บรืนนนน!
เสียงรถสปอร์ตคันหรูสตาร์ทออกจากคฤหาสน์ตระกูลมหิธรานนท์ในเช้าวันที่รีบร้อน
ตอนนี้เจ็ดโมงครึ่งแล้ว และสิงห์ต้องไปให้ถึงมหาวิทยาลัยภายในครึ่งชั่วโมง
เขาจึงเลือกใช้ “เส้นทางลัด” ผ่านอพาร์ตเมนต์ลำดวนก่อนออกสู่ถนนใหญ่
แต่ทันทีที่รถเลี้ยวเข้าถนนแคบ ๆ หน้าตึก
สายตาคมก็มองเห็นเงาคนตัดหน้าเพียงแวบเดียว
“เชี่ย… แม่ง!”
สิงห์เหยียบเบรกอย่างแรงจนรถสะเทือนทั้งคัน
“โอ้ย! พี่สิงห์! ขับเบา ๆ หน่อยสิ! ดูดิ ชนใครไหม!? เธอล้มไปแล้วเนี่ย!”
อิงอิงร้องลั่น แล้วรีบปลดเข็มขัดลงจากรถทันที
หญิงสาวที่เดินออกมาจากตึกหลบรถไม่ทัน
ถึงจะไม่โดนชนโดยตรง แต่แรงเบียดคลาดนิดเดียวก็มากพอจะทำให้เธอเสียหลักล้มลงกับพื้น
น้ำขิงหอบเบา ๆ ก่อนค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้น
มือของเธอสั่น แต่พยายามตั้งสติ
อิงอิงรีบเข้ามาพยุง
“คุณเป็นอะไรไหมคะ!?”
น้ำขิงชะงัก
นี่มันเด็กสาวหน้าตาน่ารักที่เจอเมื่อหลายวันก่อน
ลูกค้าประจำร้านชีสบอลที่เธอเคยขายของให้
เธอรีบส่ายหน้า
“ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ ฉันเดินไม่ดู…”
คำพูดนั้นทำให้อิงอิงขมวดคิ้วทันที
คนผิดคือพี่ชายของเธอแท้ ๆ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับเป็นฝ่ายขอโทษ
ขณะที่ช่วยปัดฝุ่นให้น้ำขิง
อิงอิงสังเกตเห็นตรามหาวิทยาลัยบนป้ายคล้องคอและกระเป๋า
เธอถามทันที
“นี่… เธอจะไปปฐมนิเทศของมหาลัย XX เหรอ?”
น้ำขิงพยักหน้าเบา ๆ
“ค่ะ…” เธอก้มหน้า ตอบแบบคนที่ไม่กล้าสบตาใคร
อิงอิงยิ้มกว้างขึ้นทันที
“งั้นไปด้วยกันสิ! จะได้ไม่สาย!
ขอโทษแทนพี่ชายด้วยนะ เขาขับรถไม่ดูทางน่ะ… ฉันชื่ออิงอิง”
ไม่รอให้น้ำขิงปฏิเสธ
อิงอิงจับแขนเธอแล้วดึงไปที่รถทันที
สิงห์ที่อยู่ในรถเห็นน้องสาวลากใครมาก็ชะโงกหน้าออกมาตะโกน
“อิงอิง! จะเล่นปาหี่อะไรอยู่! จะสายกันหมดแล้วนะ!”
“ค่าาาาาาา!” อิงอิงตอบแบบยานคาง ก่อนหันไปยิ้มให้หญิงสาวข้างกาย
“ไปเร็ว เธอไปกับฉันเลย เจ็บตรงไหน เดี๋ยวฉันรับผิดชอบเองนะ”
น้ำขิงกำลังก้าวเข้าสู่รถคันหรู
โดยไม่รู้เลยว่า…
นี่คือก้าวแรกที่จะพาเธอเข้าไปในชีวิตของปีศาจผู้เกลียดนามสกุลเธอที่สุดในโลก
สิงห์ สิงหราช กิตติวรกุล
ทันทีที่อิงอิงพาหญิงสาวคนนั้นขึ้นรถ
สิงห์เหลือบมองทางกระจกหลังและจำได้ทันที
ผู้หญิงคนนี้…คือพนักงานร้านชีสบอลที่น้องสาวไปซื้อบ่อย ๆ
แววตาเขาแข็งขึ้นทันที
คิ้วขมวดแน่น ก่อนเอ่ยเสียงเย็นเฉียบจนบรรยากาศในรถหนาววาบ
“เธอ… ลงไป”
คนที่เขาหมายถึงคือ น้ำขิง
ผู้หญิงตัวเล็กที่นั่งเกร็งอยู่หลังเบาะนั่นเอง
น้ำเสียงเย็นจนทำให้เธอเสียวสันหลัง
เธอก้มหน้าแน่นจนเห็นแต่ปลายผม
แต่ก่อนที่เธอจะขยับ
เสียงน้องสาวก็ดังแทรกขึ้น
“พี่สิงห์! อะไรของพี่เนี่ย ขับรถไปสิ ไหนบอกจะสายไง”
แต่สิงห์ยังคงพูดประโยคเดิม
เย็นกว่าเดิมเสียอีก
“บอกให้เธอลงไป”
น้ำขิงสะดุ้ง
มือกำชายกระโปรงจนข้อนิ้วซีด
“คะ…ค่ะ” เธอพยายามจะลงจริง ๆ เพราะชินกับการถูกไล่แบบนี้อยู่แล้ว
แต่เสียงอิงอิงก็ดังลั่นจนสิงห์ต้องเลิกคิ้วขึ้น
“ไม่ต้อง!! ไม่ต้องลง!!
พี่สิงห์ขับรถไปเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นหนูจะไม่พูดกับพี่ สามเดือน จริง ๆ ด้วย!”
เธอชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง
“พี่เป็นคนมีเหตุผลนี่น่า อะไรของพี่เนี่ย ขับรถเกือบชนเขา แล้วยังจะไล่เขาอีก ไม่เห็นเหรอว่าเธอเรียนมหาลัยเดียวกับเรา ต้องให้เธอไปด้วย พี่อย่ามางี่เง่า!”
สิงห์ถอนหายใจแรง
มือใหญ่กำพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดปูด
น้องสาวเขานี่…ทำไมต้องปกป้องผู้หญิงคนนี้นักก็ไม่รู้
ทั้งที่เขาไม่ชอบหน้าเธอโดยไม่ต้องมีเหตุผล
ด้านหลังรถ
น้ำขิงได้แต่ก้มหน้า ไม่พูดอะไร
แค่นี้…เธอก็ชินแล้ว
ชินกับสายตาที่รังเกียจ ชินกับการถูกปฏิเสธ
เจ็บ…แต่ไม่ใช่ครั้งแรก
ทว่า
หมับ!
มืออุ่น ๆ ของอิงอิงเอื้อมมาจับหลังมือเธอเบา ๆ
สัมผัสที่อ่อนโยนจนหัวใจเธอเต้นผิดจังหวะ
“อย่าคิดมากเลยนะ พี่สิงห์เขาปากร้าย…แต่ใจดี”
อิงอิงทำหน้าเอ็นดู
“กับน้องสาวแท้ ๆ เขายังแกล้งเลย ไม่ต้องกลัวนะ เราแค่ไปมหาลัยด้วยกัน”
สิงห์ทำหน้าเหมือนจะเถียง แต่โดนเมิน
อิงอิงหันมายิ้มใส
“ฉันชื่ออิงอิงนะ แล้วเธอชื่ออะไร”
น้ำขิงเม้มปาก
เสียงสั่นจนแทบออกมาไม่เป็นคำ
“นะ…น้ำขิงค่ะ”
“โถ่เอ๊ย อย่าพูดเป็นทางการกับฉันเลยสิ!”
อิงอิงหัวเราะเบา ๆ
“ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอนะน้ำขิง ยินดีที่ได้รู้จัก”
คำว่า เพื่อน
เหมือนมีใครจุดไฟอุ่น ๆ ขึ้นกลางอกของน้ำขิง
ดวงตาของเธอเบิกกว้าง น้ำคลอโดยไม่ทันตั้งใจ
ตั้งแต่เกิดมา…
นี่เป็นครั้งแรก
ครั้งแรกที่มีคนพูดว่า “อยากเป็นเพื่อนกับเธอ”
อิงอิงตกใจ
“หืม? ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า? อย่าร้องนะ!
หรือเป็นเพราะพี่สิงห์ทำให้ตกใจ
นี่! พี่สิงห์ ขอโทษเธอเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
สิงห์อ้าปากค้าง
“หาาา!? เกี่ยวอะไรกับพี่ด้วยเนี่ยอิงอิง!”
อิงอิงแหวกลับ
“ก็พี่ทำหน้าเหมือนจะกินเขานี่ไง!”
สิงห์กัดฟัน
ขับรถต่ออย่างหงุดหงิด
แต่ในใจกลับแฝงความรู้สึกแปลก ๆ
ไม่รู้ทำไม…แต่สายตาน้ำขิงตอนน้ำตาคลอเมื่อครู่
ดันทำให้เขา หงุดหงิดกว่าเดิม
ทั้งที่เขาควรเกลียดเธอ…
แต่กลับรู้สึกอย่างอื่นที่อธิบายไม่ได้