ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ปลุกดาวให้ตื่นจากฝัน เธอฝันถึงเรื่องราวเมื่อตัวเองยังเป็นเด็ก มันเป็นฝันร้ายที่เธอไม่อยากหวนนึกถึงเลยแม้แต่น้อย
ดาวมองชื่อคนที่โทรมาก่อนจะกดรับสาย
“ว่าไงทิชา”
(ฉันขอไปค้างด้วยคืนนึ่งนะ ทะเลาะกับผัว)
“ห้ะ ทะเลาะอะไรกัน แล้วแกอยู่ไหน”
“จะถึงหน้าคอนโดแกแล้ว ลงมารับหน่อย”
“โอเค ๆ ”
ดาวรีบวางสายแล้วใส่เสื้อคลุมทับก่อนจะเดินลงมารอรับเพื่อนของเธอ ระหว่างนั้นเธอก็ไม่ลืมไลน์ไปบอกเทวาไว้ด้วยว่าวันนี้มาไม่ได้
แน่นอนว่าเทวาก็มีโวยวายนิดหน่อย แต่ทำไงได้ เธอยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ทั้งนั้น ไม่นานทิชาก็มาถึงในสภาพที่อารมณ์เสียอย่างมาก ไม่รู้ทะเลาะอะไรกับทิวเทพมากันแน่
“นี่แกทะเลาะอะไรกับคุณทิวเทพล่ะ”
“เขาเอาแต่ใจอ่ะ จนฉันทนไม่ไหวแล้วเนี่ย”ทิชาบอก
“แล้วแกได้บอกเขาหรือเปล่าว่ามาหาฉัน”
“....ไม่”
“ทิชา แกทำบ้าอะไรเนี่ย”
แล้วเธอก็บ่นเพื่อนไปอีกหลายนาทีจนทิชาทนไม่ไหวต้องเอ่ยปากห้าม สุดท้ายเธอก็ได้แต่ถอนหายใจให้กับเพื่อนก่อนจะลุกไปหาอะไรมาให้กิน
ระหว่างที่นั่งกินอาหารกันอยู่นั้น ทิชาก็ถามอะไรบางอย่างที่ทำเอาดาวเสียอาการ
“ดาว แกคบใครอยู่หรือเปล่า”
“แค่ก แค่ก ๆ ”
อยู่ ๆ ถามบ้าอะไรเนี่ย หรือว่ามันรู้....
“ไม่นิ ฉันไม่อยากคบใครตอนนี้หรอก”
แม้จะพูดออกไปแบบนั้นแต่ท่าทางลุกลี้ลุกลนนั้นทำให้ทิชาสงสัยไม่น้อยเลย ดาวรีบกินรีบหนีเข้าห้องตัวเองทิ้งให้ทิชานั่งสงสัยต่อไป
ครืด ครืดด
ดาวมองหน้าจอมือถือพอเห็นว่าเป็นใครก็ถอนหายใจเฮือกออกมา ตัวมาไม่ได้แต่ขอให้ได้ส่งเสียงกวนสินะ
“อะไร วันนี้ไม่ได้นะ”
“เปล่า แค่จะโทรถามว่ากินยาหรือยัง”
“กินแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกน่า”
“ไม่ห่วงได้ไง เธอมีคนเดียวนะ หาไม่ได้อีกแล้ว”
“พูดเหมือนฉันเป็นของลิมิเต็ดเลยนะ”
“แน่นอนสิ....”
มันเป็นแค่คำพูดธรรมดาแต่กลับทำให้ผู้หญิงอย่างเธอรู้สึกพิเศษขึ้นมา ดาวพยายามเก็บอาการดีใจไว้ก่อนจะตอบอีกฝ่าย
“มะ ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม ฉันจะนอนแล้ว”
“อืม ฝันดีนะ”
“ฝันดี”
แม้จะวางสายไปหลายนาทีแล้ว แต่ดาวยังยืนยิ้มให้กับมือถือตัวเองอยู่แบบนั้น จนเธอรู้สึกตัว
“ยิ้มบ้าอะไรเนี่ยเรา”
เธอส่ายหัวให้ตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเข้านอนไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
นับวันเขายิ่งพังกำแพงเข้ามาอยู่ในใจเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ สินะ!
»»»»««««
‘ดาว ตื่นมากินยาก่อนลูก’
เสียงแม่งั้นหรอ แม่มาได้ยังไงกัน....
“แม่คะ”
‘ขี้เซาเหมือนเดิมเลยนะ ลูกสาวแม่เนี่ย’
‘ดาว’
“แม่...”
“ดาว!!!”
“อื้ออ นาย เข้ามาได้ยังไง...”
“ให้ตายสิ ไหนบอกกินยาแล้วไง ทำไมถึงได้ไข้ขึ้นสูงแบบนี้ฮะ!”
ทำไมเขาดูอารมณ์เสียแบบนั้นล่ะแล้วทำไมมันปวดหัวแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นกับฉัน....
“ดาว อย่าหลับนะ กินข้าวกินยาก่อน”
“ฉันปวดหัว ขอนอนก่อนได้ไหม”
“ไม่ได้ ฉันสั่งให้ตื่นไง”
ไม่ไหวแล้ว มันมึนหัวไปหมดเสียงเขาก็ไกลออกไปเรื่อย ๆ ทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้กันนะ
“ดาว! ดาว!! เวรเอ้ยย ฮัลโหลไอ้เร็น....”
ฉันไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงเขาสบถก่อนจะหลับไป
»»»»««««
เธอสลบไปในอ้อมแขนผมแล้ว บ้าชิบ อุตส่าห์บอกให้กินยาดักไว้แล้วทำไมแค่วันเดียวถึงได้ไข้สูงแบบนี้ว่ะ
“ฮัลโหล ไอ้เร็น มึงยังอยู่ข้างล่างไหม”
(ยังอยู่ครับนาย มีอะไรหรือเปล่าครับ)
“อย่าเพิ่งไปไหน เตรียมรถไปรพ.ด้วย”
ผมไม่รอฟังมันตอบรีบกดวางสายแล้วอุ้มดาวขึ้นมา ตัวเธอร้อนเป็นไฟเลยให้ตายเถอะ
ผมรีบพาเธอไปขึ้นรถที่ให้ไอ้เร็นเตรียมไว้ ก่อนจะบอกให้มันไปรพ.ให้ไวที่สุด
ดีหน่อยที่รพ.ของไอ้ชาญวิทย์อยู่ไม่ไกลมาก ผมจัดการส่งเธอให้ถึงมือหมอแล้วให้เร็นไปจัดการเรื่องเอกสาร ก่อนจะโทรไปฝากงานกับพี่ชาย
“พี่ วันนี้ผมฝากงานนะ มีธุระ”
“อืม”
ผมทิ้งตัวนั่งแถว ๆ เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน ก่อนจะยกมือนวดขมับ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าผมไปหาเธอช้ากว่านี้ล่ะก็มันจะเป็นยังไง เธอคงแย่แน่ ๆ
เมื่อเช้าผมมาหาเธอแต่เคาะห้องอยู่นานกลับไม่มีคนตอบทั้ง ๆ ที่ปกติเคาะไม่กี่ทีเธอก็มาเปิดแล้วมันทำให้ผมสังหรณ์ใจแปลก ๆ โชคดีที่ผมแอบปั๊มกุญแจห้องกับรู้รหัสผ่านเข้าคอนโดเธอเลยตัดสินใจเข้ามาโดยพละการ ก่อนจะไปเจอเธอที่นอนละเมออยู่ในสภาพไข้สูง
“หมอครับ คนไข้เมื่อกี้อาการเป็นยังไงบ้าง”
ผมรีบพุ่งตัวไปถามหมอที่ออกมาจากห้องฉุกเฉินทันทีด้วยความร้อนใจ
“คนไข้เป็นไข้หวัดใหญ่ค่ะ โชคดีนะคะที่พามาโรงพยาบาลเร็วเลยอาการไม่หนักมา ยังไงหมอจะให้แอดมิทสัก 2 วันนะคะ เพื่อดูอาการ”
