ล่าล้าง

731 คำ
กลิ่นของบางสิ่งลอยมาตามสายลม กลิ่นเหมือนที่เขาได้กลิ่นในความฝัน กลิ่นเครื่องหอมอ่อนจางเคล้ากลิ่นเนื้อนาง กลิ่นติดตรึงบนเรือนกายสตรี กลิ่นหอมหวานชวนดอมดมซุกไซร้ขบชิมลิ้มเลียทั่วทุกสรรพอณู รอยลิ้นลากผ่านผิวกายนุ่มละมุน เสียงครางหวานกระเส่ากระสันยามถูกลิ้นรุกรานบนติ่งเนื้อกลางกลีบสาว น้ำใคร่หวานหอมชุ่มฉ่ำยามเขาตวัดลิ้นดูดชิม ละเลงลิ้นปาดเลียบดเม็ดเสียวของนางจนต้องแอ่นสะโพกรับจังหวะลิ้นร้ายกาจ เพียงนึกภาพฝัน ท่อนเอ็นกลางกายบุรุษกลับแข็งเกร็งเหยียดขยาย หลันเฟิ่งจงกลืนน้ำลายลงคอ พยายามสลัดภาพลามกในห้วงสำนึกออกให้พ้นจากความคิดของตน พลันเขาได้ยินเสียงหัวเราะหวานแว่วคล้ายดังมาจากที่อันแสนไกล เสียงหัวเราะของนาง เสียงนั้นดังใกล้เข้าและไกลออกไปสลับก้องซ้ำซากอยู่ในหัวอย่างล่อหลอกยั่วเย้า "ออกมาเสียทีเถิดนางจิ้งจอก" เขาเอ่ยเสียงต่ำ มองป่ามืดมิดโดยรอบ สายตาแข็งกร้าวเพ่งมองเบื้องหน้า ก่อนกระตุกยิ้มขึ้นอย่างชั่วร้าย หลันเฟิ่งจงเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของราชครูหลันอี้ สิ่งที่สืบทอดต่อกันมารุ่นสู่รุ่น มิเพียงแต่พลังยุทธเป็นเลิศแต่สิ่งที่แข็งแกร่งกว่าคืออาคม หากมองผิวเผิน หลานชายราชครูเป็นเพียงมือปราบขั้นห้า ตำแหน่งนับว่ามิได้ใหญ่โต แต่สิ่งที่เขามีเหนือผู้อื่นคือป้ายอินทรีย์ทอง ป้ายทองพระราชทานอันมอบแด่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อบ้านเมืองอย่างมิอาจเปิดเผยตัวตน เขามีตำแหน่งพิเศษเป็นหัวหน้าหน่วยอินทรีย์พิฆาต สืบเรื่องอันสมควรปกปิด กลบฝังเรื่องราวอันไม่น่าเปิดเผย สืบหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องลึกลับที่หน่วยอื่นมิสามารถทำได้ งานหลักของหลันเฟิ่งจงมิได้ต่างจากหัวหน้ากองโจร เขาทำงานทุกรูปแบบให้กับราชสำนักโดยมีค่าจ้างสูงลิบตอบแทนเป็นทองคำ ตำแหน่งมือปราบเป็นเพียงตำแหน่งบังหน้าเท่านั้น งานหินอย่างเรื่องการสืบความสิ่งประหลาดลึกลับ เขายินดีรับเพราะค่าจ้างจากเจ้าเมืองคือทองคำก้อนถึงสี่หีบ บุรุษผู้รักแสงตกกระทบของทองคำจะไม่รับงานนี้ได้อย่างไร สิ่งที่สำคัญกับบุรุษอย่างหลันเฟิ่งจงมีเพียงเงินทอง เมื่อไล่ผู้ติดตามกลับไปแล้ว เพื่อให้เรื่องน่าสะพรึงเป็นความลับขึ้นอีกสักเล็กน้อย เขาอยากทำงานกับลูกสมุนคู่ใจเสียมากกว่า บุรุษหนุ่มอายุยี่สิบห้าปี แข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ พลังยุทธของเขามิเป็นรองผู้ใด อาคมในกายกล้าแกร่งยิ่งกว่านักพรตของราชวงศ์ เสียงหัวเราะแว่วหวานดังเย็นยะเยือกในห้วงคำนึงซ้ำ ๆ นางหัวเราะยั่วเย้าเขาอีกครา "ข้าสั่งให้เจ้าออกมา!" เสียงเข้มตวาดก้องทั่วผืนป่า ไร้การปรากฎกายของนางผู้ยั่วเย้ามีเพียงกลิ่นกายหอมอ่อนบางเคล้าเสียงหัวเราะหวานไหวอย่างอารมณ์ดีคลอกับเสียงลม "หากเจ้าไม่ออกมาแต่โดยดี ข้าจะเผาบ้านของเจ้า เผาป่าแสนน่าชังให้แหลกเป็นผงธุลี" มือปราบหนุ่มมิได้พูดขู่เพียงวาจา เขาหยิบขลุ่ยทองคำสลักลายอสรพิษขึ้นมาเป่าเรียกหน่วยเงาอินทรีย์ ร่างเงาสูงใหญ่ปรากฎเป็นสายขึ้นอย่างรวดเร็ว บุรุษร่างสูงกำยำราวสิบคนสวมผ้าคลุมหน้ายืนรอรับคำสั่งผู้เป็นนาย "ตั้งค่ายกลเพลิงโลกันต์ " เขามองไปยังป่าเบื้องหน้าอย่างไม่หวังดี หลันเฟิ่งจงลงจากหลังอาชาตัวใหญ่ นำคบไฟในถุงหนังข้างอานม้าปักบนพื้นดินจำนวนเก้าคบไฟ ชายหนุ่มควักมีดสั้นในอกเสื้อกรีดกลางฝ่ามือของตน ก่อนหลั่งเลือดลงตรงจุดศูนย์กลางคบไฟเพื่อสร้างค่ายกลเพลิงโลกันต์ขึ้นบนผืนดินหน้าป่าอาถรรพ์ ผู้มีอาคมแข็งแกร่งมีไม่มากนักในแผ่นดิน หนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่สุดคือหลันเฟิ่งจงผู้เป็นหัวหน้าหน่วยอินทรีย์ ชายฉกรรจ์ผู้รอรับคำสั่งกางเชือกสีแดงห้อยกระพรวนทองคำตวัดกลางค่ายกลอย่างรวดเร็วกลายเป็นดวงดาวเก้าแฉกส่องแสงเรืองรอง "ข้าจะย่างนางทั้งเป็น" มือปราบหนุ่มกล่าวออกมาอย่างเหี้ยมเกรียม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม