นับตั้งแต่วันนั้นที่เราจูบกัน เธอก็เปิดใจให้ผมมากขึ้น ผมค่อย ๆ เปิดหัวใจที่ตายด้าน ส่วนเธอก็ลดเกราะหนาที่ป้องกันตัวเองลง
แน่นอนเรายังไม่ได้ไปไกลถึงขั้นมีเซ็กส์หรอกนะของแบบนั้นผมอยากทำตอนที่เธอเต็มใจมากกว่าและยังมีอีกเรื่องที่ผมยังไม่ได้บอกเธอ คือเรื่องคืนนั้นเราไม่ได้มีอะไรกันอย่างที่เธอคิดซักนิด
ย้อนกลับไปคืนนั้น หลังจากที่เรานัวเนียกันและผมกำลังจัดการเธออย่างที่คิดไว้ มันก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันมาก่อน
“อุ๊บบบ อ้วกกกก อุแหวะ”
“เฮ้ย เธอ! เป็นอะไรหรือเปล่า”
ผมกระโดดลงจากเตียงอย่างไว ไม่แปลกที่จะอ้วกหรอกนะ เล่นดื่มไปซะขนาดนั้น แต่มันออกจะผิดเวลาไปนิด
เธอไม่ตอบอะไรกลับมา เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ้วกจนมันเลอะไปหมด ทั้งชุดเธอ ชุดผมและข้างเตียง แถมพออ้วกจนหมดไส้หมดพุงแล้วเธอก็ชิงหลับไปเลย ทิ้งผมให้ค้างอยู่บนยอดนั่นล่ะ
“อะไรว่ะเนี่ย”
ผมยืนมองผลงานเธออยู่ข้างเตียง ใบหน้าขาวยังคงแดงระเรื่อจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ใจจริงอยากจะปล่อยให้เธอนอนจมอ้วกตัวเองนั่นล่ะ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวต้องมาจัดการทุกอย่าง
ผมถอดเสื้อผ้าตัวเองเหวี่ยงไปอีกทางก่อนจะลงมือเปลี่ยนชุดให้เธอ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการไม่ให้ลวนลามเธอ คนอะไรขาวน่ากินไปทั้งตัวเลย ให้ตายสิ!
พอถอดชุดออกไปได้ผมก็จัดการหาอะไรคลุมให้เธอก่อน กะว่าเดี๋ยวจะไปเอาเสื้อเชิ้ตมาใส่ให้ที่หลัง ร่างบางพลิกตัวกอดผ้าห่มแล้วหลับอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“ให้มันได้อย่างนี้สิ”
ปากบ่นแต่มือก็ทำหน้าที่เช็ดอ้วกออกไปด้วย ก่อนที่ผมจะเอาชุดเธอไปซักแห้งให้ ผมบอกเลยนะว่าผมไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อน เธอเป็นคนแรกเลยก็ว่าได้
“ฉันทำบ้าอะไรอยู่ว่ะเนี่ย ทำไมฉันต้องมาตามเช็ดตามล้างสิ่งที่เธอทำด้วย!”
อยากจะกระชากเธอขึ้นมาคุยด้วยจริง ๆ แต่ก็ไม่อยากรังแกคนเมาเท่าไหร่นัก เลยได้แต่บ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่คนเดียว
กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จก็เกือบเช้าแล้ว ผมหมดแรงจะทำอะไรแล้วล่ะ เลยตัดสินใจทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ เธออย่างลืมตัวและลืมไปว่า เธอและผมยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า!!
ใช่ ผมลืมไปซะสนิทเลย มันเลยเป็นเหตุผลที่เธอเข้าใจผมผิดและข่วนผมจนลายทั้งตัวยังไงล่ะ
หลังจากนั้นผมก็ตั้งใจจะไปเจอเพื่ออธิบายเรื่องทั้งหมด แต่เธอดันเข้าใจผิดไปใหญ่โตกว่าเดิม ไหน ๆ ก็ไหนล่ะผมเลยใช้โอกาสนี้เข้าหาเธอซะเลย
“เรื่องที่ให้สืบถึงไหนแล้วเร็น”
“ไม่คืบหน้าเลยครับ แปลกมาก”
“ทำไมล่ะ”
“ข้อมูลเธอถูกปลอมแปลงบางส่วนครับ มีร่องรอยการปกปิด แต่ผมยังสืบไม่ได้ว่าเป็นฝีมือใคร”
“แปลกจริงด้วย สืบต่อไป ได้เรื่องเมื่อไหร่มาบอกด้วย”
“ครับนาย”
ผมเคาะโต๊ะอย่างใช้ความคิด ที่ให้เร็นสืบเพิ่มก็เพราะคำพูดเธอในวันนั้นมันสะกิดใจผมอย่างบอกไม่ถูก....
“แล้วพวกเด็กใหม่เป็นยังไงบ้าง”
“เข้ารับการฝึกแล้วครับ ตอนนี้กำลังปรับตัวอยู่ ฝีมือก็ดีขึ้นมากเลยครับ”
“อืม ไปบอกพวกมันว่าวันนี้ฉันจะเข้าไปฝึกให้”
“ครับนาย”
จริง ๆ ไม่ได้จะฝึกหรอก ผมแค่อยากระบายอารมณ์เฉย ๆ แต่พวกนั้นก็จะได้ฝึกไปด้วย ถือว่าวินวินแล้วกัน
“ช่วงนี้คาสิโนเป็นไงบ้าง”
‘ปึงง!’
แล้วไอ้เร็นก็เอาเอกสารกองโตมาถมที่โต๊ะผม มันเยอะมากเพราะผมต้องแบ่งงานคาสิโนมาดูเองเป็นหลัก
“เร็น”
“ครับ?”
“มั่นใจใช่ไหมว่ามึงไม่ได้แกล้งกู....”
“ผมเปล่านะนาย ก็นายถามหางานคาสิโน ผมก็เอามาให้ไงครับ”
เปลี่ยนจากอัดไอ้พวกเด็กใหม่มาอัดมันแทนได้ไหม กวนประสาทชะมัด
“นายต้องเคลียร์ทั้งหมดวันนี้นะครับ”
แถมมันยังกำชับให้เสร็จภายในวันนี้อีก ไม่ต้องไปไหนกันแล้วมั้งเนี่ย
“รู้แล้ว ออกไปซะ”
ผมไล่ไอ้เร็นออกไป ก่อนจะลงมือทำงาน กว่าจะเสร็จก็บ่ายมากแล้ว วันนี้ดาวไม่มีเรียนและไม่ได้ไปไหน คงอยู่ที่คอนโดเหมือนเดิม ค่ำ ๆ ผมค่อยแวะไปหาแล้วกัน
“เร็นไปกันได้แล้ว”
“ครับ!”
เร็นขับรถพาผมมุ่งไปที่โกดัง พอมาถึงเด็ก ๆ ก็รออยู่แล้ว เราใช้เวลาซ้อม 3-4 ชม. ก็หยุดพักเพราะค่ำพอดี อย่างที่เร็นบอกไว้ พวกนี้ฝีมือเอาเรื่องเลยถึงจะยังสู้ผมไม่ได้ก็เถอะ
“นายครับ”
หนึ่งในพวกนั้นเดินเข้ามาหาผมตอนที่กำลังจะกลับพอดี น่าจะมีเรื่องอยากคุย
“มีอะไร”
“คือ เอ่อ “
ผมชักจะรำคาญแล้ว อยากรีบกลับไปพักซักทีด้วยเลยเร่งให้มันพูด
“มีอะไรว่ามาเร็ว ๆ ฉันจะกลับแล้ว”
“คือ พวกผมอยากขอเป็นลูกน้องนายโดยตรงได้ไหมครับ”
ตามหลักแล้วผมจะคัดคนมาเป็นลูกน้องคนสนิทปีล่ะไม่กี่คนแล้วจะหมุนเวียนกันไปเรื่อย ๆ ต่างกับพี่ชายที่เขาจะมีคนประจำของตัวเองเลย แอบแปลกใจเล็กน้อยที่อยู่ ๆ พวกนี้ก็มาขอเป็นลูกน้องโดยตรงเลย
“เหตุผลล่ะ?”
“ผมชอบฝีมือการต่อสู้ของนายครับ อยากเรียนรู้กับนายด้วย”
มันพูดพร้อมกับทำสายตาจริงจัง คนอื่น ๆ ก็ด้วย พวกนั้นมายืนเรียงกันหน้าผม ให้ตายสิ ชอบโดนอัดกันหรือไงนะ
“ก็ได้ ถ้าพวกมึงผ่านบททดสอบของกู กูจะให้มาเป็นลูกน้องกู”
ผมแอบเห็นบางคนแสดงท่าทางดีใจด้วย มันน่ายินดีขนาดนั้นเลยเหรอ
“ไปเตรียมตัวซะ อีก 1 อาทิตย์กูจะมาทดสอบเอง”
“ครับ”
พอพวกนั้นเดินออกไปผมก็หันไปพูดกับลูกน้องคนสนิททันที
“ไปสืบมาว่ามันพูดจริงไหม”
“ครับนาย”
ไม่ใช่ผมไม่ไว้ใจพวกนั้นนะ แต่ว่าการจะเอาใครมาติดตามใกล้ชิดผมเองก็ต้องระวังตัว คนที่พร้อมจะแทงข้างหลังกันมันมีอยู่เยอะพอสมควรเลย
ป้องกันไว้ก่อนก็ไม่เสียหายอะไรหรอก
»»»»««««
กว่าจะได้ออกจากโกดังก็ค่ำกว่าที่คิด ผมเลยตัดสินใจไปหาดาวที่คอนโดเลย เพราะไม่อยากไปค่ำมากกว่านี้
ก๊อก ๆ
“วันนี้จะอ้างอะไรอีก”
ทักทายได้เย็นชาชะมัด
“เอาของกินมาฝาก กินไหม”
ผมรีบยกถุงอาหารในมือโชว์เธอทันที เผื่อเธอจะอารมณ์ดีขึ้นและมันก็ได้ผล เธอเปิดประตูให้ผมแล้วหันหลังเดินไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ผมเลยเดินตามเข้าไปก่อนจะไปจัดอาหารใส่จานมากินกับเธอ
“นายจะมานอนที่นี่ทุกวันไม่ได้นะ ไหนว่าแม่นายหายโกรธแล้วไง”
ใช่ครับ แม่หายโกรธพวกผมแล้วแต่ผมก็มักหาข้ออ้างมานอนที่นี่อยู่ดี ถึงแม้จะนอนแค่ที่โซฟาก็เถอะ
“เบื่อหน้าฉันแล้วเหรอ”
“ก็เปล่า แค่ถามน่ะ”
“งั้นฉันย้ายมาอยู่กับเธอเลยดีไหม”
“จะบ้าหรืองะ....”
เปรี้ยง!!
“กรี๊ด!!!!!”
“ดาว!!
เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นตามด้วยเสียงร้องของเธอทำให้ผมตกใจ ดาวยกมือปิดหูไว้แน่นทั้งตัวสั่นเทาจนผมรู้สึกได้ถึงความกลัวของเธอผมรีบลุกไปกอดเธอเพื่อปลอบโยน เธอซุกใบหน้าเขาที่อกผมก่อนจะร้องไห้ออกมา
“ชู่วว ไม่เป็นไร ผมอยู่นี่ ไม่เป็นไรนะ”
“ฮึก ฉะ ฉันกลัว”
เปรี้ยง!!!
ยิ่งฟ้าผ่าแรงมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งกอดผมแน่นกว่าเดิม ผมตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นมาเพื่อพากลับเข้าห้องในนั้นน่าจะเก็บเสียงได้ดีกว่าด้านนอก
แต่ขนาดพาเธอเข้ามาด้านในแล้วก็ยังได้ยินเสียงฟ้าอยู่ดี ผมวางเธอลงบนเตียงอย่างเบามือแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมให้ก่อนทำท่าจะเดินออกไป ทว่ามือเล็ก ๆ นั่นกลับดึงชายเสื้อผมไว้แน่น
“อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวนะ ฮึก”
เธอพูดด้วยเสียงสั่นเครือได้ยินแบบนั้นแล้วผมก็คิดว่าคงปล่อยให้เธออยู่คนเดียวไม่ได้
“ผมจะอยู่ข้าง ๆ เอง นอนเถอะ”
สุดท้ายผมเลยเลือกที่จะขึ้นไปนอนกอดเธอไว้เพราะเธอไม่ยอมให้ผมห่างเลย กว่าเธอจะสงบก็ปาไปค่อนคืนแล้ว
ผมนอนมองใบหน้าที่ยังเปรอะไปด้วยน้ำตา แล้วก็อดคิดถึงอาการเมื่อกี้ไม่ได้ มันเหมือนเธอจะกลัวเสียงฟ้านะแต่ท่าทางที่เธอแสดงออกมาเหมือนแพนิคมากกว่า
เธอต้องเคยมีเรื่องอะไรมาก่อนแน่ ๆ ถึงได้เป็นแบบนี้
“อะไรที่ทำให้เธอเธอกลัวเสียงฟ้าขนาดนี้นะ ถ้าเธอเปิดใจเล่าให้ฟังก็คงจะดี”
ผมพูดกับร่างเล็กที่หลับอยู่ในอ้อมแขนก่อนจะกระชับกอดให้แน่นขึ้นแล้วหลับตาลงบ้าง แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าสู่ห้วงนิทรา คนข้าง ๆ ก็ละเมอขึ้นมา
“อย่าขังหนูไว้นะ!”
“ดาว...”
“มะ ไม่เอา อย่าขังหนูไว้ที่นี่นะ! ขอร้อง ฮึก”
“ไม่เป็นไรนะ ผมอยู่นี่”
ผมลูบหลังปลอบเธอเบา ๆ จนเธอสงบลงไปอีกรอบ ทำเอาผมโล่งใจไปเปราะหนึ่ง
มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง ตอนแรกผมแค่สนใจเธอไม่ได้คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้ ผมเป็นห่วงเธอในทุก ๆ เรื่องเลย ให้ตายสิ
หรือว่า ผมจะชอบเธอเข้าให้แล้วจริง ๆ ?