“ขอบคุณครับ”
ผมกล่าวขอบคุณคุณหมอก่อนที่พยาบาลจะเข็นเตียงเธอออกมา ผมจัดการให้เธอพักห้องพิเศษต่างหากเธอนอนหลับสนิท สีหน้าดูดีกว่าตอนแรกเยอะเลย
“เธอทำให้ฉันเป็นห่วงนะดาว รู้ตัวบ้างหรือเปล่า”
ผมยกมือลูบแก้มที่แดงระเรื่อจากพิษไข้เบา ๆ อย่างห่วงใย ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมห่วงเธอมากขนาดนี้กัน ทั้งที่ตอนแรกไม่ได้คิดจะจริงจังด้วยซ้ำ ขนาดตอนที่คบกับ รษา ผมยังไม่เคยห่วงแบบนี้เลยสักครั้งด้วยซ้ำ
««««»»»»
นานหลายชม.ที่ร่างสูงอยู่เฝ้าไข้ดาว เขาไม่ยอมไปไหนเลยจนเร็นที่มาคอยรับใช้แปลกใจ เทวาไม่เคยใส่ใจผู้หญิงคนไหนนอกจากแฟนเก่าที่เลิกกันไป ไม่สิ แม้แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้รับการดูแลที่ดีขนาดนี้
เร็นอยู่ด้วยกันกับเทวามาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ช่วงเวลานั้นเทวาผ่านอะไรมาบ้างเขารับรู้และคอยเคียงข้างมาตลอด เขายังจำได้ดีว่าตอนที่เจ้านายเขาโดนทิ้งสภาพเป็นยังไงยิ่งหลังเลิกกันไปเทวายิ่งเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน
จากคนใจดีก็เป็นคนเฉยชามากขึ้น
จากที่ไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่ไหนก็กลับกลายเป็นเพลย์บอย
“นายครับ”
“อะไร”
“นาย...รักเธอเหรอครับ”
เร็นตัดสินใจถามออกไปตรง ๆ ถึงแม้มันจะไม่ใช่เรื่องของเขาก็ตาม เขาไม่อยากเห็นเทวากลับไปเป็นเหมือนตอนนั้นอีก
“ทำไม มึงจะรู้ไปทำไมกัน”
“ผม...ไม่อยากเห็นนายกลับไปเป็นเหมือนตอนเลิกกับคุณรษา...”
“อย่าเอาเธอไปเทียบกับผู้หญิงแพศยาพรรค์นั้น เธอมีค่ามากกว่ายัยนั่น”
เทวาพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวที่น้อยครั้งจะได้ยิน แค่นี้เร็นก็ได้คำตอบในสิ่งที่เขาถามแล้วไม่จำเป็นต้องถามอะไรอีก
“งั้นผมจะเฝ้าอยู่ด้านนอกนะครับ”
“อืม”
เร็นเปิดประตูออกไป ทิ้งให้เจ้านายนั่งเฝ้าหญิงสาวต่อคนเดียว
เทวานั่งจมอยู่ในความคิด เขากำลังคิดถึงสิ่งที่เร็นถาม
รักงั้นหรอ นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้ มันนานซะจนเขาจำไม่ได้ แต่ตอนนี้สิ่งที่กำลังก่อตัวในใจเขาถ้ามันไม่ใช่ความรัก แล้วมันคืออะไรล่ะ?
