิ่งสะบัดเท้าออกไปด้วยท่าทางสะดีดสะดิ้งเป็นกุ้งโดนพริก ฌอนประคองฉันให้นั่งลงบนโซฟาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างหนัก ราวกับรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาคมมองมือที่ยื่นออกไปของตัวเองอย่างลังเล ฉันยกมือแตะไหล่เขาเบาๆ เหมือนจะปลอบใจ แต่ความร้อนรุ่มในตัวก็ทำให้ฉันซบหน้าลงบนอกกว้างของเขาโดยไม่รู้ตัว “คุณอิง...” เขาเรียกชื่อฉันเสียงเบาอย่างตกใจ จากนั้นก็รีบอุ้มฉันขึ้นพาไปยังห้องนอน ก่อนจะวางฉันลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ฌอนเดินออกไปสักครู่แล้วกลับมาพร้อมแก้วน้ำเย็น เขายื่นให้ฉันอย่างห่วงใย ฉันดื่มมันรวดเดียว ความเย็นทำให้โล่งขึ้นแค่ครู่เดียว ก่อนที่ร่างกายจะกลับมาร้อนวูบวาบอีกครั้ง “ฮือ...ร้อน...” ฉันบ่นแล้วถอดชุดคลุมออก หวังให้ตัวเย็นลงหน่อย แต่ลืมไปสนิทว่าไม่ได้ใส่อะไรไว้ข้างใน… ฌอนอึ้งตาค้างไปสามวิ ก่อนจะกระพือสายตาเหมือนพัดลมแรงเบอร์สี่ แล้วรีบหาผ้าห่มมาคลุมฉันไว้แบบลุกลี้ลุกลน “ฌอน...ช่วยอิงด้วย อิงร้อนนนน~” ฉันงอแง มือบางคว้าแขนเขาไว้แน่น เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “คุณอิงครับ...คือว่า...” ฉันไม่ให้เขาพูดจบ รีบฉกจูบปากเขาทันที มือก็เริ่มถอดเสื้อเขาออกแบบไม่มีจังหวะให้ตั้งตัว ฌอนขืนตัวเล็กน้อย แต่ก็แพ้เสียงครางฮือในลำคอของฉันจนต้องยอมแพ้กลับมาจูบตอบ มือใหญ่คว้าจับมือลูบไล้สะเปะสะปะของฉันไว้ เขาจูบตอบอย่างลึกซึ้ง ราวกับอดใจไม่ไหว เสื้อที่หลุดลุ่ยอยู่แล้วก็ถูกเขาถอดออก เผยให้เห็นแผงอกกำยำของคนที่ออกกำลังกายแบบจริงจัง ฉันทุบอกเขาเบาๆ เพราะหายใจไม่ออกจากจูบลึกนั้น “ผมจะรับผิดชอบคุณเองครับ...คุณอิง” เขากระซิบข้างหูเสียงนุ่ม ฉันแทบระเบิดความเขินในทันที ฌอนเริ่มแนบจูบซุกไซ้ที่ลำคออย่างอ่อนโยน มีทั้งจุ๊บ ทั้งขบเบาๆ จนฉันแทบละลายเป็นน้ำ พอเขาดึงผ้าห่มออก ฉันก็หน้าร้อนวูบอีกรอบ มือเขาก็เริ่มซุกซนจนฉันต้องกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงไม่ให้ดังเกินไป...ถึงแม้จะล้มเหลวก็ตาม เขาทำทุกอย่างราวกับรู้จักร่างกายฉันดียิ่งกว่าฉันเอง มือไม้ของเขา ทั้งบีบ ทั้งเคล้น ทั้งสัมผัสจนฉันตัวเกร็งปล่อยเสียงแปลก ๆ ออกมารัว ๆ เมื่อฉันตกอยู่ในภวังค์เสียวซ่านจนลืมหายใจ เขาก็ก้มลงมาจูบหน้าผากและแก้มเบา ๆ ราวกับจะปลอบโยนให้ใจเย็น แต่ฉันกลับร้อนขึ้นกว่าเดิมเสียอีก มือไม้ก็ซนเองแบบไม่ต้องสั่งการ สมองเบลอ ๆ บอกได้แค่ว่า "อย่าหยุด..." ฉันคว้าคอเขาไว้แน่น แล้วดึงเขาลงมาจูบใหม่ คราวนี้เขาไม่ลังเล ไม่อิดออด เขาซุกตัวลงต่ำอย่างแนบเนียน นิ้วมือร้อนผ่าวจับขาเรียวฉันให้แยกออกอย่างนุ่มนวล... จังหวะนั้นเอง “อ๊าาา...อูววว…อิไตๆ!” ฉันร้องเสียงหลง ฌอนผงะเงยหน้าขึ้นทันที สีหน้าตกใจเหมือนคนเพิ่งเหยียบโดนกับดักหนู “คุณอิง! เจ็บเหรอครับ!? ผมทำอะไรแรงไปหรือเปล่า!?” ฉันหน้าแดงก่ำจนจะระเบิด “มะ...ไม่เป็นไร! แค่แบบ...ลิ้นมัน มันแปลก ๆ ฮือออ ไม่เคยง่ะ!” ฌอนชะงักก่อนจะหน้าแดงตามฉันติด ๆ เขากระแอมเบา ๆ แล้วพึมพำอะไรไม่รู้เหมือนพยายามกลั้นขำ “ครับ ผม...จะทำเบาๆ” “ไม่ๆ ไม่ต้องเบา…ทำแรงๆเลย อ๊าา คิมูจิ” เสียวโว้ยยยย ทุกอย่างร้อนแรงขึ้นเหมือนเตาอบระดับ 200 องศา ฉันคราง ฮือ อ่า เบา ๆ อย่างหมดทางสู้ ส่วนฌอนนั้น...ใช่ค่ะ เขาคือคุณครูพละในร่างนักวิจัยหนุ่มแว่นที่ช่ำชองยิ่งกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นไฮเทค ไม่นาน ฉันก็ตัวเบาเหมือนวิญญาณจะลอยออกจากร่าง ข้างในหัวขาวโพลน มือสองข้างกำผ้าปูที่นอนแน่นจนยับยู่ยี่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD