ตอนที่ 3 โสด

1505 Words
ของขวัญยังคงยืนอยู่ในห้องเพราะไม่กล้าเดินออกไป เผื่อนายกสุเมธยังคุยกับเธอไม่จบ หรือเธอจะลองถามท่านดู ว่ามีอะไรจะคุยกับเธออีกหรือเปล่า มันจะเป็นการเสียมารยาทไหมนะ "มีแฟนหรือยัง?" "คะ!?" ของขวัญชาไปทั้งตัว เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้ออกมาจากปากนายกเทศบาลตำบลคันคาย ถามเธอมาแบบนี้ ท่านหมายความว่ายังไง "ตอบสิ หรือไม่มีแฟน แต่มีสามี" ถามใหม่ก็ได้ เผื่อมันไม่ตรงใจของขวัญ "มีสามีหรือยัง?" ของขวัญหน้ายู่ แฟนเธอยังไม่มี ให้เอาที่ไหนไปมีสามี ที่ยังเห็นเธอนิ่งไม่ตอบ เพราะไม่คิดว่าจะโดนถามคำถามแบบนี้ต่างหาก นายกสุเมธกระตุกยิ้มมุมปาก ยังไม่มีสินะ วางถ้วยกาแฟลงอย่างอารมณ์ดี "โสดมานานแค่ไหนแล้วของขวัญ" ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ของขวัญจะได้เลิกประหม่าสักที เขาน่ากลัวขนาดไหน ของขวัญถึงมีท่าทางไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำ ตัวสั่น น่ารักน่าเอ็นดู คนตัวเล็กขมวดคิ้ว ที่ถามเธอว่ามีแฟนไหม ก็ตกใจพอควรแล้วนะ แต่ถามเธอว่า โสดมานานแค่ไหนแล้ว มัน... "ก็ถามแบบนี้ทุกคนไหม" บอกให้เข้าใจก็ได้ว่าใช่ถามแค่ของขวัญเพียงคนเดียว “ทำไม หรือไม่สะดวกตอบ?” "ขะ...ขวัญยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนค่ะ" ตอบก็ได้ ท่านบอกถามทุกคนนี่นา คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างไม่ค่อยเชื่อ สวยขนาดนี้น่ะเหรอ บอกยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน "ขวัญพูดความจริงค่ะ" บอกย้ำเมื่ออีกฝ่ายทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ ทำไมล่ะ หรือหน้าตาเธอไม่เหมือนคนโสด นายกสุเมธดูจากอะไรกัน "แล้วคิดว่าจะมีเมื่อไหร่ของขวัญ" "ขะ...ขวัญยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ" ของขวัญยิ้มแหยออกมา เพราะเธอยังไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อน ในหัวเธอมีแค่เรื่องเรียน ว่าเรียนจบจะไปทำงานที่ไหนดี เพื่อในอนาคตจะได้มีเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ยามท่านแก่เฒ่า "ทำไมถึงไม่ทราบล่ะ หรือยังไม่อยากมี" ไม่วางแผนอนาคตไว้หน่อยเหรอว่า จะแต่งงานมีลูกตอนอายุกี่ปี วัยของขวัญควรคิดเรื่องนี้ได้แล้วนะ แต่อันดับแรก ควรหาแฟนก่อน และควรเป็นคนที่โตกว่าด้วย สักยี่สิบสามสิบปี แบบนี้มีโอกาสอยู่กินสบายกว่าการคบคนวัยเดียวกันหรือเด็กกว่า และต้องเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน หรือหมู่บ้านใกล้ ๆ เท่านั้น แบบนี้ไปมาหาสู่สะดวกมากกว่า "พ่อกับแม่ยังไม่อนุญาตให้มีแฟนจนกว่าจะเรียนจบค่ะ" "พ่อกับแม่หวงว่างั้น?" นายกสุเมธเลิกคิ้วถาม แต่ก็น่าหวง มีลูกสาวสวยขนาดนี้ ใครไม่หวงก็บ้า ขนาดเขาไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆ ยังรู้สึกหวงแทนเลย "ไม่เชิงหวงค่ะ แต่ท่านอยากให้ขวัญเรียนจบเสียก่อน" "หากเรียนจบแล้วมีได้ว่างั้น?" "นะ...