ตื่นเช้ามาร่างสูงที่นอนบนโซฟาก็หายไปแล้ว เหลือเพียงผ้าห่มที่พับไว้เรียบร้อยกับโน้ตใบเล็กที่เขาเขียนไว้
‘ขอบคุณที่ทำแผลและให้ที่นอน ขอโทษเรื่องเมื่อคืนด้วยนะ’
เทวา
จะโทษว่าเป็นความผิดเขาก็คงพูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะฉันเองก็เคลิ้มไปกับสิ่งที่เขาทำ พอคิดขึ้นมาแล้วก็พาลหน้าแดงขึ้นมาซะอย่างนั้น
ฉันยกมือพัดหนาที่ร้อนฉ่าก่อนจะวางโน้ตไว้ที่เดิมแล้วไปอาบน้ำ วันนี้มีเรียนแค่ช่วงบ่ายแต่ตอนเช้าฉันมีนัดกับคนคนหนึ่งและฉันเองก็ไม่อยากไปสายด้วยเลยต้องรีบหน่อย
ฉันออกจากคอนโดตอนแปดโมงกว่า ๆ ถึงร้านที่นัดไว้ก็ไม่สายมากนักคนที่นัดฉันไว้มารออยู่ก่อนแล้ว
“มานานหรือยัง”
“ไม่นาน”
“แล้วพี่มีอะไรถึงเรียกฉันมาเจอเนี่ยพี่เวย์?
ใช่ คนที่เรียกฉันมาเจอคือพี่เวกัส พี่ชายต่างแม่ของฉันเอง
“ทำไม พี่อยากเจอไม่ได้เหรอ ตัวแสบ”
ไม่พูดเปล่ายังจะเอามือใหญ่ ๆ นั่นมายีหัวฉันอีก มันน่าข่วนจริง ๆ กว่าจะทำผมเสร็จมันเหนื่อยนะ!
“พอเลยพี่ เสียทรงหมดแล้วเนี่ย”
“ฮ่า ๆ หวงผมเหมือนเดิมเลยนะ จะแบบไหนก็สวยทั้งนั้นล่ะ”
“ปากหวานกว่าปกตินะ มีเรื่องอะไรจะบอกหรือเปล่า”
“ก็มีล่ะ นั่งก่อนสิ”
ฉันนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับพี่เวย์ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นโหมดจริงจัง
“พ่อสั่งให้พี่พาเรากลับบ้าน”
ฉันชะงักไปครู่หนึ่ง เหอะ! จะมาอยากให้กลับไปอะไรตอนนี้
“ทำไม”
“พ่อไม่ยอมบอก บอกแค่ให้พากลับไปให้ได้
“แล้วพี่จะทำหรือเปล่า?”
“อยากให้ทำไหมล่ะ”
“พี่ก็รู้ว่าฉันจะตอบแบบไหน ฉันไม่ยอมกลับไปที่ที่เหมือนกรงขังนั่นหรอกนะ”
“พี่รู้ว่าเราจะตอบแบบนี้เพราะฉะนั้นวันนี้ถือว่าเราไม่ได้มาเจอกัน ตกลงไหม”
เขาเป็นแบบนี้เสมอ ลับหลังพ่อพี่เวย์มักจะช่วยเหลือฉันเงียบ ๆ มาตลอด ที่ได้อยู่สุขสบายขนาดนี้ก็เพราะพี่เวย์นี่ล่ะ
เราสองพี่น้องไม่เคยผิดใจกันเลย เขาเป็นพี่ที่ดีเสมอมา
“ตามนั้น แล้วถ้าพ่อรู้ว่าพี่มาหาฉันล่ะ”
“พ่อไม่รู้หรอก เชื่อพี่สิ”
พี่เวย์พูดด้วยท่าทีสบาย ๆ เขาคงหาทางรับมือพ่อได้ล่ะนะ
เราสองคนนั้นพูดคุยกันสักพักก่อนจะแยกย้าย พี่เวย์ให้ฉันออกมาก่อนเผื่อมีคนของพ่อแอบตามมา ส่วนเขาจะออกอีกทางเอง
ระหว่างทางที่กลับคอนโดฉันก็อดคิดไม่ได้ว่าพ่อต้องการอะไรจากฉันกันแน่ อยากให้ฉันกลับไปที่นั่นทำไมกันเขาต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ
ยังไงซะฉันคงต้องระวังตัวมากกว่านี้ อีกอย่างฉันก็อยู่แบบนี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมาอยู่แล้วแค่ลำบากเพิ่มอีกนิดคงไม่เป็นไรหรอก
ฉันสลัดเรื่องน่าปวดหัวพวกนั้นทิ้งแล้วเตรียมตัวไปเรียน ช่วงนี้ก็เหงา ๆ นิดหน่อยเพราะทิชายังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ฉันเลยต้องเข้าเรียนคนเดียวตลอด
ส่วนลดากับน้ำชาพวกเราก็เรียนกันคนล่ะคณะ แถมยังยุ่งกันสุด ๆ จนไม่มีเวลามาเจอกันเลยด้วยซ้ำ
เฮ้ออ ชีวิตนักศึกษาปี 3 ไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยแม้แต่นิดเดียว!! และเรื่องน่าปวดหัวก็มาเยือนฉันถึงหน้าห้องอีกรอบในตอนเย็น
“ไง ขอนอนด้วยอีกสักคืนสิ”
นายหน้ามึนนี้มายิ้มทำซากอะไรที่หน้าห้องฉันอีกเนี่ย
ฉันยกมือกุมขมับ ว่าแล้วเชียวว่ามันต้องไม่จบง่าย ๆ แน่
“นายมาทำซากอะไรที่นี่อีก”
“ฉันไม่อยากนอนเบียดกับพี่แล้วก็พ่อ ขอมาอยู่ด้วยหน่อยนะแถมแผลก็ไม่มีคนทำให้ด้วย”
ไอ้การทำหน้าตาอ้อนฉันมันไม่มีผลอะไรหรอกนะ นอกจากโมโหอ่ะ ฉันอยากจะข่วนหน้ายิ้ม ๆ นั่นซักทีจริง ๆ
แต่สุดท้ายก็ได้แต่ยอมให้เขาเข้ามาเพราะจะให้คนเจ็บยืนอยู่แบบนั้นก็ออกจะเกินไปหน่อย
“เข้ามาสิ”
เทวาเดินยิ้มหน้าบานเข้าห้องไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม เอ่อ ไอ้โซฟาที่ฉันกับเขานัวเนียกันนั่นล่ะ ดีหน่อยที่เขาไม่พูดถึงเรื่องเมื่อคืน มันเลยทำให้ไม่อึดอัดเท่าไหร่นัก
“นายจะมานอนที่นี่อีกนานแค่ไหนเนี่ย”
ฉันถามขึ้นอย่างเหนื่อยใจ ในขณะที่เขายังยิ้มทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน
“มาทุกวันไม่ได้เหรอ นอนเต็นท์มันปวดหลังนะ
ฉันสาบานเลยนะ ว่าฉันจะข่วนหมอนี่เข้าสักวันแน่ ๆ คนอะไรทำตัวน่าหมั่นไส้ชะมัด
“ขนาดนั้นนายเอากุญแจไปเลยไหมล่ะ”
“ก็ดีนะ ฉันจะได้เข้ามารอไง”
“ฉันประชด!”
“ฮ่า ๆ ฉันล้อเล่นน่า ไม่อยากให้ฉันมาแล้วหรือไง”
เขาพูดพร้อมยื่นหน้าหล่อ ๆ เข้ามาใกล้ฉัน ปากหยักได้รูปกำลังส่งยิ้มบาง ๆ มาให้ พออยู่ใกล้กันแบบนี้มันออกจะ...