‘ฉันคงหลงรักเธอเข้าจริง ๆ ซะแล้วสิดาว’
เขาตัดสินใจยอมรับความรู้สึกที่มันเกิดขึ้น ถึงจะพูดตอนนี้เธอก็คงไม่รับรู้มันอยู่ดี ความตั้งใจที่จะปิดตายหัวใจตัวเองมันพังทลายลงไปตั้งแต่ที่ได้เจอกับเธอแล้ว หลังจากนี้เขาตั้งใจจะเดินหน้าเต็มที่เพื่อให้เธอหันมารักให้ได้
“อื้ออ น้ำ”
เสียงแหบแห้งของหญิงสาวดังขึ้น เรียกให้ร่างสูงที่นั่งเฝ้าอยู่สนใจ เขารีบเดินไปหยิบแก้น้ำพร้อมกลับเอามาป้อนเธอ เทวาค่อย ๆ ประคองเธอดื่มน้ำช้า ๆ
“ค่อย ๆ นะ ไม่ต้องรีบ”
“ขอบคุณนะ”
“เธอปล่อยให้ตัวเองป่วยขนาดนี้ได้ไง ทำไม่ไม่ดูแลตัวเองเลย”
พอเธอฟื้นเทวาก็บ่นเธอชุดใหญ่ ดาวได้แต่นอนทำตาปริบๆ ฟังทันบ้างไม่ทันบ้าง สุดท้ายก็หลับต่อโดยที่เทวายังพูดอยู่
“หลับซะแล้ว ฝันดีนะ ตัวแสบ”
เทวาก้มลงจุมพิตหน้าผากเกลี้ยงเบา ๆ ก่อนจะถอยไปนั่งตามเดิม
เขาเรียกเร็นมาให้ไปเอาของใช้ที่บ้านมาให้ พร้อมกับเตรียมอาหารอ่อน ๆ มาด้วย เผื่อเธอหิวตอนตื่นจะได้ไม่ต้องกินข้าวโรงพยาบาล
Special Part
“เร็น นั่นจะเอาเสื้อผ้าเทวาไปไหน”
ธาราถามขึ้นด้วยความสงสัย ที่เห็นเร็นมาเก็บเสื้อผ้าลูกชายเธอออกไป
“สวัสดีครับคุณธารา ผมจะเอาไปให้คุณเทวาที่โรงพยาบาลครับ”
“เทวาไปทำอะไรที่นั่น ไม่สบาย?”
“เอ่อ คือ เปล่าครับ”
เร็นทำท่าอึกอัก ๆ เขาไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรดี
“อย่าอ้ำอึ้ง พูดมา เร็น”
“คือคุณเทวาไปเฝ้าเพื่อนครับ”
สุดท้ายก็ตัดสินใจบอกไปว่าเป็นเพื่อนแต่คำตอบนั้นกลับทำให้ธาราสงสัยมากกว่าเดิม
“เพื่อนที่ไหนกัน ฉันให้โอกาสตอบอีกรอบ เร็น”
ธาราพูดด้วยเสียงเรียบแต่คนฟังขนลุกซู่ไปทั้งตัว ทุกคนรู้ดีว่าคุณธาราเป็นคนแบบไหน ใคร ๆ ต่างก็ไม่กล้าหือกับเธอทั้งนั้น
“นายไปเฝ้าผู้หญิงครับ”
เร็นยอมจำนนบอกทุกอย่างไปตามจริงพลางคิดในใจว่าค่อยไปขอโทษนายทีหลังแล้วกัน ตอนนี้เขาต้องเอาตัวรอดก่อน
“ใคร? ไม่ใช่คนที่เคยทิ้งลูกฉันใช่ไหม”
“คะ คุณธารา ทราบ....”
“ฉันรู้ รู้มาตลอดแค่ไม่พูด ลูกฉันเปลี่ยนไปขนาดนั้นทำไมจะไม่รู้ล่ะ”
“ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นครับ คนนี้ดีกว่าแน่นอนครับ ผมเห็นนายยิ้มบ่อยขึ้นดูมีความสุขขึ้นด้วยครับ”
“งั้นเหรอ ไปได้แล้วล่ะ ขอบใจมาก อ้อ แล้วก็ไม่ต้องบอกเรื่องนี้กับลูกฉันล่ะ เข้าใจไหม”
ธารานั่งมองลูกน้องคนสนิทของลูกชายเดินออกไป ก่อนจะหันไปสั่งแม่บ้านคนสนิทของตัวเอง
“บัว ให้คนสืบมาให้หน่อยนะ”
“ได้ค่ะคุณธารา”
จริง ๆ ธาราไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งนัก แต่เธอทนเห็นลูกเสียใจอีกรอบไม่ได้และเธอก็สนใจว่าใครกันนะที่ทำให้ลูกชายเธอกลับมายิ้มได้
END Special Part