น่าจะได้ค่ะ" ของขวัญตอบไม่เต็มเสียงนัก เพราะจริง ๆ แล้ว พ่อกับแม่เธอไม่ได้ห้ามหรอก อยากมีก็มี แต่เป็นเธอเองที่ยังไม่พร้อมมีใคร หากพ่อแม่ยังไม่สบาย เธอไม่กล้าหนีไปสบายคนเดียวแน่นอน "ชอบคนแก่ไหม?" "คะ!?" คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเป็นปม นายกสุเมธถามแบบนี้หมายความว่ายังไง ร่างสูงมองคนตัวเล็กนิ่ง เขาก็ว่าตัวเองพูดชัดนะ แต่ถามอีกทีก็ได้ เผื่อของขวัญไม่ได้ยินจริง ๆ "ถามว่าชอบคนแก่หรือเปล่า" "กะ...แก่แบบไหนเหรอคะ" ของขวัญถามเสียงตะกุกตะกัก แก่ของท่านอายุกี่ปี "ก็แก่สักสี่สิบห้าสิบปี" "อะ...เออ...ขวัญยังไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าตัวเองชอบไหม เพราะยังไม่เคยมีคนแก่ขนาดนั้นมาจีบค่ะ" มีแต่คนรุ่นราวคราวเดียวกัน ไม่ก็รุ่นพี่ รุ่นน้อง ถึงขนาดแก่คราวพ่อยังไม่เคยมี "แต่ถ้ามีมาจีบ ก็ไม่ติดงั้นสิ?" ของขวัญเม้มปากเบา ๆ พลางมองสบตากับท่าน ยอมรับว่าตอนนี้เธอคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว คนแก่ที่ว่า นายกสุเมธหมายถึงใครกันแน่ คงไม่ได้กำลังหมายถึงตัวท่านเองหรอกใช่ไหม เพราะเธอได้ยินจากพี่ปุ๊กมาว่านายกตำบลคันคายโสด แถมโสดมานานแล้วด้วย ถึงอีกฝ่ายจะเคยมีครอบครัวมาก่อน และมีลูกรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ แต่ภรรยาท่านก็ตายไปนานมากแล้ว ปัจจุบันก็ยังไม่เคยเอาใครมาแทนที่แม่ของลูก ถึงแม้ว่าสองข้างทางจะเต็มไปด้วยผู้หญิงรายล้อมรอบก็ตาม แต่ท่านก็ไม่เคยคิดจริงจังกับใคร "ตอบไม่ได้เลยเหรอของขวัญ" แค่ตอบว่า 'ได้' หรือ 'ไม่ได้' เขาไม่คิดว่ามันยากเกินที่จะตอบ "คือขวัญ..." จะให้เธอตอบว่ายังไงดี เพราะเธอยังไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนจริง ๆ เลยไม่อยากตอบออกไปแบบส่ง ๆ "ไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไร มีอะไรทำก็ไปทำเถอะ" นายกสุเมธบอกกลับเสียงเรียบ แล้วทำท่าจะทำงานต่อ แต่กลับได้ยินประโยคจากปากเรียวถามมา "พ่อนายกโกรธขวัญหรือเปล่าคะ" ยอมรับว่าได้ยินอย่างนั้นรู้สึกใจไม่ดี ถึงเธอจะรู้สึกโล่งที่ท่านไม่ถามต่อ แต่ประโยคและน้ำเสียงมันทะแม่ง ๆ เดาว่าอีกคนกำลังไม่พอใจเธอ แบบนี้มันจะกระทบเรื่องการฝึกงานของเธอไหมนะ หากว่าท่านรู้สึกไม่ดีกับเธอขึ้นมา อาจไม่อนุมัติให้เธอผ่านฝึกงาน และคงไม่จบพร้อมเพื่อนแน่ ๆ "ทำไมถึงคิดว่าฉันโกรธล่ะ" ตาคมมองที่เอกสาร