ตึกตัก
ไม่รู้ว่าเสียงหัวใจใครที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ มันดังขึ้นในห้องที่เงียบสงัดจนสามารถได้ยิน แต่ฉันไม่รู้เลยว่ามันของฉันหรือของเขากันแน่
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกายของเขาเหมือนมีมนตร์สะกดประหลาด ฉันไม่สามารถล่ะสายตาไปจากเข้าได้เลยมันดูมีเสน่ห์และน่าค้นหามาก มันทำให้ฉันอดหวั่นไหวไม่ได้
“ฉันขอจูบ...ได้ไหม”
เขาสะกดฉันไว้ด้วยสายตาของเขาแม้ว่าจะอยากปฏิเสธแค่ไหนแต่ปากกลับไม่ยอมขยับอย่างที่คิด
เมื่อฉันไม่ได้ตอบอะไรไปมือหนาก็ย้ายมาจับที่ท้ายทอยฉันไว้ เขาโน้มใบหน้ามาชิดกันก่อนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา
“ฉันอยากให้เธอเป็นของฉันคนเดียวจริง ๆ นะ”
ฉันยังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไร เขาก็ชิงทาบริมฝีปากลงมาปิดซะก่อน ฉันหลับตาลงปล่อยตัวปล่อยใจไปกับรสสัมผัสนั้น
ริมฝีปากบางเผยอออกเล็กน้อย เพื่อปล่อยให้ลิ้นหนารุกล้ำเข้าไป เขาขบเม้มปากล่างเบา ๆ ก่อนจะสอดลิ้นเข้าด้านใน ควานหาลิ้นเรียวเล็กแล้วตวัดพันเกี่ยวจนฉันมึนงงไปหมด
มันไม่ใช่จูบที่ร้อนแรงเพื่อนำเราไปสู่การมีเซ็กส์แต่เป็นจูบที่อ่อนโยนราวกับเขาต้องการจะบอกอะไรบางอย่างกับฉัน ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกได้แต่ส่งเสียงครางเบา ๆ ในลำคอเท่านั้น
เราจูบกันเนิ่นนานก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายถอนริมฝีปากออกไปแล้วใช้นิ้วเรียวไล้ขอบปากฉันอย่างอ่อนโยน
“ไปนอนได้แล้ว ฝันดีนะ”
เขาจุมพิตหน้าผากเกลี้ยงเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นจูงมือฉันที่ยังงงงวยไปส่งที่หน้าห้อง แล้วเปิดประตูดันหลังฉันเข้าไป
ความรู้สึกพวกนี้มันคืออะไรกันแน่ หรือฉันจะหวั่นไหวกับเขาจริง ๆ
หลังจากวันนั้นมาเขาก็มักหาข้ออ้างมาค้างที่คอนโดฉันบ่อย ๆ เราค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์นี้ไปช้า ๆ เขาทำให้ฉันสบายใจที่จะอยู่ใกล้เขา จนฉันหลงลืมไปว่าฉันเป็นใครและเขาเป็นใคร แม้จะผ่านไปหนึ่งเดือนตามที่ตกลงกันแต่เขาก็ยังมาวนเวียนใกล้ฉันเสมอและฉันเองก็เต็มใจปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้น
ฉันไม่รู้เลยว่า มันจะเป็นสิ่งที่ฉันตัดสินใจพลาด จนทำให้เรื่องทุกอย่างมันบานปลายมากกว่าเดิม.....
««««»»»»
ปัจจุบัน
สุดท้ายฉันก็กลับมาถึงที่นี้อีกจนได้ สถานที่ที่อยากหนีไปให้ไกลที่สุด สำหรับฉันมันเปรียบเสมือนกรงขังขนาดใหญ่
“ลงไปอยู่ห้องแกซะ”
ฉันเดินตามลูกน้องของพ่อที่มาคอยคุมเงียบ ๆ บรรยากาศเก่า ๆ หวนคืนมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ช่างน่ารังเกียจไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว
‘แกร๊ก’
“ดาว...”
“แม่คะ”
ฉันวิ่งเข้าไปกอดแม่ที่มานั่งรอในห้อง ลูกน้องที่ตามมาถอยห่างออกไปนอกแล้วปิดประตูไว้
“แม่เป็นไงบ้าง ทำไมโทรมแบบนี้เขาทำอะไรแม่หรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม”
แม่ฉันดูซูบผอมกว่าครั้งล่าสุดที่เจอกันมาก ท่านดูราวกับไม่ค่อยได้ทานอะไรเลย
“ไม่หรอก เขาไม่ทำอะไรแม่ แม่แค่ไม่สบายเฉย ๆ แล้วลูกล่ะ เป็นไงบ้าง”
“หนูสบายดีค่ะ แต่คิดถึงแม่มากเลย”
“อ้อนเก่งเหมือนเดิมเลยนะ ลูกสาวแม่”
นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้กอดแม่แบบนี้ ฉันคิดถึงอ้อมกอดนี้ คิดถึงกลิ่นหอม ๆ ของแม่
“แม่คะ คืนนี้....”
‘แกร๊ก’
“นายท่านให้มาพาคุณดาหลากลับไปห้องครับ รบกวนตามผมมาด้วยครับ”
ฉันกับแม่หันมองหน้ากันก่อนที่ท่านจะยอมกลับไปแต่โดยดี
“แม่ไปก่อนนะ ไว้แม่จะแวะมาหานะ”
“ดูแลตัวเองด้วยนะคะแม่”
ฉันยืนมองแม่เดินออกไปจนลับตา พยายามข่มความโกรธที่กำลังปะทุขึ้นมา
“สกปรก น่ารังเกียจ”
“ใจเย็นหน่อยสิ”
พี่เวย์ที่เดินมาเงียบ ๆ พูดขึ้นด้านหลังจนฉันสะดุ้งโหยง บ้าจริง!โผล่มาจากไหนอีกเนี่ย!
“ตกใจหมดเลย โผล่มาได้ไง”
“พ่อให้มาดูเรา”
ฉันยิ้มออกอย่างดูแคลน ก่อนจะพูดออกมา
“หึ กลัวฉันหนีหรือไง”
“สุดท้ายก็ต้องกลับมาจนได้สินะ”
พี่เวย์มองไปนอกห้องก่อนจะพูดขึ้นมาเบา ๆ ใช่ สุดท้ายฉันก็ต้องกลับมาจนได้
“ฉันหนีเงาพ่อไม่เคยพ้นเลยสินะ”
“พี่จะช่วยดูน้าดาหลาให้ ไม่ต้องห่วงนะ”
“ขอบคุณนะพี่เวย์”
เขายังคนเป็นพี่ชายที่น่ารักเสมอสำหรับฉัน ถึงแม้ว่าเราจะมีแม่คนล่ะคนก็ตาม
“อืม แล้วนี่หมอนั่นรู้เรื่องนี้หรือยัง”
ฉันนิ่งเงียบไป อยู่ดี ๆ ก็คิดถึงเขาขึ้นมา ป่านนี้จะตื่นหรือยัง ยานอนหลับที่ฉันใช้มันแรงเอาเรื่องเลยนะ
“เงียบแบบนี้คงไม่ได้บอกสินะ”
“พี่เวย์ ฉันบอกเขาไม่ได้ จริงอยู่ที่ฉันทำเพื่อปกป้องเขา แต่นั่นมันไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ฉันยอมกลับมา....”
“....”
“ฉันต้องกลับเพราะพ่อเอาชีวิตของแม่มาขู่ฉัน พี่ก็รู้ว่าฉันทิ้งแม่ไม่ได้”
ฉันหลับตาลงแล้วกำหมัดไว้แน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ พ่อมักใช้วิธีนี้บีบฉันเสมอเลยมันเป็นอีกเหตุผลที่ฉันยอมกลับมาที่บ้านหลังนี้อย่างง่ายดาย
เพราะแม่ฉันอยู่ในกำมือเขายังไงล่ะ