ทว่าปากพูดคุยกับอีกคน มานั่งในใจเขาหรือไง ทำไมถึงได้รู้ดีไปหมด มันสิทธิ์ของขวัญหรือเปล่าที่จะตอบไม่ตอบ เขาจะไปว่าอะไรเธอได้ ของขวัญเงียบปาก นั่นสิ ทำไมนายกสุเมธต้องโกรธเธอด้วยเล่า "มันจะไม่กระทบต่อเรื่องฝึกงานของขวัญใช่ไหมคะ" ถามออกไปตรง ๆ หากเป็นเช่นนั้น เธอจะได้เตรียมตัวเตรียมใจ ไม่ก็คงโทรกลับไปหาอาจารย์ว่าขอย้ายที่ฝึกงานได้ไหม แต่หากไม่ได้ เธอจะยอมรับมัน "คิดว่าฉันไม่พอใจแล้วจะไม่อนุมัติให้ขวัญผ่านการฝึกงานว่างั้น?" "..." "ฉันไม่เอาเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกันหรอก" “คะ?” เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวงั้นเหรอ อย่าบอกนะว่าเรื่องทั้งหมดที่นายกสุเมธถามเธอมามันคือเรื่องส่วนตัว แล้วไหนท่านบอกถามอย่างนี้ทุกคนไง หรือว่าท่านโกหก เมื่อคิดได้อย่างนั้นใบหน้าสวยกลับเห่อร้อนขึ้นมา หรือว่าท่านกำลังสนใจเธอ "ออกไปเถอะ ฉันจะทำงานแล้ว" "เอ่อ..." ตาคมเหลือบมองอีกคนเล็กน้อย เมื่อเห็นของขวัญยังไม่ไป ท้ายที่สุด หญิงสาวจำต้องพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องมาเงียบ ๆ ของขวัญเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองด้วยความรู้สึกแปลก ๆ เธอเองก็คงไม่ได้กำลังรู้สึกอะไรแบบนั้นกับท่านอยู่หรอกใช่ไหม ไม่ได้ เธอรู้สึกไม่ได้ ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาเธอนะ แล้วหากเรื่องนี้ถึงหูใครขึ้นมา เธอและท่านอาจเดือดร้อนได้ เธอฝึกงานไม่ผ่าน และท่านอาจจะโดนปลดจากตำแหน่งนายกเทศบาลตำบลคันคาย เผลอ ๆ เป็นข่าวถึงหูพ่อกับแม่ให้อับอายผู้คน "เป็นไงบ้างขวัญ เข้าไปนานเลย พ่อนายกถามอะไรขวัญหรือเปล่า" หัวหน้าฝ่ายกองคลังถามด้วยความเป็นห่วง เข้าไปเสิร์ฟกาแฟเพียงอย่างเดียว ไม่น่านานขนาดนั้น หรือของขวัญจะโดนรับน้องจากท่านนายกสุเมธ อีกฝ่ายยิ่งขี้แกล้งอยู่ด้วย "พะ...พอดีพ่อนายกถามอะไรขวัญนิดหน่อยค่ะ ถามว่าขวัญอยู่หมู่บ้านอะไร" "อ๋อ...คงเป็นห่วงแหละ กลัวขวัญเดินทางไปมาไม่สะดวก" แบบนี้ทุกคน ใครที่มาบรรจุใหม่นายกสุเมธก็ถามหมด บางคนยังหาที่อยู่ไม่ได้ถึงขนาดให้ไปพักฟรีที่ 'คันคายรีสอร์ต' ‘นายกสุเมธ แสนร้าย’ ใช่เป็นแค่นายกตำบลคันคาย แต่ท่านมีธุรกิจทางบ้านก็คือ 'รีสอร์ต' ปัจจุบันรีสอร์ตของท่านได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีแขกมาพักไม่ขาด เต็มแทบทุกห้อง ปัจจุบันขยับขยายพื้นที่ลงไปไกลถึงกลางทุ่งนา "ค่ะ" ของขวัญพยักหน้ายิ้ม ๆ พยายามไม่คิดอะไรมาก ตราบใดที่ท่านยังไม่ได้เอ่ยออกมาตรง ๆ เธอจะไม่คิดเข้าข้างตัวเองเด็ดขาด ว่าท่านชอบเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD